ตอนที่ 47-2 มือที่ร้อนระอุ

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์

กโยซึลรู้สึกได้ว่านิ้วของบีพาอันถูกปลดจากข้อมือของตนไปทีละนิ้วอย่างช้าๆ ระมัดระวัง ราวกับว่ากำลังอาทร จนในที่สุดข้อมือของกโยซึลก็ถูกปล่อย ทันทีที่ฝ่ามือร้อนถูกปลดออกไป กโยซึลก็สัมผัสได้ถึงความเย็นที่กระทบข้อมือ  

 

 

“ชุดนั่นคงจะโอบกอดชายาได้เพียงเท่านี้สินะ เช่นนั้นจึงไม่เพียงพอใช่หรือไม่ ชายาถึงได้…” 

 

 

ริมฝีปากของบีพาอันดูเหมือนจะถูกยกขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับเขาพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ 

 

 

“ถึงอย่างไรในตอนนี้ชายาก็ไม่ต้องการมันอีกแล้ว” หลังจากนั้นน้ำเสียงคลุมเครือเมื่อครู่ก็กลับไปเย็นชาดังเดิม “เช่นนั้น หรือว่าจะทรงมี ‘สิ่งอื่น’ ที่สามารถทำให้ชายา ‘อบอุ่น’ ได้แล้วกัน” 

 

 

ครั้งนี้กโยซึลไม่ได้ตอบออกไป นางทำเพียงแค่ยืนตัวสั่นอยู่อย่างนั้น 

 

 

“เมื่อเดือนที่แล้วหรือไรนะ น้องชายของเราดูจะแสดงความเป็นห่วงเป็นใยชายาเป็นอย่างมากในตอนที่สนทนาอยู่กับเราที่อุทยานดอกไม้”  

 

 

บีพาอันมีน้องชายอยู่หลายคน ทว่าทั้งคู่รู้ดีว่า ‘น้องชาย’ ที่กำลังถูกพูดถึงคือใคร  

 

 

รูแฮ  

 

 

ไม่ต้องเอ่ยชื่อก็เป็นที่ทราบดีอยู่แล้ว กโยซึลหยุดนิ่งตัวแข็งทื่อ ทว่าบีพาอันยังคงพูดต่อราวกับกำลังบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 

 

 

“ในตอนนั้นเราเพียงแค่ฟังผ่านๆ ไม่ได้ให้ความสนใจอันใด” บีพาอันพูดกับกโยซึลที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้า “แต่ในการไต่สวนคดีครั้งนี้ชายาเหมือนจะออกหน้าเพื่อรูแฮเสียเหลือเกิน” 

 

 

การไต่สวนคดี กโยซึลลืมไปเสียสนิทว่าในตอนนั้นตนกระวนกระวายมากมายเพียงใด แต่หลังจากที่รูแฮถูกปล่อยตัวออกมาก็ลืมเรื่องการไต่สวนไปเสียสนิท การสอบสวนเกิดขึ้นจากการที่ฮเยจินและลูกของนางที่อยู่ในครรภ์ถูกปองร้าย และนางกำนัลที่วางยาพิษก็ถูกจับตัวได้ในทันที รูแฮที่ถูกพบเห็นว่าได้พูดคุยกับนางกำนัลคนนั้นถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนสั่งการ ทว่าความจริงก็ถูกเปิดเผยจากคำสารภาพของนางกำนัลผู้นั้นจึงทำให้รูแฮถูกปล่อยตัวออกมา สุดท้ายนางกำนัลผู้นั้นได้ถูกประหารชีวิต ฮเยจินและลูกในครรภ์ของนางปลอดภัย ตำหนักบุกบีถูกเพิ่มการเฝ้าระวังมากขึ้น ในตอนนี้กโยซึลไม่สามารถไปที่นั่นในฐานะเพื่อนคุยเล่นได้อีกต่อไปแล้ว 

 

 

และในระหว่างที่มีการไต่สวนคดี กโยซึลเข้าข้างรูแฮและพยายามที่จะทำให้รูแฮรอดพ้นจากข้อกล่าวหาจึงไปอ้อนวอนแก่บีพาอัน นางมาพบเขาพร้อมกับก้มหัวสารภาพว่าตนอยู่กับรูแฮด้วยตัวเอง ทว่าไม่คิดเลยว่าบีพาอันจะพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ขณะนี้กโยซึลตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่ทั้งนางและบีพาอันต่างรู้ดีแต่ไม่เคยพูดมันออกมา แต่ถึงอย่างไรนางก็ไม่อาจเอ่ยปากพูดสิ่งใดต่อหน้าสามีที่เบื้องบนประทานให้ได้โดยง่าย 

 

 

“ในตอนนั้นหม่อมฉันเพียงต้องการช่วยเหลือเขาที่ไร้ความผิดเท่านั้นเพคะ” 

 

 

“เช่นนั้นแล้วได้พบเขาหรือไม่” 

 

 

บีพาอันหาได้รับฟังคำแก้ตัวของกโยซึลแต่อย่างใด แนวสันหลังของกโยซึลเย็นวาบ นางตั้งใจจะบอกความจริงให้บีพาอันได้รับรู้อย่างชัดแจ้งว่าตอนนี้นางจะไม่รอเขาอีกต่อไปแล้ว ทว่านางสมควรทำเช่นนี้จริงหรือ ถึงแม้บีพาอันจะเคยบอกว่าเขานั้นไม่สนใจเรื่องอื่น แต่ทั้งคู่ก็เป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้ว ตนสามารถบอกความจริงแก่เขาได้จริงหรือ คำถามของบีพาอันทำให้กโยซึลสับสน แต่เขาก็ไม่เว้นช่องว่างให้นางได้คิดทบทวนสิ่งใด 

