บัญชามังกรเดือด บทที่ 692 ยืมมีดฆ่าคน
ข่าวคราวแพร่สะพัดไปทั่ว ในช่วงเวลาไม่นาน ก็กระจายไปถึงฮั่นจง
ราชาเถียสิบสาม ตัดหน้าตระกูลเจียวไปต่อหน้าต่อตา หมั้นหมายกับคนในดวงใจของเจียวเหลียง
ผู้อารักขาข้างกายของเขา ใช้กลอุบายเพียงสองอย่าง ….บังคับให้เขายอมแพ้และหนีไป
ตระกูลเจียวต้องยอมสละเวทีและโรงแรมที่จัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยแล้วให้เขาไป
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลเจียว คือเว่ยเทียนเหอเจ้าบ้านตระกูลเว่ย ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่นั่นเอง ต่อหน้าก็แสดงท่าทีเห็นด้วย!
หยางต้าวเจ้าบ้านตระกูลหยางอีกหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ ก็เป็นคนแรกที่มอบคำอวยพรมาให้!
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน หานหลิงแสดงออกมาว่า จะนำแผ่นป้ายอาญาสิทธิ์ไปบูชาที่ห้องโถงใหญ่ของตระกูลหู
ฉินเทียนผู้อารักขาราชาเถียสิบสาม ประกาศออกจากปากตัวเองแล้วว่า จะสร้างคฤหาสน์ ปรากฏขึ้นมาใหม่ คดีโศกนาฏกรรมของหูซื่อเมื่อสามปีก่อนต้องถูกสอบสวนโดยละเอียดอย่างแน่นอน!
ก่อนหน้านี้จู่ๆ ก็ได้รับทราบมาว่า ราชาเถียสิบสามของวิหารเทพปรากฏตัวที่เมืองฮั่นต้องการจะไปสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่ง คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกว่านี้เป็นเพียงแค่การกลั่นแกล้งเท่านั้น
คงเป็นคนดังทางอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีความเกรงใจพวกนั้น จงใจสร้างกระแสทำคอนเทนต์ที่น่าตกใจแบบนี้ออกมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ
ตอนนี้ข่าวนั้นเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว
บรรดาบุคคลสำคัญที่มาร่วมงานเลี้ยงในโรงแรมเหล็ก ต่างเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว!
ในเวลานี้ ต่างพากันสะเทือนไปทั่วทั้งฮั่นจง!
แววตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่คฤหาสน์อันเงียบเหงามานานกว่าสามปีของหูซื่อ
“คนแซ่ฉินจะทำอะไรกันแน่?”
“แถมยังมี เถียโถวคนนั้น เขาเป็น ราชาเถียสิบสาม ของวิหารเทพจริงๆ ใช่ไหม? แล้วฉินเทียนเป็นผู้อารักขาของเขาจริงๆหรือ?”
ณ เชิงเขาฉินหลิง สำนักงานใหญ่ของมังกรซ่อนรูปตะวันตก
ไป๋เลี่ยนตัวแทนซีจุน หลังจากได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว คิ้วก็ขมวดกันเป็นปม
หัวหน้าว่านเป่า คนสนิทพูดเบาๆ ว่า “จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ฉินเทียนกับหูเฟย แห่ง ตระกูลหู เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน”
“ฉะนั้น ไม่ว่าเขาจะสร้างตัวตนปลอมอยู่หรือไม่ก็ตาม แต่การสืบสวนคดีโศกนาฏกรรมของ หูซื่อ นั้นต้องเป็นเรื่องจริงแน่ๆ”
“เรื่องนี้ พวกเราต้องป้องกันไว้ก่อน”
“ห่ะ?” ไป๋เลี่ยนขยับตัวเล็กน้อยและมองไปทาง ว่านเป่า พูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมต้องป้องกันด้วยหล่ะ?หรือว่า การตายยกครัวของ หูซื่อ เมื่อสามปีก่อน จะมีเงื่อนงำอื่นแอบแฝงอยู่จริงๆ?”
“ว่านเป่า เรื่องนั้น ฉันจำได้ว่าคุณเป็นคนไปจัดการ แฟ้มคดีที่คุณให้ฉัน ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นอุบัติเหตุเพลิงไหม้”
ภายใต้แววตาของ ไป๋เลี่ยน ที่มองมาอย่างทะลุปรุโปร่ง สีหน้าของ ว่านเป่า ก็เริ่มแดงขึ้น
เขากัดฟัน และพูดเสียงเบาๆ ว่า “รับทราบ!”
