บทที่ 1436 ออกจากสายธารแห่งกาลเวลา

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เกาะบัวหิน

 

ร่างกายและเสียงของเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณเริ่มเลือนหาย

 

ฟางหยวนต้องการช่วยเติมเต็มและเขาถูกหยุดเอาไว้

 

“ปล่อยให้ข้าหายไป ข้าคือเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ร่างหลักของข้าถูกจับกุมโดยวังสวรรค์ พวกเขาจะค้นพบข้าในไม่ช้า”

 

“สำหรับร่างแยก ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขา”

 

“เกาะบัวหินไม่อยู่แล้ว ภารกิจของข้าเสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน”

 

“ขณะที่ข้ายังเหลือพลังอยู่บ้าง ให้ข้าเร่งเวลาให้พวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”

 

ฟางหยวนพยักหน้าอย่างช้าๆ “ตกลง”

 

หลังจากนั้นเขาก็นำค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองออกมา

 

ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะและเริ่มใช้งานมัน

 

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณเผยรอยยิ้มบางขณะที่เกาะบัวหินส่องประกายระยิบระยับเป็นครั้งสุดท้าย

 

…..

 

“ท่านหงซื่อตายแล้ว!”

 

ฟงจิวเก้อและผู้อมตะระดับแปดจากวังสวรรค์ทั้งสองรู้สึกตกใจมากเมื่อได้รับข่าวนี้

 

หลังจากนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยก็ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับพวกเขา

 

“ฟางหยวนสูญเสียอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดแต่เขากลับได้รับอสูรปีวอกแรกกำเนิดมาแทนงั้นหรือ?”

 

“มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงน่าเหลือเชื่อนัก มันสามารถควบคุมส่วนหนึ่งของสายธารแห่งกาลเวลา!”

 

“หากไม่ใช่เพราะเกาะบัวหิน แม้ฟางหยวนจะมีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดพร้อมกับการคุ้มครองจากอสูรปีวอกแรกกำเนิด เขาก็ยังไม่สามารถสังหารท่านหงซื่อ! เห้อ…”

 

ตอนนี้สามผู้อมตะสามารถผ่านแนวป้องกันของอาณาจักรแห่งความฝันมาแล้ว พวกเขากำลังยืนอยู่ด้านหน้าสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา

 

อาณาจักรแห่งความฝันเคลื่อนที่ตลอดเวลา สุดท้ายมันจึงเปิดช่องว่างและปล่อยให้ผู้อมตะทั้งสามเดินทางผ่านมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน

 

อาณาจักรแห่งความฝันสามารถกีดขวางศัตรูแต่มันพึ่งพาได้ไม่นาน

 

โดยเฉพาะอาณาจักรแห่งความฝันที่ถูกแทรกซึมโดยเจตจำนงสวรรค์ การเคลื่อนที่ของมันสนับสนุนผู้อมตะจากวังสวรรค์อย่างชัดเจน

 

นี่เป็นเหตุผลที่ฟางหยวนไม่ได้ใช้อาณาจักรแห่งความฝันเพื่อหลบหนีในการต่อสู้ครั้งก่อนหน้า

 

การแสดงออกของสามผู้อมตะดูไม่น่ามองเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวการเสียชีวิตของหงซื่อ

 

ตามแผนเดิมของพวกเขา หงซื่อที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลาจะทำลายมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงและบังคับให้กลุ่มของฟางหยวนออกมาเผชิญหน้ากับสามผู้อมตะด้านนอก

 

แต่ตอนนี้หงซื่อที่แข็งแกร่งที่สุดกลับถูกล้มล้างเป็นคนแรก สถานการณ์นี้ทำให้ฟงจิวเก้อและอีกสองคนรู้สึกอึดอัดใจ

 

พวกเขาควรรอต่อไปหรือไม่?

 

หากพวกเขารอต่อไป ฟางหยวนและคนอื่นๆจะปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาหรือไม่?

 

ผู้อมตะทั้งสามรู้สึกลังเล พวกเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแต่ผู้ใดจะคิดว่าขวัญกำลังใจของพวกเขาจะถูกทำลายตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ต่อสู้

 

“รอต่อไป” เทพธิดาจื่อเว่ยแนะนำ

 

“ข้าอนุมานแล้วว่าฟางหยวนเหลือสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเพียงแห่งเดียว”

 

“หงซื่อเสียสละตนเองแต่มันก็ทำให้เราได้ข้อมูลที่มีค่ามากมายเกี่ยวกับฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงาโดยเฉพาะมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ตอนนี้วังสวรรค์ได้รับเบาะแสบางอย่างของมันแล้ว”

 

“ฟางหยวนและคนอื่นๆไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ที่นั่น พวกเขาต้องออกมาในที่สุด”

 

น้ำเสียงของเทพธิดาจื่อเว่ยเต็มไปด้วยความแน่วแน่ นั่นทำให้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของฟงจิวเก้อและอีกสองคนพุ่งทะยานขึ้น

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาเพียงไม่กี่คนในห้าภูมิภาค การอนุมานของนางจะไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน

 

“เช่นนั้นเราจะรอต่อไป”

 

“ปีศาจต่างโลกเป็นภัยต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ข้าจะปลิดชีพเจ้าในครั้งนี้อย่างแน่นอน!”

 

สองผู้อมตะจากวังสวรรค์โกรธมากขณะที่การแสดงออกของฟงจิวเก้อสงบลง

 

อย่างไรก็ตามหนึ่งวันผ่านไป สองวันผ่านไป และหกวันผ่านไป สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาก็ยังไม่เกิดความโกลาหลใดๆ

 

สิบวันผ่านไป หนึ่งเดือนผ่านไป แต่ผู้อมตะที่รออยู่ยังไม่พบร่องรอยใดๆเกี่ยวกับฟางหยวน

 

แต่พวกเขาไม่หวั่นไหว

 

พวกเขาเป็นผู้อมตะของวังสวรรค์ ตัวตนเหล่านี้จะขาดความอดทนได้อย่างไร?

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟงจิวเก้อที่ต่อสู้กับฟางหยวนมาแล้วรู้ดีเกี่ยวกับความเร็วในการเติบโตของฟางหยวน เขาตัดสินว่าฟางหยวนเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ต่อโลกใบนี้และต้องถูกกำจัดโดยเร็วที่สุด

 

“ฟางหยวนอยู่ที่ใด?”

 

“พวกเขายังอยู่บนเกาะบัวหินงั้นหรือ?”

 

“เหตุใดข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจ?”

 

ในวังสวรรค์ เทพธิดาจื่อเว่ยเริ่มรู้สึกสับสน

 

ไม่นานหลังจากความตายของหงซื่อ นางสูญเสียการเชื่อมต่อกับฟางหยวนและคนอื่นๆไปอย่างสมบูรณ์ สมาชิกนิกายเงาใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่พึงประสงค์ออกจากร่างกาย

 

แม้จะไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าฟางหยวนและคนอื่นๆหลบหนีออกจากสายธารแห่งกาลเวลาไปแล้วแต่เทพธิดาจื่อเว่ยยังรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ

 

เส้นทางแห่งปัญญาแบ่งเป็นสามสิ่ง ความคิด เจตจำนง และอารมณ์ความรู้สึก

 

ท่ามกลางพวกมัน อารมณ์และความรู้สึกยังเป็นวิธีการที่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญามักพึ่งพา

 

ดังนั้นความไม่สบายใจของเทพธิดาจื่อเว่ยจึงถือเป็นสังหรณ์ร้าย

 

“ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดฟางหยวนได้หลบหนีออกจากสายธารแห่งกาลเวลาไปแล้ว”

 

“แต่กลุ่มของฟงจิวเก้อรออยู่ที่ทางออก แล้วพวกเขาจะหลบหนีไปได้อย่างไร?”

 

“พวกเขาได้รับวิธีซ่อนตัวที่ทรงพลังจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงงั้นหรือ? หรือบางที…พวกเขาสามารถใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาสายอื่น?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน

 

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาสองแห่งที่ฟางหยวนสามารถเข้าถึงถูกเปิดเผยแล้ว

 

ข้อมูลนี้เชื่อถือได้เพราะแหล่งที่มาของมันคือร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกกำหราบโดยราชันมังกร วังสวรรค์ย่อมไม่ปล่อยเขาไปและพยายามค้นวิญญาณของเขา อย่างไรก็ตามเทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นตัวตนอันดับหนึ่งบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แม้เขาจะเหลือเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณ แต่มันยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะถูกค้นวิญญาณ

 

วังสวรรค์ใช้วิธีการทั้งหมดของพวกเขาในการดึงข้อมูลแต่ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณยังดิ้นรนขัดขืน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ได้รับข้อมูลมากนัก

 

“หากฟางหยวนไม่ได้ใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาแล้วเขาจะออกมาอย่างไร?”

 

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่เป็นทางออกของฟางหยวนถูกปิดกั้นโดยกลุ่มของฟงจิวเก้อ แม้ฟางหยวนจะไม่ตรวจสอบเรื่องนี้แต่เขาก็สามารถคาดเดา ดังนั้นเขาอาจมีวิธีที่ดีกว่าการต่อสู้และหลบหนีออกไปโดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ตัว

 

“ในทะเลทรายตะวันตกมีสามกองกำลังที่ครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเอาไว้”

 

“กองกำลังแรกคือตระกูลเทียน ตระกูลนี้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้และเส้นทางแห่งปฐพีเป็นหลัก พวกเขามีชื่อเสียงในการจัดการมิติช่องว่างและเป็นหนึ่งในกองกำลังใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดของทะเลทรายตะวันตก”

 

“กองกำลังที่สองคือตระกูลกง ตระกูลกงเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะไกล โดยเฉพาะท่าไม้ตายที่เกี่ยวข้องกับคำสาปที่สามารถคร่าชีวิตศัตรูได้อย่างเงียบเชียบ ท่าไม้ตายอมตะที่มีชื่อเสียงของพวกเขาคือ เงาแปรผัน พวกเขาต้องการเพียงเงาของเป้าหมาย เมื่อมันถูกกระตุ้นใช้งาน เป้าหมายจะถูกสังหารไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลเพียงใดก็ตาม”

 

“กองกำลังที่สามคือตระกูลถัง ตอนนี้ตระกูลถังตกต่ำลงมาก ความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ในระดับกลางถึงล่าง แต่พวกเขายังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะและครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเอาไว้ที่ฐานทัพใหญ่ของพวกเขา ด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่ง กองกำลังอื่นจึงไม่สามารถคว้ามันไปได้โดยง่าย”

 

“หากฟางหยวนต้องการใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเหล่านั้น เขาจะเลือกตระกูลใด?”

 

“แต่ทั้งสามตระกูลยังไม่มีการเคลื่อนไหว บางทีฟางหยวนอาจยังอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยครุ่นคิดอย่างหนัก

 

นางตระหนักถึงสถานการณ์ในโลกผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกเป็นอย่างดี วังสวรรค์สามารถรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย

 

ตระกูลถัง

 

แสงสว่างส่องประกายขึ้นบนร่างของฟางหยวนและคนอื่นๆ

 

“การเคลื่อนไหวครั้งนี้ต้องใช้เวลาเตรียมตัวนับเดือน นอกจากเราจะสามารถป้องกันการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เรายังสามารถหลีกเลี่ยงเจตจำนงสวรรค์” ฟางหยวนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นและกล่าวด้วยความยินดี

 

นอกจากฟางหยวนยังมีไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน อิงอู๋เซี่ย นางเสือดำ และเทพธิดาเมี่ยวหยิน ไม่มีผู้ใดขาดหายไป

 

การคาดเดาของเทพธิดาจื่อเว่ยถูกเพียงครึ่งเดียว

 

ฟางหยวนไม่มีแผนที่จะเข้าสู่การต่อสู้ที่สิ้นหวังกับกองกำลังจากวังสวรรค์ พวกเขาออกมาตั้งแต่สิบวันก่อนหน้า

 

“ไปกันเถอะ ถึงเวลาออกจากทะเลทรายตะวันตกแล้ว” ฟางหยวนก้าวไปข้างหน้าขณะที่คนอื่นๆตามมาอย่างใกล้ชิด

 

พวกเขาอยู่ลึกลงไปใต้พื้นพิภพและกำลังเคลื่อนที่ขึ้นสู่พื้นผิว

 

ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกสองคนกำลังรอพวกเขาอยู่ที่ทางออก

 

“ถังฟางหมิง (ถังหลานเค่อ) คารวะผู้นำนิกายเงา” ผู้อมตะทั้งสองยังดูเยาว์วัย หลังจากเห็นฟางหยวน พวกเขาเร่งโค้งคำนับ

 

ฟางหยวนหัวเราะ “ข้าทำให้พวกท่านลำบากแล้ว นี่คือวิญญาณอมตะที่ข้ายืมมาจากตระกูลของพวกท่าน”

 

ฟางหยวนส่งวิญญาณอมตะหลายดวงให้กับถังฟางหมิง

 

ถังฟางหมิงตรวจสอบอย่างรอบคอบ หลังจากไม่พบปัญหา เขาก็เก็บพวกมันเอาไว้ในมิติช่องว่างอย่างระมัดระวัง

 

เขากล่าวด้วยความละอายใจ “โปรดยกโทษให้กับการกระทำของข้าด้วย ข้ายืมวิญญาณเหล่านี้มาจากตระกูลเป็นการส่วนตัว นี่เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ของข้า ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระมัดระวัง”

 

ฟางหยวนยิ้ม คำกล่าวของถังฟางหมิงมีความหมายลึกซึ้ง ท้ายที่สุดแล้วตระกูลถังก็เป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะ หากข่าวเรื่องการร่วมมือกับกองกำลังฝ่ายปีศาจเช่นนิกายเงาถูกเผยแพร่ออกไป พวกเขาจะพบปัญหาใหญ่

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ผลประโยชน์เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทุกคนไล่ล่า

 

ตระกูลถังอ่อนแอลง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากภายนอก สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้ผู้อมตะตระกูลถังต้องอดทนอดกลั้นและยินดีรับความเสี่ยงเพื่อพัฒนาตนเอง

 

กลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลถังคืออาณาจักรแห่งความฝัน

 

ในชีวิตแรกของฟางหยวน ตระกูลถังก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการใช้ประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝัน ในสงครามห้าภูมิภาค พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของทะเลทรายตะวันตกอย่างก้าวกระโดด

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงตัดสินใจติดต่อตระกูลถังและใช้งานวิจัยเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันของนิกายเงาเพื่อแลกเปลี่ยนกับการใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในการครอบครองของพวกเขา นอกจากนี้ฟางหยวนยังยินดีร่วมมือกับตระกูลถังเพื่อทำวิจัยเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันในอนาคตรวมถึงความร่วมมืออื่นๆ

 

ผลประโยชน์มหาศาลทำให้ตระกูลถังถูกล่อลวง

 

ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันของฟางหยวน หรือท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันของอิงอู๋เซี่ย พวกมันต่างดึงดูดความสนใจของผู้อมตะตระกูลถัง

 

แน่นอนว่าท่าไม้ตายอมตะทั้งสองไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตระกูลถังจะได้รับ