บทที่239

ผู้แปล : N

เฉินจิงไม่ได้สนใจสายตาคนอื่นเลย เขาได้ลุกขึ้นเพื่อที่เขาต้องการเข้าไปใกล้ที่เทพธิดาซูเฉิงให้เร็วที่สุด เขาหวังว่าเขาจะได้รับโอกาสในการตามจีบเธอ

‘ถ้าฉันปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือออกไปก็ถือว่าฉันโง่แล้ว! ฉันจะต้องเอาเธอมาเป็นของฉันให้ได้!  ใครก็ไม่มีสิทธิแย่งเธอไปจากฉันได้ ไม่ว่าใครก็ตาม!’

คนอื่นๆที่เห็นแบบนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย เพราะพวกเขาเห็นว่าไม่มีแค่เฉิงจิงเท่านั้นที่พยายามเข้าไปหาเทพธิดาซูเสียว แต่ยังมีลูชินอีกคนที่เข้าไปหา

เมื่อลูชินได้เข้าไปในสายตาของซูเฉิง เธอก็แสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมา เมื่อกี้เธอยังพยายามคิดหาวิธีหลุดออกจากสถานการณ์นี้อยู่เลย แต่เมื่อเธอเห็นลูชินเธอก็รู้สึกว่าปัญหาที่เกิดแบบนี้ก็มีประโยชน์เหมือนกัน

“ โอ้! ตอนนี้ได้เกิดศึกชิงตัวเทพธิดาขึ้นแล้วครับ!” พิธีกรตะโกนต่อว่า ” ผมอยากรู้จริงๆว่าใครกันที่เทพธิดาซูเฉิงของเราจะเลือก?”

ผู้ชมมองไปที่ลูชินแม้ว่าพวกเขาจะไม่คิดว่าลูชินจะมีโอกาสมากนัก แต่พวกเขาก็ส่งเสียงเชียร์ออกไป ซูเสียวมองไปที่ลูชินตลอดเวลา เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกทีเธอก็เข้ามาอยู่อ้อมกอดของลูชินแล้ว

ลูชินที่เข้าไปกอดพี่สาวซูแล้วก็รู้สึกว่าตอนนี้เธอกำลังสั่นอยู่ เขาที่เห็นแบบนั้นก็คิดว่าควรพาเธอออกไปจากสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด

“โอ้! ฉันหวังให้ด้ายแดงของทั้งคู่อยู่ตลอดไป และฉันต้องขอบคุณพวกคุณทั้งสองที่มาร่วมงานแต่งครั้งนี้ของฉันด้วย” เจ้าสาวที่เห็นแบบนั้นก็พยายามพูดให้บรรยากาศอ่อนลง

อย่างไรก็ตามเมื่อเหมือนว่าซูเฉิงจะได้ตื่นขึ้นมาจากอาการตกใจแล้ว เธอจึงจูบลูชินในตอนที่เขายังไม่ได้ตั้งตัว ทางคนดูที่เห็นแบบนี้ต่างก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น

ซูเฉิงที่ทำแบบนั้นไปแล้วก็รีบก้มหน้าลงด้วยความอาย ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากที่เขาเดินออกไปจากด้านหน้าเวที ระหว่างที่เขาเดินผ่านชูอันนั้นเขาก็ได้ยินคำพูดจากเพื่อนของเขาว่า  “ฉันไม่คิดว่าประธานของเราจะเป็นเสือผู้หญิงแบบนี้ ฮาฮาฮา”

จะเห็นได้ว่าคนที่อิจฉาที่สุดคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเฉินจิง! เขาไม่เข้าใจว่าคนอย่างลูชินนั้นมีอะไรดีถ้าพูดถึงเรื่องรายได้แล้วเขาเป็นฝ่ายที่นำหน้าเห็นๆ แต่ทำไม่เทพธิดาถึงยังเลือกมันไม่เลือกเขา?

งานเลี้ยงกำลังเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เจ้าสาวและเจ้าบ่าวต่างก็เข้าไปเยี่ยมแขกทุกโต๊ะ ก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปยังโต๊ะเพื่อนๆของพวกเขา

ในเวลานี้เฉิงจิงกำลังคุยโม้เกี่ยวกับโครงการของเขา “โครงการอสังหาริมทรัพย์ของฉันที่เพิ่งเปิดไปตอนนี้อยู่ที่เมืองเถียง ฉันถือว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่นั้น ถ้าเกิดมีเพื่อนๆคนไหนต้องการบ้านซักหลังละก็สามารถบอกฉันได้ ฉันจะให้ราคาที่พิเศษเลย!”

