ตอนที่ 488 มู่หยางติดคุก / ตอนที่ 489 อย่าโทษตัวเอง

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 488 มู่หยางติดคุก

 

 

กู้หลียวนนึกว่าเผยปิงปิงเข้าใจผิด รีบอธิบาย “ข้ากับจิ่วซือมีความสัมพันธ์กับฉันพี่น้อง”

 

 

“ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าสองคนรักกันอย่างหนุ่มสาว จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าเพียงแต่รู้สึกว่าจิ่วซือเอาใจใส่เจ้าเหมือนแม่เอาใจใส่ลูก”

 

 

กู้หลียวนหน้าบึ้ง “เจ้าพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร?”

 

 

เผยปิงปิงหัวเราะ “เจ้าเหมือนลูกชายของนาง”

 

 

กู้หลียวนตะลึง แล้วหัวเราะร่าทันทีเหมือนได้ยินเรื่องตลก “เจ้าพูดเหลวไหลอะไรอย่างนี้ ข้านึกว่าเจ้าเข้าใจข้ากับจิ่วซือผิดไป

 

 

เดิมทีเขาคิดว่าจะพยายามห่างเหินซูจิ่วซือบ้าง แต่เผยปิงปิงกลับบอกว่าจิ่วซือทำตัวเหมือนแม่ของเขา ไม่รู้ว่าสมองของปิงปิงคิดอะไรอยู่”

 

 

“ถ้าเป็นผู้หญิงอื่นอาจจะรักเจ้า แต่จิ่วซือไม่มีวันเป็นอย่างนี้เด็ดขาด เจ้าคิดดูฟู่เฉินหรงต้องใช้เวลานานแค่ไหนจึงทำให้จิ่วซือหวั่นไหว”

 

 

เผยปิงปิงหัวเราะร่าจ้องหน้ากู้หลียวน “เจ้าอย่าห่างเหินจิ่วซือเพราะเรื่องนี้ ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ข้าเพียงแต่รู้สึกว่าจิ่วซือเอาใจใส่เจ้าเหมือนผู้อาวุโส”

 

 

“นางยังไม่ได้แต่งงานอายุน้อยกว่าข้าตั้งเจ็ดปี ว่านางอย่างนี้ไม่สมควร จิ่วซือไม่ใช่คนแก่อย่างนั้น”

 

 

“เอาละ เอาละ ข้าไม่พูดแล้ว”

 

 

เผยปิงปิงเองไม่พูดเรื่องนี้อีก เกี่ยวกับความรู้สึกดังกล่าว นางเองก็ประหลาดใจ

 

 

ทั้งๆ ที่ซูจิ่วซือเพิ่งอายุสิบเจ็ดปี น้อยกว่านาง ทำไมจึงทำให้นางรู้สึกอย่างนั้น ซูจิ่วซือมีความหนักแน่นที่เกินวัยจริงๆ คงเป็นเพราะผ่านอุปสรรคในชีวิตมามาก

 

 

แต่การที่ซูจิ่วซือเอาใจใส่กู้หลียวนทำให้นางไม่เข้าใจมาตลอด ได้ยินว่าเมื่อก่อนซูจิ่วซือกับกู้หลียวนไม่เคยไปมาหาสู่กัน จู่ๆ ซูจิ่วซือก็เอาใจใส่กู้หลียวนอย่างนี้ นางรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องของความรักแบบหนุ่มสาว

 

 

ซูจิ่วซือกลับไปยังห้องโถงเรือนหวนคะนึง มู่หย่งรอนางอยู่ที่นั่น ซูจิ่วซือรีบเร่ง เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว “พี่ใหญ่รีบร้อนอย่างนี้ เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

 

 

มู่หยู่สีหน้าเคร่งเครียด พยักหน้า น้องรองเกิดเรื่อง”

 

 

ซูจิ่วซือชะงัก เรื่องที่นางห่วงเกิดขึ้นแล้ว นางนั่งบนเก้าอี้ข้างมู่หย่ง ถามอย่างสงบ “พี่รองเป็นอะไรไป?”

