ตอนที่ 470 เปิดเผยความรักต่อสาธารณะ / ตอนที่ 471 แฟนหนุ่มของตัวเอง

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 470 เปิดเผยความรักต่อสาธารณะ 

 

 

           ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สู้เขาบอกคนกลุ่มนี้ไปตรงๆ เลยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องให้ตัวเองกับซือเหยี่ยนคบกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีก 

 

 

           ถึงอย่างไรเดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจสื่อมวลชนพวกนี้ว่าจะเขียนว่าพวกเขาอย่างไรอยู่แล้ว 

 

 

           ส่วนซือเหยี่ยน… 

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ ตัวเองไม่สนใจสื่อ ซือเหยี่ยนก็ยิ่งจะไม่สนใจสื่อแล้วเหมือนกัน 

 

 

           ด้วยเหตุนี้เขาจึงยืนขึ้นมากะทันหัน เดินทะลุผ่านกลุ่มคนที่ออกันอยู่ลงไป สื่อมวลชนเหล่านั้นเห็นการกระทำของเจียงมู่เฉินก็หลีกทางให้สองฝั่งโดยอัตโนมัติ 

 

 

           เจียงมู่เฉินค่อยๆ เดินไปทีละก้าวๆ ไปหยุดอยู่ต่อหน้าซือเหยี่ยน เขายกยิ้มมุมปากขึ้นด้วยความขบขัน มองซือเหยี่ยนแล้วเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม “อยากเปิดตัวไหม แฟนของฉัน” 

 

 

           ถึงแม้ว่าคำพูดนี้จะกำลังเอ่ยถามซือเหยี่ยนอยู่ แต่ในความเป็นจริงก็คือการเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

 

           คนทั้งงานแถลงข่าวโกลาหลแล้ว คิดไม่ถึงว่าซือเหยี่ยนจะเป็นแฟนหนุ่มสุดหล่อที่เจียงมู่เฉินเอ่ยถึง 

 

 

           ลำพังคุณชายน้อยตระกูลเจียงคนเดียวว่าจัดการยากพอสมควรแล้ว ยังมีซือเหยี่ยนเพิ่มมาอีกคน 

 

 

           ทั้งสองคนครอบครองพื้นที่เกือบครึ่งค่อนของถานโจว 

 

 

           เดิมทีตระกูลเดียวก็แข็งแกร่งมากพอแล้ว ตอนนี้ทั้งสองคนร่วมมือกัน… 

 

 

           ใบหน้าซือเหยี่ยนที่สงบนิ่งมาตลอดแต่งแต้มรอยยิ้มจางๆ ในดวงตาสีดำขลับก็แต่งแต้มรอยยิ้มจางๆ เช่นกัน 

 

 

           เขาค่อยๆ ลุกยืนขึ้นมาจากเก้าอี้อย่างช้าๆ แผ่รัศมีทรงอำนาจ 

 

 

           เขาเอื้อมมือไปจับมือเจียงมู่เฉินไว้ ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “ได้” 

 

 

           คำว่า ‘ได้’ ง่ายๆ คำเดียว แต่กลับสั่นสะเทือนมากกว่าคำที่ได้ยินไปก่อนหน้านี้เป็นไหนๆ 

 

 

           ‘ถึงยังไงพวกเขาก็เปิดตัวเป็นเกย์ต่อหน้าคนทั้งประเทศนะ’ 

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินก็ยังมีความตื่นเต้นเล็กๆ อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในแผนของเขา แต่ว่าแบบนี้บางทีก็ไม่เลวเหมือนกัน 

 

 

           ถึงอย่างไรไม่ช้าก็เร็วสักวันเขากับซือเหยี่ยนก็ต้องการจะคบกันอย่างเปิดเผยอยู่ดี 

 

 

           แสงแฟลชกระหน่ำรัวสาดส่องมายังเจียงมู่เฉินและซือเหยี่ยนทั้งสองคนอย่างไม่ขาดสาย 

 

 

           แล้วเจียงมู่เฉินและซือเหยี่ยนก็ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน ทั้งคู่จับมือกันจ้องมองอีกฝ่ายตาไม่กะพริบ 

 

 

           …… 

 

 

           วันต่อมา ซือเหยี่ยนกับเจียงมู่เฉินทั้งสองคนครองพื้นที่บนนิตยสารบันเทิงและในยอดค้นหาอันดับต้นๆ ของโลกออนไลน์ไปทั้งถานโจวแล้ว 

