บทที่ 1673 - ขากลัวว่าข้าจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1673 – ขากลัวว่าข้าจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

 

การต่อสู้เริ่มต้นและสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้แสดงความผ่อนปรนใดๆ ศัตรูของพวกเขาถูกสังหารลงไปทั้งหมด แม้ว่านี่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้บ่มเพาะระดับสรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่ได้มีผลลัพธ์ที่ต่างอออกไปจากการคาดการณ์ของชิงสุ่ยเลย

 

ความกังวลหลักของชิงสุ่ยคือเขากลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะหันไป จัดการกับหยินชา ชิงเฟิง หรือหมิงอวี้เสียก่อน หากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ชิงสุ่ยคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

 

การต่อสู้ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของพวกเขานี่คือความภูมิใจที่พวกเขาได้รับ ความรู้สึกของการกลับมามีชีวิตอีกครั้งนั้นทำให้พวกเขาอยากจะร้องไห้ออกมา

 

ในเวลานี้หลิงเหยียนยิ้มแล้วพยักหน้าให้เขารอยยิ้มอันเงียบสงบของเธอทำให้เขารู้สึกสงบอย่างแปลกประหลาด เขารู้สึกว่าผู้หญิงของเขาไม่ได้เย็นชาอย่างที่เธอเคยเป็นมาก่อน แม้ว่าท่าทางของเธอจะยังคงเหมือนเช่นเคย แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนไปในใจของเธอ

 

”พวกเจ้าปลอดภัยหรือไม่”เฟิงซี่ถามชิงซุยและคนอื่นๆ พร้อมแสดงท่าทางกังวล

 

”พวกเราทุกคนสบายดีท่านแม่คราวนี้ ท่านต้องขอบคุณ ชิงสุ่ยแล้ว ทั้งหมดก็เพราะเขาช่วยเอาไว้” หยินชาพูดอย่างมีความสุข

 

ทุกคนรู้เรื่องนี้ดีใครก็ตามที่เคยต่อสู้ร่วมกับชิงสุ่ยมาก่อน พวกเขาจะรู้สึกว่าชิงสุ่ยไว้ใจได้อย่างมาก ท้ายที่สุดตราบใดที่เขาอยู่ใกล้ๆทุกคนก็จะสามารถเพิ่มความสามารถขึ้นได้อย่างมหาศาลโดยที่พวกเขาไม่สามารถคาดคิด

 

”นี่เป็นเพราะความพยายามของทุกคนๆความสามัคคีคือพลัง ขอบคุณที่ทุกๆคนเชื่อใจข้า” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างสุภาพ

 

สิ่งที่ชิงสุ่ยพูดออกมาคือสิ่งที่อยู่ในใจจริงของเขาแต่ถึงอย่างไรทุกๆคนก็อดที่จะชมเชยเขาไม่ได้ ในโลกของผู้ฝึกตนพลังคือทุกๆอย่าง นี่คือสิ่งที่ทุกๆคนได้เรียนรู้มาก แต่ถึงอย่างไรในตอนนี้พวกเขากลับรู้แล้วว่ามันไม่เสมอไป สิ่งที่อยู่นอกเหนือจากพลัง แม้คนที่อ่อนแอกว่าก็สามารถเอาชนะคนที่แข็งแกร่งกว่าได้ นั้นคือแผนการ โดยแผนการที่ยอดเยี่ยมแม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดก็สามารถสังหารคนที่แข็งแกร่งที่สุดลงได้

 

ในการต่อสู้ครั้งก่อนชิงซุยไม่เพียงแต่ใช้รูปแบบวิหคเพลิงและทักษะอื่น แต่เขายังใช้การสร้างรูปแบบและกฎแห่งพระราชวังเก้าเทวาอีกด้วย

 

กฎแห่งพระราชวังเก้าเทวาของได้รับความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในตอนนี้เขาสามารถล็อคเป้าหมายของเขาได้แล้ว โดยที่สามารถเลือกว่าจะทำให้อ่อนแอลงหรือทำให้แข็งแกร่งขึ้นก็ได้ตามใจของเขา ทั้งหมดที่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา

 

เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้กฎแห่งพระราชวังเก้าเทวาของเขาดูมีประโยชน์อย่างมาก

 

แม้ว่าจะเกิดสงครามขึ้นแต่ก็มีคนไม่น้อยในนิกายไม่ยอมไปพวกเขายอมตายไปพร้อมกับนิกายดีกว่าต้องหนีอย่างไร้ศักดิ์สิทธิ์และเมื่อผลลัพธ์ออกมาพวกเขาเองก็ดีใจอย่างมาก และไม่คาดมาก่อนว่าพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปในที่แห่งนี้ได้

 

หยินชามองไปที่ทุกๆคนและกล่าวว่า”วันนี้พวกเราทุกคนจะฉลองกัน!”

