ตอนที่ 1735

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1735  น่าสงสัย (5)
  “เจ้าแน่ใจหรือว่าอยากทำเช่นนี้?”เฟยเหยียนต้องใช้เวลาสักพักในการทำความเข้าใจคำพูดของจวินอู๋เสีย เขาลูบคางตัวเอง ในใจยังคงครุ่นคิดถึงความหมายและนัยยะที่อยู่เบื้องหลังคำพูดที่จวินอู๋เสียเพิ่งบอกเขา
  “ข้าแค่ให้ทางเลือกส่วนจะเลือกอย่างไรนั้น ไม่ใช่ปัญหาที่ข้าต้องกังวล” จวินอู๋เสียกล่าวพร้อมกับยักไหล่
  “เอาล่ะดูเหมือนข้าจะกังวลไปเปล่าๆ สมองของเจ้าเป็นอะไรที่คนธรรมดาอย่าหวังจะเทียบได้เลย ข้าว่าข้าควรจะอยู่เงียบๆในวิหารมังกรดีกว่า” เฟยเหยียนกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ หัวใจที่เต็มไปด้วยความกังวลก็สงบลง
  “หลังจากนี้เจ้าต้องรับผิดชอบจัดการเรื่องของวิหารมังกร” จวินอู๋เสียพูด
  เฟยเหยียนตอบกลับด้วยการทุบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ
  “เจ้าวางใจได้เรื่องความคิดวางแผน ข้าอาจเทียบกับเจ้าไม่ได้ แต่เรื่องจัดการอะไรพวกนี้ ข้ารับประกันว่าจะไม่ทำให้เจ้าเกิดปัญหาแน่นอน”
  จวินอู๋เสียพยักหน้า
  จากนั้นเฟยเหยียนก็ตัดสินใจว่าเขาอยู่ที่นั่นนานพอแล้วไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่นใด แต่การมีจวินอู๋เหยานั่งอยู่ข้างๆแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนหมุด แม้ว่าดวงตาคู่นั้นจะยิ้มแย้ม แต่กลับทำให้เฟยเหยียนรู้สึกว่าเขาต้องไม่อยู่ที่นั่นนานไปกว่านี้
  เฟยเหยียนกล่าวคำอำลากับจวินอู๋เสียและจวินอู๋เหยาอย่างรวดเร็วแล้วรีบพุ่งตัวออกจากห้องของจวินอู๋เสีย ขณะที่กำลังจะไป เขาก็นึกได้ว่าต้องปิดหน้าต่างให้สนิทก่อน
  จนกระทั่งหน้าต่างปิดลงอีกครั้งเฟยเหยียนก็มีสีหน้าตื่นตกใจทันที
  [เดี๋ยวนะ!]
  [เขาพลาดอะไรไปรึเปล่า?]
  [ดึกขนาดนี้แล้วทำไมพี่ใหญ่อู๋เหยาถึงอยู่ในห้องของเสี่ยวเสีย?]
  [ดูจากการแต่งตัวของพวกเขาดูเหมือนว่าก่อนที่เขาจะมา พวกเขาหลับไปแล้ว……]
  เฟยเหยียนกลืนน้ำลายขณะจ้องมองไปบนท้องฟ้ายามราตรี [ถ้าเขาจำไม่ผิด ดูเหมือนในห้องของจวินอู๋เสีย……มีเตียงอยู่แค่เตียงเดียวใช่ไหม?]
  ในที่สุดเฟยเหยียนก็เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เหยาถึงจ้องเขาด้วยสายตา“เป็นมิตร” ขนาดนั้น
  เมื่อตระหนักถึงสิ่งที่เพิ่งค้นพบเฟยเหยียนก็ไม่กล้ารีรออยู่ที่นั่นอีกแม้แต่วินาทีเดียว ร่างของเขาพุ่งห่างออกไปอย่างรวดเร็วภายใต้ราตรีที่มืดมิด
  แต่สิ่งที่ผุดขึ้นในใจของเขานอกจากความตกใจสุดขีดแล้ว ยังมี……ความอิจฉาเล็กๆอยู่ด้วย
  [เขาเองก็ปรารถนาจะได้ร่วมหลับนอนกับเสี่ยวรั่วเช่นกัน……]
  ……………..
  เมื่อแสงแรกยามอรุณรุ่งสาดส่องลงมาที่พื้นดินเหล่าผู้เยาว์ที่หลับสนิทก็ค่อยๆตื่นขึ้น
  จวินอู๋เสียเดินไปที่ห้องของเยว่อี้เพื่อตรวจอาการของเยว่อี้ตามปกติเนื่องจากความคิดที่เปลี่ยนไป ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเยว่อี้ฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้นมาก เขาให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่เศร้าหมองหดหู่อีกต่อไป แต่มีความรู้สึกโหยหาอยากมีชีวิตต่อไป
  ตอนที่จวินอู๋เสียเข้ามาในห้องของเยว่อี้จื่อจินกำลังป้อนอาหารยาให้เยว่อี้อยู่ อาหารยานั้นเย่เม่ยกับเย่ฉาผลัดกันทำ และเย่กูเป็นคนเอาไปส่งในตอนเช้า ก่อนที่จื่อจินจะป้อนให้เยว่อี้ด้วยตัวเอง งานนี้จริงๆแล้วเป็นของเย่กู แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่ทำให้เยว่อี้บาดเจ็บนี้ทำให้จื่อจินรู้สึกผิดอย่างมาก นางจึงรับงานส่วนนี้ไว้เอง
  เย่กูไม่อาจดีใจมากกว่านี้ได้อีกแล้วที่มีคนเต็มใจดูแลเยว่อี้เขาจะได้ไม่ต้องทำ ดังนั้นเขาจึงเห็นด้วยอย่างเต็มใจที่สุด
  เมื่อจวินอู๋เสียเดินเข้าไปในห้องการกระทำของจื่อจินก็แข็งทื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่วันที่จวินอู๋เสียว่ากล่าวนางอย่างจริงจัง จื่อจินก็เกิดความกลัวจวินอู๋เสียขึ้นมา นางก้มหน้า แล้วพยักหน้าให้จวินอู๋เสียพอเป็นพิธีโดยไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมอง นางพยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับจวินอู๋เสียขณะป้อนอาหารให้เยว่อี้ต่อ
  เยว่อี้มองสีหน้าอึดอัดของจื่อจินแล้วอดถอนหายใจเบาๆไม่ได้แม้ว่าจื่อจินจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่นางซื่อเหลือเกิน การกระทำของนางทำให้เยว่อี้นึกถึงน้องสาวตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องทางโลกของเขา
ตอนที่ 1736  นี่คือการแก้แค้น (1)
  เยว่อี้มองสีหน้าอึดอัดของจื่อจินแล้วอดถอนหายใจเบาๆไม่ได้แม้ว่าจื่อจินจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่นางซื่อเหลือเกิน การกระทำของนางทำให้เยว่อี้นึกถึงน้องสาวตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องทางโลกของเขา
  “เป็นยังไงบ้าง?”สายตาของจวินอู๋เสียกวาดมองด้านหลังที่แข็งทื่อของจื่อจิน แล้วโน้มตัวลงไปหาเยว่อี้
  ใบหน้าหล่อเหลาของเยว่อี้เจือด้วยรอยยิ้มวิธีคิดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ทำให้บุคลิกของเขาเปลี่ยนไปด้วย ความสดใสมีชีวิตชีวาอย่างที่เด็กหนุ่มควรมีได้กลับคืนสู่ตัวเขา เยว่อี้หน้าตาดีมาก ใบหน้าที่มืดมนอยู่ตลอดเวลาของเขาและท่าทางที่ยากจะเข้าถึงทำให้ผู้คนถอยห่างจากเขาโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ปมในใจของเขาได้คลี่คลายลงแล้ว รอยยิ้มสดใสที่มองเห็นได้ในตอนนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกตาพร่าเลยทีเดียว
  แต่……
  จวินอู๋เสียมีภูมิต้านทานต่อหนุ่มหล่อมานานแล้วเนื่องจากใบหน้าของจวินอู๋เหยาได้ทำให้การชื่นชมความงามของนางสูงขึ้นถึงระดับที่เป็นไปไม่ได้
  “ข้าดีขึ้นมากแล้วเมื่อวานนี้ก็ลุกจากเตียงไปเดินได้บ้างเล็กน้อย ถึงจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนลูกธนูที่ถูกยิงออกไปในก้าวเดียวเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ฟื้นตัวได้ไม่น้อย เชื่อว่าอีกไม่นานข้าจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ” เยว่อี้พูดด้วยรอยยิ้ม
  จวินอู๋เสียพยักหน้าในตอนแรกที่เยว่อี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในสายตาของคนอื่นแม้ว่าจะรักษาหายแล้วเขาก็จะต้องพิการอยู่ดี แต่คนผู้นี้ได้รับการช่วยเหลือจากจวินอู๋เสีย ถ้าเขาไม่ฟื้นตัวด้วยความเร็วขนาดนี้ นางคงคิดว่ามันแปลกแล้ว
  “ในเมื่อเจ้าเกือบจะหายแล้วเช่นนั้น……ก็น่าจะถึงเวลาที่เราจะคิดบัญชีกับจูเก๋ออินแล้ว” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็พูดขึ้น
  รอยยิ้มบนใบหน้าของเยว่อี้แข็งไปเล็กน้อยเขามองจวินอู๋เสียอย่างประหลาดใจ
  [คิดบัญชี?]
  [กับจูเก๋ออิน?]
  ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้สำหรับเยว่อี้ นี่ของของขวัญที่สวรรค์มอบให้เขาแล้ว เขาไม่เคยคิดจะเอาคืนจูเก๋ออินเลยสักครั้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพลังของจูเก๋ออินเหนือกว่าเขามาก แค่เรื่องที่วิหารมังกรอยู่เบื้องหลังจูเก๋ออินก็เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถไปหาเรื่องได้แล้ว เยว่อี้จึงตัดสินใจที่จะลืมเรื่องทั้งหมดไปตั้งแต่แรกแล้ว
  ความคิดนี้ของเยว่อี้ไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอแต่เพราะเขาได้เห็นความร้ายกาจของโลกใบนี้มากเกินไป ขนาดผู้อาวุโสเยว่แห่งวิหารเงาจันทราเขายังสู้ไม่ได้ นับประสาอะไรจะหวังไปสู้กับประมุขน้อยแห่งวิหารมังกร?
  แต่วันนี้จวินอู๋เสียกำลังจะให้เขาล้มเลิกการตัดสินใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
  เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเยว่อี้ดวงตาของจวินอู๋เสียก็ฉายแววเข้าใจ สิบสองวิหารมีความแตกต่างทางด้านอำนาจมากเกินไป ความคิดนั้นได้ฝังรากลึกในหัวใจของเยว่อี้ ทำให้เขาไม่สามารถวางตัวเองให้มีสถานะเท่าเทียมกับจูเก๋ออินและแก้แค้นให้ตัวเองได้
  แต่……
  นางทำได้
  “ไม่ต้องแปลกใจขนาดนั้นข้าไม่เคยคิดจะปล่อยจูเก๋ออินไปง่ายๆอยู่แล้ว เหตุผลที่ข้าไม่ได้เคลื่อนไหวมานานก็เพราะข้าอยากให้เจ้าได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าจูเก๋ออินจะมีจุดจบเช่นไร”
  “คุณชายจวิน……ไม่ต้องหรอกจริงๆแล้ว……ที่……ที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าก็ขอบคุณเจ้ามากแล้ว ข้าไม่ได้อยากแก้แค้น ไม่จำเป็นต้องไปเอาคืนจูเก๋ออินเลย ข้ารู้ว่าคุณชายจวินไม่ใช่คนธรรมดา แต่สถานะของจูเก๋ออินนั้นพิเศษมาก ตัวเขาเองก็มีพลังที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แล้วยังมีวิหารมังกรคอยหนุนหลังอยู่อีก พวกเรา……ไม่จำเป็นต้องไปปะทะกับเขาหรอก” เยว่อี้กล่าวอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของจวินอู๋เสีย
  จวินอู๋เสียได้ช่วยชีวิตเขามอบความหวังใหม่ให้กับเขา เขามองจวินอู๋เสียเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของเขา การหาทางแก้แค้นจูเก๋ออินนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป เยว่อี้จึงไม่ปรารถนาจะให้จวินอู๋เสียเป็นศัตรูกับเจ้าปีศาจร้ายนั่นเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับเขา