ตอนที่ 374 เชื่อสายตาคุณได้ด้วยเหรอ? / ตอนที่ 375 แต่งงานกันแล้ว?

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 374 เชื่อสายตาคุณได้ด้วยเหรอ? 

 

 

           เฉียวซือมู่พูดได้เต็มปากว่าวันนี้เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต เธอกำลังชมวิวทิวทัศน์ที่ชอบ โดยมีชายอันเป็นที่รักอยู่ข้างกาย ทั้งสองแบ่งปันของอร่อยด้วยกัน เธอจะจดจำความสุขนี้ไปชั่วนิรันดร์ จำไปจนถึงชาติหน้าเลย 

 

 

           จิ้นหยวนเป็นคนมีชื่อเสียง เขาพาหญิงสาวออกไปปรากฎตัวตามสถานที่สาธารณะอย่างเปิดเผย หญิงสาวคนนั้นยังสวยมากเสียด้วย บนนิ้วยังสวมแหวนเพชรเม็ดโตราคาแพงอีกต่างหาก ข่าวนี้จึงถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว เวลาไม่ถึงวัน ข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วแวดวงไฮโซราวกับติดปีกบินได้ 

 

 

           “เคร้ง!” คฤหาสน์ตระกูลจิ้น ฉินเพ่ยหรงกระแทกถ้วยน้ำชาในมือลงบนโต๊ะ “มันน่าโมโหนัก!” 

 

 

           จิ้นเฮ่าเดินช้าๆ เข้ามา เห็นท่าทางของภรรยาแล้วมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย “นี่คุณกำลังโมโหเรื่องอะไร?” 

 

 

           ฉินเพ่ยหรงมองจิ้นเฮ่าหน้าตาน่าสงสาร เธอยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขา “คุณดูสิคะว่าลูกชายตัวดีของเราทำอะไรเอาไว้ เขาพาผู้หญิงคนนั้นติดตัวไปทั่ว แล้วยังซื้อแหวนเพชรวงเบ้อเริ่มให้เธออีก มันหมายความว่ายังไง? ลูกชายเราเคยเอาอกเอาใจผู้หญิงคนไหนแบบนี้บ้าง? ฉันว่านะ ถ้าเราไม่ขัดขวางล่ะก็ มีหวังเขาได้แต่งผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านแน่” 

 

 

           จิ้นเฮ่ากลับเห็นต่าง ตั้งแต่เขาดูหร่วนเซียงเซียงผิดไป เขาก็ไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องงานแต่งงานของลูกชายอีก ในสายตาเขา หญิงสาวที่ชื่อเฉียวซือมู่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เธอเป็นคนมีความรู้ความสามารถ พูดจาสุภาพอ่อนน้อม ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่ไม่เลวเลยทีเดียว 

 

 

           ฉินเพ่ยหรงได้ยินแล้วยิ้มเยาะ “สายตาของคุณน่ะเหรอ? ครั้งที่แล้วคุณก็พูดถึงหร่วนเซียงเซียงแบบนี้เหมือนกันนี่ แล้วเป็นไงล่ะ? หร่วนเซียงเซียงสวมเขาให้ลูกชายเรา จนเกือบได้เป็นพ่อของลูกชู้แล้วไหมล่ะ” คนที่ชอบท่องอินเทอร์เน็ตอย่างเธอพูดภาษาตามสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างฉะฉาน “แล้วจะเชื่อสายตาคุณได้อีกเหรอคะ?” 

 

 

           จิ้นเฮ่าเห็นเธอเริ่มขุดคุ้ยเรื่องเก่าแล้วหุบปากเงียบทันที เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดเขาจึงหลงเชื่อหร่วนเซียงเซียงอย่างไม่ลืมหูลืมตา และยังบังคับจิตใจให้ลูกชายแต่งงานกับเธออีก จนชีวิตคู่ของลูกชายล้มเหลวไม่เป็นท่า แม้เขาจะรักษาตัวอยู่แต่ในบ้านโดยไม่ได้ติดต่อกับคนภายนอก ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนข้างนอกหัวเราะเยาะลูกชายตนอย่างไร คนพวกนั้นหาว่าลูกชายตนมีตาหามีแววไม่ ถึงได้ถูกเมียตัวเองสวมเขา… 

 

 

