ตอนที่ 550: ดูดกลืนแก่นโลหิต!

Crazy Leveling System

ตอนที่ 550: ดูดกลืนแก่นโลหิต!

 

แก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์นี้ แม้ว่าอี้เทียนหยุนจะไม่เคยใช้ แต่ของสิ่งนี้แน่นอนว่าย่อมเป็นของดี จากที่ดวงตาประเมินได้ตรวจสอบมา ก็ทําให้รู้ว่าสิ่งนี้ถือเป็นของล้ําค่าชิ้นหนึ่ง

 

แก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์นี้ สามารถสะกดวิญญาณร้ายเอาไว้ได้ แค่นี้ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงพลังของมันได้แล้ว

 

“ข้าก็คิดว่าจะไม่มีรางวัลอะไรที่เจ้าอยากได้ซะอีก ดูเหมือนว่ายังมีของบางอย่างที่ทําให้ใจเจ้าเต้นได้อยู่”  ไป๋สุ่ยหวงมองเขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“แก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์เป็นของล้ําค่า ดังนั้นข้าจึงไม่คิดว่าจะมีอยู่ในตัวเลือก ถึงยังไงของสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่สามารถสะกดวิญญาณร้ายเอาไว้ได้” สําหรับเทียนหยุนแล้ว อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทําให้เขารู้สึกสนใจอะไร แต่กับแก่นโลหิตฟินิกซ์นี้ ถือเป็นข้อยกเว้น

 

ของล้ําค่าขนาดนั้น แต่กลับใช้เป็นของรางวัลจริงๆ ?

 

“แม้ว่าแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์จะล้ําค่า แต่คุณความชอบที่ทูตศักดิ์สิทธิ์ได้ทํา ถือว่าเหมาะสมแล้ว”  ไป๋สุ่ยหวงพูดด้วยรอยยิ้ม “เมื่อเป็นนี้ งั้นก็ตกลงว่าเป็นแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์ 1 หยดแล้วกัน เจ้าว่ายังไง?”

 

“แน่นอน ไม่มีปัญหา”

 

นี้ทําให้เขารู้สึกทั้งตกใจและดีใจปะปนกัน แค่ได้รางวัลจากภารกิจสําเร็จ ก็ถือว่ามากพอแล้วต่อให้พวกเขาจะไม่ให้อะไรเขาเลยก็ตาม แต่หากไม่ช่วยพวกเขา ก็จะไม่มีทางที่จะปรากฏภารกิจนี้

 

ผู้อาวุโสลั่วกับพวกพากันมองหน้ากันด้วยความสงสัย รางวัลระดับนี้ ทําเอาพวกเขาคาดไม่ถึง เช่นกัน แต่หลังจากคิดสักนิด พวกเขาก็รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ควรทํา ด้วยความแข็งแกร่งที่แสดงออกมาของอี้เทียนหยุน หากว่าไม่ให้ของดีกับเขา ก็กลัวว่าเขาจะคิดว่าพวกเขาเป็นเผ่าที่แล้งน้ําใจ

 

จากนั้น ไป๋สุ่ยหวงก็หยิบกล่องออกมากล่องหนึ่ง ซึ่งเป็นกล่องแบบเดียวกับที่เถ้าแก่เย่มีก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าถูกผนึกไว้ด้านใน แก่นโลหิตฟีนิกซ์แต่ละหยด ต่างก็ถูกผนึกไว้ในกล่องพวกนี้ เพื่อป้องกันการถูกขโมย ดังนั้นจึงจําเป็นต้องผนึกพลังงานของมันไว้ด้านใน

 

“ก็เหมือนเดิม กล่องนี้เจ้าจําเป็นต้องปลดผนึกมันซะก่อน” ไป๋สุ่ยหวงส่งกล่องให้กับเขา

 

“ขอบคุณมาก หัวหน้าเผ่า” อี้เทียนหยุนรับกล่องมา สําหรับเขาแล้ว เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

 

“เอาล่ะ ได้ยินมาว่าเจ้าได้กลายเป็นผู้สืบทอด ไม่ทราบว่าพอจะบอกพวกเราได้หรือเปล่า?”  ไป๋สุ่ยหวงถามขึ้นมา

 

มีเพียงแต่มอบรางวัลแล้วเท่านั้น ทั้งสองถึงจะถือว่าสนิทกันขึ้นเล็กน้อย และถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะถาม

 

“แน่นอนว่าไม่มีปัญหา นั่นก็คือมรดกของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน…”

 

จากนั้นสักพัก เขาก็ใช้เวลาเพื่ออธิบายข้อมูลคร่าวๆ ให้กับพวกเธอฟัง เรื่องนี้ไม่จําเป็นต้องเก็บเป็นความลับอะไรนัก หากไม่ใช่เพราะไป๋สุ่ยหวงยอมให้เขาไปทําภารกิจนี้ด้วย อี้เทียนหยุนคงจะไม่มีทางได้สิ่งนี้มา

