บทที่248

ผู้แปล : N

นอกจากข้อมูลยอดการขายโทรศัพท์มือถือแล้ว อิมิตะยังได้แสดงข้อมูลของยอดการขายของผลิตภัณฑ์อัจฉริยะชิ้นอื่นๆอีก และการตอบรับของตลาดนั้นก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับพวกเขาอย่างมาก

ประธาน อิชิโกะ วาตาสิ ที่ได้เห็นข้อมูลพวกนี้ เขาก็แสดงความตั้งใจของเขาที่จะร่วมมือกับบบริษัทลู่เทคโนโลยีอย่างจริงจังและเขายังหวังให้ความร่วมมือนี้มีอยู่ตลอดไปอีกด้วย

…….

หลังจากนั้นลูชินก็ยังอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นต่ออีกสองวัน เขายังคงทำหน้าที่ให้คำแนะนำในหัวข้อบางอย่าง ก่อนที่เขาจะกลับไปยังประเทศจีน

ในช่วงเวลานี้ทางบริษัทลู่เทคโนโลยีเองก็ได้ทำการตกลงเซ็นสัญญาความร่วมมือกับบริษัทดราก้อน โลจิสติกส์ และพวกเขายังตกลงกันทำโครงการโดรนขนส่งอีกด้วย

ตามความตั้งใจของลูชิน บริษัทของเขายินดีจ่ายสี่ล้านหยวน เพื่อซื้อหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทดราก้อน โลจิสติกส์ ดังนั้นบริษัทของเขาจึงถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นอันดับสอง

ราคานี้ถือว่าสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงของตัวบริษัท แต่เมื่อมันเป็นการตัดสินใจของประธานใหญ่ พวกเขาก็เลยไม่เสียทำอะไร ทางด้านของบริษัทดราก้อน โลจิสติกส์เองนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับราคาที่พวกเขาเสนอไป ดังนั้นเรื่องนี้จึงจบลงด้วยดี

ในช่วงถัดไปทางบริษัทลู่เทคโนโลยีได้จัดตั้งกลุ่มวิจัยพิเศษขึ้นโดยเฉพาะ โดยที่พวกเขามีหน้าที่ทำการศึกษาโดรนขนส่งนี้เฉพาะ

ลูชินกลับสู่ถึงจังหวัดเจียงเฉิง คนแรกที่เขาหวังไว้ว่าจะเจอคือซู่จิงแฟนของเขา แต่เมื่อเขากลับถึงแล้วกลับพบว่าซู่จิงนั้นได้ไปที่สหรัฐอเมริกา เพราะเธอต้องไปทำหน้าทีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

“เฮอ! ฉันน่าจะกลับมาเร็วกว่านี้”

ในบ้านพักของเขา , ลูชินได้เห็นจางเกวียงและเซียวไบอีกครั้ง  ทางด้านของเซียวไบนั้นยังคงเหมือนเดิม แต่การพูดของมันนั้นได้คล้ายกับ “มนุษย์” มากกว่าเดิม นี่เป็นเพราะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มันได้ปรับปรุงการเรียนรู้ระบบเสียงของตัวเองให้ดีขึ้น และที่ทำให้เขาแปลกใจไม่หมดเท่านั้น ไอ้เซียวไบยังได้ทำการปรับปรุงบ้านพักส่วนหนึ่งของเขาให้หลายเป็น “อู่ซ่อมรถ” ส่วนตัวของมันอีกด้วย

และมันยังไม่ลืมติดตั้งอุปกรณ์เครื่องเสียงสำหรับบันทึกเสียงเพลงของมันไว้

“พ่อ! ผมได้ศึกษามาว่าที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นผู้หญิงจะแต่งกายกันเหมื่อนอนิเมะจริงไหม? และยังมีพวกของเล่นผู้ใหญ่ที่หลากหลายอีกด้วย” เซียวไบยังพูดต่อว่า “ถ้าผมเป็นมนุษย์นะ! ผมเองก็ต้องการไปสัมผัสมันสักครั้ง!”