“การตายของ หูซื่อ เป็นอุบัติเหตุจริงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาสืบสวน”
“อย่างไรก็ตาม หยางต้าว เว่ยเทียนเหอ และ จ้าวคง เคยเป็นลูกศิษย์และเคารพบูชา ตระกูลหู มาก่อน เนื่องจาก ตระกูลหู ล่มสลายลง พวกเขาเลยถือโอกาสนี้ ตั้งสถานภาพในฮั่นจง”
“สิ่งที่พวก หยางต้าว เป็นกังวลก็คือ ฉินเทียนสร้างเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ ต้องกระทบกับธุรกิจของพวกเขาอย่างแน่นอน”
“ในตอนนี้ทั้งสามตระกูลใหญ่เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของพวกเรา หากธุรกิจของพวกเขาได้รับผลกระทบ พวกเราก็จะถูกเอี่ยวเข้าไปด้วย”
“เพราะฉะนั้นถ้ามองจากมุมนี้ ฉินเทียนกับพวกเราก็เป็นศัตรูกัน ดังนั้นห้ามอนุญาตให้เขาทำการตรวจสอบตามอำเภอใจได้หล่ะ!”
ไป๋เลี่ยน พยักหน้าและพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ฉันรู้อยู่แล้วหน่ะ”
“เป็นเพราะสาเหตุนี้เอง คนแซ่ฉินถึงได้ฆ่าลูกบุญธรรมของฉัน ความแค้นในครั้งนี้ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้แน่ๆ!”
“เขาเป็นแส้มังกรไม่ใช่หรือ? ในเมื่อมาถึงเมืองฮั่น แล้วไม่มาหาพวกเรา แถมยังไม่เปิดเผยตัวตนอีก งั้นพวกเราก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ก็แล้วกัน”
“ทำตามแผนการเดิม ล่อเสือลงสนาม”
“พวก หยางต้าว เป็นคนเจ้าเล่ห์ ต่อหน้าทำเป็นปล่อยฉินเทียนไป ฉันว่าตอนนี้ พวกเขาต้องไปพบกับหวังเหล่าหู่แล้วหล่ะ”
“แต่ หวังเหล่าหู่ เองก็ไม่ได้โง่ คงไม่ยอมที่จะเป็นปืนให้ใครได้ง่ายๆหรอก แบบนี้พวกเราต้องไปเติมเชื้อไฟซะหน่อยแล้วหล่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ!”
“ฉันจะรีบไปจัดการ เมื่อถึงเวลานั้น จะบีบให้ หวังเหล่าหู่ ลงมือได้อย่างแน่นอน”
“ถ้าฉินเทียนตายภายใต้น้ำมือเขา องค์กรก็จะต่อว่าไม่ถึงหัวหน้าของพวกเรา อย่างมากก็แค่ฆ่า หวังเหล่าหู่ เพื่อชดเชยความผิด” ว่านเป่า เดินออกไปด้วยความตื่นเต้น
……
“ผู้นำตระกูลหยาง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมคุณถึงต้องทำขนาดนี้ด้วย?”
“หรือว่า คุณกลัวฉินเทียนจริงๆ อย่างนั้นหรือ?”
“ฉันยอมรับว่าเขามีความสามารถ เอาชนะนักบวชกู้ได้อย่างง่ายดาย แต่ว่า พวกเรายังมีไพ่ไม้ตายอยู่!”
ภายในห้องเว่ยเทียนเหอ ถาม หยางต้าว ด้วยสีหน้างุนงงสับสน
จ้าวคง ลังเลอยู่ชั่วขณะและพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “แม้ว่าผู้นำตระกูลหยางจะไม่สะดวกลงมือด้วยตัวเอง แต่พวกเรายังมีเสื้อเปื้อนเลือดอย่างชิงเฉินกับหมีเล่ออยู่”
“ฉันรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าทุกคน แสดงออกอย่างเปิดเผยเลยดีกว่า”
“นั่นจะไม่ทำให้พวกเราเสียหน้าหรอกหรือ!”
“จากนี้ คุณจะทำยังไงกับหอการค้าของฮั่นจง”
“จริงสิ!”เว่ยเทียนเหอ กัดฟัน ในแววตาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ถ้าไม่ได้จริงๆ พวกเราก็ยังใช้มือปืนได้นี่!”
“ต่อให้คนแซ่ฉินจะเก่งกาจมากกว่านี้ แต่เขาจะหลบกระสุนได้ทันเชียวหรือ?”
“ผู้นำตระกูลหยาง ขอแค่คุณตอบตกลง ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย”
“เลอะเลือนไปใหญ่แล้ว!” หยางต้าว ตวาดใส่ “พวกคุณก็รู้ว่า ผู้นำของพวกเราคือหอการค้าของฮั่นจงไม่ใช่หรือ?”
“ในเมื่อเป็นหอการค้า ก็ต้องทำแบบการค้า ต่อยตีใช้มีดใช้ปืน….”
“จะว่าไป พวกเขาเองคงไม่รู้ว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสำคัญ สิบวันหลังจากนี้ เป็นวันเลือกตั้งประธานหอการค้า ฮั่นจงใช่ไหม?”
