ตอนที่ 740 นายก็ไม่ได้รู้ดี
ฉางกวนหลงหน้าแดงก่ำด้วยความอายทันทีเขาตะโกนใส่ฉางกวนยวีซินอย่างกังวลและอึดอัด “นี้มันเรื่องศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ลูกไม่เกี่ยว!”
”หนูไม่เกี่ยว?งั้นจะให้หนูเกี่ยวกับใคร? ไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อของหนูจะเป็นคนที่ไม่รักษาคำพูดแบบนี้ หนูไม่ได้หยาบคายนะ แต่หนูว่าพ่อคงไม่สามารถดูแลจัดการคนได้หรอกถ้าพ่อเป็นคนไม่รักษาต่อคำพูดตัวเองแบบนี้ แล้วระดับพลเอกทั้งสองคนมาสู้กันเองแล้วแบบจะสร้างความเชื่อให้ผู้คนได้ยังไง?!”
”พะพ่อ…” ฉางกวนหลงพูดตะกุกตะกักอย่างเถียงไม่ออก ที่ฉางกวนยวีซินพูดก็ถูกต้องแล้ว ทั้งเขาและชูฮันต่างเป็นพลเอกของจีนกันทั้งคู่ มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาทะเลาะกันต่อหน้าสาธารณะ และสาเหตุที่สถานการณ์มันพัฒนามาในทิศทางนี้นั้นก็เพราะมันเป็นเจตนารมณ์ของฉางกวนหลงเองล้วนๆ
สำหรับฉางกวนยวีซินที่เป็นคนหยุดการทุกอย่างเอาไว้แน่นอนว่าในที่นี้ชูฮันเป็นคนที่มีความสุขที่สุด
ชูฮันยิ้ม”เฮ้ เฮ้! ยวีซินพูดถูก”
ฉางกวนยวีซินที่กำลังสอนพ่อของตัวเองอย่างเปิดเผยอยู่หมุนตัวเดินเข้าไปหาชูฮันแววตาของชูฮันมีความพอใจ ทันใดนั้นใบหน้าสวยงามของยวีซินก็ปรากฏต่อหน้าชูฮันเต็มตา
”นายคิดว่านายทำถูกเหรอไง?”ยวีซินเองก็ไม่ไว้หน้าชูฮันเหมือนกัน มือน้อยๆเท้าที่สะโพก ช่วงตัวบนเอนเข้าหาชูฮัน และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ไม่เอาน่า นายคิดจะทำอะไร? คิดว่าฉันจะชื่นชมนายเหรอไง?”
หลังจากนั้นยวีซินก็ดึงตัวกลับและตะโกนเสียงดังลั่น
”พ่อยืนหันหลังไปเลยค่ะหยุดอยู่กับที่และห้ามพูดอะไรทั้งนั้น!” ยวีซินหมุนตัวกลับมา
หน้าของฉางกวนหลงแดงก่ำหากเขาก็ยังลังเลที่จะกลับหลังหัน หนึ่งคือเขาเป็นกังวลเพราะเขาจะมองไม่เห็นเหตุการณ์อะไรเลยต่อจากนี้ และอีกอย่างก็คือเขากลัวว่าลูกสาวเขาจะสั่งสอนเขาต่อหน้าสาธารณะชน ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? สุดท้ายแล้วฉางกวนหลงก็ยอมหมุนตัวกลับไป
ชูฮันยังคงยิ้มอยู่เขาไม่ได้สนใจอะไร ยกมือขึ้นแตะปลายจมูก “ยวีซิน ตำแหน่งของเธอที่ค่ายหนานตู้น่าจะใหญ่พอตัว แม้แต่ผู้นำของหนึ่งในค่ายที่ใหญ่ที่สุดสามอันดับของจีนยังต้องศิโรราบ”
ยวีซินย่นจมูก”อย่าเปลี่ยนเรื่อง เอาล่ะ ฉันรู้ว่านายเป็นคนยุ่ง ถึงทิ้งซางจิ่วตี้ไว้ที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า แล้วนายมาที่นี้ทำไม?”
ผู้คนรอบๆพยายามเอียงหูฟังหากพวกเขาแทบไม่ได้ยินอะไรเลย
ทีมกุ้งเสือดำที่ยืนห่างออกไปมองไปที่หลูปิงเซ่ออยู่หลายครั้ง ทุกคนมีสีหน้าประหลาดๆ เจ้าหญิงฉางกวนยวีซิน ผู้นำหญิงเพียงคนเดียวของค่ายที่ใหญ่โตและเจริญรุ่งเรืองแห่งนี้ไม่ใช่…
และในตอนนั้นเอง—–
ฟรึบ!
จู่ๆชูฮันก็ยื่นมือออกมาและวางลงที่เหนือสะโพกของฉางกวนยวีซินและคว้าตัวยวีซินมาไว้ในอ้อมแขน ส่วนมืออีกค้างก็จับปลายคางของยวีซินเอาไว้
การกระทำของชูฮันนั้นเกินจะทนเสียงของชูฮันไม่ได้ดัง มีเพียงแค่เขาและยวีซินเท่านั้นที่สามารถได้ยิน “เธอเคยบอกว่าถ้าต้องการหมอทหารสามารถมารับตัวได้เสมอ ข้อสัญญานี้ยังใช้ได้อยู่มั้ย?”
”@$%^&*(@$%^&*$%^&!”
ผู้คนรอบๆแตกตื่นกับการกระทำของชูฮันเสียงถกเถียงวิจารย์ดังสนั่นระเบิดราวกับน้ำเดือด เกิดความวุ่นวายไปทั่วทุกที่
แม้พวกเขาจะไม่ได้ยินว่าชูฮันพูดอะไรกับฉางกวนยวีซินแต่แค่การกระทำของชูฮันมันก็มากพอจะทำให้สถานการณ์ตกอยู่ภาวะเดือด!
ทีมกุ้งเสือดำและหลูปิงเซ่อที่ยืนอยู่ด้านหลังรวมถึงฟานเจี้ยนที่อาศัยโอกาสซ่อนตัวในฝูงชนมานานแล้วต่างประหลาดใจที่ได้เห็นการทำลายล้างโลกของชูฮัน ชูฮันยืนอญู่ใกล้ประตูค่ายหนานตุ้ ท่ามกลางสายตาหลายพันคู่ที่จับจ้องมา ชูฮันหยอกล้อลูกสาวเพียงคนเดียวของผู้นำค่ายหนานตู้?
นี้มันเกินไปแล้ว!
นี้หัวหน้ารู้ตัวตนของฉางกวนยวีซินหรือเปล่า?แล้วทำไมการกระทำของทั้งคู่ถึงดูสนิทสนมคุ้นเคยกันจัง!
แล้วไปดึงอีกฝ่ายมากระทันหันแบบนั้นจะโดนรุมกระทืบมั้ย?
หน้าของฉางกวนยวีซินตะลึงค้างจากนั้นก็มองชูฮันด้วยใบหน้าน่าสะพรึงกลัว ชูฮันดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนท่ามกลางสายตาของทุกคนที่กำลังมองมา
พ้ะ!
ฉางกวนยวีซินรีบปัดมือชูฮันและออกมาจากอ้อมแขนของชูฮันทันทีพร้อมกับถอยหนีไปอีกสองก้าว หน้าสวยๆของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอายจนแทบจะเป็นสีเลือด รู้สึกเกะกะมือทั้งสองข้างจนไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงหน้า ก้มหน้าลงมองปลายเท้าของตัวเอง นำ้เสียงแผ่วเบาหากแฝงไปด้วยความไม่พอใจ “นายทำอะไร? จริงจังหน่อย!”
ทุกคนอึ้งอีกครั้งโดยเฉพาะทีมกุ้งเสือดำ หลูปิงเซ่อและฟานเจี้ยนที่อยู่ด้านหลัง…สุดยอดมากฉางกวนยวีซินนอกจากจะไม่ตามเกมส์ของหัวหน้าแล้ว ยังรู้ทันอีก
หลูปิงเซ่อเสียงดังอย่างไม่อยากจะเชื่อ”นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้ว่าหัวหน้าก็เก่งในเรื่องผู้หญิงเหมือนกัน!”
”ใช่เลย!”เสี่ยวเคินเองก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปเหมือนกัน นี้เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าเรียบเฉยราวกับน้ำแข็งของเสี่ยวเคินแสดงอาการตะลึงออกมา “แล้วสถานะของผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ธรรมดา แถมยังสวยเหมือนเทพธิดา!”
ฉางกวนหลงที่ยืนห่างออกไปจ้องทั้งคู่ไม่วางตา เขาเอ่ยถามฮวงชูเจิ้นและมู๋หรงยู่เฉิงที่อยู่ข้างๆ “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆก็เสียงดัง?”
ฮวงชูเจิ้นและมู๋หรงยู่เฉิงรีบดึงสติกลับมาจากอาการตกใจทั้งคู่กลืนน้ำลายอึกและเอ่ยตอบ “ผมก็ยังไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไหร่ครับ”
ดังนั้นในครั้งนี้ชูฮันล้มเหลวที่จะทำลายล้างค่ายหนานตู้ทีมกุ้งเสือดำและหลูปิงเซ่อตามชูฮันเข้ามาในค่ายหนานตู้พร้อมกับการต้อนรับอย่างดีที่สุด ฟานเจี้ยนตกลงกับชูฮันว่าจะแยกกันไปคนละทาง ทุกคนต่างยุ่งกับหน้าที่ของตัวเอง
บนทางเดินระหว่างประตูมาถึงใจกลางเมืองในค่ายหนานตู้บรรยากาศมันแปลกประหลาก ฉางกวนหลงยืนอยู่คนเดียวตรงหน้า สีหน้าตึงเครียด ชูฮัยและยวีซินเดินเข้าไปหาฉางกวนหลง และตั้งแต่แรกจนจบหน้าของยวีซินยังไม่ได้เงยขึ้นมาและยังคงแดงก่ำตลอดไม่หาย
ชูฮันเดินสบายๆนานๆครั้งเขาก็จะเหยียดแขน ขยับหัวไหล่ ปัดผมบ้าง จับหน้าตัวเองเล่นบ้างสลับไปมาระหว่างเดิน
สำหรับสถานการณ์นี้ฮวงชูเจิ้นและมู๋หรงยู่เฉิงมีสีหน้าหวาดกลัวจนหน้าตาซีดเซียว พวกเขารู้สึกว่าชูฮันกล้ามากเกินไป ทันทีที่พลเอกฉางกวนลงไม่อยู่ เขาก็กระตุกลูกสาวของพลเอกเข้าไปในอ้อมกอด?
เจริญล่ะ!
ส่วนทีมกุ้งเสือดำและหลูปิงเซ่อที่เดินตามมาก็ได้ชื่นชมความสุดยอดของหัวหน้าตัวเองในใจหัวหน้าของพวกเขาได้ลูกสาวของผู้นำค่ายหลัก!
ในขณะที่ไม่มีใครรู้ตั้งแต่การปรากฏตัวของฉางกวนยวีซิน เสี่ยวเย่ที่พยายามลดการมีตัวตนของตัวเองก็เจอช่วงเวลาเหมาะสมที่จะวิ่งไปโดยไร้เงา และไปปรากฏตัวในตรอกมืดเพื่อพบกับใครคนหนึ่ง…