บทที่240

ผู้แปล : N

“ นี่ถือว่าเป็นโครงการที่ดีเลย แต่ถ้านายต้องการที่จะทำให้โครงการนี้สำเร็จละก็มันไม่ใช้เฉพาะปัญหาทางด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาการจัดการต่างๆในตัวโครงการ นอกจากนี้นายต้องทำการศึกษาข้อกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องด้วย” ลูชินพูดขึ้นมาหลังจากที่เขาฟังโครงการนี้จบแล้ว

การสร้างสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนมันไม่อาจหลีกเลี่ยงปัญหาบางอย่างได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการให้แน่ใจก่อนที่จะรับโครงการนี้มาอยู่ในใต้ชื่อของบริษัทลู่เทคโนโลยี

ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย ก่อนที่เขาจะพูดว่า “เรื่องที่นายพูดมาทางฉันเองก็เริ่มลงมือทำไว้แล้วเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร “

“แต่นายไม่ต้องกังวลไป เพราะตอนนี้ได้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศขึ้น ทำให้ตัวจังหวัดได้ประกาศรณรงค์เรื่องนี้อย่างมาก ดังนั้นฉันคิดว่าถ้าเรานำโครงการนี้ไปเสนอให้กับตัวจังหวัด พวกนั้นต้องอนุมิตอย่างแน่นอน “

“นายพูดมาก็มีเหตุผล “ลูชินพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย การที่เราสามารถตอบโจทย์ด้านนี้ได้ก็ไม่มีความจำเป็นที่ตัวจังหวัดจะไม่อนุมัติเรื่องนี้ แต่เขากับคิดข้อเสียงของโครงการนี้ได้อีกอย่าง นั้นคือความปลอดภัยของการขนส่งแบบนี้ เพราะอาจจะมีใครบางคนได้ทำลายเครื่องโดรนระหว่างทางก็เป็นไปได้ แต่เรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องในอนาคต

“โครงการนี้ดีมาก ฉันเชื่อว่าบริษัทลู่เทคโนโลยีจะต้องสนใจแน่นอน” ลูชินพูดออกมาด้วยความมันใจ

“ฮาฮาฮา ขอให้เป็นอย่างนายพูดละกัน” ไดเจียงรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่เขาเห็นว่ามีคนสนับสนุนโครงการนี้ของเขา

“นายจะไปเชื่อคำพูดของลูชินเนี่ยนะ! มันต้องเป็นคำพูดของชูอันต่างหากที่จะการันตีเรื่องนี้ได้!” เฉินจิงยังไม่หยุดการดูถูกลูชิน

เมื่อได้ยินประโยคนี้ซูเสียวอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา นั้นทำให้ทุกคนที่เห็นรอยยิ้มนี้ของเธอไม่เข้าใจว่าเธอยิ้มออกมาเพราะอะไร

ทางลูชินเองก็ยิ้มออกมาเช่นกันและพูดว่า: “ชูอันและฉันนับถือกันอย่างพี่น้อง ดังนั้นฉันเชื่อว่าเขาต้องไว้หน้าฉันบ้าง”

“ขอบคุณนายล่วงหน้าเลยนะ!” ไดเจียงพูดขอบคุณออกมา

ทุกคนที่ได้ยินแบบนี้ต่างก็สายหน้าออกมาพร้อมกันแต่ไม่ใช้กับเฉิงจิง เขาคนนั้นได้แสดงสีหน้าดูถูกออกมาอย่างไม่ปิดบัง

หลังจากที่ไดเจียงพูดประโยคนั้นจบก็เหมือนกับว่าเขาได้ยกภูเขาออกจากอก เขารีบคว้าขวดไวน์ที่อยู่ด้านข้างเข้ามาดื่มทันที ทางด้านของเฉิงจิงเองตอนนี้ก็ได้มีกลุ่มผู้หญิงจำนวนหนึ่งเข้ามาคุยด้วย ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากมันก็เป็นเรื่องที่พวกเธอพยายามจะจับเฉิงจิงเป็นสามีเท่านั้นเอง นั้นจึงทำให้ลูชินที่เห็นแบบนั้นแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาเล็กน้อย