 

 

“วันนี้น้องรองไปดื่มเหล้าที่ร้านฉางถิงจวี ไม่รู้ทำไมจึงทะเลาะกับเฟิงหยวนอย่างรุนแรง ท่ามกลางสายตาผู้คน

 

 

ต่อมากู้จื่อหยวนดึงเฟิงหยวนออกไป น้องรองนั่งดื่มเหล้าที่ห้องพิเศษตามลำพัง เฟิงหยวนกับพวกที่กินเหล้าอยู่เดิมหายไปไหนไม่รู้ แต่มีคนพบศพในห้องพิเศษที่น้องรองเคยนั่ง”

 

 

มู่หย่งสีหน้าเครียดขณะเล่าเหตุการณ์ให้ซูจิ่วซือฟัง เขาเชื่อว่ามู่หยางถูกใส่ร้ายแน่นอน เขารู้นิสัยของมู่หยางดี มู่หยางไม่มีวันฆ่าคนในสภาพอย่างนี้แน่

 

 

ซูจิ่วซือสีหน้าเครียดเช่นกัน ผู้ตายเป็นคนตระกูลเฟิงเสียด้วย การใส่ร้ายมู่หยาง จุดหมายชัดเจนอยู่แล้ว

 

 

นั่นคือการสร้างความขัดแย้งระหว่างตระกูลเฟิงกับตระกูลมู่ เรื่องนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นผลงานของจวนซิ่นอ๋อง

 

 

เฟิงหยวนเป็นลูกชายคนเล็กของเฟิงเชียน และเป็นน้องชายแท้ๆ ของเฟิงชิงสุ่ย เป็นคนไร้ความสามารถที่สุดในบรรดาลูกชายของตระกูลเฟิง แม้เกิดในตระกูลใหญ่ แต่ไม่เข้าใจตำราพิชัยสงคราม มีความสามารถเล็กๆ น้อยๆ ชอบกินดื่มเที่ยวเล่น เป็นคุณชายเสเพลอย่างแท้จริง

 

 

ข่าวการตายของเขาไม่มีวันผ่านไปอย่างเงียบๆ ถ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่ามู่หยางไม่มีความผิด มู่หยางอาจรับประหาร

 

 

ครั้งนี้จวนซิ่นอ๋องลงมืออย่างโหดเ**้ยม เริ่มจากวางเพลิงร้านเหล้าเทียนหยา วันนี้ยังใส่ร้ายมู่หยาง ถึงอย่างไร นางก็ต้องหาทางช่วยมู่หยาง กับมู่หยาง นางรู้สึกผิดอยู่บ้าง มู่หยางดีต่อนางมากๆ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 489 อย่าโทษตัวเอง

 

 

เรื่องที่นางคาดไม่ถึงมากที่สุดคือมีกู้จื่อหยวนเข้าร่วมเหตุการณ์ครั้งนี้ แสดงว่าเขาร่วมมือกับจวนซิ่นอ๋องอย่างเปิดเผย

 

 

“น่าแค้นใจกู้จื่อหยวนจริงๆ เขาเคยเป็นน้องขององค์รัชทายาท แต่กลับไม่คำนึงถึงความเป็นพี่น้อง ยืนยันว่าเห็นน้องรองฆ่าเฟิงหยวน เขาเป็นคนแรกที่เข้าไปในห้องพิเศษของน้องรอง แล้วเรียกคนอื่นมา”

 

 

มู่หย่งร้อนใจ เรื่องนี้เป็นผลร้ายต่อมู่หยางมาก มู่หยางกับเฟิงหยวนทะเลาะกันอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาเฟิงหยวนตายในห้องพิเศษของมู่หยาง และมีกู้จื่อหยวนเป็นพยาน มู่หยางไม่อาจปฏิเสธได้ คดีนี้แทบจะตัดสินประหารได้เลย

 

 

พวกเขาทำอย่างนี้เพื่อให้มู่หยางตาย

 

 

ฟู่เฉินหรงรักซูจิ่วซือเป็นความลับที่เปิดเผย ตระกูลเฟิงเดิมทีก็มีความไม่พอใจตระกูลมู่อยู่แล้ว พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสองตระกูลก็ยิ่งร้าวลึก

 

 

จวนซิ่นอ๋องเดินหมากตานี้ได้ดีมาก พวกเขาไม่มีทางตอบโต้ได้เลย

 

 

“พี่ใหญ่อย่าร้อนใจ ต้องมีหนทางจนได้ พี่ใหญ่ไปเยี่ยมพี่รองหรือยัง?”

