บทที่ 1929+1930

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1929 หลบหนี 3

น้ำเสียงนางเย็นชาและคมชัด ประดุจน้ำพุเยือกแข็งไหลโกรกลงบนโขดหิน

แววตาซือชิงพลันวาบไหวทว่าจากนั้นก็หมองหม่น อีกฝ่ายเป็นเพียงแค่หยวนจวิน จะนำพาพวกเขาหลบหนีออกจากฝูงหมาป่าที่หิวโซนี้ได้อย่างไร?

บางทีนางอาจจะเข้าใจในสิ่งที่เขาคิด ริมฝีปากเริ่นจ้งเซิงหยักยิ้มบางๆ ทว่าไม่พูดจาอันใด เพียงแต่ยื่นมือออกมาตบบ่าเขาเบาๆ

เรือนกายซือชิงสั่นสะท้านเล็กน้อย จู่ๆ ก็รู้สึกว่าพลังวิญญาณบนร่างกายที่ถูกผนึกไว้เริ่มไหลเวียนอย่างมีชีวิตชีวา!

แววตาของเขาเป็นประกาย จ้องมองเริ่นจ้งเซิง น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย

“เจ้า…”

เริ่นจ้งเซิงยกนิ้วมือหนึ่งตั้งขึ้นบนริมฝีปาก

“อย่าส่งเสียงดังไป!”

หัวใจซือชิงเต้นดังกลองรัว เขายังคงรู้ความยิ่งนัก พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่านัยน์ตาเป็นประกายคู่นั้นยังจ้องมองเธอ

เริ่นจ้งเซิงค่อยๆ เดินสำรวจภายในห้องรอบหนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าด้านในไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดจึงได้เอ่ยปาก

‘ทุกคนเงียบก่อน ฟังข้าพูดสักหน่อย’

เธอใช้วิชาส่งกระแสเสียง สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือ การส่งกระแสเสียงปกติจะส่งผ่านให้ได้แค่เพียงหนึ่งคนเท่านั้น ทว่าเสียงนี้ของเธอกลับส่งผ่านให้ทุกคนภายในห้อง

ฝูงชนทยอยมองมาทางเธอ

‘ทุกคนไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ฟังข้าพูดก็พอ’

เริ่นจ้งเซิงตัดบทการสอบถามของพวกเด็กๆ ที่กำลังจะเอ่ยปากไว้ได้ทันกาล

ฝูงชนพยักหน้า

เธอจึงพูดต่อ

‘ข้ามาช่วยทุกคนออกไป แต่นับจากนี้เป็นต้นไป ทุกคนต้องฟังคำสั่งข้าจนกว่าการหลบหนีจะสิ้นสุดลง ทุกคนทำได้หรือไม่?’

เดิมทีพวกเด็กๆ ต่างสิ้นหวัง ตอนนี้จู่ๆ ก็เห็นแสงแห่งความหวังริบหรี่ สายตาพลันวูบไหว จ้องมองเริ่นจ้งเซิงเขม็ง

แน่นอนว่ายังมีคนหวาดระแวงแคลงใจ คิดว่าเริ่นจ้งเซิงก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ไม่มีทางช่วยใครได้…

เริ่นจ้งเซิงรู้ความสงสัยในใจของเด็กพวกนี้ เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เดินวนไปเบื้องหน้าของเด็กเหล่านี้ด้วยความรวดเร็ว แล้วตบบ่าของพวกเขา…

เธอรวดเร็วยิ่งนัก แทบจะในชั่วพริบตาก็ ‘แตะ’ เด็กเหล่านี้จนทั่วแล้ว

ทันใดนั้น เด็กทุกคนต่างพบว่าพลังวิญญาณที่ถูกผนึกไว้ของตัวเองไหลเวียนได้อย่างมีชีวิตชีวาแล้ว!

แววตาของเด็กทุกคนต่างวาบไหว! ไม่ว่าเริ่นจ้งเซิงออกคำสั่งอะไรกับพวกเขาอีก เด็กเหล่านี้ล้วนพยักหน้าหงึกๆ ปานทุบกระเทียม

เริ่นจ้งเซิงมีคำขอร้องเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น พวกเขาควรทำสิ่งใดในที่นี่ก็ให้พวกเขาทำสิ่งนั้น ไม่ว่ามองเห็นอะไรก็ไม่ต้องตื่นตระหนก…

เด็กทุกคนย่อมรับปาก

ซือชิงอดไม่ได้ส่งกระแสเสียงถามนาง

‘เจ้าจะทำอย่างไร?’

‘ข้าจะลองออกไปดู จัดการผู้คุมด้านนอกให้ได้ก่อน ค่อยเปิดประตูปลดปล่อยพวกเจ้าทั้งหมดออกไป!’

เริ่นจ้งเซิงพูดอย่างไม่อนาทรร้อนใจ

ซือชิงนิ่งอึ้ง

เขารู้ว่าว่าเด็กหญิงคนนี้มีความสามารถ ทว่าไม่น่าจะมีความสามารถขนาดนี้กระมัง?!

