ตอนที่ 598 ชะตาลิขิตชีวิตคน / ตอนที่ 599 เพราะรักเขา

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 598 ชะตาลิขิตชีวิตคน

 

 

           กงจวิ้นฉือ คุณจะต้องได้เจอกับผู้หญิงที่รักคุณมากกว่านี้ ฉันไม่คู่ควรกับคุณ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเดินอยู่บนถนนราวกับร่างไร้วิญญาณ ปล่อยให้ลมหนาวพัดน้ำตาบนใบหน้าของเธอจนแห้งเหือด

 

 

           ตัวเธอเปี่ยมด้วยลมหายใจอันสิ้นหวัง เส้นผมเต้นรำอยู่ในสายลม บนใบหน้าเล็กๆ ที่สวยงามเจือปนความเสียใจและความหดหู่ ดูทั้งโศกเศร้าระคนความสวยงาม

 

 

           มีผู้คนมากมายเดินอยู่บนท้องถนน ฉู่เจียเสวียนหรี่ตาเงยหน้ามองดูพระอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนฟ้า

 

 

           “กริ๊งๆ…” เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบมือถือออกมา

 

 

           เมื่อเห็นชื่อคุ้นตาเด้งอยู่บนหน้าจอ ทันใดนั้นดวงตาก็แดงก่ำ

 

 

           “ฮัลโหล” น้ำเสียงอู่อี้เล็กน้อย

 

 

           “ที่รัก เธอเป็นอะไรไป” ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก ถังถังก็ฟังออกทันทีว่าน้ำเสียงของเธอไม่ปกติ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนสูดหายใจลึก พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบที่สุด “ไม่มีอะไร…”

 

 

           แต่แม้ว่าเธอซ่อนเร้นอย่างสุดความสามารถ ถังถังก็ยังฟังความผิดปกติของเธอออก

 

 

           “ตอนนี้เธออยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปหาเธอ” น้ำเสียงที่ไม่ต้องสงสัยของถังถังดังขึ้น

 

 

           “เดี๋ยวฉันก็กลับไปแล้ว…”

 

 

           “พูดมา” ถังถังกล่าวอย่างเผด็จการ เธอรู้สึกได้เลือนลางว่าฉู่เจียเสวียนจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

           ตั้งแต่ฉู่เจียเสวียนถูกลักพาตัว เธอก็แปลกไปเล็กน้อย เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

 

           “ฉันจะรอเธออยู่ที่สตาร์บัค” เงยหน้าขึ้น ฉู่เจียเสวียนก็เห็นว่าตรงหน้ามีสตาร์บัคร้านหนึ่ง เธอเอ่ยแผ่วเบา

 

 

           เพื่อนสนิทของเธอมีไม่มาก คนที่เธอสามารถพูดคุยได้ก็มีไม่มาก ถังถังคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ และคนที่เธอพูดคุยด้วยก็มีเพียงถังถังคนเดียว

 

 

           พ่นลมหายใจเบาๆ ควันสีขาวออกมาจากปากของเธอ เธอก้าวเท้าเดินไปยังสตาร์บัคที่อยู่ไม่ไกลนัก

 

 

           ที่สตาร์บัค คนที่มาดื่มกาแฟมีไม่มาก บรรยากาศภายในค่อนข้างหรูหรา มีเสียงเพลงผ่อนคลายคลอเบาๆ มีเพียงไม่กี่คนที่นั่งกระจัดกระจาย แต่บรรยากาศยังคงเงียบสงบ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนสั่งชามะนาวร้อนหนึ่งแก้ว เลือกที่นั่งข้างหน้าต่าง แล้วนั่งลงมองดูคนเดินเท้าที่อยู่นอกหน้าต่าง

 

 

           ทุกวัน ผู้คนมากมายต่างเดินเคียงข้างคุณ แต่เราไม่สามารถเป็นเพื่อนกับผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้

 

 

ว่ากันว่าใช้เวลาร้อยปีในการข้ามแม่น้ำด้วยเรือข้ามฟากลำเดียวกัน ใช้เวลาพันปีเพื่อร่วมเรียงเคียงหมอน[1]

 

 

           ความสัมพันธ์ของเธอกับเผยหนานเจวี๋ยเกี่ยวข้องกันมานานนับพันปีแล้วหรือยัง พวกเขาเป็นสามีภรรยาเป็นเวลาสามปี เดิมทีคิดว่าหลังจากเลิกกันแล้วก็จะไม่เกี่ยวข้องกันอีก

 

 

           อย่างไรก็ดี ชะตาลิขิตชีวิตคน เธอแยกจากเผยหนานเจวี๋ยเป็นเวลาสามปี เมื่อพบกันอีกครั้ง เธอก็ตกหลุมรักเขาอีกครั้ง      

 

