บทที่ 502 ทางเข้าใหญ่
“ไม่มีการตอบสนอง?”

“มีบางอย่างผิดปกติ!”

นอกจากความตกใจแล้ว ลูเซียนยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเขาสังหรณ์ใจไว้แล้ว เหมือนกับสิ่งที่รอคอยมานานในที่สุดก็เกิดขึ้น หรือเท้าอีกข้างหนึ่งที่ยกขึ้นไม่นานก็ต้องวางลงบนพื้นอยู่ดี

ไม่พยายามเรียกอีกต่อไป และจะไม่เสียเวลาอีกต่อไป ลูเซียนออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดกับ ‘เทวทูตแห่งฟ้าร้องและสายฟ้า’ ที่ซ่อนตัวอยู่ในที่หลบระเบิดอีกแห่งเพื่อโจมตี!

เมื่อเขาบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ นั้นก็คืออุบัติเหตุเมื่อแอลผิดพลาด!

‘เวทวงโคจรทำลายล้าง’ ที่ดูเหมือนจะสามารถสร้างความว่างเปล่าให้กลายเป็นรูปร่างได้ จุดสีแดงคล้ายเข็มสองจุดบนกะโหลกศีรษะสีขาวของคอนกัส จ้องมองที่ลูเซียน และปิดกั้นเขา ทำให้เขารู้สึกถึงความหนาวเหน็บที่เพิ่มขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ

ทันใดนั้นเงาของอีกคนก็บินออกมาจากด้านหลังฝั่งซ้ายของคอนกัส เขามีหกปีกอยู่บนหลังและล้อมรอบด้วยสายฟ้า และรัศมีศักดิ์สิทธิ์ จากการดึงดูดของบรรยากาศที่เหลืออยู่ใน ‘เขตแดนเทพ’ ทำให้เขาดูเหมือนผู้ปกครองของเขตแดนนี้

ในฐานะเสราฟิมปลอม เขาอยู่ในระดับที่สองของ ‘เขตแดนเทพ’ และสามารถใช้อำนาจส่วนหนึ่งของแอลแทนได้!

เมื่อไม่เห็นสีหน้าบนหัวกะโหลกสีขาวของคอนกัส ‘เวทวงโคจรทำลายล้าง’ ก็กะพริบและโผล่มาอยู่ข้างลูเซียน และเขาเริ่มสวดมนต์ ‘เวทจองจำวิญญาณ’

เขาระแวงว่าผู้ปกครองของ ‘เขตแดนเทพ’ ที่ใกล้จะขึ้นระดับเก้าจะซุ่มโจมตีเขาด้วย ‘แหวนคอนกัส’ ที่มีเวทมนตร์ระดับตำนานอยู่ไม่น้อย!

“วิญญาณ…” เสียงที่ดูสับสนที่ดังขึ้นเกือบจะซ้อนทับกับเวทมนตร์ของคอนกัส และคลื่นเวทมนตร์ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น

ไม่มีเวลาให้ตรวจสอบ ‘ผู้ปกครองเขตแดนเทพ’ ที่กลายเป็นรูปปั้น คอนกัสตกใจที่เห็นลูเซียนมีแหวนประหลาดสีดำที่ดูคุ้นเคยอยู่ที่มือขวา

“เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับสูง โลกแห่งปัญญาของเขาจะถูกทำให้เป็นรูปธรรมได้อย่างไร”

“มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”

ชั่วขณะหนึ่งคอนกัสรู้สึกว่าจิตวิญญาณ และโลกแห่งปัญญาของเขากำลังพังทลาย นี่เป็นการละเมิดสามัญสำนึกอย่างสิ้นเชิง!