 

ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้แม้ว่าทุกๆยังไม่จบลง แต่การสร้างขวัญและกำลังใจเวลานี้ก็จำเป็นอย่างมาก

 

ชิงสุ่ยและคนอื่นๆ ได้มาพร้อมกันที่งานเลี้ยง ในเวลานี้ทุกๆคนได้ทำการล้างเนื้อล้างตัวก่อนมาร่วมกันงาน

 

”ถึงแม้พวกเราจะเป็นครอบครัวเดียวกันจึงไม่ต้องสนใจพิธีอะไร แต่ในครั้งนี้ข้าต้องขอยกเหล้าให้น้องชิงสุ่ยแล้ว ข้าขอบคุณเจ้าจริงๆ ” หยินชายกจอกเหล้าขึ้นและคำนับชิงสุ่ย

 

”ท่านพี่พูดเกินไปแล้วมาดื่มกันในสนุกดีกว่าชิงสุ่ยหยิบจอกเหล้าขึ้นและดื่ม

 

”ข้าไม่รู้จริงๆว่าเป็นโชคดีของเราหรือไม่ได้รับหลิงเหยียนมาเป็นลูกบุญธรรมของเรา”เฟิงซี่ยิ้มและพูดว่า

 

”ท่านป้าอย่าคิดมากเลยข้านี่เป็นโชคของนางแล้ว และนางก็มีความสุขที่ได้อยู่เป็นลูกของท่าน”

 

เฟิงซี่รู้สึกเสียใจอย่างมากตั้งแต่จ้นจนจบกลับเป็นพวกเธอที่สร้างปัญหาให้ลูกบุญธรรมของเธอเสมอมา แม้เธอจะพูดว่าจะปกป้องหลิงเหยียน แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งเลยที่เธอจะได้ทำเช่นนั้น และในตอนนี้กลับเป็นหลิงเหยียนที่เป็นฝ่ายปกป้องเธอเสียมากกว่า

 

เวลาในการจัดงานได้ยาวนานถึง4ชั่วยามในเวลานี้ชิงสุ่ยได้ตัดสินใจที่จะไม่ไปจากที่นี่ เพราะเขารู้ดีว่านิกายกระบี่อสูรอมตะจะไม่ลามือจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน

 

หลังทานอาหารเสร็จหยินชา และคนอื่น ๆ ก็กลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น นี่ไม่ใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย และผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมาก็ยังไม่ใช่บทสรุป ดังนั้นพวกเขาจึงต้องอาศัยช่วงเวลาต่อไปปนี้ในการพักผ่อน

 

ในตอนนี้ชิสุ่ยได้ดึงหลิงเหยียนออกจากสถานที่ตรงนี้และกลับไปยังที่พัก

 

“ชิงสุ่ยเจ้าคิดว่าเมื่อใดกัน ที่ผู้คนจากนิกายกระบี่อสูรอมตะจะกลับมา?” เธอถามออกมาด้วยความกังวล

 

”ข้าไม่รู้แต่คงไม่ใช่ในสองสามวันนี้ข้ามมั่นใจ พวกเขาคงต้องประเมินอำนาจของนิกายจันทรานิรันกาลใหม่อีกครั้งกอนอย่างแน่นอน”

 

ชิงสุ่ยพูดอย่างผ่อนคลายราวกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจมันในความจริงแล้วเขานั้นก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมาก เพียงแค่เขาต้องสะกดมันเอาไว้ มิเช่นนั้นมันคงทำให้คนอื่นเสียขวัญอย่างแน่นอน

 

ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยก็ยังคงมีความมั่นใจในความสามารถของตัวเอง ด้วยเคล็ดวิชาสรวงสวรรค์วชิระ มันทำให้เขามั่นใจอย่างมา นอกจากนี้ตอนนี้เขายังมีความมั่นใจในรูปแบบของเขาอีกด้วย

 

แม้แต่ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งกว่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะรับมือในเวลานี้

 

ยิ่งไปกว่านั้นความพ่ายแพ้ในครั้งก่อนจะไม่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อนิกายกระบี่อสูรอมตะมากนัก แต่มันก็ยังมีผลต่อพวกเขา แม้ว่ามันอาจจะไม่เทียบเท่ากับแขนขวาที่ขาดไป แต่อย่างน้อยมันก็เทียบเท่ากับแขนว่าที่ไม่สามารถขยับไปได้อีกแล้ว

 

”เจ้าเป็นอย่างนี้เสมอมันราวกับว่าเจ้าไม่กลัวอะไรเลย”เธอยิ้มและพูดออกมา เธอชอบความมั่นใจของผู้ชายคนนี้อย่างมาก มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยทุกๆครั้งที่อยู่ใกล้เขา

 

”ใครพูดอย่างนั้น?ข้ากลัวเจ้ามากรู้มั้ย?” ชิงสุ่ยยิ้มและพูด

 

”กลัวข้า?ไหนเจ้ากลัวอะไรข้าบ้าง?” เธอกล่าวออกมาอย่างเขินอาย

 

“ก็หลายอย่าง อย่างเช่นกลัวว่าเจ้าจะทิ้งข้าไป หากวันใดวันหนึ่งข้าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป” ชิงสุ่ยกว้างออกมา

 

”ควบคุมอะไร?”เธอหันไปมองชิงสุ่ยและขมวดคิ้วขึ้นยิ้ม สายตาของเธอชัดเจนขึ้นและเต็มไปด้วยความเยือกเย็น มันทำให้ผู้ที่ถูกมองรู้สึกด้อยกว่าอย่างมาก

 

”ข้ามักอยากจะจูบเจ้าเสมอแต่ข้าก็พยายามควบคุมมันเอาไว้ มิเช่นนั้นข้าคงต้องตายลงในมือของเจ้าอย่างแน่นอน … ” นี่ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดที่เขากล่าวออกมา