บทที่ 1019 ถูกจับได้แล้ว / บทที่ 1020 โดนจอมมารหลอกถาม

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1019 ถูกจับได้แล้ว 

 

 

“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ…วันนี้ฉันก็ตกใจเหมือนกัน…” เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าหงอย 

 

 

เธอนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าหานเซี่ยนอวี่จะโกรธขนาดนั้น ถึงขั้นมีเรื่องกับซือเยี่ยหานกลางห้างฯ… 

 

 

ขณะกำลังพูด มือถือของเยี่ยหวันหวั่นก็ส่งเสียงเตือนขึ้นมา 

 

 

เป็นซือเยี่ยหานส่งข้อความมาดังคาด 

 

 

เตือนว่าเธอสายไปหนึ่งนาทีแล้ว… 

 

 

หานเซี่ยนอวี่เห็นอย่างนั้น ก็มองเยี่ยหวันหวั่นที่สวมชุดราตรี แล้วรีบบอกว่า “เย็นนี้เธอน่าจะยังมีธุระอีกใช่ไหม รีบไปเถอะ!” 

 

 

“คือว่า วันนี้ยุ่งมากจริงๆ วันหลังมีเวลาแล้วค่อยคุยกันนะ!” เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างขอโทษขอโพย 

 

 

“ไม่เป็นไร ไปเถอะ!” หานเซี่ยนอวี่ลุกขึ้น จากนั้นเดินไปคิดเงิน 

 

 

“ใส่ผ้าปิดปากกับแว่นดำด้วย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเตือน 

 

 

หานเซี่ยนอวี่ตอบ “โอเค” 

 

 

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอีก “ใช่แล้ว ถ้าพี่หยางถาม นายก็บอกเขาได้ตามตรงเลยนะ” 

 

 

หานเซี่ยนอวี่ได้ยินแล้วก็รับคำไปตามนั้น 

 

 

…… 

 

 

ตอนคิดเงินตรงเคาน์เตอร์ พนักงานคิดเงินหญิงผมสั้นเหล่มองหานเซี่ยนอวี่หลายครั้ง 

 

 

“เรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญทั้งสองท่านค่ะ ครั้งหน้ามาอุดหนุนอีกนะคะ!” 

 

 

เยี่ยหวันหวั่นกับหานเซี่ยนอวี่ไม่รู้เลย พวกเขาเพิ่งจะหมุนตัวเดินจากไป พนักงานหญิงผมสั้นคนนั้นก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปแผ่นหลังของพวกเขา 

 

 

“เสี่ยวฉิน เธอถ่ายรูปคนอื่นเขาทำไม” ตอนนี้เอง พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินมาเห็นจึงถามขึ้น 

 

 

พนักงานหญิงผมสั้นพูดด้วยความตื่นเต้น “กรี๊ดดดดด! สวรรค์! เธอต้องไม่เชื่อแน่เลยว่าเมื่อกี้ฉันเพิ่งเจอใคร!” 

 

 

“เธอเจอใครถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้?” พนักงานคนนั้นถามอย่างแปลกใจ 

 

 

“หานเซี่ยนอวี่! หานเซี่ยนอวี่มาเดินห้างฯ กับผู้หญิง!” พนักงานหญิงผมสั้นที่ชื่อเสี่ยวฉินรีบพูดด้วยความตื่นเต้น 

 

 

พนักงานคนนั้นรู้ว่าเสี่ยวฉินเป็นแฟนคลับตัวยงของหานเซี่ยนอวี่ พอได้ยินก็ขำ “หานเซี่ยนอวี่? ฉันว่าเธอคงคิดถึงหานเซี่ยนอวี่จนเพี้ยนไปแล้วมั้ง? เลยเห็นคนอื่นเป็นหานเซี่ยนอวี่ไปซะหมด” 

 

 

ถึงแม้ห้างฯ ของพวกเขาจะหรูหรามาก มักจะมีดาราเข้าออกเป็นประจำ แต่ก็ใช่ว่าเห็นคนใส่หน้ากากใส่แว่นดำก็ทึกทักว่าเป็นหานเซี่ยนอวี่ไปเสียหมดได้! 