” ใช่ลูชิน! ตอนนี้นายซื้อบ้านหรือยัง?” เขาเห็นซูเฉิงนั่งถัดจากลูชินแบบนั้น ก็จงใจถามคำถามแบบนี้ออกไป

ลูชินที่ไก้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการบอกว่าเขาซื้อแล้ว เฉินจิงที่เห็นแบบนั้นก็ถามอยากรู้อยากเห็นพูดว่า: “นายซื้อที่ไหนละ?”

“ที่บ้านเกิดของฉันนะ”

“ที่เจียงเป่ยนั้นนะเหรอ! มันเป็นแค่มณฑลขนาดเล็กๆและราคาที่ดินรวมถึงบ้านก็ถูกอย่างมาก! ฉันคิดว่ามันคงมีราคาแค่ไม่กี่พันหยวนเท่านั้น!” เฉินจิงยังพูดดูถูกต่อว่า: “เฮ้อ! ฉันคิดว่านายลงเงินไปเสียเปล่า นายควรไปซื้อบ้านที่เมืองที่เศรษฐกิจที่ดีกว่านี้ ไม่งั้นนายจะรู้สึกเสียใจเมื่อต้องขายมัน!”

“โอ้?” ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้แล้วว่าคนตรงหน้าของเขาตรงการนำเรื่องเดือดร้อนมาให้เขา แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรออกไป เขาต้องการรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นต่อไป

เฉิงจิงยังคงพูดต่อว่า : “ตอนนี้การที่เราไม่มีบ้านในเมืองใหญ่ๆ มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะหาแฟนซักคน นี้ถือว่าเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สุดแล้วของการนัดบอด!”

หลังจากที่เฉิงจิงพูดจบเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆที่อยู่ด้านข้างว่า “นายควรเอาเฉิงจิงเป็นตัวอย่างนะ ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้เขารวยไปขนาดไหนแล้ว?”

“ ใช่ๆ นายต้องเรียนรู้จากเฉิงจิงให้มากๆ”

เฉิงจินที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะหันไปทางซูเสียวแล้วถามว่า “คุณซู คุณเป็นผู้หญิงที่สวยดังนั้นคุณคงบอกได้ว่าสิ่งที่ผมพูดไปก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องถูกต้องใช้ไหม?”

ซูเฉิงที่ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดว่า: “ฉันคงไม่สามารถตอบได้ว่าความคิดของใครถูกของใครผิด เพราะแต่ละคนก็มีแนวคิดที่แตกต่างกัน”

” ฮาฮาฮา! ผมไม่คิดว่าเทพธิดาของเราจะมีความคิดที่ลึกซึ่งแบบนี้ ” เฉินจิงได้พูดออกมา

ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็คิดจะหยุดการสนมนานี้ เขาจึงหันไปรอบๆก่อนที่จะเห็นว่าไดเจียงกำลังดื่มกับเพื่อนๆ ” ตอนนี้เจ้าบ่าวของเราเมาแล้วหรือยัง? “

” ยังไม่เมา “ใบหน้าของไดเจียงที่ตอบกลับมานั้นมีสีแดงเล็กน้อยก่อนที่จะพูดต่อว่า:” เครื่องดื่มพวกนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์เล็กน้อยเท่านั้น ฉันดื่มพวกมันมาจนชินแล้ว ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลว่าวันนี้ฉันจะหนีไปเข้านอนก่อนอย่างแน่นอน “

“ดี! ฉันไม่อยากเป็นสาเหตุให้แฟนของนายนอนเหงาในคืนนี้! ไม่อย่างนั้นฉันคงรู้สึกผิดต่อหลานที่เกิดมาอย่างแน่นอน” ลูชินพูดจบทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมา

ไดเจียงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาและพูดว่า: “นายคงลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เราดื่มด้วยกัน เป็นใครที่ถูกลงโทษ”