“…เวทจองจำ!” เมื่อเวทมนตร์ประหลาดจบลง พลังวิญญาณของลูเซียนใน ‘แหวนคอนกัส’ ก็ล้นปรี่อย่างไม่หยุดหย่อนเหมือนเขื่อนแตก ในทางกลับกันช่วงเวลาที่ ‘เวทวงโคจรทำลายล้าง’ โดนเป้าหมาย กลไกก็เปิดใช้งาน และเคลื่อนย้ายเขาไปยังอีกด้านหนึ่งของสนามรบ เขาอยู่ห่างจากที่ถูกจองจำ และเขาก็มองดูซากปรักหักพังที่กลายเป็นสีดำ

วิญญาณลวงตาปรากฏขึ้นรอบๆ คอนกัส และพยายามเบียดเสียดเข้าไปในร่างของเขา ทันใดนั้นจุดสีแดงคล้ายเข็มสองจุดบนใบหน้าของคอนกัสก็ถูกแช่แข็ง เป็นผลให้พื้นที่ของ ‘การหยุดเวลา’ พังทลายลง และนาตาชาก็กลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง ในวินาทีต่อมานางไม่สนใจที่จะมองไปที่คอนกัส แต่เพียงแค่ฟันไปที่มุมหนึ่งในซากปรักหักพัง

จู่ๆ ก็มีคลื่นเวทมนตร์บางๆ แผ่ออกมาจากโครงกระดูกสีขาวที่ล้อมรอบด้วยวิญญาณ คอนกัสหายตัวไปโผล่อยู่อีกมุมหนึ่งภายในพริบตา เขาปลดปล่อยตัวเองจากวิญญาณลวงตาที่ยังไม่ได้เข้าสู่ร่างของเขา แต่ ‘ดาบยุติธรรมจืดจาง’ ก็ฟาดลงตรงกลางหน้าผากของเขาอย่างแม่นยำ!

ลูเซียนประเมินและวางแผนโดยอาศัยพลังจาก ‘เวทพริบตา’ เมื่อสถานที่อื่นๆ ถูกครอบครองโดย ‘เขตแดนเทพ’ ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีโอกาสถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ที่จะวิญญาณจะเลือกจุดนี้เพื่อซ่อนตัว!

คอนกัสที่ได้รับผลกระทบจาก ‘เวทจองจำวิญญาณ’ ทำให้เขาไม่สามารถคิดใดๆ ได้ และต้องพึ่งพาเพียงสัญชาตญาณเท่านั้น!

ลวดลายสีสันที่หนักแน่น และอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนดาบยาวล้อมรอบด้วยภาพลวงตาและช่องว่างที่น่ากลัว เสื้อคลุมสีดำของคอนกัสถูกตัดออกอย่างกะทันหัน และโครงกระดูกบริสุทธิ์ของเขาก็หลุดออกจากกัน กะโหลกศีรษะทองแตกออกเป็นสามชิ้นโดยมีหูที่แยกออกจากปาก

อย่างไรก็ตามในตอนนั้นกะโหลกศีรษะได้หมุน และถูกปกคลุมไปด้วยการบิดเบือนความรู้สึกของเวลาและพื้นที่

เมื่อทุกอย่างสงบคอนกัส ก็จากไปแล้ว และนาตาชาก็ถูกโจมตีด้วยเสียงที่แผดออกมา

แม้จะใช้ ‘ยุติธรรมจืดจาง’ เพื่อปิดกั้น แต่นางก็ยังถูกคลื่นเสียงที่หน้ากลัวพัดไป นางล้มลงอย่างแรงพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากริมฝีปาก เห็นได้ชัดว่านางบาดเจ็บหนัก

“เทเลพอร์ตวายป่วง… เขายังไม่ถูกฆ่า นักเวทระดับตำนานตายยากจริงๆ” พลังวิญญาณของลูเซียนเกือบจะแห้งเหือด และเขาแทบจะไม่สามารถยกมือขึ้นได้ “ออกไปจากที่นี่กันเร็ว ความสามารถของคอนกัสร้ายกาจจริงๆ”

