ตอนที่ 357

The Novel’s Extra

บทที่ 357 เหตุผลสำหรับการประชุม (5)

 

ผมวิ่งไปที่โคลอสเซียม วันนี้เหตุการณ์ต่างๆถูกวางแผนไว้ด้านบนของการแข่งขันรอบสุดท้ายของการต่อสู้ดังนั้นทำให้โคลอสเซียมเต็มไปด้วยผู้คนไปแล้ว การหาบอสท่ามกลางผู้คนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผม

 

วิสัยทัศน์ของผมเปลี่ยนไปด้วยพลังเวทมนต์ของรอยสักไหลเข้ามาสู่ดวงตาของผม เหมือนดาวเทียมผมสามารถมองลงไปทั่วโคลอสเซียมจากท้องฟ้า ด้วยเหตุนี้ผมเจอบอสได้อย่างรวดเร็ว เธอกำลังเดินไปที่ห้องพักของเธอ ผมไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง ผมคว้าไหล่ของเธอและหยุดเธอเอาไว้ ดวงตาของเธอเบิกกว้างและมองมาที่ผมด้วยท่าทางประหลาดใจ

 

“….”

 

“….”

 

พวกเราจ้องมองกันและกัน บอสไม่พูดอะไรเลยและผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร

 

ผมรวบรวมความคิดของผมอย่างใจเย็น หากฝ่ายตรงข้ามของบอสคือเบลล์ บอสจะต่อสู้ด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ชัดเจนกว่าปกติ

 

บอสจะสามารถเอาชนะเบลล์ได้ไหมนะ? ผมสงสัยในสิ่งที่ผมคิดเมื่อผมได้เห็นพรสวรรค์ของเบลล์ด้วยสายตาของตัวเอง

 

พรสวรรค์ของเขาน่าจะเป็น ร่างกายเวทมนต์ ซึ่งเป็นพรสวรรค์ที่ผมเขียนลงในหนังสือต้นแบบ แต่ไม่เคยนำมาใช้ในเนื้อเรื่อง เหตุผลนั้นง่าย มาก มันสู้ชนะง่ายเกินไป

 

ถ้านั่นเป็นพรสวรรค์ของเบลล์จริง ๆ … บอสก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้เลย

 

“บอส ผม….”

 

หลังจากคิดอยู่นานผมตัดสินใจลองใช้ [วาจาสิทธิ์แห่งปีศาจ] มันอาจจะไม่ได้ผลกับคนที่แข็งแกร่งแบบบอส แต่ทักษะนั้นจะเพิ่มโอกาศที่จะสำเร็จจากความไว้วางใจที่เป้าหมาย (บอส) มีต่อผู้ใช้ (ผม) สำหรับผมตอนนี้ผมรู้ว่าบอสเชื่อใจผมมากขนาดไหน

 

“…ทำไมคุณไม่สละสิทธิ์แล้วไปที่ชั้น 15 กับผมละ มีบางอย่างที่พวกเราต้องทำด้วยกันนะ”

 

น่าเสียดายพลังเวทมนต์เล็ดลอดออกมาจากคำพูดของผมและกระจัดกระจายไปก่อนที่จะเข้าสู่หูของบอส

 

“นายกำลังทำอะไร?”

 

เมื่อเธอรู้สึกถึงสิ่งที่ผมทำใบหน้าของบอสก็เย็นชา

 

“ขอโทษ?”

 

“นายจะมาอยากทำอะไรตอนนี้?”

 

“หาา… .”

 

ผมยิ้มอย่างขมขื่นและเกาหัวเบาๆ

 

‘เราควรจะพูดอะไรดีในสถานการณ์แบบนี้? ปล่อยให้เธอสู้กับเขาหรอ ไม่สิมันอาจเกิดอันตรายขึ้นได้? แต่โคลีเซียมมีความปลอดภัยสูงมากโดยเฉพาะในระหว่างการต่อสู้ เจ้าหญิง อราฮา ก็อยู่ที่นี่เช่นกันดังนั้นการทำลายที่นี่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ’

 

“…อืม ไม่มีอะไรมากหรอก ผมแค่อยากเรียนรู้อะไรบ้างอย่าง”

 

หลังจากคิดอยู่นานมากผมก็ตัดสินใจอยู่กับบอสต่อ

 

“ถ้ามันได้ผลกับคุณ ผมก็จะใช้ให้มันได้ผลดีที่สุด”

 

“…ได้ผลดีถ้าถูกสะกดจิต?”