‘เจ้า…เจ้าจะออกไปได้อย่างไร?’

เด็กเหล่านั้นทยอยส่งกระแสเสียงถามนาง

เริ่นจ้งเซิงอมยิ้มเล็กน้อย เรือนกายพลันวาบไหวแล้วหายตัวไปในทันที

เด็กทุกคนตะลึงงัน

หากเริ่นจ้งเซิงไม่ได้สั่งการไว้ก่อน เกรงว่าพวกเขาจะต้องร้องกรี๊ดขึ้นมาอย่างแน่นอน

เคราะห์ดีที่ถึงแม้เด็กเหล่านี้จะตกตะลึงอยู่ไม่น้อย ทว่าแต่ละคนล้วนมีประสบการณ์จึงไม่ได้โหวกเหวกโวยวาย

หลังจากพวกเขาตามหาตัวเริ่นจ้งเซิงรอบหนึ่งในห้องไม่พบจึงรู้ว่านางออกไปแล้วจริง

การควบคุมในห้องนี้กลับไม่เป็นอุปสรรคใดต่อนางเลยแม้แต่น้อย

ความหวังในใจของเด็กทุกคนเพิ่มขึ้นไม่น้อย ทุกคนมารวมตัวกันโดยอัตโนมัติ แม้พวกเขาจะหายไปคนหนึ่ง คนภายนอกเข้ามาก็ไม่มีทางดูออกได้ง่ายๆ…

เหิงชิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมาหนึ่งประโยค

“นางเป็นใครกันแน่?”

ซือชิงพรูลมหายใจแผ่วเบา

“นางน่าจะช่วยพวกเราออกไปได้จริงๆ! พวกเราอดทนรอก็แล้วกัน”

เหิงชิงพึมพำ

“ข้ารู้สึกว่าวรยุทธ์ของนางน่าจะสูงกว่าท่านอาจารย์ด้วยซ้ำ…”

———————————————————-

บทที่ 1930 หลบหนี 4

ซือชิงไม่พูดอะไรเพราะเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

เด็กหญิงที่น่าอัศจรรย์คนนี้มาจากที่ใดกันแน่?

คำถามนี้ล้วนผุดขึ้นในใจของทุกคน

เด็กหญิงน่าอัศจรรย์คนนี้ย่อมเป็นกู้ซีจิ่วปลอมตัวมา

ตอนเธอกินข้าวที่ภัตตาคาร ก็สังเกตเห็นสายตามุ่งร้ายที่จ้องมองไปยังเด็กสามคนนั้น

เธอจึงซ้อนแผนใช้วิชาหดกระดูกหดร่างกายให้เล็กลง ส่วนเรื่องหน้าตาก็ใช้รูปลักษณ์ของเธอตอนอายุสิบสามสิบสี่ แน่นอนว่าไม่มีปานแดง ผิวพรรณก็อ่อนนุ่มละเอียดอ่อนยิ่งนัก

ครั้งนี้คนที่ลักพาตัวเด็กกระทำการได้อย่างแยบยลยิ่งนัก แดนพ้นโศกมียอดฝีมือมากมายขนาดนั้น กลับยังไม่มีผู้ใดพบเบาะแสอะไรเลย ด้วยความสามารถของกู้ซีจิ่ว หากเธอค่อยๆ ตรวจสอบ ย่อมต้องตรวจสอบพบอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลานานก็เท่านั้น

ในเมื่อมีโอกาสประจวบเหมาะเช่นนี้ เธอย่อมไม่ปล่อยให้หลุดลอยไป ทำให้เหล่าเถี่ยผู้นั้นเห็นเธอเป็นชิงหลัวแล้วจับตัวมา…

การเข้าไปในฐานลับของอีกฝ่ายเช่นนี้เรียกได้ว่าง่ายอย่างกับปอกกล้วยเข้าปาก เธอก็ประสบความสำเร็จแล้ว!

วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาของเธอในตอนนี้เรียกได้ว่าล้ำเลิศเป็นอย่างยิ่ง ต้องการไปที่ไหนก็ไปได้หมด

ในใจเธอเป็นกังวลเมื่อมีเด็กเหล่านั้นอยู่ที่นี่ ไม่อาจลงมือได้อย่างเป็นสุข

มิเช่นนั้นหากพลาดพลั้งไป เด็กเหล่านี้จะกลายเป็นตัวประกันของผู้บงการเบื้องหลังทันที แม้แต่ชีวิตน้อยๆ ก็จะรักษาไว้ไม่ได้!

ดังนั้น สิ่งแรกที่กู้ซีจิ่วทำหลังจากออกมาก็คือกำจัดพวกมนุษย์ครึ่งสัตว์ที่คอยคุ้มกันอยู่บริเวณห้องนี้ก่อน…

ถึงแม้วรยุทธ์ของมนุษย์ครึ่งสัตว์จะไม่เลว ทว่าเมื่อเทียบกับกู้ซีจิ่วแล้วยังห่างชั้นอีกไกล และในเวลาเพียงแค่สิบกว่านาที มนุษย์ครึ่งสัตว์คุ้มกันทั้งสี่ก็ถูกเธอกำจัดลงอย่างเงียบงันแล้ว

จากนั้นเธอก็หาปุ่มเปิดประตูนี้พบ ก่อนจะเข้าไปจากประตูใหญ่จนถึงภายในห้องนั้น ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเด็กทุกคน เธอสั่งการพวกเขาไม่กี่ประโยค ก่อนจะนำทางพวกเขาหนีออกไปตามทางเดิม…

เด็กเหล่านี้ล้วนได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เด็กโตประคองเด็กเล็ก ผู้แข็งแกร่งฉุดลากผู้อ่อนแอ จึงทำให้ทุกคนเดินทางออกไปด้านนอกได้อย่างรวดเร็ว…

อาจเพราะไม่คิดว่าเด็กเหล่านี้จะหลบหนี ดังนั้นจึงมีมนุษย์ครึ่งสัตว์ระหว่างทางไม่มากนัก ส่วนใหญ่มีสองสามคนลาดตระเวนอยู่ด้วยกัน

กู้ซีจิ่วอยู่ด้านหน้ากำจัดมนุษย์ครึ่งสัตว์เพื่อเปิดทางด้วยความรวดเร็ว มนุษย์ครึ่งสัตว์ตามทางเหล่านั้นถึงขั้นที่ยังมองไม่เห็นเรือนกายของเธอได้ชัดเจนก็ถูกเธอซัดล้มเสียแล้ว ไม่ได้ส่งเสียงออกมาสักแอะ

ทุกครั้งที่กู้ซีจิ่วกำจัดมนุษย์ครึ่งสัตว์ ซือชิงจะพาเด็กๆ ไปซ่อนตัวในมุมมืด รอให้กู้ซีจิ่วจัดการเรียบร้อย เขาถึงจะพาพวกเด็กๆ ออกมา

ในที่สุดซือชิงก็ได้เห็นฝีมือของ ‘เริ่นจ้งเซิง’  ในใจรู้สึกเลื่อมใสจนแทบจะหมอบราบกราบกรานแล้ว!

เด็ดขาด เหี้ยมโหด ทุกกระบวนท่าทุกรูปแบบดุจเมฆาเคลื่อนคล้อยวารีไหลริน ไม่มีกระบวนท่าโอ้อวดเลยสักนิด ล้วนแต่ใช้งานได้จริง และที่สำคัญก็คือนางรวดเร็วยิ่งนัก! อาจเปรียบได้กับความเร็วแสง แทบจะไม่มีเวลาให้มนุษย์ครึ่งสัตว์เหล่านั้นตอบสนองได้เลย…

เด็กหญิงผู้นี้แข็งแกร่งยิ่งนัก! อีกทั้งนางยังจำเส้นทางได้แม่นยำพิลึก ทางแยกมากมายขนาดนี้ นางกลับจำได้ไม่มีผิดพลาดสักนิด!

และก็วิ่งหนีตรงไปด้านหน้าเช่นนี้ จนเห็นทางออกที่มีลำแสงสาดส่องเบื้องหน้า

ทว่าจู่ๆ ก็เกิดข้อผิดพลาด…

ประตูบานหนึ่งเปิดขึ้นบนกำแพงที่ปิดทึบอย่างกะทันหัน มนุษย์ครึ่งสัตว์กลุ่มหนึ่งเดินตรงมาทางที่พวกเด็กๆ อยู่

ตำแหน่งนี้น่ากระอักกระอ่วนยิ่งนัก ไม่มีทางแยกใดๆ เมื่อมองย้อนกลับไปบนทางเดินก็ไม่มีสถานที่ให้หลบซ่อนตัวได้ และหากมนุษย์ครึ่งสัตว์กลุ่มนี้เลี้ยวตรงทางโค้งด้านหน้าก็จะมองเห็นพวกเขาแล้ว!

มนุษย์ครึ่งสัตว์กลุ่มนี้มีทั้งหมดยี่สิบกว่าคน และวรยุทธ์ของแต่ละคนก็ไม่ต่ำต้อย! ระดับขั้นเสินจวินเป็นอย่างต่ำ

กู้ซีจิ่วสังหารพวกเขาได้ในกระบวนท่าเดียว ทว่าต้องใช้เวลา และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผู้ใดล่วงรู้…

หากหนึ่งคนในนั้นส่งเสียงตะโกนออกมาก็จะดึงดูดกองกำลังสนับสนุนจำนวนมาก เช่นนั้นแผนการหลบหนีนี้ก็จะพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง!

ฝ่ามือกู้ซีจิ่วมีหยาดเหงื่อเย็นวาบไหลซึมออกมา ในขณะที่เธอตัดสินใจจะทำบางอย่าง จู่ๆ ก็มองเห็นบุรุษหนุ่มอาภรณ์ม่วงท่านหนึ่งปรากฏกายขึ้นเบื้องหลังมนุษย์ครึ่งสัตว์เหล่านั้น…

——————–