           คนพวกนั้นพูดจาน่าเกลียดต่างๆ นานา ครั้งแรกที่เขาได้ยินคำครหานินทาพวกนั้น เขาโกรธจนอาการโรคหัวใจเกือบจะกำเริบขึ้นมาอีก เขาต้องใช้เวลาตั้งนานกว่าจะสงบจิตสงบใจลงได้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ล้มเลิกความคิดที่จะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องการแต่งงานของลูกชายอีก 

 

 

           พอเขาคิดเช่นนี้ ภรรยาของเขากลับคิดตรงกันข้ามเสียนี่ เพราะดูเหมือนเธอจะมีอคติกับผู้หญิงที่ลูกชายชอบเสียแล้ว 

 

 

           ไม่ใช่สิ เขามองใบหน้าที่โมโหจนบิดเบี้ยวของภรรยา แอบแก้ไขในใจว่า ไม่ใช่แค่มีอคติ แต่มีอคติมากๆ 

 

 

           เขาทอดถอนใจ พยายามช่วยพูดให้ลูกชายอีกครั้ง “ความจริงคุณควรจะทำความเข้าใจลูกชายให้มากๆ นะ อย่าเอาปลาเน่าตัวเดียวมาตัดสินคนทั้งหมดแบบนี้สิ บางทีเธออาจจะเป็นคนดีจริงๆ ก็ได้” 

 

 

           ฉินเพ่ยหรงครางเสียงฮึ “แค่สภาพครอบครัวก็รู้แล้วว่าเธอไม่ใช่คนดีเด่อะไร ลูกสะใภ้แบบนี้ฉันไม่เอาหรอก!” 

 

 

           จิ้นเฮ่าเอ่ยเตือนสติ “คุณไม่อยากได้ แต่ลูกชายเราชอบเธอนี่ คุณก็รู้จักนิสัยลูกชายของเราดี ถ้าเขาดึงดันจะแต่งกับเธอให้ได้ แล้วคุณจะทำยังไง?” 

 

 

           ฉินเพ่ยหรงหน้าเข้ม “คงเป็นเรื่องยุ่งยากมาก” 

 

 

           จิ้นเฮ่าดีใจ คิดว่าเกลี้ยกล่อมภรรยาสำเร็จแล้ว ขณะที่เตรียมจะตีเหล็กตอนร้อนนั้น จู่ๆ ก็เห็นเธอตบมือเสียงดังแล้วอุทานออกมา “คิดออกแล้ว!”  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 375 แต่งงานกันแล้ว? 

 

 

           จิ้นเฮ่าขมวดคิ้ว มองดูภรรยาตนที่กำลังหน้าตาตื่นเต้นระคนภูมิใจ จู่ๆ เขาก้รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี 

 

 

           จิ้นหยวนไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวของตนถูกเผยแพร่ออกไปเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้เขากำลังมีความสุขมาก ต่อให้รู้เขาก็ไม่สนใจหรอก เขาจดทะเบียนสมรสกับเธออย่างเปิดเผย นอกจากคุณแม่ของเขาแล้ว ใครจะพูดอย่างไรก็ไม่มีผลกระทบต่อความสุขของเขาหรอก 

 

 

           แต่เรื่องราวมักจะไม่เป็นไปดั่งใจนึก ทันทีที่เขากลับถึงบ้านก็ได้รับสายจากคุณแม่ทันที 

 

 

           เขาฟังน้ำเสียงกล่าวโทษที่ดังลอดมาจากอีกฟากสาย ความสุขเมื่อครู่มลายหายไปจนสิ้น เขานวดคลึงหว่างคิ้วเบาๆ ตัดสินใจหงายไพ่กับคุณแม่ “คุณแม่ครับ ผมแต่งงานกับเธอแล้ว ต่อไปเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ ผมรักเธอ คุณแม่อย่ามีอคติกับเธออีกเลยนะครับ…” 

 

 

           “อะไรนะ!” ฉินเพ่ยหรงอุทานเสียงสูง “ลูกพูดว่าไงนะ? แต่งงานกันแล้ว?” 