ร่างกายหลักของ ‘เทพอสูรจอมเวท-ลิช’ คือกะโหลกศีรษะทองคำ โครงกระดูกส่วนใหญ่มีไว้เพื่อรักษาความเสถียรของเวทมนตร์ แม้ว่าโครงกระดูกจะหายไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะคอนกัสยังคงมีพละกำลังเหลืออยู่อย่างน้อยก็เก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์หลังจากที่เขากลับมา เขาจะระบายความโกรธของเขาผ่านเวทมนตร์ระดับตำนานอย่างแน่นอน ในทางกลับกันลูเซียนที่หมดพลังทางวิญญาณ และนาตาชาก็ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน หากพวกเขาไม่ฉวยโอกาสที่จะหนีก็จะไม่มีโอกาสรอดสำหรับพวกเขายกเว้นจะร่วมมือกันทำลายศัตรู

นาตาชาไม่ได้พูดอะไร แต่เดินโซเซไปหาลูเซียนและช่วยพยุงเขาลุกขึ้นยืน พวกเขาพร้อมที่จะออกจาก ‘หุบเขามรณะ’ แล้ว ตอนนี้การสูญเสียการควบคุมของการดำรงอยู่ลึกลับนั้นยาวนานขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่พวกเขาวิ่งออกไปหนึ่งกิโลก่อนที่คอนกัสจะกลับมา เขาก็จะไม่สามารถค้นหาทั้งสองคนได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน ในที่สุดโอกาสในการอยู่รอดของพวกเขาก็ไม่ได้ลดน้อยลงในตอนนี้!

“แม้ว่าข้าจะบาดเจ็บหนัก แต่ข้าก็ยังรักษาความเร็วนี้ไว้ได้ ตราบใดจากจุดที่คอนกัสอยู่ไกลพอ เราก็จะปลอดภัย” นาตาชาปลอบโยนลูเซียนด้วยความยินดี และสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง นางไม่ต้องการให้ลูเซียนเตือนว่ามีบางอย่างผิดปกติกับแอลหลังจากเห็นว่านั้นคือ ‘เทวทูตแห่งฟ้าร้องและสายฟ้า’ ก็ยืนอยู่ที่นั่นอย่างตกตะลึง

ทันทีที่เธอพูดจบทุกอย่างก็เปลี่ยนไป อาคารที่ถล่มก็กลับมาในสภาพเดิมอีกครั้ง และเมืองที่ประดับประดาด้วยหินโมรา และหยกก็กลับมาสมบูรณ์เหมือนเมื่อวาน เสียงสวดที่ไพเราะ และรัศมีอันท่วมท้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ที่นี่ตกแต่งสถานที่ราวกับว่าเป็น ‘หุบเขาวิมาน’ จริงๆ แม้ว่าวิญญาณ และเทวดาบริสุทธิ์จะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว

แอลบินออกมาจากที่กำบัง เขาสวมพวงมาลัยมะกอก และเสื้อคลุมสีขาว เขายิ้มให้ลูเซียน และนาตาชาที่ชูดาบยาวขึ้น “พวกเจ้าคนหนึ่งหมดพลังทางวิญญาณ และอีกคนก็บาดเจ็บหนัก แม้ว่าเจ้าจะมีแหวนระดับตำนาน และดาบยาวที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับระดับตำนาน แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานได้”

กลิ่นอายของเขาไม่สามารถคาดเดาได้ และค่อนข้างน่ากลัว แต่นาตาชาปฏิเสธที่จะรอความตาย นางกำลังจะใช้ดาบโจมตี

จากนั้นลูเซียนก็แอบตบแขนของนางอย่างลับๆ และพูดด้วยกระแสจิตทุติยภูมิ “รอสักครู่ ยังมีโอกาส หลังจากนั้นท่านก็วิ่งถอยหลังให้เร็วที่สุด อย่ามองย้อนกลับไป”

