Chapter 71 ศิษย์เอ๋ย นี่สำหรับเจ้า

ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything

ครืน!

 

หลังจากนั้นในทันที มังกรสีดำที่มีลำตัวยาวห้าสิบเมตรซึ่งมีเกล็ดหนาพอๆกับแทงค์น้ำก็ทะยานขึ้นไปบนฟ้า และถูกปกคลุมด้วยคลื่นขนาดยักษ์ มันลอยค้างอยู่บนฟ้า

 

“โยวหลัวฉุย นี่เจ้ายังกล้ามาสร้างปัญหาให้ข้าอีกหรอ? เจ้าลืมไปแล้วรึไงว่าครั้งที่แล้วจุดจบของพวกพ้องเจ้าเป็นยังไง?”

 

มังกรเจียหลองพูดภาษามนุษย์ด้วยความดูถูกในดวงตาขนาดยักษ์ที่เหมือนกับตะเกียงของมัน

 

โยวหลัวฉุยยิ้มในขณะที่เธอจ้องมังกรเจียหลองกลับไปอย่างเงียบๆด้วยความเกลียดชัง

 

ครู่ต่อมา เซี่ยวอู่โยวก็เริ่มตรงมาทางแม่น้ำอย่างช้าๆ ในตอนที่เขาเข้ามาใกล้ เขาก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มังกรดำ วันนี้ข้าจะมาเอาไข่มุกของเจ้า

 

ครืนน!

 

ในทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ ก็เกิดพายุฟ้าคะนองขึ้น และท้องฟ้าที่เคยสดใสก็เต็มไปด้วยเมฆหนาอย่างกระทันหัน

 

“ชิ ท่านอาจารย์มักจะดูยิ่งใหญ่ในตอนที่อยู่ข้างนอกเสมอเลยนะ”

 

เฉินเฉินอดถอนหายใจด้วยความชื่นชมไม่ได้ในขณะที่เขามองจากด้านข้าง เขาน่าจะยังต้องฝึกต่อไปอีกซักหนึ่งปีหรือนานกว่าเพื่อที่จะไปถึงขั้นนั้นได้

 

แน่นอนว่า ถ้าเซี่ยวอู่โยวรู้ถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ เขาคงจะโมโหจนแทบกระอักเลือดออกมาเลยก็ว่าได้

 

“เขาเคยเจอเจ้ามาก่อน เซี่ยวอู่โยว เจ้าคิดจริงๆหรอว่าข้าจะกลัวเจ้า?”

 

มังกรดำเย้นหยันในขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำพุ่งสูงขึ้นมาอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร และตามมาด้วยม่านน้ำที่ปกคลุมท้องฟ้า

 

“เจ้าหนู เข้ามาอยู่ใกล้ข้านี่ การต่อสู้ระหว่างสองเซียนที่อยู่จุดสูงสุดของแก่นทองคำมั่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ”

 

โยวหลัวฉุยเห็นเฉินเฉินกำลังมองด้วยความสนใจอย่างมาก และด้วยการกวักมือของเธอ เธอก็ดึงเฉินเฉินมาทางเขา

 

เฉินเฉินปรับสมดุลร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วแล้วพูดอย่างเคารพ “ขอบคุณครับภรรยาของท่านอาจารย์ ว่าแต่ท่านจะไม่ช่วยอาจารย์ของข้าหรอ?”

 

ร่างกายของโยวหลัวฉุยสั่นอย่างรุนแรงในตอนที่เธอได้ยินคำพูดของเฉินเฉิน จากนั้นเธอก็พึมพำออกมา “เจ้าเรียกข้าว่ายังไงนะ?”