 

ส่วนพวกวิชายุทธ์พวกนี้ไม่สามารถสอนให้ได้ นอกจากอีกฝั่งจะเป็นทายาทของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน เพราะว่าเขาได้ให้คําสาบานไว้แล้ว หากว่าสอนให้กับคนอื่น มันจะถือว่าเป็นการผิดสัญญา

 

อย่าว่าแต่สอนให้กับคนนอกเลย กระทั่งราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนเอง ตอนที่อยู่ในโลกนี้ เขาก็ยังไม่สอนคนอื่นตามใจ ยังคงเลือกจากทายาทที่โดดเด่นถึงจะดี

 

“มรดกของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน…”

 

ในตาพวกเธอเต็มไปด้วยความตกใจ แม้ว่าจะรู้ว่ามันต้องไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะเป็นถึงมรดกของราชาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งนี่ทําให้พวกเขารู้สึกตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น พร้อมกับเผยแววแห่งความอิจฉาออกมา

 

เผ่าฟีนิกซ์ของพวกเธอก็มีราชาศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นเช่นกัน แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ผ่านมานานมากแล้ว ทําให้มรดกที่เหลืออยู่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี และที่สําคัญคือ สิ่งนี้เป็นมรดกของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน ทําให้ความหมายของมันเปลี่ยนไปทั้งหมด

 

พวกเขาเคยได้ยินมาว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนนั้น เป็นนักสลักอาคมระดับผู้สร้าง เพียงแค่ฉายานี้เพียงอย่างเดียว ก็สามารถเขย่าคลอนโลกวิญญาณได้อย่างเพียงพอแล้ว

 

“อย่างนี้คงต้องยินดีกับทูตศักดิ์สิทธิ์ด้วย ไม่เพียงแต่ช่วยพวกเรากําจัดขุมอํานาจอย่า งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเท่านั้น แต่ยังได้รับมรดกของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนอีก” นัยน์ตาคู่งามของ ไป๋สุ่ยหวงเป็นประกายสว่างไสว เธอได้คาดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ตกใจอะไรมากมายนัก

 

“ก็แค่โชคดีนะ” อี้เทียนหยุนยิ้มพร้อมกับหัวเราะออกมา

 

“โชคก็เป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งเหมือนกัน” ไป๋สุ่ยหวงพูดด้วยรอยยิ้ม “ทูตศักดิ์สิทธิ์รีบกลับมาอย่างนี้ คิดว่าคงจะเหนื่อย พวกเราไม่รบกวนทูตศักดิ์สิทธิ์แล้ว เจ้าไปพักเถอะ”

 

เรื่องที่สมควรรู้ก็ได้รู้แล้ว พวกเธอจึงไม่จําเป็นต้องรั้งอี้เทียนหยุนให้อยู่ที่นี่อีก

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า ตัวเขาก็ต้องใช้เวลาเพื่อดูดกลืนแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์นี้เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็ว่าจะดูดกลืนอยู่ แต่ก็ไม่มีเวลา

 

“หากว่ามีเรื่องอะไรให้ต้องจัดการล่ะก็ ไปเรียกข้าได้เลย ข้ายินดีที่จะร่วมลงมือกับเรื่องพวกนี้ด้วย” เทียนหยุนยิ้ม แม้ว่าหมิงเฉินจะถูกเขาจัดการแล้ว แต่เขาก็ยินดีที่จะได้จัดการกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงเช่นกัน

 

“หากทูตศักดิ์สิทธิ์พูดอย่างนี้ พวกเราก็จะไม่ขอเกรงใจ หากมีสําคัญที่ต้องทํา พวกเราจะต้องให้เจ้าเข้าร่วมด้วยอย่างแน่นอน” จากนั้น  ไป๋สุ่ยหวงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้าต้องจําไว้ว่า แก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์นี้ ไม่สามารถกินเข้าไปได้ตามใจ อย่างน้อยก็ต้องทําให้เจือจางลงก่อน ไม่อย่างนั้น มันจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดมากยิ่งกว่าตอนที่ดูดกลืนเปลวเพลิงนิรันดร์เข้าไป!”

