หลังจากดื่มน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์เข้าไป พลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ก็ปะทุขึ้นจากแขนขวาของเซี่ยวอู่โยวและแขนใหม่ก็งอกออกมาในเวลาไม่นาน

 

เฉินเฉินรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นแบบนี้ น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์นั้นสมกับชื่อของมันในฐานะสมบัติสวรรค์จริงๆ ไม่เพียงแค่มันจะสามารถรักษาหัวใจที่ได้รับความเสียหายของหูเซียงเอ๋อได้ แต่มันยังทำให้อาจารย์ของเขางอกแขนที่หายไปกลับมาได้ด้วย

 

‘ถ้าฉันรู้มาก่อน ฉันคงจะให้ท่านอาจารย์มากกว่านี้อีกซักหน่อย’

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขารู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะให้เขาเพิ่ม ถึงยังไง เขาก็เคยพูดไปแล้วว่าเขามีแค่ปริมาณจำกัด

 

เขาทำได้แค่ชดเชยมันให้ในภายหลังด้วยวิธีอื่น

 

“น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ อู่โยว เจ้าไปเอาของดีแบบนี้มาจากไหน?”

 

โยวหลัวฉุยชะโงกมาดู ความกังวลส่วนใหญ่ได้หายไปจากน้ำเสียงของเธอแล้ว

 

“ข้าบังเอิญได้รับมันมาหน่ะ” เซี่ยวอู่โยวตอบด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ได้พูดถึงเฉินเฉิน

 

“เหอะ ในเมื่อตอนนี้เจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว ก็ใช้เวลาทะลวงลำดับขั้นซะ!”

 

โยวหลัวฉุยสามารถบอกได้ในชั่วพริบตาว่าเซี่ยวอู่โยวตอบแบบขอไปที แต่เธอก็ไม่ได้เก็บมาคิดจริงจังและแค่ส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา

 

เซี่ยวอู่โยวพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองเฉินเฉินแล้วให้คำแนะนำ “ศิษย์เอ๋ย ในตอนที่ข้าเอาชนะภัยพิบัติสายฟ้าได้หลังจากนี้ มันจะถึงเวลาที่ปราณวิญญาณสายฟ้าในสวรรค์และผืนดินจะหนาแน่นที่สุด เจ้าจะต้องสร้างรากฐานของเจ้าในตอนนั้น เข้าใจไหม?”

 

“เข้าใจแล้วครับ!” เฉินเฉินตอบอย่างจริงจังและกำไข่มุกมังกรแน่น

 

เมื่อได้ฟังคำตอบของเฉินเฉิน เซี่ยวอู่โยวก็แหงนหน้ามองทองฟ้าที่ห่างไกล ดวงตาของเขาดูจริงจังและเขาก็พึมพำออกมาอย่างต่อเนื่อง “ข้า ศิษย์รุ่นที่ 28 แห่งสำนักเทียนหยุน เซี่ยวอู่โยวนั้นไร้ซึ่งพรสวรรค์ แต่ตอนนี้ข้ากำลังจะทะลวงขั้นก่อกำเนินวิญญาณในวันนี้ ท่านบรรพบุรุษทั้งหลาย โปรดอวยพรให้ข้าด้วย!”

 

หลังจากที่พูดเช่นนั้น คลื่นพลังปราณที่ไม่สามารถเทียบเคียงได้ก็ปะทุขึ้นจากร่างกายของเซี่ยวอู่โยวและพลังที่มองไม่เห็นก็ผลักดันเฉินเฉินและโยวหลัวฉุยที่อยู่ในระยะ

 

หลังจากนั้นในทันที น้ำอมฤตทองคำที่ปกคลุมด้วยสายฟ้าก็ค่อยๆลอยออกมาจากร่างกายของเซี่ยวอู่โยวก่อนที่จะลอยค้างอยู่กลางอากาศ

 

ในทันทีที่น้ำอมฤตทองคำปรากฏขึ้น ท้องฟ้าก็ครึ้มขึ้นมาในทันที และเมฆก็ลอยมาบรรจบกันที่เหนือหัวของเซี่ยวอู่โยว

 

แม้กระทั่งเฉินเฉินที่อยู่ห่างออกไปก็ยังสัมผัสได้ว่ามีพลังที่ไม่สามารถอธิบายได้กำลังทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือนเหมือนกับว่ามันพร้อมที่จะจุติลงมาบนโลกทุกเมื่อ

 

ครืน!

 

ด้วยเสียงฟ้าร้อง สายฟ้าสีแดงเลือดก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าอย่างกระทันและผ่าลงมาที่แก่นทองคำของเซี่ยวอู่โยว

 

ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง และใบหน้าของเขาก็เริ่มซีดเล็กน้อย แต่ว่าความมั่นใจนั้นยังคงอยู่ในดวงตาของเขา

 

ดูเหมือนว่าสายฟ้านี้จะไปเปิดกล่องแพนโดร่าเข้าให้ และมีสายฟ้าผ่าตามมาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่ผ่าลงมานั้นมันจะหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันทั้งหมดประดังเข้าไปในน้ำอมฤตทองคำที่มาพร้อมกับสายฟ้า

 

ไม่นานนัก น้ำอมฤตทองคำก็ถูกปกคลุมด้วยรอยแตก

 

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ พลังปราณสายฟ้าระหว่างสวรรค์และโลกได้พุ่งถึงจุดสูงสุดเช่นเดียวกัน

 

โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมใจ เฉินเฉินก็กลืนไข่มุกมังกรที่มีขนาดพอๆกับหนึ่งกำปั้นเข้าไปพรวดเดียว

 

ในฐานะคนใจแข็งที่กล้ากระโดดลงหน้าผาโดยไม่มีสถานการณ์ฝึกตนนั้น การกลืนไข่มุกมังกรไม่ได้น่ากลัวอะไรสำหรับเขาเลย

 

เฉินเฉินสูดลมหายใจเข้าไปอย่างรุนแรง

 

ในทันทีที่ไข่มุกมังกรลงไปในท้องของเขา เฉินเฉินก็อดหายใจเข้าไปไม่ได้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าไข่มุกมังกรกำลังระเหยหลังจากที่เข้ามาในร่างกายของเขา

 

คลื่นพลังปราณที่ทั้งรุนแรงและไม่สามารถอธิบายได้กำลังปั่นป่วนไปทั่วร่างกายของเขา ความรู้สึกนี้…

 

มันเหมือนกับดื่มน้ำโซดาสิบลิตรเข้าไปพรวดเดียว ก๊าซทุกรูปแบบกำลังปั่นป่วนในท้อง แต่ว่าคนนอกคงจะไม่มีวันเข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง…

 

เขาสามารถทนผลกระทบนี้ได้เพราะเขามีร่างกายที่พิเศษ ถ้าเป็นเซียนระดับฝึกพลังปราณทั่วๆไป หรือแม้กระทั่งเซียนขั้นสร้างรากฐานที่พยายามจะทำเช่นนี้ พวกเขาก็อาจจะตายได้หลังจากที่กลืนไข่มุกมังกรเข้าไป

 

กรรร!

 

ครู่ต่อมา เฉินเฉินก็เงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วส่งเสียงคำรามของมังกรออกมา

 

พลังปราณที่รุนแรงซึ่งกำลังปั่นป่วนในร่างกายของเขานั้นได้ดึงน้ำวนทั้งสองของวิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนออกมาในที่สุด

 

แล้วพวกมันก็เริ่มผสานเข้าด้วยกัน

 

เฉินเฉินเข้าใจว่าเขากำลังเริ่มสร้างรากฐาน!

 

“เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้เนี่ย?” โยวหลัวฉุยถาม เธออ้าปากค้างกับภาพที่เห็น ตอนแรกเธอกำลังสนใจเซี่ยวอู่โยวอยู่ แต่ตอนนี้เธอหันมาตกใจกับความวุ่นวายที่เฉินเฉินก่อขึ้น

 

พูดตามตรง ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้สังเกตว่าระดับการฝึกตนของเฉินเฉินนั้นอยู่ขั้นไหน

 

อย่างไรก็ตาม เธอนึกขึ้นได้ว่าดูเหมือนเซี่ยวอู่โยวจะพูดคำว่าสร้างรากฐานออกมา

 

‘เด็กคนนี้กำลังทะลวงขั้นสร้างรากฐานหรอ?’ โยวหลัวฉุยรู้สึกสงสัยด้วยความไม่เชื่อ การทะลวงขั้นสร้างรากฐานมันทำให้เกิดความปั่นป่วนได้ขนาดนี้เลยหรอ? สมัยที่เธอทะลวงขั้นสร้างรากฐานเองก็ไม่ได้สร้างความปั่นป่วนมากขนาดนี้!

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะเข้าใจสถานการณ์ แสงจ้าก็เปล่งออกมาจากร่างกายของเฉินเฉินอย่างกระทันหันและตัวเขาก็ส่องสว่างในทันที ในขณะเดียวกันพลังปราณระหว่างสวรรค์และโลกก็เริ่มถาโถมเข้าใส่เขาเหมือนแม่น้ำนับร้อยสายกำลังไหลทะลักสู่ทะเล

 

แม้กระทั่งเมฆภัยพิบัติของเซี่ยวอู่โยวก็เริ่มเคลื่อนมาทางเฉินเฉินจากที่ไกลๆ เหมือนกับว่าพวกมันถูกเขาดึงดูด

 

 

ฟู่ว!

 

หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ เฉินเฉินก็ถอนหายใจออกมาและแสงในร่างกายของเขาก็หายไปในที่สุด ในขณะเดียวกันน้ำวนทั้งสองในร่างกายของเขาเองก็ผสานเป็นหนึ่งเดียว และแผ่พลังปราณที่รุนแรงกว่าเดิมหลายเท่าตัวออกมา

 

เมื่อความสงบกลับมาแล้ว เฉินเฉินก็เงยหน้ามองท้องฟ้า หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็ลอยขึ้นไป

 

หลังจากที่ก้าวเข้าสู่ขั้นสร้างรากฐาน เขาก็ได้รับความสามารถบินมา

 

ในช่วงขั้นฝึกพลังปราณนั้น ปริมาณพลังปราณทั้งหมดมีขนาดใหญ่ แต่ระดับการเชื่อมต่อกันไม่ได้ดีเท่ากับคนที่อยู่ในขั้นสร้างรากฐาน ดังนั้นก่อนที่จะมาถึงขั้นนี้คนจึงไม่สามารถบินได้

 

ตอนนี้เมื่อเขาได้ความสามารถบินมาแล้ว เขาก็จะสามารถใช้ระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิมหลายสิบเท่า!

 

“ท่านเจ้าของได้สร้างรากฐานของเต๋าอันยิ่งใหญ่ และระยะการตรวจจับได้เพิ่มขึ้นเป็น 30 เมตร! นอกจากนี้ท่านเจ้าของยังได้รับรางวัลเป็นโอกาสในการตรวจจับความโชคดี”

 

เมื่อได้ฟังการแจ้งเตือนจากระบบในใจของเขา เฉินเฉินก็รู้สึกมีความสุขเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ตามมาด้วยความสับสน

 

‘ตรวจจับความโชคดีนี่มันคืออะไรกัน?’

 

‘มันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนนะ!’

 

“เริ่มการตรวจจับความโชคดี!”

 

หลังจากการแจ้งเตือน เฉินเฉินก็รู้สึกว่ามีรายการผุดขึ้นมาในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว มันเร็วมากจนเขาเห็นรายละเอียดแค่บางส่วน

 

“ตรวจจับหาคนเพศตรงข้ามที่มีความเข้ากับรสนิยมของท่านเจ้าของมากที่สุด

 

“ตรวจจับชุดวิชาที่จิตใต้สำนึกของท่านเจ้าของชื่นชอบมากที่สุด

 

“ตรวจจับทหารศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ากันได้กับท่านเจ้าของมากที่สุด

 

“ตรวจจับลูกน้องที่รู้สึกยินดีและยอมรับท่านเจ้าของเมื่อได้เห็นท่าน”

 

 

ในขณะที่จ้องมองรายการที่ปรากฏขึ้นมา เฉินเฉินก็ถึงกับตกตะลึง

 

‘พวกนี้มันอะไรเนี่ย?’

 

ก่อนที่เขาจะทำความเข้าใจได้อย่างชัดเจน รายการก็หยุดปรากฎขึ้นในหัวของเขา

 

“ตรวจจับอาหารที่ท่านเจ้าของโปรดปราณ เริ่มการค้นหา!

 

“มีจิตวิญญาณหอยแมลงภู่อายุ 100,000 ปีอยู่ในมหาสมุทรไร้ก้นในระยะ 2,620,000 กิโลเมตรทางเหนือของท่านเจ้าของ หลังจากที่กินเนื้อของหอยแมลงภู่เข้าไป ท่านจะรู้สึกว่ามันเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก จบการตรวจจับความโชคดี!”

 

‘แค่เนี้ยอะนะ?’

 

เฉินเฉินถึงกับพูดไม่ออก เพราะเขาคิดไม่ถึงเลยว่าอาหารที่เขารู้สึกโปรดปราณในจิตใต้สำนักจะถูกค้นหา

 

‘แต่ว่านี่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย!’

 

‘ห่างออกไปหลายล้านกิโลเมตร! จิตวิญญาณหอยแมลงภู่อายุ 100,000 ปีเนี่ยนะ!’

 

‘ฉันจะได้กินมันชาติไหนกัน!? แล้วฉันจะสามารถเดินทางหลายล้านกิโลเมตรแค่เพื่อไปกินมันได้ด้วยหรอ?’

 

‘และต่อให้ฉันไปจริงๆ ฉันก็อาจจะเป็นฝ่ายที่ถูกกินแทนก็ได้!’

 

‘ฉันนี่ไร้ความสามารถซะจริง…’

 

เฉินเฉินถอนหายใจอยู่ลึกๆ มันคือเรื่องที่เศร้าที่สุดในโลก

 

‘แน่นอนว่าฉันรู้อาหารที่ฉันชอบอยู่แล้ว แต่ฉันอาจจะไม่มีวันได้กินมันในชีวิตนี้…’

 

แต่ก็โชคดีที่ระบบไม่ได้ตรวจจับผู้หญิงให้เขา ไม่อย่างนั้นคงทำให้เขารู้สึกแย่มากที่ได้รู้จักตัวตนของเธอแต่ไม่สามารถเห็นเธอได้…

 

หอยแมลงภู่คงจะไม่ขยับไปไหนมากนักในทะเล แต่มนุษย์คงจะเดินทางไปทั่ว แค่เพราะมันถูกตรวจจับไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถหามันเจอได้

 

ในขณะที่เฉินเฉินกำลังมีความรู้สึกที่ซับซ้อน แก่นทองคำของเซี่ยวอู่โยวก็แตกออกในที่สุดและคนตัวเล็กที่ดูเหมือนเซี่ยวอู่โยวจริงๆก็เคลื่อนตัวออกมา

 

คนตัวเล็กที่มาจากไหนก็ไม่รู้นี้มีสีหน้าที่เคร่งขรึม แต่เนื่องจากความจริงที่ว่าร่างกายของเขาเล็กมาก เขาจึงดูตลกมากกว่าน่าเกรงขาม

 

ในตอนที่เซี่ยวอู่โยวเห็นคนตัวเล็กนี้ รอยยิ้มจากความโล่งอกก็เบ่งบานขึ้นบนหน้าของเขาและเขาก็ทำความเคารพคนตัวเล็ก

 

คนตัวเล็กเองก็ทำความเคารพกลับ จากนั้นก็เคลื่อนตัวเข้าไปในร่างกายของเซี่ยวอู่โยวอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นเอง เซี่ยวอู่โยวก็ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นก่อกำเนิดวิญญาณอย่างเป็นทางการ

 

ใบหน้าของเฉินเฉินบูดบึ้งอย่างน่าเหลื่อเชื่อ ในฐานะคนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เขาจึงนึกถึงคำถามเดียวไม่หยุด

 

‘วิญญาณหอยแมลงภู่นี่มันมีรสชาติยังไงกันแน่นะ?’