 

 

           “ครับ เราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เราสองคนเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วครับ” เขาเอ่ยอย่างใจเย็น 

 

 

           “ทำไมลูกทำอะไรมุทะลุอย่างนี้? เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมแม่ไม่เห็นรู้เรื่องด้วยเลย? บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเสี้ยมให้ลูกทำแบบนี้ใช่ไหม? แม่นึกแล้วเชียวว่าเธอไม่ใช่คนดี ลูกชายบ้านไหนบ้างที่แต่งงานแล้วแม่ตัวเองไม่รู้เรื่อง? นี่ลูกกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง ลูกหลงผู้หญิงคนนั้นจนขาดสติไปแล้วเหรอ? ลูกสะใภ้ตระกูลจิ้นเชียวนะ ลูกจะมาทำเป็นเล่นขายของแบบนี้ไม่ได้…” 

 

 

           ขณะที่ฉินเพ่ยหรงกำลังบ่นไม่เลิกอยู่นั้น จิ้นหยวนต้องลงน้ำหนักนวดคลึงหว่างคิ้วหนักขึ้น “คุณแม่ ผมเป็นคนขอให้เธอไปจดทะเบียนกับผมเอง เธอเป็นคนดีมาก ผมรักเธอมาก อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปตลอดชีวิต คุณแม่จะยอมเห็นแก่ผม ยอมรับเธอได้ไหมครับ? เธอไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณแม่คิดจริงๆ นะครับ” 

 

 

           จิ้นหยวนคิดว่าจดทะเบียนสมรสกับเธอแล้ว ต่อให้คุณแม่ไม่พอใจอย่างไรก็ต้องยอมรับเธอ เพราะข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ เขาเป็นถึงนักธุรกิจผู้เฉลียวฉลาดและเก่งกาจมาก แทบจะรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง อายุน้อยๆ ก็มีทรัพย์สินมากมายมหาศาล แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากซับซ้อนที่สุดในครอบครัวชาวจีนเสียที นั่นก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้นั่นเอง 

 

 

           เขาไม่พูดถึงยังพอว่า แต่พอพูดขึ้นมาก็เหมือนสะเก็ดไฟที่จุดประกายไฟจนถังดินปืนระเบิด เสียงของคุณแม่แหลมปรี๊ดจนเขาหูอื้อ “ลูกต้องถูกผู้หญิงคนนั้นวางยาเสน่ห์แน่ๆ ผู้หญิงคนนั้นมีดีตรงไหน เจอหน้าแม่ก็ไม่ยอมพูดจาดีๆ ด้วย ปั้นหน้าบึ้งตึงตลอดเวลาเหมือนมีใครตายอย่างนั้นแหละ ตัวผอมกะหร่อง แล้วยังบาดเจ็บอีก จะมีลูกได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ สายตาลูกต้องแย่มากขนาดไหนถึงไปชอบผู้หญิงอย่างนั้นได้?” 

 

 

           จิ้นหยวนเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย “คุณแม่อย่าไปว่าคนอื่นแบบนั้นได้ไหมครับ?” 

 

 

           “แม่จะพูด แล้วจะทำไม? ก็มันจริงนี่ แม่ไม่สน จดทะเบียนได้ก็หย่าได้เหมือนกัน แม่ไม่ยอมรับเธอเด็ดขาด!” 

 

 

           “คุณแม่ เรื่องหย่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคุณแม่ไม่ชอบเธอ ต่อไปผมจะไม่พาเธอไปพบหน้าคุณแม่อีกก็แล้วกัน” คำพูดของคุณแม่ทำให้เขารู้สึกปวดศีรษะมาก น้ำเสียงของเขาจึงฟังดูแย่มาก 

 

 

           “ลูกว่าไงนะ?” ฉินเพ่ยหรงคิดไม่ถึงว่าลูกชายจะพูดเช่นนั้นกับตน เธออารมณ์ขึ้นจนแทบจะหายใจไม่ทัน “ไหนลองพูดอีกทีซิ? มีลูกชายคนเดียวแต่ก็เหมือนไม่มี ได้เมียแล้วลืมแม่ รู้อย่างนี้ไม่ปล่อยให้เกิดมาก็ดี จะได้ไม่ต้องช้ำใจแบบนี้…” 

 

 

           จิ้นหยวนนวดคลึงหว่างคิ้วอย่างปวดศีรษะ “คุณแม่ ตอนนี้คุณแม่กำลังอารมณ์ไม่ดีใช่ไหมครับ ถ้างั้นคุณแม่กับคุณพ่อออกไปเที่ยวไหมครับ เดี๋ยวผมให้คนจัดการให้”