 

เธอคิดว่าอี้เทียนหยุนจะต้องดูดกลืนแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์นี้เข้าไปอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงได้เอ่ยเตือนเอาไว้ก่อน

 

“ข้าทราบแล้ว” อี้เทียนหยุนพยักหน้า

 

หลังจากบอกลา อี้เทียนหยุนก็พาพวกเหยียนเอ๋อกลับไปยังห้อง หลังจากให้ปู่เยี่ยนช่วยดูเหยียนเอ๋อ เขาก็เข้าไปยังห้องฝึกคนเดียว จากนั้นก็หยิบเอาแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์หยดแรกออกมาหลังจากมองดูเล็กน้อย เขาก็กินเข้าไปอย่างไม่ลังเล

 

แม้ว่าไป๋สุ่ยหวงจะบอกให้ทําให้แก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์นี้เจือจางก่อน แต่ว่าเขาก็เลือกที่จะกินมันเข้าไปโดยตรง โดยไม่ต้องทําให้เจือจางแต่อย่างใด เพราะว่าเขาเชื่อว่าตนสามารถทนต่อความเจ็บปวดนี้ได้

 

ในร่างของเขามีสายเลือดเทพมังกรอยู่ ไม่รู้ว่าหลังจากดูดกลืนแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกข์นี้เข้าไปแล้ว จะทําให้ได้รับสายเลือดฟินิกซ์ด้วยไหม?

 

หลังจากกินเข้าไป ความร้อนที่น่าสะพรึงก็พวยพุ่งมาจากลําคอของเขา ราวกับว่ากําลังกินหินหนืดเข้าไป ทําให้ลําคอของเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างที่หาที่เปรียบไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่น่าสะพรึงที่สุดก็คือเพลิงฟีนิกซ์ มันได้ทําการพุ่งไปทั่วทั้งร่างของเขา ราวกับกําลังจะเผาเส้นลมปราณของเขาให้เป็นจุล

 

หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกตนที่มีระดับต่ําหน่อย หากว่ากินเข้าไป จะต้องถูกเผาจนตายอย่างแน่นอน แต่กับเขานั้นไม่ใช่ เพราะว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านร่างกายที่แข็งแกร่ง!

 

“อีก!”

 

อี้เทียนหยุนครางเสียงต่ําออกมา จากนั้นก็เริ่มสยบพลังนี้อย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงนิรันดร์ในร่างของเขาเริ่มวิ่งพล่าน จากนั้นก็เข้าปะทะกับเพลิงฟีนิกซ์นี้ พร้อมกับดูดกลืนเข้ามาอย่างง่ายดาย

 

ภายใต้การสยบอย่างบ้าคลั่ง ต่อให้เป็นแก่นโลหิตของราชวงศ์ฟีนิกซ์ ก็สามารถสยบไว้ได้อย่างง่ายดาย อย่างรวดเร็ว แก่นโลหิตนี้ก็เริ่มว่าง่าย จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา

 

“ติ๊ง ท่านกินแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์สําเร็จ ได้รับสายเลือดราชวงศ์ฟินิกซ์(ขั้นที่ 1) ระดับถัดไป ต้องการค่าความคลั่ง 500,000 สามารถเลื่อนระดับได้”

 

ได้รับสายเลือดฟินิกซ์ขั้นที่ 1 มาอย่างง่ายดาย แก่นโลหิต 1 หยด เท่ากับสายเลือด 1 ขั้น นี้ถือเป็นเรื่องธรรมดามาก ทั้งข้อความด้านหลังยังบอกว่าสามารถใช้ค่าความคลั่งเลื่อนระดับได้ หากว่าเปลี่ยนเป็นพวกเขา คงไม่กล้าแม้แต่จะคิด

 

หากคิดจะเลื่อนระดับสายเลือด ก็มีเพียงแต่ต้องกินแก่นโลหิตเข้าไปอย่างต่อเนื่อง แต่อี้เทียนหยุนไม่จําเป็นต้องทําเช่นนั้น เพียงแค่ใช้ค่าความคลั่ง เขาก็สามารถเลื่อนระดับขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย

 

“ให้ข้าดูผลลัพธ์หน่อยสิ”

 

อี้เทียนหยุนลุกขึ้น พร้อมกับนัยน์ตาทั้งสองข้ามีประกายของเปลวเพลิงนิรันดร์พุ่งออกมาอึดใจต่อมา ร่างของเขาก็ปลดปล่อยเปลวเพลิงนิรันดร์ที่น่าสะพรึงออกมา กระทั่งด้านหลังของเขายังมีขนฟินิกซ์งอกขึ้นมาหลายเส้น บ่งบอกว่าเขากําลังเปิดใช้งานสายเลือดฟีนิกซ์อยู่

 

สายเลือดราชวงศ์ฟีนิกซ์ : หลังจากเปิดใช้งาน จะสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงที่ แข็งแกร่งออกมา เมื่อระดับเพิ่มขึ้น จะทําให้เปลวเพลิงนิรันดร์มีพลังมากขึ้น พร้อมกับความเร็วเพิ่มขึ้นด้วย ปัจจุบัน เปลวเพลิงนิรันดร์มีพลังเพิ่มขึ้น 2 เท่า ความเร็วเพิ่มขึ้น 5 เท่า!