หลังจากนั้นไดเจียงก็พูดว่า: “อา! ฉันต้องไม่ดื่มเยอะเกินไป ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สามารถขับรถไปส่งชูอันได้”

“นายไม่ต้องกังวล” เฉินจิงแสดงท่าทางเหมือนคนดีก่อนที่จะพูดว่า “ฉันสามารถไปส่งเขาแทนนายได้ ดังนั้นนายดื่มให้เต็มที่เลย”

ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็สังเกตได้ว่าเฉิงจินนั้นตั้งแต่เข้ามานั่ง เขายังดื่มไวน์ไม่หมดแก้วเลย นั้นแสดงว่าเขาเคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน

หลังจากนั้นไม่นาน ก็ถึงช่วงเวลางานเลิก แขกแต่ละคนก็เริ่มทยอยกลับกันแล้ว จะเห็นได้ว่าแต่ละคนนั้นต่างก็มีคนอื่นมารับ ไม่ได้ขับกลับคนเดียว

ชูอันเองก็เตรียมตัวจะกลับเช่นกัน ก่อนกลับนั้นเขาได้เจอกลุ่มเพื่อนๆที่รออยู่หน้าทางออก พวกนั้นได้เข้าไปทักทายเขาอย่างกระตือรือร้นมาก ลูชินและซูเสียวเองก็เดินตามกลุ่มนี้มาอย่างไม่มีทางเลือก โดยที่พวกนั้นตกลงกันว่าหลังจากจบงานนี้แล้วพวกเขาจะไปต่อกันอีกทีหนึ่ง และก็เป็นเฉิงจิงที่ขอเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ เขายังได้เตรียมรถรับส่งมารอพวกเขาถึงหน้าทางเข้าเลยที่เดียว

และเขายังไม่ลืมเข้าไปตีสนิทชูอัน เขาทำเหมือนว่าเขาและชูอันนั้นเป็นพี่น้องกันยังไงยังงั้น

“ชูอัน! นายมานั่งข้างฉันได้นะ!” เพื่อนร่วมห้องที่เป็นผู้หญิงสวยได้พูดขึ้นอย่างยินดีขณะที่เธอเห็นชูอัน: “พอดีฉันมีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำจากนายหน่อยนะ!”

“นายมานั่งข้างฉันดีกว่า!” ชวนชวน เพื่อนผู้หญิงอีกคนได้พูดขึ้นมา

“คงไม่ได้หรอกสาวๆ พอดีฉันมีเรื่องที่จะคุยกับชูอัน” ไดเจียงรีบเข้ามาแก้สถานการณ์ทันทีที่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีอากาศคุยกับชูอันอย่างแน่นอน

ชูอันที่ได้ยินไดเจียงพูดแบบนั้นก็รีบตามออกไปทันที เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ยังไงเช่นกัน ระหว่างทางนั้นเขาก็พบกับลูชินและซูเสียว

“ฉันคิดว่านายจะถูกพวกสาวๆนั้นกินไปแล้วเสียอีก?” ลูชินได้พูดขึ้นทันทีที่เห็นชูอันอยู่ด้านหน้าและพูดต่อว่า “ฉันคิดว่าถ้าฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกชูเหลียงจะเกิดอะไรขึ้นนะ?”

“งั้นฉันจะบอกเรื่องนายกับซู่จิง!”

“อ่า! งั้นพวกเรามาลืมเรื่องในวันนี้เป็นไง” ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้ว่าครั้งนี้พวกเขาเสมอกัน ดังนั้นมันจะเป็นการดีที่สุดที่พวกเขาจะลืมๆเรื่องในวันนี้ไป

“ชูอัน นายรีบมาตรงนี้เร็วเข้า!” เฉินจิงได้รีบตะโกนออกมาหลังจากที่เขาเลือกโต๊ะได้แล้ว

ชูอันแสดงสีหน้าเบื่อออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เขาจะกระซิบกับลูชินและซูเสียวว่า:“ ฉันจำได้ว่าตอนมหาลัยฉันไม่เคยสนิทกับเขาเลย ทำไมตอนนี้เขาถึงทำตัวเหมือนว่าฉันกับเขาสนิทกันมากขนาดนั้น?”

“ ฮาฮาฮา มีคนรักดีกว่ามีคนเกรียดนะ” ลูชินพูดออกมาด้วยท่าทีสบายๆ

หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าไปนั่งโต๊ะที่เฉิงจิงเลือก ก่อนที่เฉิงจิงจะเห็นว่าอาหารที่เขาสั่งมาได้ถูกกินไปเกินครึ่งแล้ว เขาก็พูดว่า: “ไดเจียง! ทำไมนายไม่ไปบอกพ่อครัวทำเมนูพิเศษออกมาละ ฉันเชื่อว่าชูอันจะต้องชอบอย่างแน่นอน”

“ได้” ได้เจียงได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนที่เขาจะลุกออกไป

“ชูอัน จริงไหมที่นายทำงานที่บริษัทลู่เทคโนโลยี… ” เฉินจิงที่เห็นว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่เหมาะแล้ว เขาก็ถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้ออกมา พวกเพื่อนๆที่ได้ยินแบบนี้ต่างก็ขยับเข้ามาใกล้วงสนทนานี้ทันที

เฉินจิงที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า: “ฉันรู้อยู่แล้วละว่านายต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในรุ่นของเรา แล้วฉันก็คิดไว้ไม่มีผิด!, ฉันต้องขอแสดงความยินดีกับนายด้วย!”

“ฉันก็คิดแบบเฉิงจิงเหมือนกัน! “ผู้หญิงที่นั่งข้างๆได้พูดต่อว่า ” ฉันเองก็แอบชอบนายมาตั้งแต่มหาลัยแล้ว แต่นายไม่ยอมมาจีบฉันเลย ดังนั้นนายต้องดื่มกับฉันเป็นการขอโทษ ”

ชูอันที่ได้ยินแบบนี้ก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา โชคดีที่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาได้คุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงมีวิธีรับมือกับมันได้

ในไม่ช้าไดเจียงก็กลับมาจากห้องครัว ก่อนที่เขาจะเริ่มคุยธุรกิจของเขากับชูอันทันที

“ บริษัทดราก้อนโลจิสติกส์? และโครการโดรนส่งของ” ชูอันฟังได้แบบนั้นก็พูดขึ้นว่า:“ นายรู้ใช้ไหมว่าฉันอยู่บริษัทเกม ฉันไม่ได้อยู่ในบริษัทขนส่ง ดังนั้นฉันจึงไม่มีความรู้เรื่องที่นายพูดมาเลย”

ไดเจียงพูดทันทีว่า:“ ฉันรู้! ฉันแค่ต้องการให้นายช่วยแนะนำคนที่มีความรู้ด้านนี้ก็พอ หรือไม่ก็ช่วยนำเรื่องโครงการของฉันไปเข้าประชุมก็ได้ “

ชูอันที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าหนักใจออกมา เขารู้ว่าโครงสร้างของบริษัทนั้นไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ ไม่ใช้ว่าเขาไม่อยากช่วยเพื่อนของเขาแต่เขาไม่สามารถทำได้จริงๆ

ถ้าเขาพูดโครงการนี้ในวาระการประชุม มันจะดูไม่เหมาะสมอย่างมาก แล้วทำไมไดเจียงถึงไม่ไปขอร้องลูชินแทนที่จะเป็นเขา ถ้าลูชินเป็นคนพูดเรื่องพวกนี้จะถูกจัดการอย่างแน่นอนก็

เขาได้ขมวดคิ้วออกมาก่อนที่จะพูดว่า : “นายสามารถส่งโครงการนี้ไปให้ทางบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ ฉันเชื่อว่าพวกเขาต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้นายอย่างแน่นอน”

“ฉันลองทำไปแล้ว แต่มันไร้ประโยชน์”ไดเจียงพูดอย่างเศร้าๆว่า “เจ้าหน้าที่ในด้านนี้ได้ตอบกลับมาว่าตอนนี้ทางบริษัทลู่เทคโนโลยีมีโครงการวิจัยจำนวนมากเกินไป พวกเขาไม่สามารถรับโครงการของฉันเพิ่มได้อีกแล้ว”

ชูอันที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดออกมาเรียบๆว่า  “การทำงานของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นฉันเองก็ไม่สามารถเข้าไปยุ้งได้ ดังนั้นถ้าทางนั้นตอบกลับมาแบบนั้น ฉันเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน”

การปฏิเสธของชูอันนั้นชัดเจนอย่างมาก ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาเช่นกันก่อนที่เขาจะพูดเศร้าๆว่า มี: “สรุปแล้วมันก็ไม่ได้สินะ!? งั้นพวกเรามาดื่มให้ลืมเรื่องนี้กันเถอะ”

ในเวลานี้ลูชินก็พูดขึ้นว่า : “นายไม่ต้องรีบตอบปฏิเสธไปแบบนั้น ฉันได้ฟังรายละเอียดโครงการของไดเจียงมาคราวๆแล้ว ฉันคิดว่าโครงการนี้ใช้ได้เลย ดังนั้นนายสามารถช่วยเขาเรื่องนี้ได้ “

ก่อนที่ลูชินจะพูดประโยคนี้ออกมา เขาได้ขอให้พนักงานที่เกี่ยวข้องในด้านนี้ทำการประเมินความเป็นไปได้มาแล้ว และพวกนั้นบอกว่าโครงการนี้ความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ

เหตุผลหลักๆก็คือ การขนส่งผ่านโดรนนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติในต่างประเทศ พวกเขาสามารถลอกเรียนการทำงานของพวกเขาและนำมันมาปรับใช้กับการทำงานของพวกเขาได้โดยตรง

ลูชินขอให้พวกนั้นหาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทดราก้อนโลจิสติกส์อีกด้วย หลังจากที่เขาอ่านข้อมูลที่ส่งมาก็เห็นว่าตัวโครงสร้างของบริษัทนี้ดีเป็นอย่างมาก และนี่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ถือว่าน่าสนใจอย่างมากสำหรับเขา และมันยังมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงอีกด้วย

หลังจากที่ลูชินพูดแบบนั้น ทุกคนต่างก็มองไปทางชูอัน พวกเขาอยากรู้ว่าชูอันจะมีปฏิกิริยายังไงหลังจากที่เขาพึ่งปฏิเสธไปอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้

เฉินจิงที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นว่า: “ลูชิน! ฉันคิดว่าเรื่องที่นายพูดมานั้นคือการวิเคราะห์สำหรับตัวบุคคลเท่านั้น มันไม่สามารถเทียบได้กับชูอัน ที่เขาปฏิเสธไดเจียงออกมาแบบนั้นเพราะเขาได้พิจารณาส่วนได้ส่วนเสียงทั้งหมดในมุมมองของตัวบริษัท ไม่ใช้ความคิดเห็นส่วนตัวแบบนาย ดังนั้นฉันคิดว่าสิ่งที่ชูอันพูดมาก่อนหน้านี้ถูกต้องแล้ว! . “

“ใช่! เราควรใช้วิธีคิดอย่างมืออาชีพ! ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวแบบนาย ”

เพื่อนที่อยู่ด้านข้างลูชินเองก็พูด “ฉันรู้ว่านายนั้นเป็นเพื่อนกับไดเจียงและชูอัน แต่การที่นายพูดแบบนี้นายไม่คิดเหรอว่ามันอาจจะทำลายมิตรภาพของพวกนายก็ได้ ดังนั้นนายควรตัดใจเถอะ “