บทที่ 687 เล่นสนุกเป็นเพื่อนนาย

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 687 เล่นสนุกเป็นเพื่อนนาย

มาแล้วมาแล้ว!”

“รีบมาดูเร็ว ขบวนรถของคู่สมรสมาแล้ว!”

เมื่อเห็นขบวนรถอันหรูหราค่อยๆ ขับเข้ามาช้าๆ พนักงานของโรงแรมก็ร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

พ่อแม่ของเจียวเหลียง นำเหล่าผู้อาวุโสเข้ามาอวยพรและทักทายอยู่ตรงหน้าประตูด้วยตนเอง

มาจนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่า เรื่องราวได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว

“พ่อ แม่ ลุงของผมหล่ะ?”

เมื่อลงจากรถ เจียวเหลียงก็รอแทบไม่ไหวที่จะถามออกไป

คุณแม่เจียวยิ้มแล้วพูดออกมา “ลุงของแกมีสถานะไม่ธรรมดา เขารออยู่ด้านในพร้อมกับหัวหน้าตระกูลอีกสองท่าน”

“เหลียงเอ๋อร์ วันนี้เป็นวันมงคลของแก ทำไมถึงได้ดูไม่มีกฎเกณฑ์แบบนี้”

“เร็วเข้า ไปดึงหานหลิงเข้ามาเข้ามาทักทายกับทุกคนเร็วเข้า”

“ทุกคนสามารถมาร่วมพิธีหมั้นของแกได้ ถือเป็นเกียรติของตระกูลเจียวเราแล้ว!”

ใกล้กันนั้น กลุ่มนักธุรกิจร่ำรวยเหล่านั้น ต่างก็พากันแสดงความยินดีให้กับเจียวเหลียง

ผู้ที่พวกเขาต้องการจะทำดีด้วยนั้นไม่ใช่เจียวเหลียง และก็ไม่ใช่ตระกูลเจียว แต่เป็นเว่ยเทียนเหอที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลเจียวต่างหาก

เสียงอวยพรดังระงม สีหน้าของเจียวเหลียงแดงก่ำ ว่าที่คู่หมั้นของตนเองถูกผู้อื่นแย่งไป เรื่องที่น่าอับอายนี้ เขาไม่อาจที่จะพูดออกมาได้จริงๆ 

เขาหันกลับไป กัดฟันแล้วมองไปยังรถโรลส์-รอยซ์คันนั้นที่อยู่ตรงกลาง ในดวงตามีเปลวไปลุกโชน!

ก่อนหน้านั้น เนื่องจากอำนาจของฉินเทียน เขาเลยจำต้องอดทน

มาตอนนี้ มาถึงถิ่นของตนแล้ว นักฆ่ามือฉกาจ ถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้ว ในที่สุดเขาก็ไม่ต้องอดทนอีกแล้ว!

“คนแซ่ฉิน รีบไสหัวลงมารับความตายเดี๋ยวนี้!”

“หากว่าวันนี้ฉันไม่ได้ลอกหนังของแกออกมา สาบานเลยว่าฉันไม่ใช่คนแล้ว!”

เกิดอะไรขึ้น? เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนต่างก็พากันอึ้งตะลึง พวกเขามองไปยังรถโรลส์-รอยซ์ด้วยความประหลาดใจ

ในที่สุดแล้ว ประตูรถก็ถูกเปิดออกมา ฉินเทียนลงจากรถ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่าทางดูสงบนิ่ง ร่างเพรียวบางภาคภูมิลุกยืนตรง ให้ความรู้สึกหยิ่งผยองต่อใต้หล้านี้

เปิดประตูรถด้านหลังออกด้วยตนเองก่อนจะพูดออกมา “ราชาเถียสิบสาม หานหลิง มาถึงแล้ว”

“วันนี้เป็นวันมงคลของพวกคุณ มีคนเข้าร่วมมากมายถึงเพียงนี้”

“ก็ให้พวกเขา มาเป็นสักขีพยานวันแห่งความสุขของพวกคุณกันเถอะ”

เมื่อเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกแล้ว เถี่ยโถวและหานหลิงต่างก็เผยความตื่นตระหนกขึ้นในดวงตา

ทว่า เถี่ยโถวกัดฟันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอย่างเด็ดเดี่ยว “หากว่าแม้แต่เรื่องเล็กๆ แค่นี้ยังแก้ไขไม่ได้แล้ว ยังจะแก้ค้นแทนตระกูลหูได้อย่างไร”

“หานหลิง พวกเราลงจากรถกันเถอะ!”

เมื่อเขาปรากฏตัวออกมา รูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดก็เรียกเสียงร้องอุทานออกมาในทันที

“เหลียงเอ๋อร์ นี้ก็เป็นเพื่อนของลูกด้วยอย่างนั้นหรือ? ทำไมลูกถึงได้มีเพื่อนที่น่ากลัวเช่นนี้ได้” คุณแม่เจียวถามออกมาด้วยความสะพรึงกลัว

เจียวเหลียงส่งเสียงพูดออกมาเสียงดัง “หานหลิง ฉันจะโอกาสเธออีกครั้ง!”

“ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ทันที รีบไล่เจ้าสิ่งนี้ออกไปแล้วกลับมาอยู่ในอ้อมแขนฉันซะ!”

“ไม่งั้นแล้ว ตระกูลหานของเธอ วันนี้ก็ต้องถูกทำลายลงไปพร้อมกับไอ้เจ้านี่ด้วย!”

คนของตระกูลหานเมื่อมองเห็นสถานการณ์นี้เข้า ก็พากันตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ตอนนี้พวกเขาเสียใจไม่ควรที่จะกอดความฝัน ไปรอคอยอะไรอย่างเช่นราชาเถียสิบสาม

ตระกูลเจียวที่อยู่เบื้องหน้า ถึงจะคู่ควรให้เป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาอย่างแท้จริง

“เรื่องตลกควรจะจบลงได้แล้ว! หานหลิง ยังไม่รีบกลับไปหาอ้อมกอดของคุณชายเจียวอีก!”

“คุณชายเจียวอย่าได้กล่าวโทษ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ จริงๆ แล้วเป็นหานหลิงที่ตั้งใจจะเล่นตลกกับคุณเท่านั้น”

“เธอทำเพื่อให้พิธีหมั้นในวันนี้ น่าจดจำยิ่งขึ้นไป”

หานหลิงที่แต่เดิมยังคงไม่สงบนิ่ง เมื่อได้ยินประโยคนี้เข้า ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหขึ้นมา

เจียวเหลียงผู้นี้ เพื่อที่ให้ได้เธอไป ข่มขู่คุกคามตระกูลของเธออยู่ตลอดเวลา

และในสายตาของคนในตระกูลเหล่านี้ เธอไม่ใช่คนคนหนึ่งเลยด้วยซ้ำไป แต่เป็นเพียงแค่หมากที่ใช้ต่อรองผลประโยชน์

ความโกรธพุ่งออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ แม้ว่าจะต้องต่อสู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง เธอก็จะไม่ยอมเป็นลูกแกะที่นิ่งเงียบอีกต่อไป

เธอวางมือลงบนมือของเถี่ยโถว ก่อนจะลงจากรถ ปรากฏยังเบื้องหน้าของทุกคน

ฉินเทียนเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา มองไปยังทุกคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะพูดออกมาเสียงดัง “ทุกท่าน ตอนนี้ผมขอประกาศสักเล็กน้อย”

“ท่านนี้ ก็คือราชาเถียสิบสามแห่งวิหารเทพของพวกเรา”

“ราชาเถียสิบสามพึงพอใจในตัวหานหลิง วันนี้จึงใช้หนังสือรับรองจากจักรพรรดิมาขอแต่งงาน อีกทั้งยังสัญญาว่า จะตรวจสอบคดีโศกนาฏกรรมของตระกูลหูอีกด้วย ช่วยแก้แค้นให้กับตระกูลหู”

“ขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมพิธี ตอนนี้พวกเราเข้าไปด้านในกัน มาร่วมกันเป็นสักขีพยานให้กับช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเขากัน”

อะไรกัน?

นี้ ช่างเหิมเกริมเกินไปแล้ว!

ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นมาทันที

“เจียวเหลียง ตกลงแล้วนี้มันเรื่องอะไรกัน? ยังไม่พูดออกมากับพวกเราให้ชัดเจนอีกหรือ!” พ่อของเจียวเหลียง เจียวหยวน พูดออกมาเสียงเคร่งขรึม

เจียวเหลียงกัดฟันก่อนจะพูดออกมา “พ่อ พ่อไม่ต้องสนใจ”

“วันนี้ฉันจะต้องแก้แค้นให้ได้!”

“คนแซ่ฉิน ฉันรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแกที่สร้างเรื่องขึ้น ดีมาก ตอนนี้ หากว่ากล้าพวกแกก็เข้าไป”

“เวทีด้านในถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว”

“ขอบใจเพื่อนเก่ามาก” ฉินเทียนยิ้มออกมา แล้วหันไปพูดกับเถี่ยโถวและหานหลิง “เช่นนั้นวันนี้ ก็ให้ฉันเป็นผู้รับผิดชอบเถอะ”

“คู่สมรสใหม่ทั้งสอง เชิญด้านใน”

สมาชิกแก๊งของเถี่ยโถวเหล่านั้น ทั้งหมดกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู พวกเขาติดตามอยู่ด้านหลังของเถี่ยโถวและหานหลิง เตรียมพร้อมที่จะเปิดฉากต่อสู้ได้ทุกเมื่อ

กลุ่มพิเศษกลุ่มหนึ่ง เดินเข้าไปในโรงแรมเหล็ก

ในเวลานี้ แขกเหรื่อทั้งหลาย ในที่สุดก็แน่ใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

งานหมั้นของตระกูลเจียว กลับถูกขัดขวาง

ไม่เพียงแต่ถูกขัดขวาง อีกฝ่ายยังต้องการจะยึดครองดินแดนอีกด้วย มายังโรงแรมของตระกูลเจียว ใช้พื้นที่ของตระกูลเจียว เพื่อจัดพิธี?

ช่างได้ยินก็ไม่แม้แต่จะได้ยินมาก่อน!

ฉินเทียนผู้นี้ เป็นใครกันแน่?

ท่ามกลางเสียงร้องอุทาน ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาราวกับสายน้ำ

ภายในล็อบบี้ของโรงแรม ตำแหน่งตรงกลาง มีเก้าอี้ตัวใหญ่วางไว้สามตัว และมีคนนั่งอยู่สามคน

เวลานี้ พวกเขากำลังจ้องมองไปยังฉินเทียนที่เดินนำเข้ามาอย่างเย็นชา

“นายก็คือฉินเทียน?” คนทางด้านซ้ายพูดออกมาอย่างเย็นชา

ฉินเทียนเลิกคิ้วขึ้น “เป็นฉัน”

“เถ้าแก่ทุกท่าน ก็มาเป็นสักขีพยานในช่วงเวลาแห่งความสุขของน้องชายฉันอย่างนั้นหรือ?”

“ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ”

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเว่ยเทียนเหอกระตุกอยู่หลายครั้ง กัดฟันแล้วพูดออกมา “ได้ยินมาว่านายต่อสู้เก่ง”

“หากว่าอยากจะให้พวกเราเป็นสักขีพยานในช่วงแห่งความสุขของน้องชายนาย ก็เอาชนะคนของพวกเราให้ได้เสียก่อนสิ”

“มีอย่างหนึ่งที่ฉันไม่รังเกียจหากจะบอกนายให้ แพ้ ก็เท่ากับตาย!”

เมื่อสิ้นเสียงลง พวกอันธพาลที่หลบซุ่มอยู่รอบๆ ก็ส่งเสียงตะโกนแล้วพุ่งเข้ามาล้อมรอบฉินเทียนและคนอื่นๆ เอาไว้

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ในมือถือดาบยาวเอาไว้ สายตาเต็มไปด้วยความดุร้าย

“นายท่าน ไม่จำเป็นต้องให้ท่านอาจารย์กู้ต้องลงมือ ให้ผมช่ายจีเป็นคนจัดการเขาเอง!”

ช่ายจีเองก็เป็นยอดฝีมือทางด้านวรยุทธ์เช่นกัน ก่อนที่กู้ฉางเฟิงจะมายังตระกูลเว่ยนั้น เขาเองก็เป็นกำลังสำคัญของตระกูลเว่ยเช่นกัน

ตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าของทุกคน เขาแทบทนรอไม่ไหวที่จะแสดงมันออกมา

เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่เช่นนี้ ฉินเทียนก็ยังคงดูสงบนิ่ง

เขามองไปยังเว่ยเทียนเหอก่อนจะยิ้มแล้วพูดออกมา “ในเมื่อต้องการจะเล่นสนุก เช่นนั้นฉันก็จะเล่นสนุกกับนายเอง”

“วันนี้เป็นวันมงคลของราชาเถียสิบสามของพวกเรา ก็ถือเสียว่าเป็นรายการบันเทิงก็แล้วกัน”

“แต่ทว่ามีเรื่องที่จะบอกเอาไว้ก่อน หากว่าคนของนายแพ้แล้วละก็ พวกนายก็ยืนอยู่ด้านข้าง รอชมพิธีอย่างเชื่อฟังก็แล้วกัน”

เว่ยเทียนเหอกรุ่นโกรธเสียจนต้องตะโกนออกมาเสียงดัง “ฉินเทียน แกมันบ้าไปแล้ว!”

“ฉันรับปากแล้ว!”

“ช่ายจี ไม่ต้องปราณี!”

“ครับ!” ช่ายจีกัดฟันดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ กระโดดขึ้นไปยังขอบของเวที

เวทีแห่งนี้ เดิมนั้นจัดเตรียมเอาไว้สำหรับเจียวเหลียงและหานหลิงจัดพิธีหมั้น รอบบริเวณนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้

ตอนนี้ กลายเป็นเวทีการต่อสู้ไปเสียแล้ว

ดวงตาทั้งคู่ของเขาจ้องเขม็งไปยังฉินเทียน “คนแซ่ฉิน อย่ามาหาว่าฉันรังแกนาย”

“พูดมาเถอะ นายถนัดใช้อาวุธอะไร ฉันจะให้คนนำมันมาให้นาย!”

ในตอนนี้ มือของฉินเทียนว่างเปล่า เขารู้สึกว่า ต่อให้จะชนะ ก็คงจะไม่ได้โดดเด่นนัก เขาต้องการปรามฉินเทียนลงอย่างสมบูรณ์ เพื่อใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตนเอง