ตอนที่ 558: แรงกดดัน

Crazy Leveling System

ตอนที่ 558: แรงกดดัน

 

ระดับราชาวิญญาณในโลกวิญญาณนั้น ถือว่าเป็นระดับที่ดีหน่อยเท่านั้น แต่ในโลกมนุษย์นั้นถือได้ว่าเป็นระดับเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถบงการชีวิตของทุกผู้คนได้เลยทีเดียว!

 

เพราะพลังวิญญาณของที่นี่มีความหนาแน่นต่ํา ทั้งทรัพยากรสวรรค์และปฐพียังมีอยู่น้อยนิดดังนั้นจึงทําให้การเลื่อนระดับเป็นไปด้วยความยากลําบาก แม้จะมีบางคนที่เพียงพอจะเลื่อนระดับได้ แต่เพราะระดับความหนาแน่นต่ําเกินไป ดังนั้นต่อให้ฝึกแทบตายก็ยากที่จะเลื่อนระดับขึ้นไปสู่ขั้นที่สูงกว่าได้

 

และก็เพราะเงื่อนไขแบบนี้ จึงทําให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเลือกที่จะไปยักโลกวิญญาณหรือไม่ ก็โลกสวรรค์ ไม่อย่างนั้น ก็คงไม่มีวิธีที่จะทะลวงผ่าน และก็มีแต่ไปถึงระดับนั้นเท่านั้นถึงจะรู้ว่าเป็นยังไง

 

ตอนนี้เมื่อมีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณโจมตีเข้ามา จึงทําให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล กระทั่งมีบางคนที่เขาอ่อนทรุดลงกับพื้น ไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้านแบบนี้จะให้โจม ตีได้ยังไง? ฝั่งมีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอยู่ ทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้อีกเป็นจํานวนมาก กับกองกําลังที่ไร้เทียมทานนี้ แค่เห็นก็ทําให้ในใจพวกเขาหวาดกลัวจนถึงที่สุดแล้ว

 

แม้ว่ายังจะไม่เริ่ม แต่ขวัญกําลังใจของพวกเขาก็พากันตกลงอย่างมาก

 

“ระดับราชาวิญญาณในตํานาน” บรรพชนเผ่าภูตสูดหายใจเฮือก ตอนนี้เขาได้รับทรัพยากรจํานวนมาก ทําให้ระดับของเขาเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ยังไงก็ยังอยู่ในระดับวิญญาณเที่ยงแท้อยู่การที่ต้องมาเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณนี้ การต่อต้านถือว่าเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ

 

เขารู้สึกว่าแค่ฝั่งตรงข้ามโบกมือ ก็สามารถตบเขาจนตายได้! อย่าเพิ่งพูดถึงระดับราชาวิญญาณตรงหน้านี้ก่อน แค่ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ที่อยู่ใกล้ๆ ก็สามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างเหลือเฟือแล้ว

 

“ท่านบรรพชนเผ่าภูต พวกเราจะทํายังไงดี?” เยชิงเสวียนสีหน้าเย็นชา เธอก็สัมผัสได้ถึงพลัง-ที่ยากจะต้านนี้เช่นกัน แต่ยังไงตอนนี้ก็ไม่ทางให้ถอย ดังนั้นเธอจึงหันไปถามบรรพชนเผ่าภูต

 

“เปิดค่ายกลป้องกันประเทศ!” บรรพชนเผ่าภูตพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง “คนพวกนี้เป็นคนชั่วต่อให้พวกเรายอมจํานวน ก็กลัวว่าฝั่งตรงข้ามจะไม่ปล่อยเราไปเช่นกัน! พวกเขามุ่งเป้ามาที่เราทั้งราชาภูตก็ไม่อยู่ พวกเราคงต้องรับมือพวกเขาด้วยตัวเอง…”

 

เย่ชิงเสวียนพยักหน้า ก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนก็ได้คาดเดาว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว บอกว่าอีกไม่นานพวกเธอจะต้องเผชิญกับการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว ดังนั้นจึงจําเป็นต้องมีการเสริมกําลังแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาเร็วขนาดนี้ ทั้งยังมาถึงตรงหน้าพวกเธอด้วย

 

ภายใต้คําสั่งของบรรพชนเผ่าภูต ค่ายกลป้องกันประเทศก็ถูกเปิดใช้งานในทันที พร้อมกับปรากฏโล่คุ้มกันหนา 1 ชั้นขึ้นปกคลุม ปกป้องเมืองหลวงแห่งนี้ไว้ด้านในอย่างแน่นหนา

 

แม้ว่าค่ายกลทั้งหมดจะยังไม่แล้วเสร็จ แต่ส่วนใหญ่ก็ถือว่าเสร็จแล้ว ดังนั้นจึงสามารถแสดงพลังส่วนใหญ่ออกมาได้ แม้ว่าจะมีบางส่วนที่ยังไม่ได้สร้าง แต่ตอนนี้ก็ทําได้เพียงผืนเปิดใช้งาน ไม่อย่างนั้น หากให้รอจนเสร็จ ก็กลัวว่าพวกเขาจะตายก่อนที่จะได้ใช้มัน

 

หลังจากเห็นพวกเขาเปิดใช้งานค่ายกลป้องกันประเทศ ผู้เชี่ยวชาญนับไม่ถ้วนที่อยู่บนเรือเหาะก็พากันเผยแววตาแห่งการดูถูกออกมา

 

“ฉีต้าเหริน พวกมันยังต้องการจะต่อต้านอีก ช่างไม่รู้จักประมาณตนจริงๆ!” ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ที่อยู่ใกล้ๆ ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ค่ายกลป้องกันประเทศนี้ สําหรับพวกเขาแล้ว สามารถทําลายมันได้ในกําปั้นเดียว ค่ายกลของโลกมนุษย์มันจะแข็งแกร่งได้สักแค่ไหนกันเชียว?

 

ฉีกั่วหลินมองไปยังค่ายกลป้องกันประเทศ พร้อมกับพูดอย่างดูถูกว่า “ในเมื่อพวกมันต้องการต่อต้าน งั้นก็ให้พวกมันทํา ข้าจะให้พวกมันได้รู้ว่าต่อต้านไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะเพิ่มจํานวนคนตายให้มากขึ้นก็เท่านั้น!”

 

จากนั้น ฉีกั่วหลินก็บินขึ้นไป ตรงไปยังเมืองหลวงเทียนหยุนด้วยความเร็วที่สุดยอด จนผู้คนพากันมองไม่ทัน พริบตา ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเมืองเทียนหยุนแล้ว ก่อนที่จะฟาดฝามือเข้ามาอย่างไม่ปรานี

 

“แหลกไปซะ!”

 

ฉีกั่วหลินร้องออกมา พร้อมกับฝ่ามือที่เปล่งประกายสีทองสว่าง พร้อมกับอากาศที่ผันผวนอยู่รอบๆ ฝ่ามือ และเมื่อฝ่ามือถูกปล่อยออกมา ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็ปรากฏฝ่ามือขนาดยักษ์ขึ้นพร้อมกับทําการปิดท้องฟ้าจนกลายเป็นสีดํา ก่อนที่จะกดทับลงมายังเมืองเทียนหยุนที่อยู่ด้านล่าง

 

ฝ่ามือที่ครอบทับลงมาแทบจะปิดทับเมืองเทียนหยุนได้ทั้งหมด พลังที่น่าสะพรึงของมัน ทําให้พวกเขาหน้าเปลี่ยนสี นี่คือพลังของระดับราชาวิญญาณอย่างงั้นเหรอ?

 

“เปรี้ยง!”

 

เมื่อฝ่ามือยักษ์หล่นลงมา ก็ก่อให้เกิดการระเบิดขึ้น ทั่วทั้งเมืองเทียนหยุนต่างก็มีเสียงระเบิดดังออกมาจากทุกทิศทาง สะเทือนขึ้นไปถึงชั้นฟ้า! กระทั่งฟ้าดินก็ยังสั่นสะเทือนราวกับว่าโลก มนุษย์เองก็ยังไม่สามารแบกรับพลังนี้ได้ แล้วก็จริง ทันใดนั้น พื้นดินก็แตกออกเป็นทางยาว

 

ในใจผู้ฝึกตนคนอื่นที่อยู่ห่างออกไปต่างก็พากันสั่น มองมาทางเมืองเทียนหยุนด้วยท่าทางแตกตื่น

 

“ไม่รู้ว่าเมืองเทียนหยุนไปยั่วยุขุมอํานาจอะไรเข้า ทําไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้” พวกเขาพากันสูดหายใจเฮือก รู้สึกเย็นเยียบไปจนถึงฝ่าเท้า

 

ตอนแรกพวกเขาคิดจะเข้าร่วมกับวังเทียนหยุน แต่ตอนนี้แม้แต่จะเข้าไปใกล้ยังไม่กล้า

 

หลังจากแรงระเบิดหายไป เมืองเทียนหยุนยังคงอยู่ดีมีสุข แต่ทุกสิ่งรอบๆ เมืองเทียนหยุนกลับหายไปไม่เหลือ นี่คือฝามือที่มาจากผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ เป็นพลังที่สามารถกวาดพัดได้ทุกสิ่ง

 

“น่าสนใจดี ไม่คิดว่าโลกมนุษย์จะมีนักสลักอาคมระดับนี้ด้วย…” ฉีกั่วหลินสายตาเย็นชาแม้ว่าจะไม่ใช่พลังทั้งหมด แต่เขาก็ใช้ไปมากกว่า 50% ใครจะรู้ว่าค่ายกลป้องกันประเทศนี้จะป้องกันเอาไว้ได้ นี่จึงทําให้เขารู้สึกเสียหน้านิดหน่อย

 

ผู้ฝึกตนคนอื่นของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงก็ตกใจเช่นกัน ไม่คิดว่าจะไม่สามารถทําลายมานพลังนี้ได้ ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ

 

“ยะ เยี่ยมไปเลย ที่นี่ไม่ถูกทําลายแม้แต่น้อย!”