 

 

“เราจะถามอีกครั้ง ได้พบเขาหรือไม่” 

 

 

แววตาเฉียบคมของบีพาอันจ้องมองไปที่สองตาของกโยซึล นางไม่สามารถหลบสายตานั้นได้เลย และในที่สุดดวงตากลมโตก็หลั่งน้ำตาออกมา บีพาอันไม่ปล่อยกโยซึลไปง่ายๆ เขาจะต้องถามนางจนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนจากนางเป็นแน่ เขาไม่มีทางเลือกอื่นให้นางเลย และในที่สุดกโยซึลก็พยักหน้าช้าๆ หัวใจของนางเต้นรัวแรงราวกับจะระเบิดออกมา 

 

 

“พบเพคะ ในตอนนี้เองก็ยังพบกันอยู่เพคะ ใช่แล้วเพคะ เป็นเขาเอง เป็นรูแฮที่ทำให้หม่อมฉันรู้สึกอบอุ่นขึ้นเพคะ” 

 

 

ทันใดนั้นบีพาอันก็ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว กโยซึลหลับตาแน่น น้ำตาที่รื้นขึ้นมาก่อนหน้านี้ร่วงจากดวงตาคู่นั้นทันที กโยซึลคิดว่าฝ่ามือนั้นจะต้องกระทบที่แก้มตนดั่งที่รูแฮเคยถูกกระทำที่สวนหลังวังฝ่ายนอกในตอนที่ทั้งสามคนได้รับรู้ถึงความรู้สึกของกันและกันเป็นครั้งแรกในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาเป็นแน่ ทว่าหาได้มีสิ่งใดเกิดขึ้นไม่ กโยซึลที่ห่อตัวลงค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ มือขวาของบีพาอันถูกยกค้างกลางอากาศ มือนั้นถูกกำไว้แน่นและสั่นระริก มือใหญ่กำหมัดแน่นจนกระดูกปูดโปนขึ้นมา กโยซึลที่เห็นดังนั้นจึงมองไปที่ใบหน้าของเขา  

 

 

ใบหน้าเรียบเฉยบัดนี้เปลี่ยนไปแล้ว 

 

 

บีพาอันเม้มริมฝีปากตนแน่นราวกับกำลังระงับความโกรธอย่างยากลำบาก เขาจ้องมองกโยซึลด้วยใบหน้าแดงก่ำ สายตาสั่นไหวของกโยซึลเหม่อมองอากาศว่างเปล่า แล้วเลื่อนสายตาไปที่มือที่กำแน่นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเขากำมันแน่นมากเพียงใดที่ฝ่ามือนั้นถึงมีเลือดไหลออกมาจากการถูกเล็บฝังลงไป บีพาอันลดมือลงอย่างรวดเร็วกว่าในตอนที่เขายกมันขึ้น 

 

 

“อย่าเรียกฮวางเซจาว่ารูแฮต่อหน้าเรา ถึงอย่างไรเราก็เป็นพระสวามีของชายา แล้วก็ ขอเพียงแค่ไม่ให้ถึงหูองค์จักรพรรดิ เพียงไม่ทำให้เราเดือดร้อน ชายาจะทำสิ่งใดก็ทำตามแต่ที่ประสงค์เถิด” 

 

 

‘ชายาจะทำสิ่งใดก็ทำตามแต่ที่ประสงค์เถิด’ 

 

 

ท้ายที่สุดแล้วคำที่เขาสามารถเอ่ยออกมาได้ คำที่เขาบอกแก่กโยซึล ไม่ว่าเมื่อใดก็มีเพียงแค่คำนี้เท่านั้น เพราะกโยซึลได้ฟังมานับครั้งไม่ถ้วน มันจึงไม่ผิดจากที่คิดไว้นัก ทว่าทันทีที่ได้ฟังคำนั้น กโยซึลกลับรู้สึกราวกับว่าบางสิ่งได้ขาดสะบั้นลง บีพาอันหันตัวกลับโดยไม่แม้แต่จะมองหน้านาง 

 

 

“กลับไปเสียเถิด ต่อไปหากไม่มีสิ่งใดสำคัญ อย่าได้มาหาเราด้วยเรื่องเช่นนี้อีก” บีพาอันโบกมือไล่ทั้งที่ยังคงหันหลังให้กโยซึลอยู่ หลังจากที่กโยซึลถวายความเคารพแล้วนางจึงเดินออกจากห้องหนังสือไป 

 

 

บีพาอันที่ยืนอยู่อีกพักใหญ่หลังจากที่กโยซึลออกไปแล้วใช้มือค้ำไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ จากนั้นจึงค่อยๆ เดินไปที่เก้าอี้อย่างช้าๆ เขายกมือกุมหน้าผากคู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่ชุดอภิเษก สายตาจับจ้องไปที่ผ้าแพรผืนแดงนั้น แล้วหลังจากนั้นบีพาอันก็ปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว ชายเสื้อกระทบที่ชั้นวางหนังสือแล้วร่วงหล่นลงพื้นดั่งกลีบกุหลาบรูโกซ่าที่แตกละเอียด 

 

 

ใบหน้าที่หันกลับมาของบีพาอันซีดเผือด