ตอนที่ 502 การตายของมู่หยาง / ตอนที่ 503 ข่มเหงกันเกินไป

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 502 การตายของมู่หยาง

 

 

มู่หยางพูดเลียนเสียงผู้หญิง บีบเสียง “บ่าวหน้าตาขี้เหร่ เกรงว่าแม่ทัพจะตกใจ”

 

 

“เงยหน้าขึ้น”

 

 

เฟิงเยว่ย้ำอีกครั้ง น้ำเสียงเฉียบขาดขึ้นอีก

 

 

มู่หยางจึงต้องเงยหน้าขึ้น ปิงซินบรรจงทาแป้งแต่งหน้าให้เขา เขียนขอบตาดำ แต้มตุ่มแดงกระจายทั่วใบหน้าที่ซีดขาว ดูน่ากลัวมาก

 

 

พอเห็นหน้าตาอย่างนี้ เฟิงเยว่ก็ถอยหลัง น่าเกลียดจริงๆ

 

 

มู่หยางกลัวว่าเฟิงเยว่จะเห็นความผิดปกติ รีบก้มหน้าลง “บ่าวป่วยเป็นโรคประหลาด มีตุ่มเต็มหน้า ขี้เหร่อย่างนี้ ไม่กล้าทำลายสายตาของแม่ทัพ”

 

 

“แม่ทัพก็เห็นแล้ว ยังมีปัญหาอะไรหรือ?”

 

 

ซูจิ่วซือลุกขึ้น มองดูเฟิงเยว่ ไล่แขกอย่างสุภาพ เฟิงเยว่เต็มไปด้วยความโกรธ

 

 

จู่ๆ เขาก็ยื่นมือไปจับข้อมือของซูจิ่วซือ “ข้าขอเตือนคุณหนูมู่ อย่าย่ามใจเกินไป

 

 

เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่เทียบเคียงน้องสาวข้า ยังคิดจะแย่งตำแหน่งพระชายารัชทายาท ไม่รู้จักส่องกระจกดูเงาตัวเอง เจ้าเทียบกับชิงสุ่ยไม่ได้แม้แต่นิ้วมือเดียว”

 

 

มู่หยางไม่อาจทนให้ใครมารังแกซูจิ่วซือ พอเห็นเฟิงเยว่หยาบคายกับซูจิ่วซือ ก็รีบพุ่งเข้าใส่ “ปล่อยซือซือ”

 

 

เฟิงเยว่ปล่อยข้อมือซูจิ่วซือ ซูจิ่วซือตะลึงมองมู่หยาง เมื่อกี้เขาพูดด้วยเสียงเดิม เจ้าคนโง่ ทั้งๆ ที่รอดตัวแล้ว ทำไมจึงส่งเสียง เฟิงเยว่ไม่สามารถทำอะไรนางได้จริงๆ

 

 

เฟิงเยว่หัวเราะทันที “มู่หยางเอ๋ยมู่หยาง ที่แท้เจ้าอยู่นี่เอง พวกเจ้าสองพี่น้องฉลาดจริงๆ กล้ากระทั่งปลอมตัวเป็นผู้หญิง ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต เจ้าต้องเอาชีวิตมาชดใช้น้องชายข้า”

 

 

กู้หลียวนร้อนใจ แม้บาดเจ็บอยู่ รีบคว้ากาชาบนโต๊ะ ขวางหน้ามู่หยางไว้ “รีบหนี”

 

 

ทหารที่มากับเฟิงเยว่พากันล้อมไว้ มู่หยางรู้ดี เขาหนีไม่พ้น ทันทีที่เขาส่งเสียง จุดจบก็ถูกกำหนดไว้แล้ว

 

 

แต่เขาไม่เสียใจ นั่นเป็นสัญชาตญาณ เขาไม่อาจทนเห็นใครมารังแกน้องสาวซึ่งกลับมาบ้านอย่างยากเย็น

 

 

มู่หยางตบไหล่กู้หลียวน “พี่กู้ อย่าวู่วาม วันหลังดูแลปิงปิงให้ดี นางเป็นผู้หญิงที่ดี”

 

 

“พี่รอง”

 

 

ซูจิ่วซือเครียดจัด รู้ดีว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร นางเสียใจมาก

 

 

