1692-2 vs 1693 vs 1694-1 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1692-2

“หมายเลข 7 หมายเลข 7 เกิดอะไรขึ้น? พูดหน่อยสิ”

ป๋อจิ่วว่า “ฉันเพิ่งไปฉี่เว้ย”

“ครั้งต่อไปถ้าเข้าห้องน้ำก็ต้องติดต่อสื่อสารกลับมา ว่าแต่สถานการณ์ของแกเป็นยังไงบ้าง?”

“ปกติดีนี่” ป๋อจิ่วพูดจบ ก็ยัดอุปกรณ์ฉีดยากลับเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเอง

ที่นี่ ทหารรับจ้างทุกคนต่างสวมหูฟังบลูทูธ หากคนใดคนหนึ่งไม่ส่งเสียงตอบ ห้องควบคุมจะต้องจับได้ ฉะนั้น หากไม่คับขันจริงๆ เธอจะไม่ลงมือเชือดคนของพวกมันเด็ดขาด จึงส่งผลให้การลอบเข้ามายากยิ่งขึ้น เพราะในห้องควบคุมเครื่องรบกวนสัญญาณย่อมมีคนเฝ้า ท่าทางจะต้องฉวยเวลาสั้นๆ ลงมือ

เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่า การสอบถามตรวจเช็คมีความถี่เป็นอย่างไร เพราะหากเข้าไปห้องนั้นได้ เธอย่อมต้องทำร้ายพวกมัน และขอเพียงควบคุมห้องนั่นให้ได้ จึงจะปิดสัญญาณเครื่องนั่น โดยที่ไม่มีใครจับได้อย่ารวดเร็ว ดังนั้นการลงมือเวลาไหน ถือเป็นกุญแจสำคัญ

ป๋อจิ่วหันหน้าไป แววตาดำขลับของเธอสวางโรจน์และมืดทะมึนสลับกัน

เธอเดาไม่ผิด เพราะรู้จักคนคนหนึ่งเป็นอย่างดี จึงเดาความคิดของอีกฝ่ายได้พอสมควร เหตุที่ฉินมั่วเลือกใช้วิธีดังกล่าวเพื่อเข้าใกล้ตัวคิง ก็เพื่อจะให้คิงเปิดเผยตัวออกมา โดยในวลาที่ทั้งสองคุยธุรกิจกัน จะนานพอที่คนจากกองทัพจับหาตำแหน่งของคิงและแหล่งผลิตยาได้อย่างแม่นยำ หากจะช่วยตัวประกันทั้งหมดให้รอด จำต้องเข้าใกล้ชนิดที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัว และถ้าปล่อยให้คิงเอะใจขึ้นมา พวกนักท่องเที่ยวเหล่านั้นต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แน่ แถมโรงเรียนที่ชายแดนนั่นอีก…

ฉินมั่วเองก็รู้ว่าหนังเรื่องที่จะดูถือเป็นการทดสอบที่ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง เขาจึงไม่ลุกขึ้นมา

ชายหนุ่มยังคงนั่งบนเก้าอี้ ตามองหน้าจอ มือถือถ้วยชา เพราะรอยแผลเป็นบนใบหน้า ส่งผลให้เขาดูเหี้ยมมาก ออร่าของความเป็นมาเฟียไม่เปลี่ยนแปลงสักนิด

ส่วนคิงถือรีโมท ดันแว่นตาบนหน้า แล้วกดปุ่มฉาย

มันไม่ใช่หนังภาพยนตร์ แต่เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียน

ฉินมั่วเอนหลัง “ท่าทางผมกับคุณจะชอบไม่เหมือนกัน ผมไม่สนใจหนังเกี่ยวกับโรงเรียนสักเท่าไร” ว่าแล้ว เขาก็หันหน้าไป “ตรวจสอบสินค้าได้ผลเป็นยังไงบ้าง”

เจ้าชายน้อยรู้ดีว่าตัวเองต้องเล่นให้สมบทบาท “ก็โอเคอะ ของชั้นพรีเมี่ยม พี่ พวกเราต้องดูหนังด้วยเหรอ โคตรน่าเบื่อเลย”