“เจ้าอยากตายไปพร้อมกับศัตรูหรือ?” เสียงของนาตาชาสั่น

ลูเซียนยิ้ม “ยังมีโอกาสที่ข้าจะรอด ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเศษเสี้ยววิญญาณของสิ่งมีชีวิตลึกลับจากโลกแห่งวิญญาณอ่อนแอลงอย่างมาก ไม่ว่าอัลเทอร์นาจะปล่อยหรือโจมตีศัตรู แต่ก็มีโอกาสที่ร่างกายของข้าจะสลายไปได้ แต่ข้าสามารถซ่อนวิญญาณของข้าไว้ในเสื้อคลุมเวทมนตร์ของ ‘บัลลังก์อมตะ’ ได้ อุปกรณ์พิเศษจะไม่เสียหายได้ง่าย ข้าจะต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าแล้ว นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับนักเวทที่จะเปลี่ยนร่าง”

“แต่…” นาตาชาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เพราะเป็นเพียงการอนุมานของลูเซียนเท่านั้น หากพลังที่เหลืออยู่ในซากศพนั้นเกินความคาดหมายของเขา อุปกรณ์ และวิญญาณของเขาก็จะสลายไปด้วยกัน

“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก นี่เป็นวิธีที่มีโอกาสดีมากกว่าที่เจ้าจะสู้กับเขา เจ้าไม่แน่ใจว่าควรเลือกสิ่งใดงั้นหรือ? “ลูเซียนวิจารณ์ความลังเลของนาตาชา” ในใจของข้า เจ้าเป็นอัศวินที่เด็ดเดี่ยวมาโดยตลอด เจ้าจะตัดสินใจโดยปราศจากอารมณ์ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”

เมื่อเห็นความเคร่งขรึมผิดปกติบนใบหน้าของลูเซียน นาตาชาจึงกัดริมฝีปาก และพยักหน้าอย่างหนักแน่น ดวงตาสีเงิน และสีม่วงของนางถูกปกคลุมไปด้วยหมอก จากนั้นนางก็ถอยออกมาเล็กน้อย และยืนถัดจากขวามือของลูเซียน

การสนทนาด้วยกระแสจิตใช้เวลาไม่นานนัก ในตอนนี้เองแอลก็ลอยอยู่ไม่ไกล และพูดขึ้นมาขณะมองไปที่มือซ้ายของลูเซียน “หลังจากที่ข้าฆ่าเจ้า ข้ายังจะมีเวลาอีกมากที่จะกลับไปที่ ‘โลกแห่งวิญญาณ’ ก่อนที่ ‘เทพอสูรจอมเวท-ลิช’ จะมา”

โลกแห่งวิญญาณ? ทั้งลูเซียน และนาตาชามองเขาด้วยความประหลาดใจ

แอลสนุกกับความประหลาดใจ และหัวเราะ “เจ้ายังจำไม่ได้ว่าข้าเป็นใคร”

สีดำขาว และเทาปรากฏขึ้นในดวงตาทั้งสองข้างของเขา

“การดำรงอยู่อย่างลึกลับของโลกแห่งวิญญาณ? เจ้า…” ลูเซียนแปลกใจในตอนแรกแล้วมองไปที่มือซ้ายของเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมันอ่อนแอลง มันหนีกลับไปที่แอลใช่หรือไม่?

“แอลยิ้ม” ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอัลเทอร์นาคือนางไม่ได้คิดว่าส่วนหนึ่งของจิตสำนึกหลักของข้าได้ถูกปลุกขึ้นมาล่วงหน้า นางถูกข้าขัดขวางให้พลังลดลง จนกว่าพลังจะถูกดูดซับเต็มที่นางจะถูกกลืนกินหากนางฟุ้งซ่าน และโจมตีใครก็ตาม ในระหว่างนี้ร่างกายปัจจุบันของข้าก็ไม่เลวเลย พลังแห่งศรัทธามากมายทำให้ข้ากลับไปอยู่ในระดับเก้าได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าตอนนี้ข้าไม่สามารถจัดการกับ ‘เทพอสูรจอมเวท-ลิช’ ได้ แต่พวกเจ้าทั้งคู่ในตอนนี้ก็เพียงพอให้ข้าจัดการได้แล้ว?”

