ตอนที่ 363 เพียงแค่กล้าที่จะทำ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ด้วยรู้สึกขำคำพูดเฉียวเหลียง ถังซีเอื้อมมือไปตบไหล่เฉียวเหลียงเบาๆ แล้วก้มหน้าก้มตาออกแบบบัตรเชิญต่อไป พร้อมกับกล่าวว่า “คุณพูดอะไรอย่างนั้น ถึงฉันจะได้พาดหัวข่าวสองครั้ง และเป็นที่รู้จักอยู่บ้างในเมือง A แต่ความสนใจในตัวฉันยังมีน้อยมาก มีคนไม่มากนักที่รู้จักฉัน ฉันจะเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของบริษัทฉันได้ยังไง”

 

 

“ผมไม่ได้หมายถึงเซียวโหรว” ถังซีเพ่งมองเฉียวเหลียงอย่างงุนงง เมื่อเห็นถังซีมองมาด้วยความสงสัยเขาก็เลิกคิ้วกล่าวว่า “ผมหมายถึงให้ถังซีเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ คุณก็รู้ ถังซีเป็นคนในวงการแฟชั่น”

 

 

ถังซีชะงัก พูดไม่ออก เธอจ้องมองเฉียวเหลียงด้วยดวงตาเบิกกว้างสักพัก กว่าจะพูดออกมาได้ เธอชี้ที่ตัวเอง ถามว่า “ถังซีเหรอ”

 

 

“ใช่” เฉียวเหลียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณก็รู้นี่ ถังซีมีเพื่อนในวงการแฟชั่นมากมายแค่ไหน ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของบริษัทแฟชั่นชื่อดังเรียงแถวกันออกแบบเสื้อผ้าให้เธอ ดีไซเนอร์ชื่อดังหลายคนที่แม้แต่คนดังระดับแนวหน้ายังพยายามผูกมิตรด้วย ก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอ เธอเป็นสัญลักษณ์ทางแฟชั่น เสื้อผ้าชุดไหนที่เธอสวมใส่จะกลายเป็นที่นิยม หากถังซีได้เป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของเดอะควีน ผู้คนก็จะรีบหาซื้อสินค้าแบรนด์เดอะควีนทันที!”

 

 

ถังซีหายใจเข้าลึกๆ พูดกันตามตรงเธอคิดว่าสิ่งที่ เฉียวเหลียงพูดนั้นสมเหตุสมผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเธอทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาพลักษณ์ เธอก็จะไม่ต้องจ่ายค่าจ้างตัวแทนภาพลักษณ์ และได้รับผลประโยชน์มากมายจากตัวตนของถังซี แล้วยังเป็นช่องทางเชื่อมโยงไปสู่ตัวตนของถังซีอีกด้วย นอกจากนี้ถังซียังสามารถแนะนำเดอะควีนให้กับนิตยสารชั้นนำของโลกได้อีก ทันทีที่เดอะควีนได้เปิดเผยสู่ระดับสากล เมื่อนั้น…

 

 

“และผมติดต่อนางแบบชื่อดังไว้หลายคน พวกเธอตกลงจะมาเดินแบบให้โชว์ของเดอะควีน รวมถึงนางแบบจีนที่มาแรงที่สุด เหวินเจี๋ย นางแบบที่ดังที่สุดในเอเชีย จะก้าวออกมาเป็นคนแรกในโชว์ ซึ่งจะ…”

 

 

ถังซีต้องยอมรับว่าเธอรู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้นเพราะเฉียวเหลียง เขาแก้ปัญหาใหญ่ให้เธอได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่เธอยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมาก เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ใช้ในแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ลงทุนด้วยเงินกู้จากธนาคาร ทั้งเฉียวเหลียงและครอบครัวเธอเสนอการสนับสนุนทางการเงินให้ แต่เธอต้องการพึ่งพาตัวเอง…

 

 

คำแนะนำจากเฉียวเหลียงจะทำให้สถานการณ์แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง หากแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ เธอจะสามารถจ่ายคืนเงินกู้และไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกเลย

 

 

ถังซีครุ่นคิด จากนั้นก็สูดลมหายใจ มองหน้าเฉียวเหลียงและกล่าวว่า “ถ้าฉันเป็นตัวแทนภาพลักษณ์เอง ฉันก็ต้องขึ้นไปเดินในแต่ละโชว์ของเดอะควีนในงานแฟชั่นวีกด้วย ฉันจะเข้าร่วมโชว์ของเดอะควีนในวันอังคารหน้า ถึงจะไม่มีคนดังมากมายในโชว์ของวันนั้น แต่ก็อาจดึงดูดสายตาผู้ชมได้มาก ด้วยการปรากฏตัวของฉันกับพี่หว่านอี

 

 

“แต่พี่หว่านอีเป็นตัวแทนของชาแนล จะเป็นการละเมิดสัญญากับชาแนลหรือเปล่าถ้าเธอมาร่วมเดินในรายการโชว์ของฉัน” ถังซีกล่าวด้วยความเป็นห่วง แม้จะหวังว่าเฮ่อหว่านอีจะมาช่วยเธอได้ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้เฮ่อหว่านอีเดือดร้อน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชาแนลเป็นแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ จะเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับพี่หว่านอี ถ้าชาแนลฟ้องเธอ

 

 

“สัญญาของเธอกับชาแนลหมดลงแล้วเมื่อสองวันก่อน แต่ผมได้ยินมาว่าชาแนลส่งคำขอต่ออายุสัญญาไปให้เฮ่อหว่านอี” เฉียวเหลียงหยิบบัตรเครดิตออกมาส่งให้ถังซี “พรุ่งนี้…”

 

 

“ฉันไม่ต้องใช้เงินของคุณ ฉันอยู่ปารีสแล้ว เพราะฉะนั้นฉันไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อเสื้อผ้าใดๆ ทั้งสิ้น” ถังซีกล่าว จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เดินไปข้างๆ ก่อนจะกดหมายเลขโทรออก หลังจากปลายทางรับสายเธอก็พูดเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “เฮ้ รอย ตอนนี้ฉันอยู่ปารีสนะ ฉันมาถึงเมื่อวันก่อน เมื่อวานฉันต้องไปหลายที่จึงไม่ได้ติดต่อคุณ ฉันจะไปดูโชว์หลายรายการ ช่วยเตรียมเสื้อผ้าให้หน่อยได้ไหม”

 

 

“อ๋อ เหรอ ได้สิ เยี่ยมมาก ผมอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ในปารีสแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน บาย” ถังซีวางสายและหันมาสบตาเฉียวเหลียง กล่าวว่า “ถังซีไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรในปารีส” แล้วกล่าวต่อไป “ถึงฉันจะไม่รังเกียจที่จะใช้เงินคุณ แต่ฉันไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด คิดว่าฉันคบกับคุณเพราะเงินของคุณ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันจึงควรกู้เงินจากธนาคารมากกว่าขอความช่วยเหลือจากคุณ”

 

 

เธอต้องการพิสูจน์ตัวเอง และไม่ต้องการให้เพื่อนๆ เฉียวเหลียงดูถูกเธอ

 

 

เฉียวเหลียงมองหน้าถังซีและบอกว่า “ผมจะไปมาร์แซย์โพรว็องซ์กับลู่หลีพรุ่งนี้ ผมอาจใช้เวลาไปกลับสามวัน เพราะฉะนั้นอาหกจะอยู่กับคุณก่อนที่ผมจะกลับมา ตกลงไหม”

 

 

ถังซีขมวดคิ้วถามว่า “คุณไปที่นั่นทำไมล่ะ” เธอมองหน้าเฉียวเหลียง “คุณมาที่นี่เพื่อมาเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงต้องไปมาร์แซย์ คุณต้องไปที่นั่นด้วยเหรอ”

 

 

เฉียวเหลียงพอใจที่เห็นถังซีพยายามจะให้เขาอยู่กับเธอ เขาลูบผมถังซีด้วยรอยยิ้มและอธิบายว่า “ไม่มีอะไรร้ายแรง เราจะไปเยี่ยมโรงงานของเราที่มีอุบัติเหตุบางอย่างเกิดขึ้น ในเมื่อเราอยู่ในฝรั่งเศสแล้วเราก็ควรไปที่นั่น ไม่ต้องห่วงผมนะ”

 

 

ถังซีหายใจเข้าลึกๆ จ้องหน้าเฉียวเหลียงแล้วพยักหน้า มองหน้าเขาอยู่นิ่งๆ ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “อย่าลืมส่งข้อความมาบอกฉันด้วยนะคะว่าคุณพักที่ไหน ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นห่วงคุณ”

 

 

เฉียวเหลียงส่งเสียงตอบรับในลำคอ ลูบผมเธออีกครั้ง “ไปนอน”

 

 

“เดี๋ยวค่ะ” ถังซีจับมือเขาไว้ “ไปอาบน้ำ ฉันต้องออกแบบบัตรเชิญให้เสร็จก่อน ฉันจะอยู่กับคุณคืนนี้ คุณจะได้พักผ่อนเต็มที่ ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นห่วงมากตอนที่คุณไปมาร์แซย์พรุ่งนี้”

 

 

เฉียวเหลียงหยุดยิ้ม กล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก”

 

 

“ไม่เป็นไรได้ไง! คุณจะไม่มีสติถ้านอนไม่พอ คุณจะไปทำงานที่มาร์แซย์ ไม่ได้ไปเที่ยว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณต้องไปเจออันตราย ถ้าคุณนอนหลับเพียงพออย่างน้อยคุณก็จะรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น และจะไม่ได้รับบาดเจ็บได้ง่ายๆ” ถังซีกล่าวอย่างจริงจังว่า “ฉันมีงานยุ่งเกินกว่าจะไปกับคุณได้ คุณจะเชื่อคำแนะนำของฉัน ไม่ทำให้ฉันเป็นห่วงกังวลถึงคุณไม่ได้เหรอ”

 

 

หลังจากได้รู้จักอีกอาชีพหนึ่งของเฉียวเหลียง เธอก็เป็นห่วงทุกครั้งที่เขาไปไหนมาไหนคนเดียว เธอกลัวจะได้ยินข่าวร้ายเกี่ยวกับเฉียวเหลียงและวิตกกังวลถึงเขา

 

 

เฉียวเหลียงรู้สึกอบอุ่น แต่ก็รู้สึกผิดเมื่อเห็นถังซีเป็นห่วงเขามาก เขาซ่อนความรู้สึกไว้และกล่าวว่า “ตกลง ผมจะไปอาบน้ำก่อนนะ อย่าทำงานดึกเกินไปล่ะ”