“เบื่อก็หาอย่างอื่นทำ อย่ามารบกวนฉันกับคิง” ฉินมั่วพูดเป็นปกติ

ทว่าคิงกลับหัวเราะ “พาคุณชายรองไปผ่อนคลายสักหน่อย ฉันอยากให้ประธานหรงได้ดูหนังเรื่องนี้ อย่าเข้าใจผิดนะครับ มันไม่ใช่หนังบันเทิงอะไรหรอก คุณดูไปเรื่อง ๆ ก็จะรู้ว่า มันเป็นคลิปที่ผมเจอเรื่องสนุก ๆ อยู่ข้างนอก” พอพูดจบ คลิปก็ฉายภาพเด็กหญิงร่างกลมถูกผลักกระแทกกำแพง แม้จะไม่มีเสียง แต่ยังพอเห็นสีหน้าของคนอื่น ซึ่งพวกเธอเหล่านั้นกอดอก ราวกับกำลังถามอีกฝ่าย แต่วิธีถามกลับไม่ค่อยจะมีมิตรภาพเสียเท่าไร โดยหนึ่งในนั้นผลักไหล่เด็กสาวร่างกลม

เวลานั้น บรรยากาศในกระท่อมดังกล่าวเปลี่ยนไป การบูลลี่ในโรงเรียน? เจ้าชายน้อยพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ให้คนอื่นเห็นอารมณ์ตัวเอง คลิปนี่มันคืออะไร? คนพวกนี้สวมชุดนักเรียนของโรงเรียนมัธยมในจีนนี่?

เป็นโรงเรียนในจีน?

แล้วเป็นโรงเรียนไหน?

ใช่ว่าเจ้าชายน้อยจะไม่ได้เรียนในโรงเรียน ตอนที่เรียนเขายังพอจะได้เห็นเด็กผู้หญิงรวมกลุ่มกัน แล้วทอดทิ้งเด็กผู้หญิงอีกคนเพียงลำพัง

แต่มันไม่ใช่แบบนี้ นี่มัน…

เจ้าชายน้อยยังไม่ทันได้คิดอะไรออกมา เสียง ‘ผัวะ!’ ก็ดังขึ้น

………………………………………………

ตอนที่ 1693

เด็กสาวร่างกลมในคลิปวิ่งออกไป เดิมที่คิดว่าเรื่องจะจบลงเพียงเท่านั้น ไม่คิดว่าคลิปจากลากไปถึงฉากในห้องเรียน

ภายในคลิป อาจารย์พานักเรียนที่ย้ายเข้ามาเรียนคนหนึ่ง เด็กคนนั้น เด็กคนนั้นคือเจ้าดำน้อย! เจ้าชายน้อยพยายามควบคุมสีหน้าตัวเอง ทว่าในเวลาเดียวกัน มือกลับกำพนักเก้าอี้แน่น

เกิดอะไรขึ้น! หมายความว่าเจ้าดำน้อยถูกจับได้ในระหว่างที่ปลอมตัวปฏิบัติภารกิจงั้นเหรอ?

เจ้าชายน้อยกำแรงขึ้น อยากจะหันหน้าไปมองบอส แต่ในเวลาเดียวกัน คิงกลับทุ่มเทความสนใจต่อการดูสีหน้าบอส โดยไม่มองคนอื่นเลย ซึ่งฉินมั่วยังคงนั่งไขว่ห้างเหมือนเดิม มือเท้าคางราวกับไม่สนใจดูคลิปนั่นสักเท่าไร แค่เหลือบมองบ้างเป็นบางครั้ง ราวกับการปรากฏตัวของป๋อจิ่วไม่ได้ทำให้เขาสนใจนัก ทว่าไม่มีใครเห็นว่า แผ่นอกของเขาขยับขึ้นลง

คิงยกแก้วไวน์ขึ้น “ท่าทางประธานหรงจะเบื่อ”

“ก็ยังโอเคอยู่” ฉินมั่วยกแก้วชน “เพราะผมสนใจเรื่องธุรกิจมากกว่า”

คิงยิ้มทันที “ผมก็เหมือนกัน แต่ของดีกำลังจะเริ่มแล้ว เราดูต่อให้จบดีกว่า”

ฉินมั่วไม่ปฏิเสธ ราวกับจะยังไงก็ได้ ทว่าเมื่อเขากลับไปดูอีกครั้ง หัวใจก็ถูกบีบแน่น ทำไมเธอถึงไปอยู่ที่นั่น ไม่ใช่ที่ค่ายทหาร?

ฉินมั่วเขย่าแก้วไวน์ ราวกับทำแบบนี้แล้วจะข่มความตื่นตระหนกของตัวเองได้

คิงเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเสียดาย “ตอนแรกเด็กทั้งโรงเรียนจะกลายเป็นตัวประกันของผมได้แล้วเชียว แต่กลับโดนเจ้าเด็กนั่นทำลายแผนหมด ประธานหรงคงคิดไม่ถึงกว่า เด็กม. ปลายคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เขามาเจอผม”

ฉินมั่วกระดกแก้วด้วยท่าทีสมกับเป็นมาเฟีย “น่าสนใจดี”

“ใช่” คิงหันไปมองฝานเจีย คำถามที่อยู่ในแววตาชัดเจนมาก ซึ่งเธอพยักหน้า คิงก้มหน้าหัวเรา แววตาเต็มไปด้วยการลองใจอย่างชั่วร้าย จนมาถึงตอนนี้ อีกฝ่ายก็ยังไม่หลุดเลย

ตอนแรกเขาก็สงสัยว่า คนที่มีมาคุยธุรกิจกับเขาจะเป็นฉินมั่ว ท่าทางประธานหรงคนนี้จะเป็นคนในวงการสีเทาจริง ๆ ขนาดความเคยชินเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังไม่เหมือนฉินมั่วสักนิด

ในความทรงจำของเขา เด็กหนุ่มคนนั้นช่างไม่รู้จำฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ สายตาที่มองเขายังแฝงความเบื่อหน่าย นั่นเป็นประสบการณ์ของการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย เพราะนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยล้วนแต่มองเขาด้วยความศรัทธา แต่คนที่อุตส่าห์เห็นค่าว่าจะเป็นทายาทของเขา กลับมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น รวมถึงยังมีแนวคิดที่ขัดกับเขาอีก ทั้งที่เป็นคนที่เข้าใจความเป็นมนุษย์เหมือนกันกับเขาแท้ๆ ซึ่งไอ้ที่ไม่ยอมร่วมมือกับเขายังไม่เท่าไร แต่นี่ยังจะมาจับเขาเข้าคุกอีก

เฮอะ สำหรับพวกคนธรรมดาดาษดื่น ก็ต้องเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อเราสิ มันถึงเวลาที่จะทำให้ฉินมั่วเข้าใจหลักการนี้แล้ว

ใช่ คิงไม่ได้อยากให้ฉินมั่วตายหรอก หากเทียบกับความตาย เขาอยากให้อีกฝ่ายกลายเป็นลูกน้องของเขามากกว่า นี่แหละที่เขาปรารถนา ขอแค่กระตุ้นคำสั่งฝังทางจิต ฉินมั่วก็จะกลายเป็นอาวุธทรงประสิทธิภาพที่เอาไว้ใช้ต่อกรกับฝ่ายทหารได้สบาย ๆ ดังนั้นจะต้องแน่ใจว่า ประธานหรงคนนี้มาทำการค้ากับเขาจริง ๆ หรืออยู่ในอีกสถานะหนึ่ง…

……………………………………………………..

ตอนที่ 1694-1

ในเวลาเดียวกันที่นอกกระท่อมไม้ กลางทะเลดอกไม้

การจะปลูกต้นฝิ่นให้ได้ผลผลิตดีๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ทหารรับจ้างต้องเดินตรวจตราอยู่เรื่อย ป้องกันไม่ให้พวกคนปลูกกล้าคิดทำอะไรนอกคอก เช่นเดียวกัน มันจึงเป็นที่ที่ถูกป้องกันอย่างเข้มงวด

ป๋อจิ่วหิ้วปืนเดินผ่านคนปลูกคนหนึ่ง ด้วยท่าทีเหี้ยมโหด ทำให้เธอสามารถเดินเข้าไปยังห้องควบคุมได้โดยไม่มีใครสงสัย แต่หากจะเข้าไปในห้องควบคุมก็ต้องบอกรหัสได้

เธอเดินไปมาอยู่แถวนั้น ทำเหมือนกับกำลังตรวจตราวงนอก ทั้งๆ ที่กำลังฟังความเคลื่อนไหว

จากเมื่อครู่มาถึงตอนนี้ มีคนเข้าไปถึงสามกลุ่ม และคนทั้งสามกลุ่มกลับใช้รหัสต่างกัน ซึ่งระบบป้องกันแบบนี้ ต่อให้เธอความจำดีขนาดไหนก็ยากจะเข้าไปได้

ในขณะที่ป๋อจิ่วหรี่ตา กลุ่มที่สี่ก็เดินมาพอดี ป๋อจิ่วเลิกคิ้ว คาบบุหรี่ หิ้วปืนด้วยมือขวา พลางยื่นมือซ้ายไปเกาะบ่าหนึ่งในนั้น “เฮ้ย เพื่อน มีไฟแช็กป่ะ”

“แหงอยู่แล้ว” เจ้าคนนั้นกวาดตามองป๋อจิ่ว “แต่ทำไมถึงไม่คุ้นหน้าแกเลยวะ มาตั้งแต่เมื่อไร แล้วแกดูห้องควบคุมเหรอ?”

ป๋อจิ่วมองหน้าอีกฝ่าย รับรู้ความระแวงของอีกฝ่าย จึงยิ้มบาง ๆ ให้ “เพิ่งมาไม่นาน”

“ถึงว่า ฉันไม่เคยเห็นแกมาก่อน” เจ้านั่นพูดพลาง กดไฟแช็กให้ ให้ยื่นถึงตรงหน้าป๋อจิ่ว

ป๋อจิ่วจุดบุหรี่เสร็จ ก็ไม่ได้เดินตามต่อไป แค่โบกมือให้ “ขอบใจนะเว้ย”

“เออ ไม่เป็นไร” เจ้านั่นเห็นอีกฝ่ายไม่เดินหน้าต่อก็คลายความสงสัยลง ก่อนจะเดินหน้าไปยังห้องควบคุม

ป๋อจิ่วคาบบุหรี่ เดินตรวจตราอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับแค่มาขอยืมไฟแช็กเท่านั้น แต่เธอรู้ดีว่าเมื่อครู่หากเธอเดินต่อไป สถานะที่แท้จริงจะต้องถูกเปิดเผยแน่

การล่วงรู้รหัสลับที่จะเข้าห้องควบคุม มันยากที่กว่าคิดไว้เสียอีก เห็นทีเธอจะต้องตรวจเช็คด้วยความอดทนมากขึ้น เธอช้อนสายตาขึ้น พ่นควันออกมา มองดูพระอาทิตย์ที่กำลังลับฟ้า ฟังรหัสของคนในกลุ่มที่เจ็ด

มุมปากของเธอผุดรอยยิ้มขึ้น นั่นไง หลังจากที่ผ่านไปแล้วสามรหัส รหัสก็จะเริ่มวน จากนั้นเธอเดินไปยังห้องควบคุม แสร้งทำตัวเป็นคนในกลุ่มที่แปด และถูกคนที่เฝ้าห้องควบคุมรั้งตัวไว้ โดยคนพวกนั้นมองป๋อจิ่ว เอ่ยขึ้นว่า “รหัสล่ะ”

ป๋อจิ่วระลึกถึงความทรงจำเมื่อครู่ แล้วเอ่ยออกไปอย่างไม่ช้าหรือเร็วนัก คนที่เฝ้าห้องควบคุมมองตากัน ก่อนจะหลบไปยืนด้านข้าง ส่งผลให้เธอรู้ว่าตัวเองเอ่ยรหัสถูก จึงหิ้วปืนด้วยมือข้างหนึ่งเดินเข้าไป

ห้องควบคุมห้องนั้นใหญ่มาก พอเข้ามาก็เห็นกล้องวงจรปิดที่ระเบียง ซึ่งมีทั้งหมดหกตัว แต่ละตัวล้วนแต่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเธอ ดังนั้น เธอจะต้องเปลี่ยนสถานะ พยายามเข้าใกล้เครื่องหลักอย่างไม่ดูจงใจ ภายใต้สภาวะที่ไม่ใช้กำลัง

ใช่ ป๋อจิ่วเปลี่ยนแผนกระทันหัน  หลังจากที่เห็นกล้องวงจรปิดจำนวนมากมาย ก็ไม่คิดจะทำลายป้อมรบกวนสัญญาณอีกต่อไป เพราะยังมีอีกวิธีที่ปลอดภัยกว่า ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์มาแชร์ IP Address แค่นี้ก็ไม่โดนรบกวนสัญญาณแล้ว

อุปกรณ์รบกวนสัญญาณก็เหมือนเป็นฝาครอบป้องกัน โดยมันจะทำการครอบไว้อย่างสมบูรณ์ คนอื่นไม่อาจหาเจอได้อย่างรวดเร็ว แต่หากอุปกรณ์และระบบอินเทอร์เน็ต จะต้องไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกรบกวนสัญญาณแน่ ไม่งั้น พวกมันจะติดต่อกันได้อย่างไร

…………………………………………………..