 

 

เสี่ยวฉินรีบพูดว่า “โธ่เอ๊ย วันนี้ข่าวบันเทิงโพสต์รูปของหานเซี่ยนอวี่ เขากำลังถ่ายหนังที่วิทยาลัยภาพยนตร์ มีหลายรูปตอนถ่ายทำเสร็จแล้วเลิกกอง เขาใส่ชุดอย่างนี้ อีกอย่างเธอดูแขนเสื้อเขาในรูปที่ฉันถ่ายสิ มีขนนกสีขาวโผล่ออกมานิดหนึ่งด้วย เสื้อคลุมตัวนี้แฟนคลับเขาให้มา ฉันจำไม่ผิดแน่…” 

 

 

พูดจบก็หารูปในข่าวให้เธอดู… 

 

 

พนักงานหญิงอีกคนเห็นเสี่ยวฉินพูดมีเหตุมีผล บวกกับเห็นรูปถ่ายสองสามรูปนั้น ก็พลันประหลาดใจเหมือนกัน “จริงเหรอเนี่ย! หานเซี่ยนอวี่จริงๆ เหรอ? ตั้งแต่ที่หานเซี่ยนอวี่ถูกแฟนเก่าแทงข้างหลังใส่ร้ายว่าเขาเป็นเฒ่าหัวงู ก็เหมือนจะไม่มีข่าวเรื่องความรักอีก ไม่มีแม้แต่ข่าวกอสซิป หรือว่าตอนนี้เขาจะมีแฟนใหม่แล้ว?” 

 

 

“โอ๊ย ให้ตายเถอะๆๆ!!” เสี่ยวฉินทำหน้าสิ้นหวัง “ไม่เอาน้า! ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ ศัตรูหัวใจคนนั้นก็แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! ฉันจะบอกให้นะ ผู้หญิงคนเมื่อกี้สวยมาก! น่าเสียดายที่ฉันถ่ายรูปหน้าตรงๆ ไว้ไม่ได้ รู้แค่ว่าไม่คุ้นตาเลย น่าจะไม่ใช่คนในวงการบันเทิง…” 

 

 

พนักงานหญิงเห็นเธอทำหน้าเศร้า ก็ตบไหล่ปลอบใจ “บางทีอาจจำผิดก็ได้!” 

 

 

“ฉันไม่มีทางจำไอดอลของฉันผิดแน่นอน! เดี๋ยวก่อน ฉันลองส่งรูปให้คนในกลุ่มดูด้วยดีกว่า…” 

 

 

เสี่ยวฉินมีกลุ่มแฟนคลับของหานเซี่ยนอวี่ เธอรีบส่งรูปไปในกลุ่มเพื่อให้คนอื่นช่วยยืนยันด้วย 

 

 

พอได้อ่านสิ่งที่เสี่ยวฉินบอก คนในกลุ่มพากันคร่ำครวญโศกเศร้า บางคนยังเอารูปไปอัปลงในเวยป๋อด้วย… 

 

 

——————————————————– 

 

 

 

 

 

บทที่ 1020 โดนจอมมารหลอกถาม 

 

 

เยี่ยหวันหวั่นกับหานเซี่ยนอวี่ในตอนนี้ยังไม่รู้ พวกเขาถูกแฟนคลับถ่ายรูปไว้แล้ว… 

 

 

หลังจากที่ทั้งสองบอกลากัน ต่างคนก็ต่างกลับไปที่รถของตัวเอง 

 

 

หานเซี่ยนอวี่เพิ่งจะกลับขึ้นรถ เฟ่ยหยางก็รีบถามขึ้นอย่างตื่นเต้น “เซี่ยนอวี่ นายกลับมาแล้วเหรอ! พวกนายคุยอะไรกัน? นายไม่เป็นไรใช่ไหม?” 

 

 

หานเซี่ยนอวี่นวดหัวคิ้ว “ไม่เป็นไร” 

 

 

น่าจะ…ถือว่าไม่มีเรื่องล่ะมั้ง… 

 

 

“จริงเหรอ? แล้วทำไมนายทำหน้าอย่างนั้นล่ะ เหมือนจะไม่ได้นิ่งมากเลยนี่!” เฟ่ยหยางสังเกตสีหน้าหานเซี่ยนอวี่อย่างระมัดระวัง 

 

 

หานเซี่ยนอวี่มองหน้าเฟ่ยหยาง เดิมทีอยากจะพูด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร 

 

 

ด้านหนึ่งเป็นเพราะตอนนี้เขากำลังสับสน ไม่มีอารมณ์อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เฟ่ยหยางฟังตั้งแต่ต้นจนจบ 

 

 

อีกด้าน พอนึกได้ว่านอกจากเยี่ยมู่ฝานแล้ว เขาเป็นคนแรกแล้วก็เป็นเพียงคนเดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเยี่ยไป๋ จู่ๆ เขาก็รู้สึกไม่อยากบอกคนอื่นขึ้นมา… 

 

 

หานเซี่ยนอวี่มองไปที่รถของเยี่ยหวันหวั่นซึ่งอยู่ข้างหน้าแวบหนึ่ง “ผมไม่เป็นไร ไปกันเถอะ!” 

