ตอนที่ 468 เลิกกันอย่างเป็นทางการ / ตอนที่ 469 แฟนของคุณชายหล่อแล้ว

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 468 เลิกกันอย่างเป็นทางการ 

 

 

           ณ งานแถลงข่าว มีคนอยู่ไม่น้อยที่มาด้วยอารมณ์ทำนองแบบกำลังกอดอกนั่งดูฉากเด็ด เตรียมจะขุดข่าวใหญ่ออกมาจากปากเจียงมู่เฉินและจี้ฉิง 

 

 

           เดิมทีในใจเจียงมู่เฉินนั้นเหมือนกับกระจกใส แต่เมื่อเห็นท่าทีของซือเหยี่ยนที่สงบเยือกเย็น ในใจก็ยิ่งสงบนิ่งมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ 

 

 

           เขากับจี้ฉิงสบตากันแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้าเล็กน้อย 

 

 

           จี้ฉิงยื่นมือไปเปิดไมโครโฟนบนโต๊ะ ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “วันนี้ที่เชิญทุกท่านมา ก็เพราะว่าฉันอยากจะชี้แจงเรื่องระหว่างฉันกับคุณชายเจียงให้ชัดเจนค่ะ” 

 

 

           เมื่อคนที่อยู่ฝั่งด้านล่างได้ยินว่าเธอจะชี้แจงเรื่องระหว่างเธอกับเจียงมู่เฉิน เพียงชั่วครู่ทุกคนต่างก็พากันหูผึ่งกันโดยไม่รู้ตัว ตั้งใจฟังอย่างจริงจัง 

 

 

           “วันนี้ รายงานข่าวที่เกี่ยวกับฉันและคุณชายเจียงในโลกออนไลน์พวกนั้น วันนี้จะมาแถลงข่าวให้กระจ่างทีเดียวที่นี่ ฉันกับคุณชายเจียงเราไม่ได้พูดคุยเรื่องแต่งงานกันค่ะ… 

 

 

           …แล้วก็ยังมีอีกเรื่องที่ต้องประกาศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันกับคุณชายเจียง พวกเราเลิกกันอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ” 

 

 

           พอจี้ฉิงเอ่ยคำพูดนี้ออกมา คนที่อยู่ฝั่งด้านล่างก็ร้องเซ็งแซ่ขึ้นมาในทันใด ทุกคนมองไปยังบนเวทีอย่างไม่กล้าจะเชื่อได้ 

 

 

           “เลิกกัน? ทำไมจู่ๆ ถึงเลิกกันได้ล่ะคะ” 

 

 

           “เพราะความรักที่มีให้กันเกิดปัญหาหรือเปล่าครับ” 

 

 

           “หรือเพราะว่าเรื่องแต่งงานคุยกันไม่ลงตัว จึงเป็นเหตุให้ต้องเลิกกันคะ” 

 

 

           “ใช่ๆ ทำไมจู่ๆ ถึงเลิกกันได้สายฟ้าแลบขนาดนี้ครับ” 

 

 

           …… 

 

 

           …… 

 

 

           จี้ฉิงคาดเดาสภาพการณ์เช่นนี้ในวันนี้มาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกแปลกประหลาดอะไร 

 

 

           เธอมองดูความโกลาหลที่ข้างล่างเวทีพลางถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ เพียงแต่ว่ามันดูจะดุเดือดกว่าที่เธอคาดการณ์ไว้ก็เท่านั้นเอง 

 

 

           “คุณชายเจียงคะ ก่อนหน้านี้คุณเปิดตัวคบคุณจี้ฉิงชัดเจน อีกอย่างระหว่างที่คุณไปอเมริกา คุณจี้ฉิงก็เทียวเข้าออกบ้านคุณอยู่บ่อยๆ ความสัมพันธ์มั่นคงชัดเจน เหตุใดถึงต้องขอเลิกกะทันหันด้วยคะ” 

 

 

           “ใช่ครับ คุณชายเจียง หรือว่าคุณมีเหตุผลอย่างอื่น ถึงทำให้คุณจี้ฉิงขอเลิกกับคุณได้ครับ” 