 

“ใช้ เพื่อบอกให้คุณทำให้ดีที่สุด”

 

มันเป็นข้ออ้างที่ไม่ดี แต่เมื่อพิจารณาจากความสัมพันธ์ของพวกเราก็

ไม่ได้แปลกอะไรมาก ไม่น่ามีปัญหาเธอาจคิดว่าลูกน้องห่วงเจ้านายอะไรแบบนี้……มั่ง?

 

“แต่ฉันคิดว่าไม่ได้ผล เอาล่ะพวกเราไปที่ห้องพักด้วยกันเถอะ”

 

“อะ…อ้อ โอเค.”

 

ผมเดินไปที่ห้องพักกับบอส

หลังจากเข้าห้องพักขนาดใหญ่พวกเราก็นั่งลงบนโซฟาด้วยกัน

ผมกัดเล็บและคิดว่า ‘หากการต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นก็เป็นไปได้ว่ามันจะไม่จบจนกว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะตาย….’

 

“อ้อ!”

 

ทันใดนั้นผมก็นึกถึงวิธีดีๆ พลังเวทมนต์ของรอยสักสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 30 ~ 40 นาทีหลังจากออกจากมือของผม ดังนั้นถ้าผมให้บอสมีคุณสมบัติต่อต้านเวทมนต์…ไม่สิบอสอาจไม่ใช้มันด้วยบุคลิกของเธอ

 

“ชิ.”

 

ผมเดาะลิ้นและตอนนั้นถุงมือสีดำของบอสก็ดึงดูดสายตาของผม

 

“คุณ โบชี่ รอบชิงชนะเลิศเหลือเวลาอีก 5 นาที”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

“เดี๋ยวก่อนบอส”

 

ก่อนที่บอสจะลุกขึ้น ผมจับมือที่สวมถุงมือเบาๆ

 

“…?”

 

บอสดวงตาเบิกกว้าง เธอมองมาที่ผม เมื่อพวกเราสบตากับผมแอบใช้พลังเวทมนต์ของรายสักลงไปในถุงมือของเธอ เห็นได้ชัดว่าผมใส่คุณสมบัติต้านทานเวทมนตร์ลงไป

 

“นายจะมาทำอะไรในที่แบบนี้”

 

“….”

 

“ คิมฮาจิน”

 

ผมต้องการเวลาซักพักนึง เมื่อมองบอสที่สับสนวุ่นวาย ผมก็บ่นออกมา

“ผมกำลังเชียร์คุณ ไม่ให้แพ้น่ะ”

 

“…อะไรนะ?”

 

“ อย่าแพ้ละ”

 

และแล้ว

 

[อ่า…พวกเราต้องขออภัยต่อแขกทุกคนที่อยู่ที่นี่ด้วย พวกเราเพิ่งได้รับแจ้งจากผู้เข้าร่วม ‘เยโอมัก’ ว่าเขาอยากถอนตัวทางเราเลยมีการจับคู่ใหม่เป็นระหว่าง ‘โบชี่’ กับ ‘ลิโป้’ ขึ้นแทน]

 

“… เอ๊ะ?”

 

ผมเงยหน้าขึ้นมองลำโพงบนเพดาน

 

“อะไรนะ?”

 

ผมหันกลับไปหาบอสและมองมือที่ผมถืออยู่

 

“นายไปได้แล้ว”

 

“อ้อ ใช่ๆ ลืมเลย ขอโทษนะ”

 

ผมรีบปล่อยมือทันที

 

*************************************************************************

 

[ชั้น 13 พื้นที่พักผ่อน, 49:03:02]

[49:03:01]

[49:03:00]

 

ปาร์ตี้ของ ไอลีน เริ่มปีนขึ้นหอคอยอีกครั้งทันทีที่ภัยพิบัติของ Crevon ถูดจัดการและไม่นานพวกเธอก็มาถึงชั้น 13 รูปแบบของชั้นที่ 13 คือ

‘พักผ่อน’ จินเซยอน ที่มีไหวพริบสังเกตว่าการนอนหลับเป็นส่วนที่ท้าทายของชั้นนี้ ปัจจุบันพวกเขาไม่ได้นอนหลับมานานกว่า 50 ชั่วโมง

 

“ชินจงฮัก กิลด์นายกำลังทำอะไรอยู่เหรอ”

 

จินเซยอน ถาม ชินจงฮัก การพูดคุยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการง่วงนอน ทุกคนบังคับตัวเองให้พูดคุยเพื่อไม่ให้เปลือกตาปิดลง

 

“พวกเขาคงไม่ใช่ 1 ในกิลด์ที่ดีที่สุดในโลกหากพวกเขาทำได้ไม่ดีเพียงเพราะพวกเขาขาดผมไป”