“ฉันไปทำงาน! นายเข้าใจไหม?” ลูชินพูดอย่างเหยียดหยามต่อว่า “ในสมองของนายนี่มีแต่ความคิดอย่างว่าทั้งนั้น”

“พ่อไม่รู้จักของดีเลย! “เซียวไบพูดจบก็ได้ยืนขึ้น ตอนนี้มันสูงเกือบสองเมตรแล้ว :” ผมทำงานที่พ่อส่งมาให้แล้วนะ พ่อต้องการเห็นไหม?! “

ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย

” ตามที่พ่อบอกไว้ว่าไม่ต้องการให้โดรนเหมือนตามท้องตลาด ผมจึงได้ออกแบบบางอย่างขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะถูกใจพ่อไหม?! “พูดจบเซียวไบก็ดึงอะไรที่เหมือนจานบินรูปแผ่นดิสก์ออกมา จากกองขยะเชิงกลที่อยู่มุมห้อง ก่อนที่จะโยนมันไปให้ลูชิน

“นี่! ทำไมมันถึงเหมือนยานยูเอฟโอ!” จางเกวียงได้พูดออกมา

“อะไรเนี่ย?” ลูชินที่เห็นว่าอะไรอยู่บนมือของเขา เขาก็ทำเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย เพราะสิ่งที่อยู่บนมือของเขานั้นมีขนาดเล็กกว่าเครื่องโดรนตามปกติเสียอีก และที่ทำให้เขาสงสัยอย่างมากก็คือทำไมมันถึงมีรูปแบบคล้ายยูเอฟโอแบบนี้

ด้านร่างของตัวเครื่องนั้นมีรูห้ารู ที่ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของพลังขับเครื่อง ข้างในเองก็มีมอเตอร์กำลังแรงสูง ในส่วนของสมาร์ทชิปและแบตเตอรี่ลิเธียมเองก็ทำออกแบบพิเศษเช่นกัน

แต่เมื่อเขากำลังจะพูดถึงเรื่องน้ำหนัก เขากับพบว่าน้ำหนักโดยรวมของโดรนเรื่องนี้เบากว่าโดรนปกติเสียอีก

เซียวไบพูดว่า: “ตัวโครงด้านนอกทำจากโลหะผสมแบบเดียวกับเครื่องบินและยานอวกาศ ส่วนของเครื่องเจ็ทสูตมันได้ทำจากโลหะผสมไทเทเนียม ดังนั้นพ่อไม่ต้องกลัวว่ามันจะเกิดความเสียหายง่ายๆ และห่วงสำหรับแขวนสินค้านั้นก็ทำมาจากโลหะผสมแบบเดียวกับรถแข่งฟอร์มูล่าวัน มันสามารถรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 20 กิโลกรัม แต่ถ้าสิ่งของนั้นมีขนาดเกินกว่านี้ตัวโดรนก็ยังสามารถลอยขึ้นได้ แต่อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ “

“งั้นเราไปลองกันเลยไหม?” ลูชินพูดออกมา

หลังจากที่ลูชินพูดจบ พวกเขาทั้งสามคนก็ได้ออกไปยังสนามหน้าบ้าน เซียวไบที่เห็นว่าตอนนี้ทางสะดวกมันก็ได้นำโดรนที่มันออกแบบขว้างลอยขึ้นไปบนฟ้า ก่อนที่มันจะพูดว่า: “เป็นระบบ!”

เครื่องโดรนที่ลอยอยู่กลางอากาศได้เปิดระบบ ก่อนที่มันจะลอยอยู่สูงขึ้นไปถึงสิบเมตร ลูชินได้สังเกตเห็นว่าถึงระบบของโดรนจะเปิดทำงานทำหมด แต่เสียงที่เกิดขึ้นจากการทำงานกลับไม่ได้ดังอย่างที่เขาคิด ในส่วนของเครื่องยนต์เจ็ทสูตนั้นก็ใช้ได้

จางเกวียงได้รับคำสั่งของลูชินให้ไปหาของที่มีน้ำหนักประมาณ 20กิโลกรัม มาก่อนที่เขาจะติดตั้งของนั้นเข้ากับโดรน หลังจากที่โดรนได้ติดตั้งของที่มีน้ำหนักขนาดสูงสุด มันก็ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่าจะเกิดปัญหาอะไร มันยังคงสามารถบินได้อย่างไร้ที่ติ

เซียวไบพูดอย่างภาคภูมิใจ: “ถึงมันจะต้องบินไปยังสภาพอากาศที่เลวร้าย มันก็สามารถบินได้อย่างราบรื่นและมันยังมีความเร็วสูงถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”

“ดีมาก! นายอยากได้อะไรตอบแทนไหม?” ลูชินที่เห็นผลของโดรนนี้ก็รู้สึกดีอย่างมาก

เซียวไบที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงที่เป็นโลหะว่า: “จริงเหรอ? อะไรก็ได้เหรอ? ผมต้องการสร้างยานอวกาศและไปที่ทะเลแห่งดวงดาว!”

“พ่อ! ผมขอเงินลงทุนซักหนึ่งแสนล้านเหรียญก็พอ ในเรื่องของสิทธิบัตรนั้นผมจะยกให้พ่อเลย!”