 

           เดิมทีคิดว่าหลังจากผ่านประสบการณ์โชกโชนขนาดนั้น ชั่วชีวิตนี้จะไม่สามารถรักใครได้อีก

 

 

           ดังนั้นเธอจึงยอมรับกงจวิ้นฉือ รู้สึกละอายใจต่อเขา รู้สึกว่าไม่ใช่คนที่ตัวเองรัก จะเป็นใครก็ช่าง เธอแค่ต้องการตามหาอีกครึ่งชีวิตที่เหลือให้ตัวเองก็เท่านั้น

 

 

           เธอไม่ใส่ใจกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ พวกนี้มานานแล้ว เธอที่บาดเจ็บทั้งตัว ทำไมถึงยังคิดที่จะได้รับความรักจากคนอื่น?

 

 

           อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเรื่องราวต่างๆ จะไม่ไปในทิศทางที่คุณต้องการให้มันเป็น

 

 

           ตอนที่เผยหนานเจวี๋ยเข้ามาพัวพันเธออย่างหน้าไม่อาย ตอนที่เผยหนานเจวี๋ยอ่อนโยนต่อเธอ เธอก็ไม่สามารถควบคุมอาการหวั่นไหวของตัวเองได้ ที่แท้ใจที่ดับสนิทก็ยังเต้นแรงอีกครั้งเพราะเขา

 

 

           เธอรู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่ถูก เธอพยายามควบคุมตัวเอง แต่ว่าไม่ว่าเธอจะควบคุมอย่างไร ความรักที่มีต่อเผยหนานเจวี๋ยก็เหมือนการเสพยาเสพติดที่เลิกไม่ได้

 

 

           บางทีเผยหนานเจวี๋ยอาจเป็นยาพิษเธอไม่สามารถเอาออกจากชีวิตได้ ตอนนี้พิษได้แล่นเข้าสู่หัวใจ เข้าสู่เลือดเนื้อและกระดูกไปแล้ว

 

 

           ทั้งชีวิตของคนบางคนไม่อาจเจอคนที่ตัวเองรัก คนบางคนเพียงแค่แรกพบก็ถูกพรหมลิขิตกำหนดไว้แล้ว

 

 

 

 

 

 

[1] ใช้เวลาร้อยปีในการข้ามแม่น้ำด้วยเรือข้ามฟากลำเดียวกัน ใช้เวลาพันปีเพื่อร่วมเรียงเคียงหมอน การลงเรือลำเดียวกันเปรียบเสมือนการมีวาสนาต่อกัน หมายความว่าคนเรากว่าจะได้มาเจอกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นคู่สามีภรรยาอาจต้องทำบุญร่วมกันนับพันปีจึงจะได้ร่วมเรียงเคียงหมอน

 

 

 

 

       ตอนที่ 599 เพราะรักเขา

 

 

           ตอนที่เธอรู้จักกับเผยหนานเจวี๋ยครั้งแรกก็ถูกเขาดึงดูดอย่างล้ำลึก ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

 

 

           อย่างไรก็ดีวัยหนุ่มสาวนั้นไม่รู้จักว่าความรักเกิดขึ้นเมื่อไร พอรู้ตัวอีกทีก็ถลำลึกแล้ว แม้แต่ความเกลียดชังก็ไม่หลงเหลือ

 

 

           ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาเป็นความชอบในวัยสาว จนกระทั่งกลายเป็นความรักในวัยผู้ใหญ่

 

 

           ขณะที่กำลังเหม่อลอย ก็มีคนตบไหล่ ฉู่เจียเสวียนดึงสติกลับมา เงยหน้าขึ้นก็เห็นถังถังกำลังมองเธออย่างกระวนกระวาย

 

 

           “เธอเป็นอะไรไป” ถังถังมองฉู่เจียเสวียนที่ดวงตาแดงก่ำ นั่งลงตรงหน้าเธอ เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนส่ายหัว “ฉันเลิกกับจวิ้นฉือแล้ว”

 

 

           คำพูดของฉู่เจียเสวียนราวกับระเบิดอย่างไรอย่างนั้น เธอเหม่อมองเธอ ราวกับว่าฟังผิดไป

 

 

           แม้แต่รอยยิ้มก็แข็งทื่ออยู่บนใบหน้าของเธอ

 

 

           “เธอพูดอะไรน่ะ ฉันฟังผิดไปใช่ไหม” ราวกับผ่านไปหนึ่งศตวรรษ ถังถังจึงพูดขึ้น

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยกมุมปากยิ้ม “ไม่ได้ฟังผิด ฉันเลิกกับเขาแล้ว”

 

 

           เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้ ในเมื่อเรื่องที่เธอเลิกกับกงจวิ้นฉือ ช้าเร็วเธอก็จะรู้ แทนที่จะรอให้พวกเขาค้นพบ สู้เธอบอกด้วยตัวเองดีกว่า

 

 

           “ทำไมล่ะ เป็นเพราะเผยหนานเจวี๋ยเหรอ” เสียงของถังถังสูงขึ้นเล็กน้อย แววตาเหลือเชื่อ

 

 

           พวกเขาตัดสินใจจะแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงเลิกกันล่ะ นี่ทำให้เธอรับไม่ได้เล็กน้อย

 

 

           “ไม่ใช่เพราะเผยหนานเจวี๋ย ต่อให้ไม่มีเผยหนานเจวี๋ย ฉันกับเขาก็เป็นไปไม่ได้” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยขมขื่น

 

 

           เธอพยายามอย่างหนักเป็นเวลานานแต่ก็ไม่สามารถชอบเขาได้ และเธอไม่ควรรั้งเขาไว้แบบนั้น มันไม่ยุติธรรมกับเขาเกินไปแล้ว

 

 

           ในเมื่อไม่สามารถรักเขาได้ เช่นนั้นก็ควรปล่อยมือเร็วหน่อยเพื่อให้เขาไปค้นหาความสุขของเขาเถอะ

 

 

           เวลาที่อยู่ด้วยกันกับกงจวิ้นฉือ เธอไม่เคยคิดแต่งงานกับกงจวิ้นฉือเลย จนกระทั่งตอนที่คุณย่ากงบังคับให้เธอกับกงจวิ้นฉือแต่งงานกัน เธอก็เริ่มที่จะใส่ใจกับเรื่องนี้แล้ว

 

 

           เดิมทีคิดว่าจะสามารถแต่งงานกับกงจวิ้นฉือได้อย่างใจเย็น แต่ว่าเธอทำไม่ได้ เงาของเผยหนานเจวี๋ย ปรากฏอยู่ในหัวของเธออย่างต่อเนื่อง สลัดไม่ออก

 

 

           จนกระทั่งเกิดเรื่องลักพาตัวครั้งนี้ เธอจึงตัดสินใจจะเลิกกับกงจวิ้นฉือ

 

 

           เธอไม่ต้องการหลอกตัวเอง ยิ่งไม่ต้องการทำร้ายกงจวิ้นฉือ

 

 

           “แต่ว่า เขาชอบเธอขนาดนั้น” ถังถังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ในสายตาของเธอ เผยหนานเจวี๋ยเหมาะกับเธอมากกว่ากงจวิ้นฉือ

 

 

           “ฉันรู้ว่าเขาชอบฉัน แต่ว่าเรื่องความรู้สึกไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ยืดเยื้อไม่ได้ ยิ่งยืดเยื้อนาน ก็จะยิ่งเจ็บหนัก หรือว่าเธออยากให้ฉันเสียใจในวันที่ฉันแต่งงานกับกงจวิ้นฉือหรือ” ฉู่เจียเสวียนกล่าวโง่ๆ

 

 

           อาศัยช่วงที่ยังไม่บาดเจ็บหนัก อาศัยที่ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่สายเกินไป การตัดสินใจอย่างเร็วที่สุดคือตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

 

           “ฉันรู้ งั้นเธอคิดดีแล้วจริงๆ เหรอ” ถังถังเอ่ย แน่นอนว่าเธอรู้จักความคิดของเพื่อนสนิทดี

 

 

           ตั้งแต่พาดหัวข้อข่าวที่ว่าเผยหนานเจวี๋ยและผู้หญิงลึกลับกลับประเทศด้วยกันเมื่อไม่นานมานี้ ฉู่เจียเสวียนก็เริ่มมีท่าทีแปลกๆ แล้ว ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ราวกับว่าไร้วิญญาณ

 

 

           “อืม ฉันรักเผยหนานเจวี๋ย ตั้งแต่ถูกลักพาตัวครั้งนี้ ฉันก็รู้ใจของตัวเอง” ฉู่เจียเสวียนพูดตรงๆ สายตาที่มองถังถังนั้นชัดเจน

 

 

           “แล้วเผยหนานเจวี๋ยล่ะ เขารู้สึกเหมือนเธอหรือเปล่า เธออย่าลืมนะ ตอนนี้เบื้องหลังเขายังมีผู้หญิงลึกลับคนนั้นอีกคน” ถังถังเอ่ยด้วยความเป็นห่วง

 

 

           สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือฉู่เจียเสวียนจะถูกเขาทำร้ายให้เจ็บปวดจนไม่เหลือชิ้นดีเหมือนเมื่อก่อน

 

 

           ยิ่งเป็นคนที่แคร์ ก็จะยิ่งเจ็บได้ง่าย

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ยคุยเรื่องนี้กับฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขา เขาเจออุบัติเหตุที่เมืองนอกจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด”