กโยยองได้ยินบีพาอันพึมพำบางอย่าง ทว่ามันเบาเสียจนนางไม่อาจเข้าใจได้ว่าเขาพูดว่าอะไร บีพาอันในตอนนี้ดูเหมือนจะหมดความสนใจต่อกโยยองแล้ว
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ตนไม่อาจปล่อยไปได้ กโยยองคว้าจับที่ชายแขนเสื้อของบีพาอัน และมืออีกข้างหนึ่งของนางก็ดึงโบที่เสื้อของตน
“ฝ่าพระบาทฮวางแทจาเพคะ”
กโยยองไม่อาจเอ่ยคำอื่นใดได้ สิ่งที่นางทำได้มีเพียงแค่เรียกบีพาอันเท่านั้น ชุดผ้าแพรโปร่งบางที่มองทะลุเห็นด้านในร่วงหล่นลงตามส่วนเว้าโค้งของกโยยองอย่างนุ่มนวล ชั้นในขนาดเท่าฝ่ามือปกปิดส่วนลับไว้อย่างหมิ่นเหม่ กโยยองที่อยู่ในสภาพเปลือยกายจ้องมองไปที่บีพาอัน นางไม่รู้ว่าตัวเองไปเอาความกล้ามาจากที่ใด ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นความรู้สึกติดค้างในใจในคืนวันส่งตัวก็เป็นได้
“ฝ่าพระบาทฮวางแทจาเพคะ”
กโยยองเอ่ยเรียกบีพาอันอีกครั้งพร้อมทั้งรั้งมือของเขาไว้ มือของกโยยองเย็นเยียบราวกับก้อนน้ำแข็ง เมื่อจับไปที่มือของบีพาอันจึงสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น หากมืออันอบอุ่นนี้สัมผัสที่กายตนจะรู้สึกอย่างไรกัน ความรู้สึกของกโยยองในตอนนี้เอ่อล้นขึ้นมา
“นี่ชายารองกำลังทำสิ่งใด”
“ได้โปรดกอดหม่อมฉันทีเพคะ ครั้งนี้ขอทรงอย่าเมินเฉยต่อหม่อมฉันอีกเลยนะเพคะ”
พรวด
กโยยองโผเข้าไปในอ้อมแขนของบีพาอัน ร่างเปลือยของนางสัมผัสกับเนื้อผ้าเย็น ส่งเสียงดังสวบสาบ นางเพิ่มแรงไปที่มือที่ใช้โอบกอดบีพาอันไว้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่ง ทว่าการที่นางวิ่งเข้าใสเขาอย่างกะทันหันเช่นนี้ก็ทำให้ร่างสูงใหญ่ของบีพาอันซวนเซได้ สุดท้ายบีพาอันก็ล้มลงที่เบาะรองนั่งสีแดงเข้ม และกโยยองเองก็ล้มลงที่หว่างขาของบีพาอันเช่นเดียวกัน บีพาอันขมวดคิ้วมุ่น เขาวางมือไว้ที่ไหล่ของกโยยอง
ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงผิวกายอ่อนนุ่มของหญิงสาว ไหล่กลมมนเรียบเนียน รวมทั้งหัวใจที่เต้นรัวของกโยยอง น่าตกใจยิ่งที่บีพาอันกัดริมฝีปากของตัวเอง ในตอนที่มือของเขาสัมผัสไหล่ของนาง กโยยองพลันหลับตาแน่น และแน่นอนว่าการกระทำของเขาต่อจากนี้ช่างคาดเดาได้ง่ายนัก เขาจะต้องผลักหรือไม่ก็สะบัดตัวนางออก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดเขาจะต้องปฏิเสธนางเป็นแน่ ทว่าบีพาอันเพียงจับไหล่ของนางไว้อย่างนั้น
“…ฝ่าพระบาทฮวางแทจาเพคะ?”
กโยยองเงยหน้าขึ้น แล้วทำใจกล้ามองไปที่บีพาอัน ตาเรียวคมของเขาฉายแววเวทนา ปลายคิ้วถูกกดลงต่ำ ทันใดนั้นกโยยองที่ความรู้สึกเอ่อล้นก็ยื่นแขนออกไป
“จะทรงกอดหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ”
กโยยองวางมือของตนลงบนมือของบีพาอัน เป็นครั้งแรกที่มือของทั้งคู่สัมผัสกัน ไม่สิ เป็นครั้งแรกที่ผิวเนื้อของทั้งคู่ได้สัมผัสกันเสียด้วยซ้ำ อาจเพราะด้วยเหตุนี้จึงทำให้กโยยองมีความหวังขึ้นมา กโยยองหันหน้าไปจุมพิตที่มือของบีพาอันที่วางอยู่บนไหล่ตน เป็นครั้งแรกที่นางจุมพิตลงบนกายแกร่งของบุรุษเพศ ถึงแม้ว่ามันเป็นเพียงการจุมพิตลงบนนิ้วมือก็ตาม นิ้วของบีพาอันกระตุกเล็กน้อย ริมฝีปากที่ถูกเม้มแน่นคลายตัวลง พร้อมกับมีเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ยากจะฟังเข้าใจเปล่งออกมา
“เหตุใดนางถึง…”
“เพคะ?”