 

“บรรพชนเผ่าภูตแข็งแกร่งจริงๆ สามารถป้องกันไว้ได้ด้วย!”

 

“ใช่ เมืองเทียนหยุนของพวกเราสามารถป้องกันได้!”

 

จิตใจที่สิ้นหวังของพวกเขา กลับมาเต็มไปด้วยความหวังใหม่อีกครั้งในทันที

 

แต่แม้จะสามารถต้านทานไว้ได้ แต่สีหน้าของบรรพชนเผ่าภูตที่ยืนอยู่บนกําแพงกลับซีดเผือดขณะที่มีอมีแสงเปล่งออกมาไม่หยุด ขณะที่กําลังทํามุทรา เพื่อที่จะรับฝ่ามือนี้ เขาต้องเผาผ ลาญพลังวิญญาณส่วนใหญ่ออกไป แต่ก็เกือบที่จะต้านเอาไว้ไม่อยู่

 

“นี่คือพลังของระดับราชาวิญญาณอย่างงั้นเหรอ…” สีหน้าบรรพชนเผ่าภูตซีดเผือด พร้อมกับร่างที่ส่ายโอนเอน แทบจะล้มลง

 

แต่ดีที่เย็ชิงเสวียนมาประคองเอาไว้ พร้อมกับพูดอย่างเป็นกังวลว่า “ท่านบรรพชน ท่านเป็นยังไงบ้าง…”

 

“พลังนี้ร้ายกาจเกินไป หากว่าค่ายกลป้องกันประเทศของเราเสร็จไป 1 ใน 4 อาจจะพอต้านทานได้หลายครั้ง แต่ตอนนี้กลัวว่าจะต้านทานได้ไม่ถึง 3 ครั้ง เจ้ารีบพาคนหนีไปก่อน ที่นี่ข้าจะต้านเอาไว้ให้เอง” บรรพชนเผ่าภูตมีสีหน้าหดหู นี้เป็นช่วงเป็นตายของชีวิต จําเป็นต้องอพยพจากไป

 

“แต่….”

 

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น! รีบไป มีชีวิตอยู่จึงจะเป็นเรื่องสําคัญที่สุด! พวกเราต้องต้านทานเอาไว้จนกว่าราชาภูตจะกลับมา… แต่ว่าน่าเสียดาย ที่ราชาภูตไม่ทันจะได้เห็นเมืองเทียนหยุนแห่งนี้ ก็ต้องมาถูกแย่งไปซะก่อน หรือบางทีอาจจะถูกทําลายไปก็ได้…” บรรพชนเผ่าภูตส่ายหัว แต่ไม่ยอมจากไป

 

เขารู้ว่าตราบใดที่รักษากําลังไว้จนอี้เทียนหยุนกลับมา เมื่อนั้นก็จะมีโอกาส! ตราบเท่าที่ยังมีคนอยู่เมืองเทียนหยุนก็จะไม่ถูกทําลายไปตลอดกาล!

 

“ท่านบรรพชน” เชิงเสวียนกัดฟันแน่น รู้ว่าต้องทํายังไง สุดท้ายก็คุกเข่าลง พร้อมกับทําการคารวะบรรพชนเผ่าภูต พร้อมกับพูดว่า “ท่านบรรพชนโปรดรักษาตัว!”

 

หลังจากโขกคํานับเสร็จ เธอก็เตรียมพาคนจากไปในทันที ตอนนี้มีเพียงแต่ทําอย่างนี้เท่านั้นไม่อย่างนั้น ก็จะไม่มีใครได้ออกไปอีก

 

แต่ในขณะที่พวกเขากําลังจะเคลื่อนย้ายนั้น ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ผู้ฝึกตนบนเรือได้ทําการโอบล้อมไว้ ทั่วทั้งสี่ทิศแปดทางต่างก็เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจํานวนมาก กระทั่งระดับวิญญาณเที่ยงแท้ก็ยังมี ทําการปิดกั้นทางหนีของพวกเธอ

 

“คิดหนี อย่าได้หวัง” พวกเขาพากันยิ้มอย่างชั่วร้าย พวกเขาเตรียมการมาอย่างดี จะ ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้ยังไง?

 

ในขณะที่ที่นี่กําลังเข้าสู่ตาจนมากขึ้นเรื่อยๆ อี้เทียนหยุนที่กําลังบินอยู่ก็รู้สึกไม่เข้าท่า รู้สึกเหมือนในใจมีสัญญาณอันตรายส่งออกมา

 

“เกิดอะไรขึ้นกัน?” เขาขมวดคิ้ว พร้อมกับสั่งให้ฟินิกซ์น้ําแข็งเร่งความเร็วขึ้นอีก! ตอนนี้เขาได้มาถึงทวีปเทียนหยุนแล้ว ทั้งยังห่างจากเมืองเทียนหยุนไม่ไกล