 

 

           ไม่ใช่ ยังมีจี้ฉิงอีกคน 

 

 

           เพียงเพราะจี้ฉิงโพสต์ข้อความสนับสนุนความรักของซือเหยี่ยนกับเจียงมู่เฉิน 

 

 

           เรื่องนี้มีคนอยู่ไม่น้อยที่ยังยอมรับได้ ถึงอย่างไรตอนนี้คนก็เปิดกว้างยอมรับได้มากขึ้นแล้ว อีกอย่างรูปร่างหน้าตาของเจียงมู่เฉินก็เหมาะสมคู่ควรกับซือเหยี่ยนมาก ทำให้พวกเขาไม่มีความคิดที่จะไม่ยอมรับจริงๆ 

 

 

           แต่ก็ยังมีคนส่วนน้อยที่ยากจะยอมรับเรื่องนี้ได้ 

 

 

           ด้วยเหตุนี้ในโลกออนไลน์จึงเกิดกระแสเป็นสองฝั่ง ฝั่งสนับสนุนพวกเขา อีกฝั่งคือกลุ่มที่พูดจาไม่น่าฟังอย่างไม่หยุดหย่อน 

 

 

           เพียงแต่ว่ากระแสในโลกออนไลน์จะตีกันไปมาอย่างไร ทั้งซือเหยี่ยนและเจียงมู่เฉินก็ไม่มีใครสักคนจะสนใจเรื่องนี้ 

 

 

           ตั้งแต่กลับมาจากงานแถลงข่าววันนั้น เจียงมู่เฉินก็เกิดอารมณ์คึกลากซือเหยี่ยนขึ้นเตียง 

 

 

           ทั้งสองคนสู้รบปรบมือกันไปสามร้อยกว่าตลบ จนกระทั่งถึงเที่ยงคืน ถึงได้แขนขาอ่อนแรงนอนเป็นอัมพาตอยู่บนตัวซือเหยี่ยน 

 

 

           กว่าจะนอนหลับไปถึงเที่ยงวันไม่ใช่ง่ายๆ ผลปรากฏว่ายังไม่ทันได้กินข้าว เจียงมู่เฉินก็โดนซือเหยี่ยนจับกดกินทั้งตัวไปอีกมื้อหนึ่ง 

 

 

           สุดท้ายกว่าทั้งสองคนจะลงจากเตียงได้ก็ถึงเวลาพลบค่ำในวันต่อมาแล้ว 

 

 

           ทั้งสองคนนอนเปลือยกายคลุกคลีกันอยู่บนเตียง มีหรือจะคิดสนใจเรื่องน่ารำคาญพวกนั้นในอินเทอร์เน็ต 

 

 

           ตั้งแต่กลับมาเมื่อวานจนถึงวันนี้ นอกจากเรื่องบนเตียงแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้ลงจากเตียงสักที เจียงมู่เฉินแขนขาอ่อนแรง เขาอดจะกัดไหล่ของซือเหยี่ยนไปคำหนึ่งไม่ได้ 

 

 

           “พี่ใหญ่ ฉันหิวแล้ว นายให้ฉันกินอะไรสักหน่อยจะได้ไหม” 

 

 

           ซือเหยี่ยนโดนเขากัดเข้าไปขนาดนี้ ก็อดใจไม่ค่อยจะไหวเท่าไหร่นัก 

 

 

           แต่พอคิดว่าวันนี้ยังเร็วไป การเติมท้องเจียงมู่เฉินให้อิ่มก่อนนั้นสำคัญกว่า ถึงอย่างไรก็ต้องรอเจียงมู่เฉินกินอิ่มเสร็จแล้ว เขาถึงจะกินต่อได้ 

 

 

           “อืม” ซือเหยี่ยนขานรับยอมตกลง แต่เขาก็ไม่ได้ลุกขึ้นสักที 

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินเขาตอบรับก็ไม่ขยับ ตัวเองก็ไม่ขยับ นอนฟุบเอ้อระเหยลอยชายอยู่บนตัวซือเหยี่ยน 

 

 

           ร่างกายของทั้งสองคนเกี่ยวพันกัน ในห้องเงียบสงัด 

 

 

