AST
  
  ”ให้โอกาสข้าชั่งไร้ยางอายเสียจริงๆ น้ำหน้าอย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรได้… ไหนลองแสดงให้ข้าดูสิว่า เจ้ามีความสามารถแบบไหนซ่อนอยู่” ชายชราพูดด้วยความรังเกียจ
  เดิมทีที่นิกายจันทรานิรันกาลสามารถรักษาอำนาจเอาไว้ได้เป็นเพราะตระกูลหงได้จับมือกับตระกูลหยิน ร่วมกันต่อสู้ แต่ในเวลานี้อำนาจของตระกูลหงลดลงไปอย่างมาก มันจึงทำให้ความแข็งแกร่งของนิกายจันทรานิรันกาลอ่อนแอลงไปเช่นเดียวกัน
  ในเวลานี้หยินชาจะพุ่งออกไปจัดการกับอีกฝ่ายแต่ถูกชิงสุ่ยเรียกเอาไว้มันให้เขาต้องหยุดลงและสงบใจในตอนนี้
  หยิชารู้ดีว่าเขาอ่อนแอกว่าชายชราผู้นี้แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถมาให้ใครดูถูกพ่อของเขาได้ ดังนั้นเขาตัดสินใจแล้วแม้ว่าจะต้องตาย เขาก็ต้องจัดการชายชราผู้นี้ลง
  นิกายจันทรานิรันกาลเป็นนิกายระดับล่างก็เทียบได้กับหุบดาบอมตะเท่านั้นต่างกับนิกายกระบี่อสูรอมตะ ที่จัดว่าเป็นนิกายอมตะระดับกลาง จึงทำให้มีจ้อแตกต่างอย่างมากในระดับึวามแข็งแกร่งของทั้งสอง
  ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่รอช้าอีกต่อไปเขาได้ใช้ความสามารถของเขาออกมาด้วยความเข็งที่ชิงสุ่ยเพิ่มให้ ทำให้หยินชามั่นใจอย่างมาก เขามีความมั่นใจที่จะฆ่าชายชราคนนี้
  ในตอนนี้ชายชรายกมือขึ้นและถ่ายทอดปราณลงไปในกระบี่ของเขาชิงสุ่ยยสามารถบอกได้ว่ากระบี่ในมือของเขานั้นไม่ของธรรมดาเลย
  ตอนนี้ชายชราได้เหวี่ยงกระบี่ไปทางหยินชาก่อให้เกิดใบมีดสีขาวเหมือนหิมะพุ่งผ่านอกาศออกมา มันไม่มีกระทั้งเสียงในอากาศ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการจู่โจมในครั้งนี้มันก็รุนแรงอย่างมาก ตลอดเส้นทางที่คลื่นกระบี่ได้พุงเข้ามาก็ให้เกิดมิติที่บิดเบี้ยวตลอดเส้นทาง
  หยินชาเป็นผู้สืบทอดคนของนิกายจันทรานิรันกาลเขาเป็นคนที่มีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด ในบรรดาคนรุ่นใหม่ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นจักรพรรดิแห่งยุค
  หอกอสรพิษกลืนกิน!
  นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยได้เห็นการโจมตีด้วยหอกยาวการเคลื่อนไหวของหอกดังกล่าวเป็นเหมือนดังงูพิษที่บ้าคลั่งและดุร้ายซึ่งที่เต็มไปด้วยความรวดเร็วแม่นยำและรุนแรง
  ตูม!
  ชายชรารู้สึกมึนงงเมื่อมองไปที่ภาพดังกล่าวเหตุผลที่เขาก้าวออกมาจัดการกับอีกฝ่ายเป็นเพราเขามั่นใจว่าเขาแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายมากนักแต่ถึงอย่างไรก็ตามในเวลานี้การจู่โจมของกลับถูกทำลายอย่างง่ายดาย
  หลังจากที่เห็นการจู่โจมดังกล่าวในตอนนี้หัวใจของเขาก็เริ่มหวั่นไหวเล็กน้อยเขาเริ่มไม่ค่อยมั่นใจว่าจะสามารถจัดการกับหยินชาได้อย่างง่ายๆ
  ในทางตรงข้ามเมื่อหยินชามองเห็นชายถอยหลังไปมันทำให้เขามั่นใจมากขึ้นเขาไม่รอช้าก่อนที่จะพุ่งออกไปจู่โจมชายชราอย่างต่อเนื่อง novel-lucky
  ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงความไม่มั่นคงของกลิ่นอายของชายชราเป็นเพราะในตอนนี้เขากำลังตกตะลึงถึงความแข็งแกร่งของหยินชาที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
  ในเวลานี้หยินชาต้องการคว้าความได้เปรียบเอาไว้โดยจะรีบฆ่าชายชราคนนี้ลง สิ่งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นใจให้พวกเขา มั่นยังสร้างทำลายขวัญของอีกฝ่ายได้อย่างมาก
  ตูม…
  เสียงที่ดังของอาวุธที่ปะทะกันดังขึ้นในอากาศและในเวลานี้ชิงสุ่ยได้ใช้กฏแห่งพระราชวังเก้าเทวาออกมา มันให้ความแข็งแกร่งของชายชราและความเร็วของเขาลดลงช้ากว่าหยินชาเล็กน้อย
  และเป็นคนอีกครั้งที่ชายชราถูกเบี่ยงเบนความสนใจโดยชิงสุ่ย หลังจากที่ปราณจักรพรรดิและทักษะล่าสังหารถูกใช้ออกมา
  ตอนแรกชายชราต้องการใช้ทักษะสังหารสวรรค์เพื่อพลิกสถานการณ์อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ความสามารถของเขาสามารถของเขาได้ลงอย่างฉับพลัน จนไม่สามารถเรียกมันออกมาได้ ในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่หลบการโจมตีขิงหยินชาเท่านั้น
  แต่นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาหลังจากที่ถูกชิงสุ่ยสะกดไว้ความเร็วของเขาได้ลดลงไปอย่างมาก มันจึงทำให้การคาดการณ์จองเขาผิดพลาดไป ในเวลานี้ตั้งแต่หัวไหล่ซ้ายจนถึงสะโพกของเขาถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
  สังหารพริบตา!
  นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยได้บอกหยินชาตอนนี้เขาหยุดหยินชาเอาไว้หลังบีบชายชราให้จนมุม จังหวะสุดท้ายให้เขาสังหารชายชราในทันที โดยที่การจู่โจมในครั้งนั้นต้องรุนแรงและต้องเร็วที่สุดเท่าที่เขาทำได้ ต้องให้มั่นใจว่าชายชราจะตายในทันที ไม่เช่นนั้นแล้วจะเป็นเรื่องยากในการสังหารเขา หากเขารอดไปได้
  ในเวลานี้ชายชราได้ตายลงไปแล้วแม้ว่าหลายๆคนจะไม่เชื่อว่าเขาได้ตายลงจริงๆ แม้แต่ตัวหยินชายเองก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถทำได้สำเร็จ
  ผู้คนจำนวนมากในที่นี่รู้จักเกี่ยวกับความสามารถของชิงสุ่ยเพียงเล็กน้อยยิ่งเป็นความสามารถของปราณจักรพรรดิแล้วพวกเขาแทบไม่เคยรู้มันมากก่อน จะมีเพียงตระกูลหยินและชายชราหวังเท่านั้นที่รู้ดีว่าชิงสุ่ยความสามารถที่หน้าเกรงขามขนาดไหน
  ในเวลานี้อีกฝ่ายเสียขวัญอย่างมากผู้ที่ตายไม่ใช่ใครอื่นแต่กลับเป็นหัวหน้าของพวกเขามันทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตระหนกอย่างบอกไม่ถูก
  ในเวลานี้หยินชาได้ทำลายความมั่นใจของพวกเขาไปจนเกือบหมดและยังเรียกความมั่นใจให้กับชิงเฟิงและหมิงอวี้ที่อยู่ฝ่ายเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะกลับมาช่วยตระกูลหยิน แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าจะรอดไปได้ ในครั้งนี้แสงแห่งความหวังได้กลับเข้าในใจของพวกเขา
  ในช่วงเวลานี้เองชิงสุ่ยได้เรียกวิหคเพลิงและ แมงมุมอสูรเศียรมังกรออกมา ก่อนที่เขาจะสั่งพวกมันพุ่งออกไปพร้อมกับกลุ่มของเขา
  พวกเขาพุ่งเข้าหาศัตรูต่อสู้ด้วยจำนวนที่น้อยกว่าเพื่อจัดการกับศัตรูที่มีจำนวนมกกว่าพวกเขาถึงสอง สามเท่าโดยไม่หวาดกลัว
  เพชณฆาต9 วิญญาณ!
  ในตอนนี้วิหคเพลิงได้ใช้ทักษะเพชณฆาต9 วิญญาณ ซึ่งเป็นทักษะที่ทรงพลังที่สุดของมันออกมา เช่นเดียวกับแมงมุมเศียรมังกรที่ได้พ่นใยหลมอละลายออกมาล้อมศัตรูเอาไว้
  เพลิงนรก!
  ไหมพิษกักกัน!
  ไม่ใช่ชิงสุ่ยกำลังตัดสินใจอย่างประมาทในการทำเช่นนั้นที่ใช้คนจำนวนน้อยประทะคนจำนวนมาก แต่เขาต้องการที่จะกำจัดความหวังที่เหลืออยู่ของฝ่ายตรงข้ามให้หมดไป การโจมตีครั้งนี้จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกหดหู่และสิ้นหวังจนไม่อยากสู้ต่อ
  ในช่วงเวลาสั้นๆง้าวทองได้ปรากฏขึ้นในมือของชิงสุ่ย และในวินาทีนั้นเองมันก็ได้สะบั่นตัดลงไปที่จนศีรษะของชายชราคนหนึ่งกระเด็นออก
  แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะที่อยู่ในจุดสูงสูดของทวีปแต่ชีวิตของพวกเขาก็ถูกพรากลงไปได้อย่างง่ายดายราวกับผักปลา นี่คือความไม่จีรังของชีวิต
  ความพ่ายแพ้ก็เหมือนกับการล่มสลายของภูเขามันจะสร้างผลกระทบที่ใหญ่โตในวงกว้าง ในตอนนี้แม้ว่ากลุ่มของชิงสุ่ยจะมีน้อยกว่าอีกฝ่าย แต่พวกเขาก็สามารถควบคุมสถานการณได้อย่างดี
  ที่จริงๆแล้วนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำตั้งแต่แรกแม้เขาจะแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็เป็นเรื่องยากที่จะจัดการทั้งหมดด้วยตัวเองเพียงลำพัง หากเขาฝืนดึงดันต่อสู้เพียงลำพัง แม้เขาจะสามารถจัดการอีกฝ่ายได้ แต่มันอาจมีปัญหากับคนอื่นๆ เช่นชายชราหวังที่บาดเจ็บ ด้วยจำนวนคนที่มากมายกกว่าหลายเท่า เขาไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายทั้งหมดได้ในพริบตา
  ผลที่ออกมาถือว่าเป็นไปในทางดีอย่างมากวิหคเพลิง แมงมุมเศียรมังกร และอสูรสยบมังกรสามารถประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการประสานของพวกมันทำให้ไม่มีใครเลยหลุดรอดไปได้จากการจู่โจมของพวกมัน
  หลังจากนั้นไม่นานศัตรูของพวกเขาก็ได้ถูกจัดการไปจำนวนมากโดยในตอนนี้จำนวนของอีกฝ่ายลดลงจนเกือบเท่ากับพวกเขาแล้ว ในตอนนี้สถานการณ์การต่อสู้ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ชิงสุ่ยมีบทบาทอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากผู้คนที่ตายลงไปส่วนใหญ่ นั้นตายลงไปในน้ำมือของเขา
  หลิงเหยียนชายชราหวัง หยินเทียนและ เฟิงซี่ที่อยู่บนพื้นดิน เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างไม่ละสายตาย ในตอนแรกหลิงเหยียนต้องการเรียกเต่าบรรพกาลของเธออกมา แต่ในที่สุดเธอก็ไม่ได้ทำมันลงไป เมื่อเห็นว่าชิงสุ่ยกำลังได้เปรียบ แม้ว่าเธอรู้ว่าชิงสุ่ยจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ แต่เธอไม่ได้คาดหวังให้เขาทำมันอย่างหมดจดและแม่นยำเช่นนี้