 

 

           “แล้วก็พวกคุณเลิกกันด้วยดีใช่ไหมคะ” 

 

 

           “คุณชายเจียง คุณช่วยกรุณาชี้แจงด้วยครับ” 

 

 

           มีคำถามเข้ามาไม่ขาดสาย จี้ฉิงมองเจียงมู่เฉินที่อยู่ด้านข้างด้วยความเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย ถึงอย่างไรคำถามทำนองนี้ แม้แต่เธอที่มีประสบการณ์ผ่านมาก่อน ก็ยังรู้สึกเหมือนถูกจี้จุดอยู่ในที 

 

 

           ไม่รู้ว่าคุณชายเจียงจะโกรธขึ้นมากะทันหันเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า 

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้ม เขามองดูกลุ่มคนที่กำลังแบกกล้องถ่ายวิดีโออยู่ข้างล่างเวที 

 

 

           “ก่อนที่ผมจะออกจากถานโจวไป ผมกับจี้ฉิงพวกเรามีความสัมพันธ์เป็นคนรักกันจริงๆ เพียงแต่ว่าพวกเราคบกันไปได้สักพักหนึ่ง ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ดังนั้นก่อนที่ผมจะกลับประเทศมา ก็ได้เลิกกันด้วยดีกับเธอแล้ว… 

 

 

           …ส่วนเรื่องที่เธอไปบ้านผมบ่อย ก็เพราะว่าเธอมีความสัมพันธ์อันดีกับคนในครอบครัวของผม” 

 

 

           เจียงมู่เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย “อะไรกัน หรือว่าจี้ฉิงเลิกกับผมแล้ว จะไปมาหาสู่กับคนในครอบครัวผมไม่ได้” 

 

 

           เสียงเขาไม่ใหญ่มาก แต่เสียงเอ่ยถามเมื่อครู่นี้ ทำให้ทั้งงานเงียบลงไปโดยไม่ตั้งใจ 

 

 

           “อีกอย่าง ถึงแม้ว่าผมกับจี้ฉิงจะเลิกกัน แต่ต่อไปพวกเราก็ยังจะเป็นเพื่อนกัน” 

 

 

           ข้างล่างเวทีได้ยินคำพูดนี้ต่างก็ซุบซิบกันโดยอัตโนมัติ เหมือนว่ากำลังถกเถียงกันเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนอยู่ 

 

 

           “ถ้าอย่างนั้นในเมื่อพวกคุณเลิกกันด้วยดีมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เหตุใดจนถึงตอนนี้ถึงไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะเลยล่ะครับ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองคนที่พูดคนนั้นเมื่อครู่นี้ สายตาปรากฏความเย็นยะเยือกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ 

 

 

           เพียงชั่วครู่เดียวก็ทำให้เขารู้สึกถึงความหนาวสะท้านโดยไม่รู้ตัว 

 

 

           “บอกตามตรง จะต้องชี้แจงกับพวกคุณหรือเปล่า ในโลกออนไลน์จะรายงานว่ายังไง ผมไม่ได้สนใจเป็นพิเศษจริงๆ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเอ่ยเสียงเย็น “ผมเจียงมู่เฉินใช้ชีวิตมาหลายปี ไม่เคยต้องมาแคร์คำวิจารณ์ของคนอื่นมาก่อน… 

 

 

           …แต่วันนี้มานั่งตรงนี้ ให้พวกคุณมาคอยจับผิด ก็เพียงแค่ไม่อยากให้คนคนหนึ่งเข้าใจผิดก็เท่านั้นเอง” 

 

 

           เขาพูดไป สายตาก็มองมาทางซือเหยี่ยน รอยยิ้มจางๆ ปรากฏในแววตา 

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มมาขนาดนี้ ความเย็นยะเยือกในแววตาเมื่อครู่นี้ก็ค่อยๆ สลายหายไปทีละนิดๆ  

 

 

            

 

 

          ตอนที่ 469 แฟนของคุณชายหล่อแล้ว 

 

 

           ซือเหยี่ยนสบสายตาเจียงมู่เฉิน ดวงตาสีดำขลับมองเจียงมู่เฉินตาไม่กะพริบ ราวกับกำลังบอกเจียงมู่เฉินว่า ‘ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ตัวเองก็จะสนับสนุนเขาเสมอ’ 

 

 

           เจียงมู่เฉินต้องเข้าใจความหมายของซือเหยี่ยนเป็นธรรมดา 

 

 

           เขายิ้มหัวเราะ “ดังนั้น พวกคุณยังมีอะไรอยากถามอีกไหม” 

 

 

           คนรอบข้างเห็นท่าทางทะนงตัวของเขา มีหรือจะยังกล้าถามอะไรต่ออีก 

 

 

           เทียบกับจี้ฉิงแล้ว ไม่มีใครกล้าจะทำให้คุณชายน้อยตระกูลเจียงคนนี้ไม่พอใจได้ ถึงอย่างไรเจียงเฉินกรุ๊ปก็ถือว่าเป็นบริษัทธุรกิจชั้นนำแนวหน้าในถานโจว 

 

 

           ถ้าทำให้คุณชายน้อยคนนี้ไม่พอใจ ถ้าหากวันหลังเกิดตามสืบถามขึ้นมา จะยุ่งยากลำบากอยู่ไม่น้อยได้ทีเดียว 

 

 

           ดังนั้นถึงแม้จะมีคนสงสัยใคร่รู้ คนคนนั้นที่เจียงมู่เฉินเอ่ยถึงก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากสักคน 

 

 

           ในขณะที่ทุกคนเงียบสงบกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีคนยืนขึ้นเอ่ยเสียงดัง “ได้ยินมาว่าคุณชายเจียงมีคนรักเป็นคนเพศเดียวกันจริงไหมครับ” 

 

 

           พอคำพูดนี้ออกมาถือว่าเป็นประเด็นเด็ดในวันนี้ที่นักข่าวจะเล่นข่าวตีให้เป็นกระแสดังได้เลยทีเดียว 

 

 

           เดิมทีเพียงแค่อยากจะตามเรื่องการแต่งงานของเจียงมู่เฉินกับจี้ฉิง ตอนนี้เป็นอย่างไร ยังมีเรื่องคนรักที่เป็นเพศเดียวกันอีก 

 

 

           คิดไม่ถึงว่าเรื่องส่วนตัวของคุณชายเจียงผู้นี้จะสลับซับซ้อนแบบนี้ 

 

 

           มีแฟนสาวก็ช่างเถอะ ยังเป็นพวกรักเพศเดียวกันอีก 

 

 

           เสียงของคนคนนั้นเพิ่งจะหยุดลง จู่ๆ หน้าจอโปรเจคเตอร์ผืนใหญ่ก็ฉายภาพหลายๆ ภาพขึ้นมากะทันหัน ทั้งหมดคือภาพของเจียงมู่เฉินที่ทำท่างดูสนิทสนมกับผู้ชายคนหนึ่ง 

 

 

           ส่วนใหญ่จะเป็นการจับมือถือแขน หรือไม่ก็กอดกัน 

 

 

           ท่าทางไม่มากไป แต่ดูสนิทสนมกันพอสมควร อีกอย่างคือดูเป็นแบบนี้เกือบทุกเหตุการณ์ในรูป ดังนั้นถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนกันธรรมดา ก็พูดไม่ออกแล้ว 

 

 

           ซือเหยี่ยนนั่งอยู่ด้านล่างพอดี เงยหน้าก็เห็นภาพเหล่านั้นได้เลย ชัดเจนมากว่าคนที่กอดและจับมือถือแขนกับเจียงมู่เฉินทั้งหมดนั้นคือเขา 

 

 

           เพียงแต่ว่าใบหน้าของเขาถูกเซ็นเซอร์ไว้มองได้ไม่ชัด 

 

 

           แต่ใบหน้าของเจียงมู่เฉินกลับชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง 