 

“ภรรยาของท่านอาจารย์ครับ!” เฉินเฉินอุทานขึ้นมาด้วยหน้าตาใสซื่อ

 

โยวหลัวฉุยตัวแข็งทื่อไปหลายวินาทีก่อนที่เธอจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกระทันหัน

 

“เจ้าหนู เจ้าฉลาดกว่าอาจารย์ของเจ้ามากเลยนะ อาจารย์ของเจ้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากข้าหรอก ข้าฝึกฝนวิชาน้ำ ซึ่งถูกยับยั้งด้วยวิชาสายฟ้า ถ้าข้าฝืนเข้าไปแทรกแซง มันก็มีแต่จะถ่วงแข้งถ่วงขาอาจารย์เจ้าเท่านั้น”

 

เมื่อเห็นโยวหลัวฉุยยิ้มอย่างแจ่มใส เฉินเฉินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

โชคดีที่เขาไม่ได้ทำพลาดไปกับการประจบ…

 

“อะแฮ่ม ข้ามีสมบัติสวรรค์ที่ช่วยให้ใบหน้าสวยขึ้นได้ โปรดรับไว้ด้วยนะครับ แน่นอนว่าท่านยังดูสาวอยู่ เพราะฉะนั้นสมบัติสวรรค์ชิ้นนี้แค่เป็นส่วนเสริมที่ทำให้ดูงดงามยิ่งขึ้นเท่านั้น”

 

ในขณะที่พูด เฉินเฉินก็เอาสมบัติสวรรค์มากมายออกมาจากแหวนเก็บของของเขา ซึ่งทำให้โยวหลัวฉุยถึงกับอ้าปากค้าง

 

‘เซี่ยวอู่โยวเจ้าช่างเป็นคนที่งี่เง่าจริงๆ เขาไปเอาเด็กที่ฉลาดและมีไหวพริบแบบนี้มาได้ยังไงกันนะ?’

 

หลังจากที่ลังเลอยู่พักนึง โยวหลัวฉุยก็เลือกที่จะรับสมบัติสวรรค์ไป

 

เธอหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ ถึงยังไงมันก็เป็นธรรมชาติของผู้หญิง

 

อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถรับของขวัญของเฉินเฉินโดยที่ไม่ให้อะไรกลับไปได้ หลังจากที่เก็บสมบัติสวรรค์เข้าไปในแหวนเก็บของของเธอ เธอก็เอาหน้ากากสีดำออกมาชิ้นนึง

 

“หน้ากากชิ้นนี้คือสินค้าพิเศษของสำนักโยวฉุย มันสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเจ้าได้ตามที่ต้องการ ข้าคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์สำหรับเจ้า”

 

“ขอบคุณครับ ภรรยาของท่านอาจารย์!”

 

เฉินเฉินรู้สึกอารมณ์ดีหลังจากที่ได้รับหน้ากาก

 

เขาสามารถใช้ระบบเพื่อตามหาสมบัติสวรรค์ได้ แต่เข้าไม่สามารถตามหาไอเทมพวกนี้ได้ ดังนั้น การแลกเปลี่ยนนี้จึงเป็นประโยชน์สำหรับเขาจริงๆ

 

 

ในระหว่างการสนทนาของพวกเขา เซี่ยวอู่โยวกับมังกรดำก็เริ่มต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงแล้ว มีห่าฝนใหญ่และเมฆครึ้มกำลังหมุนวนอยู่ท่ามกลางฟ้าผ่า

 

มีผู้ฝึกตนระดับต่ำเข้ามาดูสถานการณ์เป็นครั้งคราว แต่หลังจากที่เห็นฉากการต่อสู้ พวกเขาทุกคนก็หันหลังกลับไปด้วยความกลัว

 

ด้วยสภาพเช่นนี้ การต่อสู้ได้ดำเนินไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว ทันใดนั้นเอง เสียงของมังกรดำคำรามก็ดังก้องไปทั่วผืนฟ้า

 

“เซี่ยวอู่โยว ถ้าเจ้าไม่ได้ฝึกวิถีสายฟ้า เจ้าก็คงจะไม่มีวันต่อกรกับข้าได้!”