“งั้น ไปลงนรกได้แล้ว” แอลเรียกพลังของเขตแดนเทพขึ้นมา รัศมีศักดิ์สิทธิ์แปล่งแสงกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากการขัดขวางของร่างกาย นั้นจึงไม่ขัดแย้งกับการดำรงอยู่อย่างลึกลับของโลกแห่งวิญญาณเลย

เติมพลังด้วย ‘หุบเขาวิมาน’ และล้อมรอบด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ เขาดูเหมือนพระเจ้าแห่งสัจธรรมที่แท้จริง

หัวใจของลูเซียนเริ่มหนักอึ้ง เขาเริ่มคุยกับนาตาชาเกี่ยวกับเวลาที่จะวิ่ง ในระหว่างนั้นเขาคุยกับอัลเทอร์นา และขอให้นางโจมตีแม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม

ทันใดนั้นเพลงสวด และคำสรรเสริญที่ไพเราะกว่าหลายพันเท่าทำให้ลูเซียน และนาตาชารู้สึกว่าจิตใจของพวกเขาได้รับการชำระล้าง ในทางกลับกันแอลก็รู้สึกตกตะลึง แต่ก็ยังเปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา

“เกิดอะไรขึ้นกับเขา? ลูเซียนถามด้วยความสับสน

นาตาชาส่ายหัวอย่างไม่รู้ตัว

“ฮึ ฮึ ในที่สุด” เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากทางเข้าของหุบเขามรณะ ฟรานซิสในชุดคลุมธรรมดา และมีปีกลวงตาหกปีกค่อยๆ เดินเข้ามาดู ‘แอล’ อย่างกระตือรือร้นราวกับว่าเขากำลังชื่นชมผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่เขาเพิ่งทำเสร็จ

ดวงตาของนาตาชาจ้องเขม็ง “ฟรานซิส เจ้าทำอะไรลงไป”

ฟรานซิสดูมีความสุขมากในตอนนี้ทั้งลูเซียน และนาตาชาไม่ได้คุกคามเขา ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างอวดดีว่า “ศรัทธาถูกรวบรวมตามคำอธิษฐานที่แตกต่างกัน และเข้าสู่ความเป็นพระเจ้า เจ้าน่าจะรู้จักมันในชื่อ ‘เลเวียธาน’ อยู่แล้ว”

“เจ้ารู้ว่า?” ลูเซียนไม่คิดว่าฟรานซิสจะจำเขาได้

ฟรานซิสหัวเราะ “ข้าไม่เห็นมัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีสิ่งนี้อยู่ ข้าเพิ่งเรียนรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่เจ้าบาดเจ็บหนัก”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ยังคงพูดต่อไป “อย่างไรก็ตามเนื่องจากความเป็นพระเจ้าเป็นการรวมกันของความเชื่อ และแสดงถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของวิญญาณที่แตกต่างกัน สิ่งมีชีวิตปกติจะทนได้อย่างไร? พระเจ้าเทียมเท็จแอล อะวันโด อาซิน และแอนทานาส กลายเป็นคนดื้อรั้นมากขึ้นสุดขีด และบ้าคลั่งเพราะอิทธิพลของความเป็นพระเจ้า ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องร้องไห้ ดังนั้นสำหรับพระเจ้าเทียมเท็จยิ่งพวกเขาอยู่ในระดับสูงมากขึ้น ศรัทธาที่พวกเขาได้รับก็มากขึ้น พวกเขาก็จะยิ่งบ้าคลั่ง และอันตรายมากขึ้น มีพระเจ้าเทียมเท็จไม่กี่คนที่สามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งตำนานได้”

“มันเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่หรือเปล่า” เมื่อเห็นว่าฟรานซิสสงบมากจนดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปว่า ‘เทพอสูรจอมเวท-ลิช’ กำลังกลับมา ลูเซียนจึงถามด้วยความสับสน