 

 

“กรมอาญาอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า ตระกูลเฟิงเกรงว่าพวกข้าจะช่วยพวกพ้อง จึงไม่ได้ส่งน้องรองมาที่กรมอาญา แต่ส่งไปให้เจ้าเมือง ที่นั่นมีคนตระกูลเฟิง เราไม่สามารถไปเยี่ยมน้องรองได้”

 

 

พอได้ยินอย่างนี้ ซูจิ่วซือก็ยิ่งเป็นห่วงมู่หยาง ถ้าอยู่ที่กรมอาญายังประกันได้ว่ามู่หยางจะไม่ถูกทรมาน เวลานี้เขาตกอยู่ในกำมือของตระกูลเฟิง ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะทรมานมู่หยางอย่างไรบ้าง

 

 

เรื่องนี้ซุ่นตี้คงไม่ยุ่งแน่ พระองค์คงยอมสละมู่หยางเพื่อความพอใจของตระกูลเฟิง เพราะตระกูลเฟิงสำคัญกว่ามู่หยางมาก อีกทั้งหลักฐานทุกอย่างระบุได้ว่าเป็นการกระทำของมู่หยาง จึงเป็นเรื่องที่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ

 

 

“ข้าจะไปปรึกษาเรื่องนี้กับองค์รัชทายาท อยากไปเยี่ยมน้องรองสักครั้ง”

 

 

มู่หย่งพยักหน้า เขามาหาซูจิ่วซือก็เพื่อให้ซูจิ่วซือไปหาฟู่เฉินหรง เวลานี้ไม่มีหนทางอื่น ตั้งแต่วันแรกที่รับซูจิ่วซือเข้าจวน ในสายตาของคนทั่วไป ตระกูลมู่ยืนอยู่ข้างเดียวกับฟู่เฉินหรงแล้ว เวลานี้มีแต่ฟู่เฉินหรงเท่านั้นที่จะช่วยมู่หยางได้

 

 

“ซือซือ เรื่องนี้รบกวนเจ้า ต้องให้องค์รัชทายาทหาทางให้ได้”

 

 

“พี่ใหญ่วางใจ” ซูจิ่วซือพยักหน้าอย่างหนักแน่น น้ำเสียงมีความรู้สึกผิด “ขอโทษ พี่ใหญ่ ข้าทำให้พวกพี่เดือดร้อน”

 

 

“ครอบครัวเดียวกันอย่าพูดอย่างนี้ ในเมื่อตระกูลมู่เข้าสู่สนามรบแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวให้ดี เจ้าไม่ต้องโทษตัวเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ท่านแม่สุขภาพไม่ดี ต้องปกปิดไว้ก่อน ไม่งั้นข้ากลัวว่าท่านแม่จะรับแรงกดดันไม่ไหว”

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า เดิมทีนางก็ไม่คิดจะบอกฮูหยินมู่ ฮูหยินมู่สุขภาพอ่อนแอ ถ้ารู้ว่ามู่หยางเกิดเรื่อง คงจะร้อนใจจนล้มป่วย

 

 

ขณะที่ซูจิ่วซือเตรียมตัวจะไปวังตะวันออก ฟู่เฉินหรงก็มาที่จวนตระกูลมู่แล้ว เขารอซูจิ่วซืออยู่ในรถหน้าประตูจวนตระกูลมู่

 

 

พอเห็นซูจิ่วซือออกมา ฟู่เฉินหรงก็ยื่นมือให้ซูจิ่วซือ พานางขึ้นรถม้า “ข้าได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เราไปเยี่ยมมู่หยางก่อนเถอะ”

 

 

“คนสำคัญในเรื่องนี้ก็คือกู้จื่อหยวน ถ้าเขาไม่เปลี่ยนคำให้การ คดีพี่รองคงไม่พลิกแน่”

 

 

เวลานี้กู้จื่อหยวนเป็นพยาน เขายืนยันว่าเห็นมู่หยางฆ่าคน คำให้การของเขาหนักแน่นมาก ถ้าจะช่วยมู่หยาง ก็ต้องจัดการเขาก่อน

 

 

“เจ้าไม่ต้องไป ข้าไปหาเขาเอง”

 

 

ฟู่เฉินหรงไม่วางใจให้ซูจิ่วซือไปหากู้จื่อหยวน กลัวว่ากู้จื่อหยวนจะทำตั้งข้อเสนอที่เกินเลย

 

 

นึกถึงวัยเด็ก ฟู่เฉินหรงรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

 

 

ถ้าเป็นเมื่อหลายเดือนก่อน เขาไม่คิดไม่ฝันว่ากู้จื่อหยวนจะเป็นศัตรูกับเขา

 

 

ตอนอยู่แคว้นเว่ย เขาไม่เคยคิดจะแย่งตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลกู้จากกู้จื่อหยวน แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อตระกูลกู้นั้นซับซ้อน ทั้งสำนึกในบุญคุณทั้งเคียดแค้น