           เวลาผ่านไปนานแล้ว เจียงมู่เฉินหิวจนไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาตะเกียกตะกายคิดจะยันตัวขึ้นมาจากตัวซือเหยี่ยน ผลปรากฏว่ามือข้างหนึ่งเกิดอ่อนแรง ลื่นล้มลงกลับไปอีกครั้ง  

 

 

                   

 

 

ตอนที่ 471 แฟนหนุ่มของตัวเอง 

 

 

           ซือเหยี่ยนเอื้อมมือไปกอดเขาไว้ “จะขยับตัวไปไหน” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเอ่ยอย่างอ่อนระโหยโรยแรง “พี่ชาย อุ้มฉันไปอาบน้ำหน่อยสิ ฉันเหนียวเนื้อเหนียวตัวไปหมดแล้ว” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางตัวเล็กตัวน้อยของเขา ในที่สุดก็ลุกขึ้นมาจนได้ 

 

 

           เจียงมู่เฉินถือโอกาสหลบไปด้านข้าง ให้ซือเหยี่ยนได้ลุกขึ้นมา พอเขาลุกขึ้นมาแล้วก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แต่อุ้มเจียงมู่เฉินออกไปยังห้องน้ำทั้งอย่างนี้ 

 

 

           ในอ่างอาบน้ำยังไม่ได้เปิดน้ำใส่ ซือเหยี่ยนวางเขาลงในอ่างอาบน้ำ หลังจากนั้นก็ปรับอุณหภูมิน้ำแล้วค่อยเปิดน้ำให้เขา 

 

 

           เจียงมู่เฉินนอนเอื่อยๆ ไปทั้งตัว ซือเหยี่ยนวางเขาลงในอ่างอาบน้ำท่าไหน เขาก็นอนอยู่ในท่านั้น ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนอยู่นานสองนาน 

 

 

           ซือเหยี่ยนมองดูท่าทางของเขาด้วยความขบขัน หัวใจอดจะบีบรัดตัวไม่ได้ โน้มตัวเข้าไปใกล้แล้วประกบจูบเขาอย่างดุเดือด 

 

 

           กว่าจะผละตัวออกมา ริมฝีปากเจียงมู่เฉินก็โดนเขากัดจนขึ้นสีแดงไปหมดแล้ว 

 

 

           เขาอดจะมองบนใส่ซือเหยี่ยนไม่ได้ ซือเหยี่ยนมองมาแวบหนึ่ง หัวใจก็บีบรัดตัวในทันใด แทบอยากจะพุ่งตัวเข้าใส่แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว 

 

 

           แต่สุดท้ายแล้วยังพอมีสติอยู่บ้าง ไม่ได้พุ่งตัวเข้าใส่จริงๆ 

 

 

           เขายืนเปิดฝักบัวอาบน้ำอยู่ด้านข้างด้วยความรวดเร็ว ใส่เสื้อผ้าเสร็จสรรพทันทีหลังจากนั้น 

 

 

           ขณะที่ซือเหยี่ยนกำลังอาบน้ำอยู่นั้น เจียงมู่เฉินก็จ้องมองเขาตาไม่กะพริบ พินิจมองขาใหญ่ยาวนั้น กล้ามเนื้อหน้าท้องนั้น ที่แท้ผู้ชายของตัวเอง รูปร่างดีจริงๆ 

 

 

           แน่นอนว่าเจียงมู่เฉินไม่ยอมรับไม่ได้ว่า เจ้าหมอนี่ไม่เพียงแค่หุ่นดี แต่พละกำลังก็ดีมากเช่นกัน 

 

 

           …… 

 

 

           ซือเหยี่ยนสวมชุดเรียบร้อย ก็เดินไปหาเจียงมู่เฉิน แล้วก้มหน้าโน้มตัวลงไปประทับรอยจูบเขาอย่างอ่อนโยน 

 

 

           “ผมจะไปทำกับข้าว คุณอาบน้ำไปเลยนะ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่อยากพูด เขาพยักหน้ารับ ไหนเลยจะรู้ว่าแบบนี้จะดูน่ารักน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก 

 

 

           กว่าซือเหยี่ยนจะทำให้ตัวเองออกมาจากห้องน้ำได้ไม่ใช่ง่ายๆ 

 

 

           หลังจากเขาออกมาแล้ว เจียงมู่เฉินก็หลับตาลงนอนพิงอยู่ในอ่างอาบน้ำ 

 

 