 

หลังจากที่เสียงอันนุ่มลึกนี้ดังขึ้น มังกรดำก็พุ่งตรงเข้าไปในแม่น้ำและหายไป

 

เซี่ยวอู่โยวที่อยู่บนฟ้า ตามไปโดยไม่ลังเล

 

เมื่อเห็นฉากนี้ โยวหลัวฉุยก็อุทานด้วยความตกใจ “อู่โยว! แค่นี้ก็วุ่นวายพอแล้ว! แถมเจ้ามังกรก็ได้รับบาดเจ็บแล้วด้วย ทำไมเจ้ายังคิดจะไล่ตามมันต่ออีก!? ดินแดนของมังกรดำมันอยู่ใต้น้ำนะ!”

 

“วันนี้ข้าจะฆ่ามันซะ”

 

เสียงของเซี่ยวอู่โยวเต็มไปด้วยจิตสังหาร แต่เฉินเฉินที่อยู่ตรงแม่น้ำ อดที่จะกำหมดของเขาไม่ได้

 

‘ท่านอาจารย์มาที่นี่ในวันนี้ด้วยจุดประสงค์ที่จะทะลวงไปถึงขั้นก่อกำเนิดวิญญาณ การต่อสู้กับมังกรดำก็เป็นแค่การต่อสู้เสริมเท่านั้น อันที่จริง มันไม่มีความจำเป็นต้องฆ่ามังกรดำเลย’

 

การสร้างบรรยากาศการต่อสู้ที่รุนแรงก็เพียงพอแล้ว เมื่อเขาทะลวงไปถึงขั้นก่อกำเนิดวิญญาณ การเคลื่อนไหวแบบนี้คงถือว่าเป็นผลพวงของการต่อสู้ไปโดยธรรมชาติสำหรับผู้ฝึกตนที่อยู่ใกล้ๆ

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อาจารย์ของเขาหมายมั่นที่จะลงไปในแม่น้ำ เหตุผลของเขานั้นมันชัดเจนในตัวแล้ว

 

เขาแค่อยากชิงไข่มุกมังกรเพื่อตัวเขาเอง…

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อารมณ์ของเฉินเฉินก็ซับซ้อนขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

พูดตามตรง เขาเคารพเซี่ยวอู่โยวเป็นอย่างมากแต่เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเขา

 

แต่ตอนนี้เซี่ยวอู่โยวก็ยังเลือกที่จะเสี่ยงชีวิตตัวเองในระหว่างการทะลวงไปถึงขั้นก่อกำเนิดวิญญาณ ซึ่งทั้งหมดก็เพราะขั้นสร้างรากฐานของเขา และนี่ก็ทำให้เขารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก

 

 

ในตอนที่เซี่ยวอู่โยวลงไปในแม่น้ำ ทั้งแม่น้ำก็พุ่งทยานขึ้นไปบนฟ้าท่ามกลางเสียงคำรามของมังกร คลื่นน้ำไม่รู้จบได้กระจายไปทุกทิศทาง

 

อย่างไรก็ตาม คลื่นนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับเมืองที่อยู่ในระแวกเลยเนื่องจากตัวตนของโยวหลัวฉุย

 

ไม่เหมือนกับท่าทีที่สงบนิ่งและเจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อก่อนหน้านี้ของเธอ ดวงตาของโยวหลัวฉุยเต็มไปด้วยความกังวล หลายๆจุดตลอดการต่อสู้นั้น เธอถูกกระตุ้นให้อยากกระโดดลงไปในแม่น้ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เห็นสายฟ้าในแม่น้ำ เธอก็หยุดความตั้งใจของตัวเอง

 

ตูม!