 

 

           ฝั่งข้างล่างเวทีสะเทือนเลื่อนลั่น มีคนอยู่ไม่น้อยเหมือนไปฉีดเลือดไก่มาไม่มีผิดพุ่งมาหาเจียงมู่เฉิน ถือไมโครโฟนมาอย่างพร้อมเพรียง เหมือนว่าแทบอยากจะยัดไมโครโฟนใส่ปากเจียงมู่เฉินอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นฉากนี้ เขากำมือแน่นอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะออกแรงมากเกินไป เส้นเลือดใหญ่ที่แขนจึงปูดออกมา 

 

 

           เจียงมู่เฉินหันหน้ากลับไปมองดูภาพข้างหลัง สีหน้าที่แสดงออกดูจะเริงร่าอยู่ไม่น้อย รูปนี้ถ่ายออกมาได้ไม่เลวทีเดียว ถ่ายเขาออกมาได้หล่อเอาเรื่อง 

 

 

           ไม่ทำลายความหล่อเหลาของเขาเลยสักนิด 

 

 

           เพียงแต่ว่าถ่ายซือเหยี่ยนออกมาได้ห่วยไปหน่อย 

 

 

           “คุณชายเจียง คนคนนี้คือคนรักที่เป็นเพศเดียวกันของคุณจริงๆ ใช่ไหมครับ” 

 

 

           “คุณชายเจียง เรื่องความรักของคุณกับจี้ฉิงที่เกิดขึ้นก็เพื่อปกปิดเรื่องที่ตัวเองเป็นคนรักเพศเดียวกันใช่ไหมคะ” 

 

 

           “คุณเป็นพวกรักเพศเดียวกัน ครอบครัวคุณรู้หรือเปล่าครับ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินคำพวกนี้ก็รู้สึกน่าขำอย่างไรชอบกล คำก็รักเพศเดียวกัน สองคำก็รักเพศเดียวกัน รักเพศเดียวกันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเขาเหรอ 

 

 

           เขาเห็นไมโครโฟนที่แทบจะทิ่มปากเขาแล้ว ก็ยื่นมือออกไปคว้าไมโครโฟนมา 

 

 

            นักข่าวคนนั้นตะลึงงัน คิดว่าเขาโมโหจนจะลงไม้ลงมือตีคน จึงรีบปกป้องกล้องถ่ายรูปของตัวเองทันที 

 

 

           เจียงมู่เฉินยื่นมือไปถือไมโครโฟนไว้ เขาเชิดมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขามองคนกลุ่มนั้นต่อหน้าด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะเอ่ยอย่างทะนงตัวออกไป “คุณชายชอบผู้ชายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกคุณ… 

 

 

           …อะไรกัน รู้สึกว่าแฟนหนุ่มของคุณชายหล่อเกินไป อิจฉาเหรอ หรือยังไงกัน” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเอ่ยประโยคสองประโยคนี้ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉยและดูเย่อหยิ่งจนถึงขั้นสุด 

 

 

           ถ้าหากเป็นคนอื่นก็คงจะไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา แต่เจียงมู่เฉินเป็นใคร เขาพูดอย่างเย่อหยิ่งได้ไม่มีใครจะเปรียบเทียบได้ 

 

 

           ไม่กลัวคนอื่นจะนินทาลับหลังเลยสักนิด 

 

 

           เขามองทะลุผ่านกลุ่มคนเหล่านั้นไปยังซือเหยี่ยน ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ก็มีความฮึกเหิมอยากจะเปิดมันซะเลย 

 

 

           ดวงตาสีดำขลับของซือเหยี่ยนทำให้เขาจิตใจสงบได้อย่างน่าประหลาดใจ 

 

 

           เขารู้ว่าวันนี้เปิดเผยเรื่องคนรักเพศเดียวกันแล้ว ต่อให้เขาไม่พูด วันหลังก็จะมีปาปารัสซีมากมายมาสะกดรอยตาม หาข่าวซุบซิบได้อยู่ดี