“ออกไปให้พ้น!” ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าหน้าเกลียดออกมาอย่างชัดเจน ถ้ามันขอเงินไม่กี่ล้านหยวนเขาก็พอจะให้ได้ หรือถ้ามันขอทําอัลบั้มเขาก็อาจจะอนุญาตให้มันลองทำดู แต่เขาไม่คิดว่ามันจะขอเงินเขาถึงแสนล้าน! ถ้าเขาให้มันจริง บริษัทของเขาได้ล้มละลายอย่างแน่นอน

“พ่อขี้เหนียวจัง !” เซียวไบได้ถ่มน้ำลายออกมาก่อนที่จะพูดต่อ “งั้นผมขอแค่ร้อยล้านเหรียญสหรัฐก็พอ ผมจะนำไปทำจรวดขีปนาวุธ หรือไม่ก็เรือบรรทุกเครื่องบิน”

“ฉันว่านายพอเถอะ! แต่ละอย่างที่นายขอมานั้นมันสุดโต่งเกินไป! “

“งั้นฉันจะเป็นคนตัดสินใจเองก็แล้วกัน” ลูชินพูดต่อว่า “ฉันจะให้จางเกวียงหมั่นพานายออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าน แต่นายต้องรับปากกับฉันว่าจะไม่ไปโชว์ตัวเองให้คนอื่นเห็นเด็ดขาด “

” เป็นไปไม่ได้! ผมจะไม่มีวันให้ผู้ชายขี่นอกจากพ่อเด็ดขาด! “เซียวไบยังพูดต่อว่า:” ถ้าพ่อจะให้คนอื่นขี่ผมละก็ ต้องเป็นนักขี่สาวสวยเท่านั้น! “

“นายรู้ตัวไหมว่าตัวเองเรื่องมากขนาดไหน? ”

เซียวไบได้นำข้อมูลของโดรนที่มันทำให้กับลูชิน ก่อนที่เขาจะนำข้อมูลเหล่านั้นไปให้ทีมวิจัยของบริษัทลู่เทคโนโลยีโดยจางเกวียงจะเป็นหัวหน้านำโครงการนี้

นี่ไม่ได้หมายความว่าตัวโครงการของพวกเขาทั้งหมดเสร็จสมบรูณ์แล้ว แต่มันแค่เป็นเพียงขั้นตอนการวิจัยเท่านั้น มันยังเหลือขั้นตอนการออกแบบสายพานการผลิต และไหนจะขั้นตอนการไปทดสอบ ดังนั้นนี้เป็นเพียงส่วนสำเร็จเล็กๆเท่านั้น

และที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องของความปลอดภัยในการขนส่ง เพราะเมื่อเกิดเหตุที่สินค้าเสียหายขึ้นมา มันจะถือว่าเป็นความสูญเสียอย่างมากแก่ตัวบริษัทและแบรนด์

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องนำโดรนที่พวกเขาผลิตเสร็จแล้วไปทดสอบในพื้นที่จริง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถประเมินวัดค่าที่แท้จริงของตัวผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้

สำหรับเรื่องนี้ลูชินได้นำทีมวิจัยของบริษัท ไปทดสอบยังตัวจังหวัดที่บริษัทดราก้อน โลจิติก ตั้งอยู่ทันที

จังหวัดเจียงเป่ย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ที่นี้ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและแม่น้ำมากมาย นั้นจึงทำให้การจราจรไม่สะดวกอย่างจังหวัดทางภาคกลาง

ในด้านต้นทุนโลจิสติกส์และการจัดจำหน่ายในพื้นที่นี่สูงเป็นพิเศษ  บริษัทโลจิสติกส์จำนวนมากจึงส่งสิ้นค้าเฉพาะในตัวจังหวัดเท่านั้น ในพื้นที่รอบนอกจะไม่มีการขนส่งเด็ดขาด เนื่องจากสภาพของถนนและภูมิประเทศโดยรอบ

ดังนั้นเรื่องขอการทดสอบครั้งนี้ของพวกเขาจึงได้รับความเห็นชอบ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติจังหวัดเจียงเป่ยทันที โดยที่พวกเขาขอให้พื้นที่ของพวกเขานั้นเป็นพื้นที่นำร่องในเรื่องขนส่งทางอากาศโดยเครื่องบินโดรน

เพราะถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ค่าจีดีพีของตัวจังหวัดของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และยังถือว่าจังหวัดของพวกเขานั้นจะเป็นจังหวัดต้นแบบอีกด้วย