“โอ้ ไม่ใช่เรื่องนี้” เมื่อมองไปที่แอลด้วยความเคารพ ฟรานซิสจึงกล่าวว่า “ถ้าพระเจ้าเทียมเท็จมีหลักคำสอน นักบวช พิธีกรรม และคำอธิษฐานของพระเจ้า และผู้ศรัทธาของเขานมัสการพระองค์ในฐานะผู้รอบรู้ และมีอำนาจทุกอย่างเหมือนพระเจ้า เจ้าคิดว่าเขาจะเข้าใกล้ความเป็นพระเจ้ามากขึ้นอีกนิดไหม และยังใกล้ชิดพระเจ้าได้มากขึ้น?”

“เจ้าจะวิงวอนพระเจ้าได้อย่างไร? สิ่งที่เจ้ากำลังทำคือการดูหมิ่นศาสนาอย่างแท้จริง!” นาตาชาตำหนิเขามากกว่าโกรธ

ฟรานซิสระเบิดเสียงหัวเราะ “หมิ่นได้อย่างไร? ท่านคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความเป็นพระเจ้าของเขาเป็นเหมือนพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ”

แทนที่จะรอให้ลูเซียน และนาตาชาตอบกลับ เขาหันกลับไปหาแอล และพูดอย่างจริงใจว่า “ท่านเป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกคน ท่านคือจุดเริ่มต้นและจุดจบ ท่านคือปัจจุบันและตลอดไป”

บูม! ขั้นตอนสุดท้ายของพิธีกรรมดูเหมือนจะเสร็จสิ้นแล้ว แสงศักดิ์สิทธิ์ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งออกมาจากแอล กลืนกินการดำรงอยู่อย่างลึกลับของโลกแห่งวิญญาณภายในร่างกายของเขา เสียงสวดที่ไม่อาจคาดเดาได้บนท้องฟ้าได้ดังขึ้นอีกครั้ง กลุ่มแสงลวงตาขนาดมหึมาที่แบ่งออกเป็นเจ็ดชั้นปรากฏขึ้นอย่างแปลกประหลาด ตั้งแต่ชั้นแรกถึงชั้นที่ห้ามีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และเทวดาที่มีเครื่องดนตรีทุกชนิด มีความสุข และสันติ บนชั้นที่หกมี ‘ทูตสวรรค์เสราฟิม’ หกตน กำลังบูชาแสงที่ไม่สามารถอธิบายที่สาดส่องลงมาจากชั้นเจ็ด

“‘หุบเขาวิมาน’…” นาตาชาแทบไม่อยากจะเชื่อ

ในทางกลับกันลูเซียนรู้สึกตะลึง

ราวกับว่าถูกพลังมหาศาลดึงดูด ยิ่งแอลเชื่อมต่อมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มเหมือนกับแสงของชั้นที่เจ็ด ในท้ายที่สุดด้วยจิตสำนึกหลักของการมีอยู่ลึกลับของโลกแห่งวิญญาณ เขาบินไปสู่แสงสว่างที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเท้าของเขาก็ถูกทูตสวรรค์โอบกอด

ฟรานซิสประกาศอย่างลนลานว่า “พระเจ้าเทียมเท็จงี่เง่าเช่นนี้จะต้านทานการกลืนกินของพระเจ้าผู้ทรงอำนาจได้อย่างไร”

“สิ่งที่ข้าบูชา และเทศนาคือพระเจ้าเสมอมา จะดูหมิ่นได้อย่างไร”

“อาณาจักรของท่านมาแล้ว ความตั้งใจของท่านจะสำเร็จบนโลกที่เหมือนในสวรรค์” ฟรานซิสวาดไม้กางเขนบนหน้าอกอย่างศรัทธาแถบแนวตั้งสั้นลงและแถบแนวนอนยาวขึ้น!

ในทางกลับกันลูเซียนได้ยินเพียงเสียงเดียว “ยินดีต้อนรับสู่วิทยุเอฟเอ็ม XXX นี่คือ ‘พระเจ้าแห่งสัจธรรม’”