เขาเป็นคนร้ายที่มีหมายจับ เฟิงเยว่จับเขาเป็นเรื่องถูกต้องตามหลักเหตุผล เมื่อตกอยู่ในกำมือของเฟิงเยว่ เขาต้องตายแน่ พวกนั้นไม่มีวันให้โอกาสพวกเขาปล้นคุกเป็นครั้งที่สอง

 

 

เดิมทีนางยังนึกว่าตระกูลเฟิงคงไม่ถึงกับตามติดไม่ยอมปล่อย นึกไม่ถึงว่าเฟิงเยว่จะมาตรวจค้นด้วยตัวเอง คราวนี้เฟิงชิงสุ่ยจงใจแก้แค้นนาง

 

 

มู่หยางยิ้มหยัน “เจ้าจับข้าแต่ก็ไม่ได้แก้แค้นให้เฟิงหยวน ข้าไม่ได้ฆ่าเขา”

 

 

“เรื่องนี้มีคนเห็น เจ้าไม่ต้องปากแข็ง”

 

 

มู่หยางลงมือ เตะทหารที่อยู่ใกล้ที่สุด คนที่เหลือกรูเข้ามาทันที มู่หยางแย่งดาบในมือของทหาร แทงอกของตนเองอย่างแรง

 

 

เลือดแดงฉานกระจายไปทั่ว และกระอักเลือดกองใหญ่

 

 

“พี่รอง”

 

 

ซูจิ่วซือร้องเรียก รีบเข้าไปจะประคองมู่หยางไว้ แต่มู่หยางผลักซูจิ่วซือออก ได้ยินเสียงดังโครม มู่หยางล้มไปข้างหลังทันที

 

 

ซูจิ่วซือพุ่งเข้าไปหา มุมปากของมู่หยางมีเลือดแดงสดทะลักออกมาไม่ขาดระยะ

 

 

“พี่รอง ทำไมโง่อย่างนี้ พี่รอง…ทำไมทำอย่างนี้…”

 

 

ซูจิ่วซือทั้งร้อนใจทั้งโกรธแค้น ปวดร้าวใจอยู่ลึกๆ ขอบตาแดง นางเป็นคนเก็บอารมณ์ แทบไม่ร้องไห้ แต่การกระทำของมู่หยางเมื่อกี้ทำให้นางสะเทือนใจมาก

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 503 ข่มเหงกันเกินไป

 

 

เท่าที่อยู่ด้วยกัน นางถือว่ามู่หยางเป็นพี่ชายจริงๆ มู่หยางดีต่อนางมากๆ

 

 

“แม่หนู อย่าร้องไห้…” มู่หยางฝืนยิ้มให้ซูจิ่วซือ “ข้าจะไปแล้ว อย่าบอกท่านแม่ ข้า…กลัวท่านแม่เสียใจ วันหลัง…เจ้าต้อง…ดูแลตัวเอง…”

 

 

“พี่รอง ทำไมต้องทำอะไรโง่ๆ จะให้ข้าทำอย่างไร ข้าจะทำอย่างไร?”

 

 

ซูจิ่วซือรู้สึกปวดร้าวใจอย่างยิ่ง น้ำตาอุ่นหยดลงบนใบหน้าของมู่หยาง มู่หยางยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้ซูจิ่วซือ แต่มือไร้เรี่ยวแรง เขาพยายามยิ้มให้ซูจิ่วซือ “เจ้าเป็นน้องสาวข้า…ข้าไม่ยอมให้ใคร…ข่มเหงเจ้า…ซือซือ มีชีวิต…ที่ดี…”

 

 

คำสุดท้ายพูดออกมาอย่างยากเย็น ยังไม่ทันจบ มู่หยางก็หลับตา มุมปากยังยกขึ้น เหมือนกำลังยิ้มอยู่ ใต้ตัวมีเลือดกองใหญ่

 

 

ซูจิ่วซือรู้ว่ามู่หยางจากไปแล้ว นางทรุดตัวลงนั่งที่พื้นอย่างหมดแรง จู่ๆ ก็นึกถึงคำพูดของซูเหลียงอินก่อนตาย นางไม่มีน้องสาวแล้ว เวลานี้ไม่มีพี่ชายแล้ว ทั้งสองต่างคาดหวังให้นางมีชีวิตที่ดี แต่หัวใจของนางเจ็บปวดเหลือเกิน

 

 

กู้หลียวนยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าหนักใจ เขาใกล้ชิดกับมู่หยางด้วยจุดหมายบางอย่าง แต่ก็รู้ว่ามู่หยางเป็นคนดีอย่างแท้จริง

 

 

เฟิงเยว่รู้ว่ามู่หยางตายแล้ว เขาไม่รู้สึกสะเทือนใจแม้แต่น้อย รีบออกคำสั่ง “มานี่ เอาศพไป”

 

 

พอได้ยินว่าเฟิงเยว่จะเอาศพไป กู้หลียวนก็พลุ่งพล่านทันที “เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่ มู่หยางถึงอย่างไรก็เป็นคุณชายตระกูลมู่ ถือสิทธิ์อะไรเอาศพไป คนพอตายแล้วก็พ้นโทษ พวกเจ้าข่มเหงกันเกินไป ที่นี่เป็นตระกูลมู่”

 

 

“คนตายไปแล้วแต่เป็นคนร้ายที่มีหมายจับ ศพต้องมอบให้ทางการจัดการ ข้าขอเตือนเจ้าอย่ามายุ่ง ไม่งั้นข้าจะจับเจ้าเข้าคุกหลวง”

 

 

กู้หลียวนไม่กลัวเฟิงเยว่ เขาถลึงตาใส่เฟิงเยว่ “แน่จริงก็จับเลย ถึงอย่างไรพอติดคุก องค์รัชทายาทก็จะพาข้าออกมาเอง ไม่รู้ว่าแม่ทัพเฟิงจะอธิบายให้องค์รัชทายาทฟังอย่างไร”

 

 

“เจ้า…”

 

 

เฟิงเยว่คาดเดาฐานะของกู้หลียวนถูก ถ้าจับกู้หลียวนโดยไม่มีเหตุผล รัชทายาทคงทำให้ตนเดือดร้อน

 

 

ซูจิ่วซือผุดลุกขึ้นทันที สะกดอารมณ์ไว้หมด ท่าทางสงบเป็นพิเศษ

 

 

แต่ภายใต้สีหน้าที่สงบมีพายุฝนซ่อนอยู่ แววตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง “แม่ทัพเฟิงถ้าจะพาพี่รองไป ก็ข้ามศพข้าก่อน ไม่ควรได้คืบก็เอาศอก แม่ทัพเฟิงคิดว่าจะข่มเหงตระกูลมู่ได้ง่ายๆ หรือ?

 

 

ถึงเรื่องจะไปถึงฮ่องเต้ พวกข้าก็ไม่กลัว แม่ทัพเฟิงรับพระบัญชามาจับพี่รอง แต่ไม่คำนึงถึงกฎหมาย ถึงกับฆ่าคนในจวนตระกูลมู่ ข้าจะไปทูลขอความยุติธรรมจากฮ่องเต้”

 

 

“คุณหนูมู่รู้จักกลับดำเป็นขาวจริงๆ”

 

 

“ถ้าแม่ทัพเฟิงทำ ข้าก็จะทำเหมือนกัน จะลองดูก็ได้”

 

 

เฟิงเยว่เองก็ไม่อยากให้เรื่องลุกลาม เพราะไม่เป็นผลดีต่อเขาเอง ในเมื่อมู่หยางก็ตายไปแล้ว เขาจึงพาลูกน้องออกไปทันที

 

 

พอเฟิงเยว่ไปแล้ว ซูจิ่วซือก็นั่งเหม่อที่พื้นอีกครั้ง กู้หลียวนคุกเข่าอยู่ข้างๆ ในใจรู้สึกปวดร้าว อยากพูดอะไรเป็นการปลอบโยน แต่รู้สึกว่าไม่รู้จะพูดอย่างไร

 

 

เดิมทียังนึกว่าจวนซิ่นอ๋องเลวร้าย นึกไม่ถึงว่าคนตระกูลเฟิงก็เลวร้ายเหมือนกัน

 

 

มู่อวิ๋นชางพอได้ข่าวก็เข้ามา เห็นมู่หยางนอนที่พื้น เขาเกือบเซล้มลง แต่พยายามควบคุมตัวเอง รีบก้าวเข้ามาหามู่หยาง ซูจิ่วซือรู้สึกผิดมาก ก้มหน้าลง “ท่านพ่อ ขออภัย ข้าปกป้องพี่รองไม่ได้”

 

 

“เจ้าทำเต็มที่แล้ว ซือซือ ไม่ต้องโทษตัวเอง เป็นเรื่องของชะตากรรม”

 

 

มู่อวิ๋นชางถอนหายใจอย่างแรง ในใจรู้สึกหนักอึ้ง