 

“…ใช่ๆ~ นายยอดเยี่ยมมาก~ ~ ยอดเยี่ยม ~”

 

ไอลีน ล้อเลียนคำตอบอย่างภูมิใจของชินจงฮัก เธอเป็นนอนน้อยเป็นปกติอยู่แล้วแถมเธอยังเกลียดฮีโร่จากสมาคม ในสายตาของเธอกิลด์เป็นกลุ่มธุรกิจที่แสวงหาผลกำไรที่สร้างขึ้นโดยทำลายบุคคลหรือประเทศต่างๆ

 

“โอ้ยยยยย ฉันจะบ้าตาย ฉันนั่งที่นี่ไม่ได้แล้ว ฉันจะไปออกกำลังกาย”

 

ไอลีน กระโดดข้ามไปที่ห้องถัดไป จินเซยอน หันไปหา ไอลีน

 

“อย่าแอบนอนละ คุณไอลีน”

 

“ไม่ต้องห่วง”

 

“เปิดประตูเอาไว้ละ”

 

“….”

 

ไอลีน จ้องมองไปที่ จินเซยอน และเปิดประตูเอาไว้ครึ่งหนึ่ง จินเซยอน สังเกตว่า ไอลีน กำลังระมัดระวังตัวเองผ่านช่องว่าง หลังจากนั้นไม่นานร่างเล็กๆของไอลีนก็เริ่มทำท่าทางออกกำลังกาย

 

“1 2 3…..อาาาาาา 86 87 88 …อัก 141 142 143 144 ….”

 

“เดาว่าฉันคงไม่ต้องเป็นห่วงเธอแล้วละ” จินเซยอนพูดพึมพำและมองหน้าชินจงฮักอีกครั้ง เป็นเพราะสมองของเธอครึ่งหลับครึ่งตื่นแล้วใช่มั้ย เมื่อมองไปที่ชินจงฮักแล้วทันใดนั้นเธอก็คิดว่าอาจถึงเวลาแล้วที่จะบอกเขาถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็อยู่ในปาร์ตี้เดียวกันมานานแล้ว

 

“…ชินจงฮัก เธอคิดอย่างไรกับคุณปู่ของเธอ”

 

เธอถามถึงปู่ของชินจงฮัคซึ่งเธอรู้ว่าเขาภูมิใจในตัวคุณปู่ ในความคิดของเธอ ชินจงฮักเป็นคนประเภทที่ชอบคุยโวเกี่ยวกับภูมิหลังครอบครัวของเขา

 

“ปู่ของผมเหรอ?”

 

“ใช่แล้ว ชินมยองชุล หลายคนยังคงให้เกียรติเขาเพราะเขาเป็นคนที่หยุดภัยพิบัติครั้งนั้นไว้ได้”

 

แต่ จินเซยอน ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจกับปฏิกิริยาของชินจงฮัก

 

“ถ้าเธอถามถึงพลบค่ำหลังชีวิต…ผมพูดได้แค่ว่าผมเองก็ยังไม่เข้าใจ”

 

“อะไรนะ?”

 

ชินจงฮักหลับตาของเขาและระลึกถึงความทรงจำจางๆของปู่เขาที่เขามีอยู่ในใจ

 

‘พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง’

 

นั่นคือคำพูดของปู่เขา เห็นได้ชัดว่ามันมาจากหนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับฮีโร่ในช่วงเวลาที่ยังไม่ใช่ฮีโร่ ชินมยองชุล ปู่ของเขาสลักคำเหล่านั้นไว้กลางจิตใจอย่างลึกซึ้ง ในท้ายที่สุดเขาช่วยมนุษยชาติด้วยการเสียสละชีวิตของเขาเอง

 

“แม้ว่าคุณปู่จะเสียสละชีวิตของตัวเอง แม้หายนะจะหยุดลง และมีคนแข็งแกร่งมากมายเกิดขึ้นมาในโลก”

 

ฮีโร่ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นกลับต้องมาตายแต่ฮีโร่ที่มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองกลับยังมีชีวิตอยู่ แต่จริงๆแล้วชินจงฮักไม่พอใจ ถ้ามีเพียงปู่ของเขาเท่านั้นที่เสียสละชีวิตเพื่อกอบกู้โลกแล้วทำไมคุณปู่ถึงได้แค่เป็น 1 ใน ‘ 9 ดารา’? อีก 8 คนไปอยู่ที่ไหนในตอนนั้น

 

“ปู่ควรจะมีชีวิตอยู่ เขาน่าจะอยู่ในโลกนี้เพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านี้”

 

สำหรับชินจงฮักปู่ของเขาคือ ‘ชินเมียงสกุล’ เป็นวีรบุรุษที่แท้จริง

 

“ฉันเข้าใจ.”

 

จินเซยอน ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม ชินจงฮักไม่ได้พูดอะไรต่อ ความเงียบสงบเต็มบรรยากาศระหว่างคนทั้งสอง

 

“ฉันจะถามคำถามที่ละเอียดอ่อนกว่านี้ได้ไหม?”

 

“…พวกเรากำลังเล่นเกมถามตอบหรืออะไรอยู่หรือเปล่า?”

 

ชินจงฮัก พูดจาเสียดสีแบบไม่รู้ตัว เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วถึงความผิดพลาดของเขาทำให้เขาต้องตัวสั่น แต่เขาก็ไม่ได้แก้ตัวให้ตัวเองโชคดีที่ จินเซยอน ดูเหมือนจะไม่สนใจ

 

“เธอเองก็สามารถถามมาได้หากเธออยากให้ฉันตอบคำถามของเธอ”

 

“…ถ้างั้นคุณเริ่มก่อนเลย”

 

“นายอน เป็นอะไรสำหรับเธอ”

 

จินเซยอน ถามตรงประเด็น ชินจงฮัก ขมวดคิ้ว แต่ชื่อของ แชนายอน ทำให้เขาจำความทรงจำอันน่ารักที่เขามีต่อเธอได้เป็นอย่างดี

 

…ในตอนแรกเขาคิดว่า แชนายอน เป็นผู้หญิงคนเดียวที่คู่ควรกับเขา ครอบครัวเดียวที่เหมาะสมกับตระกูลชินคือแดฮยอน นั่นคือความคิดแสนไร้ค่าที่เขามีตอนแรก

 

แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเขาได้รู้จักกับ แชนายอน มากขึ้นเรื่อยๆเขาก็หยุดสนใจเรื่องพวกนั้นไปก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวซะอีก เขาเพียงแค่สนุกกับเวลาที่เขาใช้กับแชนายอน เมื่อเขาอยู่กับเธอเขารู้สึกได้ว่าน้ำหนักที่ไหล่ของเขาถูกยกออก โลกสีเทาสดใสขึ้นเสมอเพียงเธอมีรอยยิ้ม ไม่สิมันสว่างสดใสและทำให้โลกมีสีสันมากขึ้นในทันที

 

“…เธอเป็นคนที่ฉันชอบ”

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงเกลียด เฟนริล คนที่เอารอยยิ้มที่แท้จริงไปจากเธอ

 

“ฉันเข้าใจ.”

 

“ถ้างั้นก็ถึงตาของผม คุณมีครอบครัวไหม?”

 

ชินจงฮักถามคำถามที่ละเอียดอ่อนเหมือนกัน จินเซยอน เกลียดการเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับครอบครัวของเธอ

 

“แน่นอน. พ่อของฉันก็เป็นฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน”

 

แต่บางทีมันอาจเป็นเพียงข่าวลือ เธอพูดด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งอย่างสมบูรณ์แบบ

 

“แม่ของฉันถึงตายในขณะที่ให้กำเนิดน้องชายของฉัน น้องชายของฉันเสียชีวิตด้วยโรคร้ายเมื่อตอนเขาอายุ 3 ขวบ”

 

“เอ่อ คุณไม่ต้องเล่นขนาดนั้นก็ได้….”

 

ด้วยความรู้สึกเสียใจ ชินจงฮัก หันกลับมามอง จินเซยอนที่ยิ้มเบา ๆ

 

“โอ้ ใช่เอานี่ไปสิ”

 

เธอหยิบลูกแก้วเล็กออกมาจากกระเป๋าของเธอ

 

“นี่อะไรน่ะ?”

 

“ของดี เก็บลูกแก้วนี้ไว้และตั้งเป้าหมาย ยิ่งเป้าหมายสูงเท่าไรรางวัลยิ่งสูงมากเท่านั้นตอนที่เธอบรรลุเป้าหมาย”

 

ชินจงฮัก ตรวจสอบข้อมูลไอเท็ม

 

===

[ลูกแก้วแห่งความหวัง Lv.???]

○Lv.??? กำหนดเป้าหมาย

– ตั้งค่าเป้าหมายที่คุณต้องการบรรลุ

○ Lv.??? บรรลุเป้าหมาย

– เมื่อคุณบรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ลูกแก้วนี้จะเปลี่ยนเป็นไอเท็มที่เหมาะสมกับเป้าหมาย

(มีผลดี)

===

————————————–2———————————-