จ้าวคง รีบตอบกลับไปว่า “ตำแหน่งประธาน เป็นของผู้นำตระกูลหยางแต่เพียงผู้เดียว หรือว่ายังมีใครกล้าแข่งกับคุณอีกอย่างนั้นหรือ”
“พวกเรารู้ดีอยู่แล้ว ที่เรียกว่าเลือกตั้ง ก็แค่ให้เป็นไปตามกระบวนการ ให้คนภายนอกเห็นก็เท่านั้น”
หยางต้าว กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “นั่นก็ชะล่าใจไปไม่ได้หรอก”
“เวลานี้ ฉินเทียนกับราชาเถียสิบสาม ออกมาก่อกวนโดยใช้นามของวิหารเทพ ฉันรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย”
“เพื่อสถานการณ์โดยรวม ต่อหน้าพวกเราต้องทำท่าทีเป็นมิตรที่ดีกับเขานะ”
เว่ยเทียนเหอ ตอบอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แม้ว่าวิหารเทพจะดูทรงอิทธิพล แต่กำลังหลักส่วนใหญ่ก็อยู่ต่างประเทศ”
“การมา ฮั่นจง ของฉินเทียนและ ราชาเถียสิบสามกับคนอีกเพียงไม่กี่คนในครั้งนี้ ฉันไม่เชื่อหรอก แถมยังถือสิทธิ์แสดงบทบาทเจ้าของอีกด้วย!”
“ที่นี่คือสถานที่ของพวกเรา แผ่นดินของพวกเรา!”
“ผู้นำตระกูลหยาง คุณคงไม่คิดจะยอมให้พวกเขาทำสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกใช่ไหม? ถ้าพวกเขาต้องการพลิกแฟ้มคดีให้กับ ตระกูลหู——”
เมื่อเอ่ยถึง “ตระกูลหู” สายตาของ หยางต้าว ็ฉายแววแห่งความโหดร้ายออกมา
เขากัดฟันและพูดว่า “ฉินเทียนกับ ราชาเถียสิบสาม ต้องตาย!”
“แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของพวกเรา มิเช่นนั้นแล้ว แม้แต่มือของวิหารเทพ ก็ไม่มีทางเอื้อมเข้ามาถึง ฮั่นจง ได้”
“แต่ธุรกิจที่พวกเราทำ ในไม่ช้าก็จะขยายอาณาเขตไปยังต่างประเทศ พวกคุณว่า ถ้าล่วงเกินวิหารเทพไปแล้ว พวกเรายังจะไปตั้งหลักที่ต่างประเทศได้อยู่อีกไหมหล่ะ?”
จ้าวคง ตะลึงไปชั่วครู่ “ผู้นำตระกูลหยาง ความหมายของคุณคือ หรือว่าจะเป็นการยืมมีดฆ่าคนอย่างนั้นหรือ?”
“ใน ฮั่นจง นอกจากพวกเราแล้ว จะมีใครที่สามารถจัดการกับฉินเทียนและราชาเถียสิบสามได้อีกหล่ะ?”
เว่ยเทียนเหอ ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก็ตอบด้วยความตื่นเต้นว่า “ผู้นำตระกูลหยาง คุณคงไม่คิดจะอาศัยอิทธิพลของตระกูลฉินหรอกใช่ไหม?”
หยางต้าว ตอบอย่างเย้ยหยันว่า “อาศัยแค่พวกเรา คงใช้ตระกูลฉินไม่ไหวหรอก พวกเขาจะจัดการยังไง พวกเราไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไปถามหรอกและไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้อีกด้วย ”
“พวกเราทำได้แค่ใช้อิทธิพลท้องถิ่นของ ฮั่นจง เท่านั้น….”
“พวกคุณอย่าลืมสิว่า รูปแบบของฮั่นจงในทุกวันนี้ นอกจากสามตระกูลใหญ่อย่างพวกเราแล้ว เบื้องหลังยังมีเสืออยู่อีกหนึ่งตัว”
“คุณหมายถึง หวังเหล่าหู่ อย่างนั้นหรือ?”
หยางต้าวยิ้มเยาะ “เสือตัวนี้ แม้ต่อหน้าจะทำเป็นเหมือนเกรงใจพวกเรา แต่ลับหลังก็ตั้งป้อมประจันหน้ากัน”
“ไม่ว่าจะเป็นไนต์คลับ คาราโอเกะ และธุรกิจบันเทิงอีกหลายอย่างที่พวกเขาถือครองอยู่ ล้วนแต่เป็นแหล่งเงินแหล่งทองของพวกเขาทั้งนั้น”
“หากเขาออกหน้าต่อสู้กับฉินเทียนล่ะก็ ไม่ว่าใครฆ่าใครก็ตาม ยังไงก็เสียหายด้วยกันทั้งสองฝ่าย พวกคุณคิดว่า พวกเราจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์นั้นไหม?”