กโยยองถามซ้ำอีกครั้ง ทว่าแทนทีบีพาอันจะตอบกลับเขากลับพลิกตัวของกโยยองลงบนเบาะรองนั่ง ตัวของหญิงสาวนั้นเบาและเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล ผมยาวสยายไปทั่วเบาะ และเส้นผมที่สยายอยู่บนผิวกายก็ทอดยาวลงตามส่วนเว้าโค้งของนาง บีพาอันที่ก่อนหน้านี้จับไหล่ของกโยยองไว้ อยู่ๆ ก็พลิกตัวนางลงบนเบาะรองนั่งแล้วขึ้นไปค่อมตัวนาง ดวงตาสีครามเข้มของบีพาอันมองสำรวจร่างกายของกโยยองด้วยสายตาว่างเปล่า ใบหน้าของกโยยองขึ้นสีระเรื่อพร้อมกับหันหน้าหนีสายตานั้น ลำคอเรียว กระดูกไหปลาร้าที่นูนขึ้นมา ไหล่กลมมน ลำแขนทอดยาว หน้าอกกลมแน่น และเอวคอดบาง บีพาอันเพิ่มแรงบีบไปที่มือที่จับไหล่กโยยองอยู่
“โอ๊ย” กโยยองส่งเสียงร้องออกมาราวกับตระเตรียมไว้แล้ว บีพาอันที่ก้มมองกโยยองด้วยสายตาเย็นชา หลุดเสียงหัวเราะที่เหมือนกับแค่ถอนหายใจออกมาสั้นๆ
“เพียงเท่านี้…” บีพาอันพึมพำบางอย่างคนเดียวอีกครั้ง ในตอนนี้กโยยองเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว นางที่ความรู้สึกท่วมท้นเพียงฝ่ายเดียวยื่นแขนออกไป
“ฝ่าพระบาท…บีพาอัน” นางลองทำใจกล้าเรียกเพียงชื่อของเขาดู กโยยองมองไปที่บีพาอันด้วยสายตายั่วยวนพร้อมกับสัมผัสโบที่เสื้อของเขา
“พอแค่นี้เถิด”
ทว่ามือที่กำลังจะปลดโบนั้นกลับถูกมือใหญ่ของบีพาอันขวางเอาไว้ มือที่อบอุ่นเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นร้อนรุ่มดั่งไฟร้อน กโยยองรีบปลดมือออกทันที บีพาอันลุกขึ้น เขาปลายตามองไปยังกโยยองที่นอนอยู่บนเบาะรองนั่ง เป็นครั้งแรก กโยยองรู้สึกอับอายต่อสภาพเปลือยเปล่าของตน
“เราจะถือว่าเป็นเพียงการกระทำที่ผิดพลาดของชายารอง” น้ำเสียงอ่อนโยนที่กระซิบแผ่วเบาเมื่อครู่หายไปแล้ว เหลือเพียงน้ำเสียงแข็งกร้าวที่เย็นยะเยือกราวกับสลักน้ำแข็ง
มันจบแล้ว
ความรู้สึกของนางบอกอย่างนั้น ทั้งการมาเยือนอย่างกะทันหันที่นางไม่เข้าใจ และโอกาสที่ดีที่สุดที่นางอาจจะได้ถูกโอบกอด ทั้งหมดมันจบสิ้นแล้ว กโยยองพลันตื่นจากฝันทันที
นี่เราทำอะไรลงไป
เปลื้องผ้าตัวเองแล้ววิ่งเข้าไปกอดบุรุษอย่างนั้นหรือ เป็นการกระทำที่ไม่งามเป็นอย่างยิ่ง ทั้งดูไม่งาม สำส่อน และหุนหันพลันแล่นยิ่งนัก ความรู้สึกอับอายและละอายใจพรั่งพรูเข้ามา ใบหน้าของนางขึ้นสี น้ำตารื้นขึ้นมาจากขอบตาร้อนผ่าว ทว่าก่อนที่น้ำตาจะหลั่งไหลออกมาจากหางตาของนาง บีพาอันที่ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าของตนให้เรียบร้อนก็หันหลังเดินออกจากห้องบรรทมไปโดยไม่แม้แต่จะปลายตามองกโยยอง
พลั่ก
เสียงปิดประตูที่ไร้ความลังเลเป็นเหมือนดั่งมีดสั้นที่ปักลงบนอกของกโยยอง
***
วันนี้กโยซึลเองก็ไปที่สวนหลังวังฝ่ายนอก เมื่อใดก็ตามที่นางไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่บนเนินกลางสวน นางจะได้พบกับเขาเสมอ
“เรามาช้าอีกแล้ว”
“กโยซึลหาได้มาช้าไม่ เป็นข้าเองที่มาเร็วเกินไป”
รูแฮตอบออกไปด้วยรอยยิ้มกว้าง การเอ่ยทำความเคารพกันหาได้จำเป็นต่อทั้งคู่อีกไม่ มีเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนของรูแฮและรอยยิ้มสดใสของกโยซึลเท่านั้น ทั้งคู่ประสานมือกันอย่างขวยเขิน
และเงาที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ ชะลออยู่ด้านหลังต้นไม้อยู่เพียงครู่ จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว