บทที่ 443 แสนรัก คุณอย่าเพิ่งแต่งงานได้ไหม

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 443 แสนรัก คุณอย่าเพิ่งแต่งงานได้ไหม
เมื่อเส้นหมี่ตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้น เธอก็ได้กลิ่นของแสงแดดในอากาศ

เธอยังไม่ตายเหรอ

เธอผ่านมันไปได้แล้วหรอ

เธอรู้สึกปลาบปลื้มในทันที และแทบรอไม่ไหวที่จะหัวเราะออกมาดังๆ

แต่ในไม่ช้า เธอก็ค้นพบสิ่งหนึ่ง นั่นคือความมืดตรงหน้า หัวใจของเธอกระตุกวูบทันที

“หมอ หมอ”

“คนไข้ตื่นแล้ว…”

เสียงอ่อนโยนของพยาบาลปรากฏขึ้น เธอก็รีบไปที่เตียงของเธอ

เส้นหมี่ได้ยิน และโบกมือในความมืด “พยาบาล ตาของฉัน… ทำไมตาของฉันมองไม่เห็น”

“คือ……”

“ไม่เร็วขนาดนั้น คราวนี้เราเปิดหลอดเลือดที่นำไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกายในกระดูกสันหลังของคุณเป็นหลัก นี่คือกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่คุกคามชีวิตของคุณ เมื่อสิ่งนี้ได้รับการแก้ไข เมื่อการทำงานของร่างกายได้รับการฟื้นฟู ทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้”

ทันใดนั้น คุณหมอมัวร์ผู้มีน้ำเสียงแหบแห้งก็เข้ามา หลังจากเห็นเธอตื่นตระหนก เขาอธิบายอย่างช้าๆ

อย่างนี้นี่เอง

ในที่สุดเส้นหมี่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อารมณ์ก็ผ่อนคลายมากขึ้นเช่นกัน

“ขอบคุณค่ะคุณหมอมัวร์”

“ไม่เป็นไร แอนนา ดูแลเธอดีๆ ถ้ามีอะไรให้โทรหาฉัน”

มัวร์จากไปอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะเขามีอย่างอื่นที่ต้องทำ

เส้นหมี่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และรู้สึกว่าพยาบาลกำลังมาให้น้ำเกลือเธอ ทันใดนั้นเธอก็มีความคิดอยากจะบอกข่าวดีกับครอบครัวของเธอขึ้นมา

“พยาบาล ขอโทรศัพท์หน่อยได้ไหม ฉันต้องการโทร”

“ค่ะ ได้ค่ะ”

พยาบาลเห็นด้วยอย่างกระตือรือร้น และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

เส้นหมี่จับสิ่งนั้น และรู้สึกตื่นเต้นมากจนมือของเธอสั่นเล็กน้อย

ในที่สุดเธอก็มีความหวังที่จะมีชีวิตต่อ

สุดท้ายก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทิ้งพวกเขาอีกต่อไป

เส้นหมี่ขอให้พยาบาลช่วยกดหมายเลขโทรศัพท์ของลุงของเธอทันที

“สวัสดีค่ะคุณลุง หนูเส้นหมี่”

“ตายแล้วยัยหนู ไปตายที่ไหนกันแน่ ไม่ได้โทรมานานขนาดนี้ อยากตายหรือไง!!”

ทันทีที่รับสาย เสียงคำรามของธนาตย์ก็ดังขึ้นทันที

แต่ในตอนท้ายของประโยค เธอก็ได้ยินเสียงสะอื้นของเขา

เส้นหมี่ ไม่ได้โทรหาเขาตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ จนถึงตอนนี้ ข่าวทั้งหมดของเธอมาจากตระกูลหิรัญชา

เส้นหมี่น้ำตาไหล “แหมะๆ” ทันที “คุณลุง หนูผิดไปแล้ว ไม่เป็นไร หนู…หนูจะรีบกลับไปเร็วๆนี้…”

“จริงหรอ”

ธนาตย์ถามอย่างไม่เชื่อ

เส้นหมี่พยักหน้าอีกครั้งด้วยน้ำตา

ความหวังปรากฏแล้ว และเธอไม่อยากหลอกญาติสนิทคนนี้อีกต่อไป เธอต้องบอกข่าวดีกับเขา ให้เขาเลิกกังวลเกี่ยวกับตัวเองได้แล้ว

แต่เธอไม่รู้ ตอนเธอโทรไป ป้าของเธอก็แกล้งตัดต้นไม้ และแอบเงี่ยหูฟัง ต่างจากนิสัยเย็นชา ไม่ใส่ใจอย่างเดิม

เส้นหมี่โทรหาปอร์เช่อีกครั้ง

จากนั้นก็ลูกๆ

เด็กๆรู้สถานการณ์ที่แท้จริงของเธอมานานแล้วจากป้าที่กลับมา

แต่หม่ามี๊คนโง่ดันโกหกพวกเขา และพวกเขาก็ไม่เปิดเผย ยังเล่นละครไปกับเธออีก

กระทั่งตอนที่หม่ามี๊กำลังจะวางสาย พวกตัวเล็กก็ขอให้เธอกลับมาโดยเร็ว

“หม่ามี๊ ช่วงนี้แด๊ดดี้ทำงานหนักมาก หม่ามี๊อยากโทรหาเขาไหม”

คิวคิวคนฉลาดไม่ลืมเตือนหม่ามี๊ในตอนท้าย

เส้นหมี่กำมือของเธอเมื่อได้ยินทันที

เธออยากโทรหาเขาไหม

อยากสิ อยากมาก!

แต่เธอยังไม่มีความกล้า ตอนนี้มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และหมอก็ไม่ได้บอกว่าการผ่าตัดครั้งต่อไปจะรับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันได้

เส้นหมี่กำโทรศัพท์นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน

และต่อหน้าเธอ เธอไม่รู้เลย มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวจ้องมองเธออยู่

เขาเห็นเธอโทรหาคนนู้นคนนี้

แต่หลังวางสายสุดท้าย เธอก็บีบมือถือแน่น ไม่เห็นท่าจะโทรอีก

ดวงตาของชายคนนั้นหรี่ลง

ราวกับว่าประกายตาเดิมที่เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิถูกปกคลุมโดยชั้นเมฆสีดำในทันใด เพียงไม่กี่วินาทีก็มืดจนไม่มีใครกล้ามองเข้าไปในดวงตาของเขาอีก

เธอจำทุกคนได้

แต่เขาเป็นคนเดียวที่เธอลืมอีกครั้ง

ชายคนนั้นออกไปด้วยความผิดหวังอย่างมาก

สิบนาทีต่อมา ขณะสูบบุหรี่ในห้องพักแพทย์ จู่ๆเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวของเขา

“ฮัลโหล เกิดอะไรขึ้น ทำไมภรรยาของนายถึงโทรหาฉันเมื่อครู่นี้ นายอยู่โรงพยาบาลไม่ใช่หรอ”

“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า”

“เธอบอกว่าให้ฉันไปบอกนายว่าให้ดูแลตัวเอง วันในช่วงนี้ไม่ดีกับเด็กๆ ต้องผ่านไปสักพักถึงจะมีวันมงคล ถ้าจะแต่งงานแครอทให้รอก่อน”

“แค่กๆๆ…”

พูดได้คำเดียวว่า เขาแทบจะสำลักควันบุหรี่นั้นจนตาย

วันมงคล

ดังนั้นเธอกำลังจะใช้วิธีอ้อมๆนี้กู้โลกหรอ

แทนที่จะโทรหาเขาโดยตรง แต่กลับโทรหาแสงดาว แล้วมาบอกเขาอ้อมๆว่าอย่าแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นเร็วขนาดนั้น

แสนรักจะโกรธแล้ว

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าประโยคนี้ทำให้หมอกควันในหัวใจเขาหายไปหมด

หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ในที่สุด เขาก็สัมผัสดวงตาที่มีน้ำตาไหลออกมา และเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ท้ายที่สุดเขาก็กลั้นน้ำตา และด่าเธอว่า “เธอป่วย!”