ตอนที่ 559: การตายของบรรพชนเผ่าภูต

Crazy Leveling System

ตอนที่ 559: การตายของบรรพชนเผ่าภูต

 

เมืองเทียนหยุนถูกปิดล้อมอย่างแน่นหนา ไม่มีตําแหน่งไหนที่จะหนีออกไปได้เลย ต่อให้บินได้ก็เปล่าประโยชน์ เพราะว่าฝั่งตรงข้ามก็บินได้เช่นกัน ยิ่งกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามยังมีเป็นโขยง หากบินขึ้นไป พวกเขาจะต้องถูกบดขยี้อย่างแน่นอน

 

ดีที่เมืองเทียนหยุนไม่ได้เรียกรวมพลทุกหน่วยมาที่นี่ ยังมีหลายหน่วยที่คอยจัดการเมืองอื่นๆถึงยังไงอาณาจักรใต้พิภพก็มีอยู่หลายเมือง ดังนั้นจึงได้ส่งพวกเขาไปจัดการ

 

การจัดการของพวกเขาก็มีตั้งแต่กําจัดกลุ่มโจรหรือพวกกบฏ ไปจนกระทั่งสร้างกิ่งสาขาโดยเฉพาะที่ทวีปเทียนจึงและตี้จิ้ง ซึ่งกําลังอยู่ในช่วงก่อร่างสร้างตัว

 

ก่อนหน้านี้ที่นี่เป็นดินแดนที่โหดร้ายมาก่อน จึงไม่มีใครกล้ามาที่นี่ตามใจ ก็ก่อนหน้านี้ ที่นี่เป็นดินแดนของอาณาจักรใต้พิภพ ใครมันจะกล้ามาก่อเรื่องกันล่ะ? ส่วนใหญ่คนที่อยู่ที่นี่มีแต่พวกทําผิดกฎหมายกันทั้งนั้น หากว่าพูดจาไม่เข้าหูล่ะก็ จําเป็นต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นในทันที

 

ดังนั้น ที่นี่จึงเปรียบเสมือนแดนสวรรค์ของเหล่าอาชญากรรม คนที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นคนที่มือเปื้อนเลือดของผู้บริสุทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นปล้น ฆ่า ข่มขืนล้วนแต่มีหมดและเพื่อที่จะหลีกหนีการไล่ล่าของศัตรูตน จึงได้หนีมายังทวีปใต้พิภพแห่งนี้

 

แต่ตอนนี้ที่นี่ได้ถูกอี้เทียนหยุนยึดครองไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงได้มีการทําความสะอาดครั้งใหญ่ ทําให้ที่นี่กลายเป็นที่ที่ปลอดภัย ปราศจากกลิ่นคาวเลือด จากนั้นก็ทําให้ทวีปเทียนหยุนมีชีวิตชีวา ทําให้เมืองน้อยใหญ่ในทวีปเทียนหยุนต่างก็มีผู้ฝึกตนหลั่งไหลเข้ามา พร้อมกับเข้าร่วมกับวังเทียนหยุนไม่หยุด

 

ก่อนที่วังเทียนหยุนจะยกระดับเป็นอาณาจักรเทียนหยุน จําต้องรีบเข้าร่วมให้ไว ไม่อย่างนั้นหากว่ายกระดับแล้วเสร็จ มาตรฐานในการเข้าร่วมก็จะเพิ่มขึ้น ทําให้การเข้าร่วมของพวกเขายากขึ้นด้วย ดังนั้น จึงมีหลายขุมอํานาจทําการสลายตัว แต่ใครจะรู้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญบุกมาฆ่าอย่าง

 

ยังไงก็ตาม ต่อให้รู้อย่างนี้ การสลายตัวก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอยู่ดี ไม่อย่างนั้น ก็ต้องเลือกที่จะอยู่ฝั่งเดียวกัน

 

“คิดหนี พวกเจ้าคิดว่าจะทําได้อย่างงั้นเหรอ?” ฉีกั่วหลินที่จับตามองอยู่ ต่างก็มองเห็นรายละเอียดของเมืองนี้ได้อย่างดี ดังนั้น คิดจะหนีไปจากใต้จมูกของเขา มันเป็นไปไม่ได้ นอกจากว่าจะมีเขาลงมือแค่คนเดียว

 

ยังไงก็ตาม ตอนนี้เขามาพร้อมกับผู้ฝึกตนเกินพัน สามารถบดขยี้ที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลองได้อย่างแน่นอน

 

“ข้าจะให้โอกาสครั้งสุดท้าย ยอมจํานนซะ ไม่อย่างนั้น ฆ่าไม่ให้เหลือ!” ฉีกั่วหลินมองพวกเขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็เอ่ยเงื่อนไขออกไป “หากพวกเจ้ายอมจํานนและกล่าวสัตย์สาบานว่าจะยอมเป็นทาสของพวกเรา ข้าก็จะไว้ชีวิตพวกเจ้า และให้พวกเจ้าได้รับใช้แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิ งของพวกเราให้โอกาสพวกเจ้าได้แข็งแกร่งขึ้น!”

 

พวกเขาไม่ต้องการฆ่าจนสิ้น ยังไงก็ต้องเหลือแรงงานไว้บ้าง พวกเขาเพิ่งมาถึงโลกมนุษย์ คนของพวกเขามีน้อยเกินไป เพื่อที่จะจัดการตามคําสั่งที่ได้รับมอบหมายมา จําเป็นต้องรับสมัครผู้ฝึกตนจํานวนมาก เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะทําการกวาดล้างศัตรูให้เหี้ยน เหมือนกับการสะสมปืนใหญ่

 

“หยุดความคิดนั้นเสียเถอะ!” บรรพชนเผ่าภูตพูดอย่างเย็นชา “ต่อให้ตาย พวกข้าก็จะไม่ยอมเป็นทาสพวกเจ้า!”

 

พวกเขาไม่อยากตาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหวาดกลัวต่อความตาย ก่อนหน้านี้ก็เคยเผชิญหน้ากับวิกฤตเป็นตายมาก่อน แต่พวกเขาก็ยังรอดมาได้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางรอดเหลือแล้ว

 

“ได้ งั้นเจ้าก็ตายซะ!”

 

ฉีกั่วหลินยิ้มเยาะ ก่อนจะฟาดฝามือออกไป พร้อมกับมีฝามือยักษ์ตกลงมาจากชั้นเมฆอีกครั้งพลังของมันหากเทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว น่ากลัวกว่ามาก

 

“มาได้ดี!”

 

บรรพชนเผ่าภูตรีบทํามุทราอย่างรวดเร็ว ทําการปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของค่ายกลออกมา แสดงพลังป้องกันที่เป็นที่สุด พร้อมกับปลดปล่อยการโจมตีของมหาค่ายกลออกไป ทันใดนั้นลําแสงนับไม่ถ้วนก็ยิงขึ้นมาจากพื้น เพราะกะทันหันเกินไป ทําให้ลําแสงพวกนั้นยิงใส่เหล่าศิษย์ที่มีระดับต่ํา หลังจากกรีดร้องโหยหวนอยู่ครั้งหนึ่ง ก็ร่วงตกจากเรือเหาะไป

 

ยังไงก็ตาม ลําแสงส่วนใหญ่ล้วนแต่ถูกฝามือยักษ์นี้ต้านเอาไว้ ไม่ว่าจะโจมตียังไงก็ไร้ผลจากนั้น ฝ่ามือยักษ์ก็ฟาดลงมาเมืองเทียนหยุน ทําให้ทุกสิ่งสั่นสะเทือน ทําให้โลกเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้ง

 

หลังจากแรงระเบิดผ่านพ้นไป เมืองเทียนหยุนยังคงอยู่ดีมีสุข มหาค่ายกลป้องกันประเทศยังไม่ถูกทําลาย แต่ว่าอักขระบนค่ายกลเริ่มเลือนรางเกิดรอยรั่ว ดูเหมือนว่าจะทนได้อีกไม่นาน

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาคมที่บรรพชนเผ่าภูตสร้างขึ้นนั้นร้ายกาจมาก แต่เพราะว่าระดับของเขาต่ําเกินไป เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ จึงทําให้ยากที่จะต้านทานได้นาน

 

แค่สามารถต้านทานสองฝ่ามือนี้ได้โดยที่ไม่ถูกทําลายไปก็ถือว่าร้ายกาจมากแล้ว แต่นี่ถึงกับสามารถโจมตีสวนกลับจนสังหารผู้ฝึกตนอีกฝ่ายไปได้อีก แม้ว่าจะเป็นพวกระดับต่ํา แต่อย่างนอยก็ดีกว่าฆ่าใครไม่ได้เลย

 

“สารเลวเอ๊ย!”