 

ผนวกกับเสียงระเบิด เซี่ยวอู่โยวได้ถูกซัดกระเด็นออกมาจากน้ำ ท่ามกลางละอองน้ำ เฉินเฉินเห็นร่างกายของเซี่ยวอู่โยวถูกย้อมด้วยสีแดงลางๆ

 

ก่อนที่เขาจะมองเห็นอย่างชัดเจน เซี่ยวอู่โยวก็พยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอีก

 

เมื่อเห็นแบบนี้ เฉินเฉินก็หักห้ามใจตัวเองไม่ให้ตะโกนไปทางแม่น้ำไม่ได้ “ท่านอาจารย์ ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกครับ ข้าเองก็สามารถทะลวงขั้นสร้างรากฐานได้ด้วยความพยายามของตัวเอง!”

 

อย่างไรก็ตาม สายฟ้ายังคงสว่างวาบกลางแม่น้ำในขณะที่คลื่นพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า เซี่ยวอู่โยวไม่ได้แสดงแนวโน้มที่จะยอมแพ้เลยซักนิด

 

“อา ครั้งนี้ข้าติดหนี้เขาครั้งใหญ่แล้วจริงๆ”

 

เฉินเฉินพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าซับซ้อน

 

 

การต่อสู้ดำเนินต่อไปอีกหนึ่งชั่วโมง และในที่สุด ในช่วงเวลากลางวัน แม่น้ำก็สงบลงอีกครั้ง

 

ณ จุดนี้ ทั่วทั้งพื้นผิวของแม่น้ำถูกย้อมด้วยสีแดงอย่างสมบูรณ์ พร้อมกับมีเกล็ดมังกรบางส่วนลอยขึ้นมาจากผิวน้ำอย่างชัดเจน

 

ครู่ต่อมา ร่างของคนๆนึงที่ดูค่อนข้างโทรมก็โผล่ขึ้นจากแม่น้ำและกำลังเดินไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ

 

“ท่านอาจารย์… นี่ท่าน…” เฉินเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

 

โยวหลัวฉุยเองก็รีบเข้าไปหาเซี่ยวอู่โยว

 

ณ ตอนนี้ เสื้อผ้าของเซี่ยวอู่โยวหลุดลุ่ยและถูกย้อมด้วยสีแดงสด นอกจากนั้น แขนขวาของเซี่ยวอู่โยวยังหายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาสูญเสียแขนไปในระหว่างการต่อสู้

 

“อู่โยว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าห้ะ!?” โยวโหลวฉุยอุทานในขณะที่เธอมองเซี่ยวอู่โยว น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความปวดหัว

 

“ถ้าข้าไม่จัดการเจ้ามังกรปีศาจตัวนี้ ข้าจะสามารถทะลวงไปถึงขั้นก่อกำเนิดวิญญาณได้ยังไง?”

 

เซี่ยวอู่โยวไม่ได้หมายความตามที่เขาพูด เขารีบเดินซวนเซไปหาเฉินเฉินอย่างรวดเร็วในขณะที่รอยยิ้มซึ่งไม่สามารถบรรยายได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้าที่ซีดเผือดของเขา

 

จากนั้นเขาก็ใช้แขนที่เหลืออยู่แค่ข้างเดียววางไข่มุกสีดำขนาดเท่ากำปั้นเอาไว้ในมือของเฉินเฉิน

 

“ศิษย์เอ๋ย นี่สำหรับเจ้า ด้วยไข่มุกมังกร เจ้าน่าจะสามารถทะลวงไปถึงขั้นสร้างรากฐานได้”

 

“อาจารย์ แต่แขนของท่าน…”

 

“ไม่ต้องห่วงด้วยน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ มันจะได้รับการฟื้นฟูในเร็วๆนี้” เซี่ยวอู่โยวพูดในขณะที่เขานำน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ออกมาจากแหวนเก็บของของเขาแล้วค่อยๆดื่มเข้าไปอึกนึง

 

หลังจากที่มองเซี่ยวอู่โยวที่กำลังสั่น เฉินเฉินก็เหลือบมองไข่มุกมังกรในมือของเขา

 

ณ ตอนนี้ เฉินเฉินได้นับถือเขาเป็นอาจารย์อย่างแท้จริงแล้ว