 

 

อีกด้าน เยี่ยหวันหวั่นกลับขึ้นรถแล้วเช่นกัน 

 

 

โอเค สายไปห้านาที ตอนนี้อุณหภูมิในรถแทบจะติดลบถึงห้าองศาแล้ว 

 

 

พอเห็นเยี่ยหวันหวั่น สวี่อี้ก็ถอนหายใจ “อะแฮ่ม คุณหนูหวันหวั่น คุณกลับมาแล้ว พวกเราไปกันได้หรือยังครับ?” 

 

 

เมื่อครู่ตอนเกิดเรื่อง สวี่อี้ไม่ได้ปรากฏตัว แต่เขาอยู่ใกล้ๆ ตลอดและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง 

 

 

ความจริง เขาก็สงสารหานเซี่ยนอวี่คนนั้นอยู่เหมือนกัน… 

 

 

คงจะตกใจไม่น้อยเลย… 

 

 

“อื้มๆ ไปกันได้แล้วๆ! ไปกันเถอะ!” เยี่ยหวันหวั่นบอก 

 

 

ซือเยี่ยหานหันมองหญิงสาวข้างกายแวบหนึ่ง “คุยจบแล้วเหรอ?” 

 

 

“จบแล้ว คุยจบแล้ว! ฉันอธิบายทุกอย่างชัดเจนหมดแล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ!” เยี่ยหวันหวั่นรีบบอก 

 

 

ซือเยี่ยหานได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดรับรองว่า ‘ไม่มีปัญหาแน่นอน’ สีหน้าก็แสดงออกว่าไม่ค่อยเชื่อ 

 

 

ซือเยี่ยหานโพล่งถาม “คุยอะไรกัน?” 

 

 

เยี่ยหวันหวั่นอึกอัก “เอ่อ…” 

 

 

“ทำไม? เป็นเรื่องที่ฉันรู้ไม่ได้เหรอ?” ซือเยี่ยหานหรี่ตาเล็กน้อย 

 

 

เยี่ยหวันหวั่นสำลักทันที “แค่กๆๆ จะเป็นไปได้ไงคะ!” 

 

 

เรื่องที่เธอคุยกันเป็นเรื่องที่เปิดเผยสุดๆ ไปเลยเถอะ! 

 

 

เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เยี่ยหวันหวั่นรีบพูดว่า “ก็แค่อธิบายให้หานเซี่ยนอวี่ฟังเกี่ยวกับเพศของฉัน ตอนแรกเขาไม่เชื่อ ก็เลยถามคำถามทำนองว่าครั้งแรกที่ฉันเจอเขา ฉันพูดอะไรกับเขา…” 

 

 

ซือเยี่ยหานเอียงคอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “อ้อ? แล้วพูดอะไรกับเขาล่ะ?” 

 

 

“วันนั้นที่ฉันไปคุณก็รู้ โกลบอลกำลังประชุมกัน ฉันบอกเขาว่าฉันมีวิธีล้างมลทินให้เขาภายในเจ็ดวัน เจรจากับพวกผู้ใหญ่ของโกลบอล จากนั้นพอฉันลงจากตึกเขาก็ตามมา แล้วถามว่าทำไมฉันต้องช่วยเขา ฉันเลยตอบเขาไปว่าเพื่อนฉันเป็นแฟนคลับเขา ชอบเขามาก ฉัน…” ฉันก็ด้วย 

 

 

พูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็เงียบไป รู้สึกตงิดขึ้นมา… 

 

 

ฉิบหาย!!! 

 

 

ถ้าพูดคำหลังออกมาด้วยเธอต้องซวยแน่ๆ! 

 

 

นึกไม่ถึงว่าเธอจะถูกจอมมารหลอกถามโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว! 

 

 

วินาทีนี้ นัยน์ตาดำขลับเหมือนฟ้ากลางคืนของซือเยี่ยหานยังคงจับจ้องเธอ และรอฟังคำพูดที่เหลือของเธออย่างเงียบๆ… 

 

 

แต่เธอจะพูดออกไปได้ยังไงกัน?! 

 

 

ดูเหมือนทักษะการเอาใจอันยอดเยี่ยมของเธอจะพบกับวิกฤตครั้งใหญ่เข้าแล้ว… 

 

 

“ฉัน…” เยี่ยหวันหวั่นกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก จากนั้นพูดต่อว่า “ฉันน่ะ เพื่อความยุติธรรม หน้าที่ และคุณธรรม ไม่มีทางนิ่งดูดายได้แน่นอน…” 

 

 

ซือเยี่ยหานเงียบ… 

 

 

……………………………………………………….