 

ฉีกั่วหลินอารมณ์เสียในทันที ไม่เพียงแต่จะทําลายมหาค่ายกลนี้ไม่ได้เท่านั้น แต่ฝั่งตนยังมีคนตายอีก แม้ว่าจะไม่นับว่าเป็นอะไร แต่ก็นับว่าเสียหน้าอย่างมาก!

 

“ดูเหมือนว่าจะบังคับให้ข้าต้องใช้พลังทั้งหมดจริงๆ ก่อนหน้านี้เพราะไม่อยากทําลายเมืองนี้ไปด้วยแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นไปไม่ได้แล้ว!” ที่ฉีกั่วหลินยังออมมืออยู่เป็นเพราะว่าไม่อยากทําลายเมืองนี้ไปด้วย ก่อนที่จะมา เขาได้บอกว่าจะต้องยึดเมืองหลวงของอีกฝ่ายมาให้ได้จึงไม่ได้ที่จะทําลายมัน

 

จากนั้น พลังของฉีกั่วหลินก็เพิ่มขึ้นมา ที่ด้านหลังของเขาก็ปรากฏร่างเงาขึ้นด้วยเช่นกันและร่างเงานั้นก็เป็นร่างเงาของหมียักษ์อย่างไม่คาดคิด พร้อมกับทําการฟาดฝ่ามือขนาดยักษ์ลงมาอีกครั้ง

 

“เปรี้ยง!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นมาอีกครั้ง หากเทียบกับครั้งก่อนแล้ว ระดับความรุนแรงถือว่ามากกว่าหลายเท่า พื้นดินที่นอกเมืองตอนนี้แยกออกเป็นหลุมลึก ดูราวกับเป็นหุบเหวอย่างไงอย่างงั้น

 

หลังจากแรงระเบิดหายไป มหาค่ายกลก็ยังไม่ถูกทําลาย ยังคงอยู่ดีมีสุข ดูแล้วช่างน่ากลัวจริงๆ

 

“เป็นไปได้ยังไง!” ฉีกั่วหลินกับพวกทั้งตกใจและโมโห ไม่คิดเลยว่าขนาดนี้แล้วยังจะทําลายไม่ได้อีก! โลกมนุษย์แข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?

 

แต่เมื่อดูอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าเผ่าภูตทุกคนกําลังพากันทํามุทราอยู่ พร้อมกับปลดปล่อยพลังของพวกเขาออกมา รวมพลังกันเพื่อใช้งานมหาค่ายกล แสดงพลังอันเป็นที่สุดออกมา!

 

ก่อนหน้านี้บรรพชนเผ่าภูตยังฝืนรับเอาไว้ได้ ตอนนี้เมื่อต้องมาเจอกับฝ่ามือที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าก็ทําให้พวกเขาพากันน่าซีดราวกับคนตาย ตัวบรรพชนเผ่าภูตเองก็ต้องกระอักเลือดออกมาสีหน้า ซีดเผือดยิ่งกว่าเก่า

 

ยังไงก็ตาม เขาก็ยังคงยืนอย่างมุ่งมั่น ทั่วร่างยังมั่นคง ดื้อด้านไม่ยอมสยบ

 

“ต่อให้ตาย พวกข้าก็จะไม่ยอมให้พวกเจ้าชนะไปอย่างง่ายๆ เด็ดขาด!” พวกเขาพากันรวมใจกัน ต่อให้ต้องตาย ก็จะต้องต้านทานเอาไว้ให้ได้

 

“ดี ดี ดี! ข้าก็อยากจะรู้นักว่าเจ้าจะทนได้สักแค่ไหน!”

 

จากนั้น ฉีกั่วหลินก็เหมือนกับเป็นบ้า ทําการโจมตีออกไปอย่างบ้าคลั่ง ฟาดฝามือที่ร้ายกาจออกไปติดๆ กัน 3 ฝ่ามือ กระแทกเข้าใส่มหาค่ายกลป้องกันประเทศนี้

 

จนในที่สุด มหาค่ายกลป้องกันประเทศก็ได้พังทลายลงเสียงดัง หลังจากนั้น ฝ่ามือยักษ์ครั้งสุดท้ายก็ได้ถูกฟาดลงมาท่ามกลางมหาค่ายกลที่พังทลาย สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขาจนนาซีดขาว แล้วอย่างนี้พวกเขาจะไปหลบกันที่ไหนได้?

 

และตอนนี้เอง ก็ได้มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา พร้อมกับร่างที่เปล่งแสงเจิดจ้าอย่างถึงที่สุด ร่างนั้นก็อบรรพชนเผ่าภูต!

 

สุดท้ายเขาก็ทําการผลาญแกนโลหิตเพื่อรับมือกับฝามือนี้!

 

“ท่านบรรพชน!” เชิงเสวียนร้องออกมาด้วยความเดือดดาล ขณะที่ในใจรู้สึกโศกเศร้า

 

“ตูม!”

 

บรรพชนเผ่าภูตรับฝ่ามือนี้อย่างแข็งขึ้น ทําให้ฝ่ามือยักษ์ถูกยันเอาไว้ แต่บรรพชนเผ่าภูตก็ถูกฝ่ามือนี้ซัดจนพุ่งออกมาราวกับอุกกาบาต เชิงเสวียนฉวยโอกาสนี้รีบเข้าไปรับร่างเขาเอาไว้ แต่เพราะแรงปะทะมากเกินไปจนทําให้เธอแทบจะรับตัวเขาเอาไว้ไม่อยู่

 

“ท่านบรรพชน!” เยชิงเสวียนเบ้าตาแดงก่ํา เมื่อเห็นร่างของบรรพชนเผ่าภูตเหลือเพียงลมหายใจรวยริน

 

“ ข้ารู้สึกผิดต่อพวกเจ้าจริงๆ ที่ไม่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้… ราชาภูต ราชาภูตจะต้องล้างแค้นให้พวกเรา” บรรพชนเผ่าภูตเหมือนกับคิดอะไรอยู่ จึงได้ยิ้มออกมา จากนั้นก็พลันขาดใจตาย

 

“ท่านบรรพชน ท่านบรรพชน…” เย่ชิงเสวียนกับพวกพากันน้ําตาไหลพราก เผ่าภูตทุกคนต่างก็พากันร่ําไห้โศกเศร้าต่อการตายของบรรพชนของพวกเขา

 

“ไม่รู้จักประมาณตน คิดจะท้าทายข้า สุดท้ายก็ต้องมาตายอย่างนี้แหละ!” ฉีกั่วหลินหัวเราะเยาะ “ฆ่าพวกมัน ผู้ชายให้ฆ่าทิ้ง เหลือผู้หญิงเอาไว้ นี่จะเป็นรางวัลสําหรับพี่น้องของพวกเราได้กินดื่ม!”

 

“ครับ!” พวกเขาพากันตะโกนออกมา จากนั้นก็เริ่มเข้ามาเข่นฆ่า

 

เย่ชิงเสวียนรอคอยให้พวกเขาบุกเข้ามาด้วยใจที่ขมขึ้น พร้อมกับตะโกนอย่างเศร้าสลดว่า “ราชาภูต พวกเราคงไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไปแล้ว ขอโทษด้วย…”

 

พวกเขาพากันยืนขึ้น เตรียมที่จะพลีชีพเพื่อต่อต้านศัตรูพวกนี้ เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว หากไม่ฆ่าตัวตาย ก็มีแต่ต้องรอรับการจัดการกับอีกฝ่าย

 

และในช่วงเป็นตายนี้เอง ก็ได้มีลําแสงสีฟ้าพุ่งมาจากที่ไกลตา

 

“เจ้าพวกสวะ ข้าจะฆ่าเจ้า!”

 

น้ําเสียงที่เย็นชาของอี้เทียนหยุนดังมาจากที่ห่างไกล เสียดแทงเข้าไปยังหัวใจของทุกคน เหมือนกับน้ําแข็งเย็นเยียบที่ตกลงกลางใจ!

 

“ระ ราชาภูต!”

 

เมื่อพวกเขาเห็นร่างอี้เทียนหยุน ก็พากันร้องออกมาด้วยความดีใจ พร้อมกับความรู้สึกที่มีหินถ่วงในใจได้ลดลง