           แช่อยู่ในน้ำร้อน รู้สึกสบายไปทั้งตัวจนไม่ไหว เจียงมู่เฉินเอนพิงอยู่ตรงนั้นเพียงไม่นานก็ผล็อยหลับลงไป 

 

 

           ซือเหยี่ยนอยู่ข้างนอก รีบทำอาหารสักสองสามอย่าง เมื่อเขาทำไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็ยังไม่เห็นเจียงมู่เฉินออกมา 

 

 

           เขาปรับไฟให้เล็กลง เช็ดมือแล้วเดินเข้าไป 

 

 

           เป็นอย่างที่คิดเฉินเฉินของเขานอนหลับอยู่ในอ่างอาบน้ำไปแล้วจริงๆ 

 

 

           ซือเหยี่ยนเดินเข้าไปก็ไม่ได้ทำเสียงดังปลุกเจียงมู่เฉิน แต่ช้อนอุ้มร่างของเขาขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำ แล้วเช็ดตัวให้แห้ง ก่อนจะอุ้มเขาเดินออกมา 

 

 

           โดนอุ้มขนาดนี้ เจียงมู่เฉินก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่น 

 

 

           เขาถือโอกาสใส่เสื้อผ้าให้เจียงมู่เฉิน แล้วอุ้มมายังห้องรับแขก เขาบรรจงวางเจ้าตัวลงบนโซฟา หลังจากนั้นก็เข้าครัวไปทำอาหารต่อทันที 

 

 

           กว่าเขาจะทำอาหารจานสุดท้ายเสร็จ ในห้องก็ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจางๆ แล้ว 

 

 

           ซือเหยี่ยนวางอาหารลงเรียบร้อยอย่างไม่รีบร้อน ถึงได้หันไปทางห้องรับแขกเดินไปเรียกแฟนหนุ่มของตัวเอง 

 

 

           เขาคงจะเพราะนอนหลับดีแล้ว ครั้งนี้จึงรู้สึกตัวตื่นได้เร็วมาก เจียงมู่เฉินลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าของซือเหยี่ยน เขาส่งมือไปเกี่ยวคอซือเหยี่ยนมาแล้วเงยหน้าขึ้นประกบจูบเขา 

 

 

           ซือเหยี่ยนโดนเขาจูบก็ตัวแข็งทื่อขึ้นโดยไม่รู้ตัว 

 

 

           เจียงมู่เฉินหรี่ตาลง ยังรู้สึกง่วงนอนอยู่บ้าง “ทำอาหารเสร็จแล้วเหรอ” 

 

 

           “อืม” ซือเหยี่ยนขานรับ “ลุกขึ้นมากินข้าวเถอะ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินปวดเมื่อยไปทั้งตัว ไม่อยากจะขยับตัว เขาทำหน้าทำตาน่าสงสารมองซือเหยี่ยน แสดงท่าทางอยากให้เขาอุ้ม 

 

 

           ซือเหยี่ยนถูกเขามองขนาดนั้น ใจก็อ่อนยวบลงในพริบตา 

 

 

           เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง สอดแขนช้อนอุ้มเจียงมู่เฉินขึ้นมา เจียงมู่เฉินเชิดมุมปากขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง เอื้อมมือไปคล้องคอซือเหยี่ยนไว้ 

 

 

           ทั้งสองคนเดินทะลุผ่านห้องรับแขกไปยังห้องอาหาร 

 

 

           ซือเหยี่ยนกลัวเจียงมู่เฉินจะไม่สบายตัว ยังตั้งใจวางเบาะรองนั่งและพิงหลังบนเก้าอี้ให้เจียงมู่เฉิน เจียงมู่เฉินนั่งพิงอย่างเอื่อยเฉื่อย 

 

 

           ซือเหยี่ยนแต่งตัวเจียงมู่เฉินด้วยเสื้อแขนสั้นสีขาว ขณะที่กินข้าว พอยกมือขึ้น ก็จะเผยให้เห็นข้อมือเรียวยาวของเขาพอดี 

 

 

            ช่างดูเพลินตาเพลินใจเป็นพิเศษ 

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่ได้รับรู้สิ่งเหล่านี้ด้วย เขาเพียงแค่นั่งงอขากินข้าวอยู่บนเก้าอี้ 

 

 

           เขาหิวจนอกจะชิดกับหลังแล้วจริงๆ