“คนนั้นคือนายใช้ไหม?” ลูชินพูดออกมาแบบตลกๆ

ไดเจียงที่ดื่มไปซักพักก็เริ่มพูดถึงโครงการที่เขาต้องการออกมา: “ตอนนี้ฉันเปิดบริษัทที่จังหวัดบ้านเกิดของฉัน โดยที่บริษัทของฉันนั้นเป็นบริษัทเกี่ยวกับพวกการขนส่ง ฉันจึงคิดจะทำการเปิกโครงการโดรนส่งของในเขตตัวเมือง แต่มันก็ติดปัญหาที่ฉันไม่สามารถหุ้นส่วนที่เก่งในด้านนี้ได้เลย มันทำให้ฉันรู้สึกหนักใจอยู่ตลอดเวลา “

” แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันจะลองไปถามบริษัทลู่เทคโนโลยีที่ชูอันมันทำงานอยู่ ไม่แน่ว่าฉันสามารถแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ …. ฉันรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีที่ฉันใช้ความสัมพันธ์ของพวกเราแบบนี้ ดังนั้นฉันจึงอยากขอให้นายช่วยฉันพูดกับชูอันอีกแรง”

“ได้สิ ” ลูชินได้ตอบตกลงออกมาง่ายๆ

“ ขอบใจนายมากเลยนะ ถ้านายมีเรื่องอะไรในอนาคตก็สามารถมาหาฉันได้ตลอด”

เฉิงชิงที่ได้ยินกันสนมนาของทั้งคู่ก็พูดว่า: “ฉันคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าที่นายมาขอให้ฉันช่วย ไม่ใช้ให้คนที่มีฐานเงินเดือนแบบนั้นช่วย “

” นายช่วยหยุดพูดจาดูถูกเพื่อนของฉันได้ไหม? “ไดเจียงที่ได้ฟังคำพูดของเฉิงจิงที่พูดกับเพื่อนของเขาแบบนั้นก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ออกมา

ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบเบี่ยงเบนความสนใจของเพื่อนของเขาทันที “ฉันอยากรู้เรื่องโครงการโดรนส่งของของนายให้มากกว่านี้ได้ไหม?”

เพราะเขาคิดว่าโครงการนี้น่าสนใจอย่างมาก และเขาก็คิดว่าเขามีเทคโนโลยีสำหรับโดรนที่เหมาะสมนำมาใช้ในสถานการณ์แบบนี้อยู่พอดี

“ นายจะรู้ไปทำไม? ” เฉินจิงได้พูดจาดูถูกต่อว่า:“ ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ คนระดับนายไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ ถึงนายรู้ไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้อยู่ดี”

“ นายนั้นแหละที่หยุดพูดซักนาทีจะตายไหม? ” ไดเจียงได้เริ่มพูดเกี่ยวกับโครงการโดรนส่งของของเขาต่อว่า:“ ตัวโครงการนี้ก็ไม่ใช้อะไรที่ซับซ้อนหรอก มันก็ตรงตัวของมันนั้นแหละคือการส่งสินค้าผ่านอุปกรณ์โดรนในตัวเมืองที่มีการจราจรติดขัด”

“ และโครงการนี้ก็เหมาะสำหรับการจัดส่งสิ่งของขนาดเล็กไปถึงขนาดกลางเท่านั้น ฉันคิดว่าโครงการนี้จะสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน เพราะการจัดส่งแบบนี้จะมีราคาถูกกว่าการขนส่งแบบปกติ และระยะเวลาในการส่งของนั้นยังสั้นกว่าเดิมอีกด้วย “

” ตัวอย่างเช่น ในพื้นที่การจารจรติดขัดมากการที่ส่งของแบบปกติในระยะทางสองกิโลเมตร จะต้องใช้เวลาถึงสองชั่วโมง แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้เครื่องโดรนมันจะใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น ในเรื่องค่าใช้จ่ายถ้าเป็นการขนส่งแบบปกติจะต้องเสียค่าบริการตามระยะ แต่ถ้าขนส่งผ่านเครื่องโดรนเราจะมีราคาที่ตายตัวเพียงราคาเดียวและนั้นจะถูกกว่าอย่างแน่นอน “

” และใช้ได้ยินข่าวลือมาว่าประธานของชูอันนั้นมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องโดรนที่ลำหน้าอย่างมาก ฉันจึงอยากทำงานร่วมกับบริษัทลู่เทคโนโลยีไง “