ตอนที่ 561 พูดจบแล้วกลับไปทำเรื่องสำคัญ / ตอนที่ 562 ทั้งครอบครัวเจ้าล้วนไม่ไหว

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 561 พูดจบแล้วกลับไปทำเรื่องสำคัญ

 

 

อิ๋งโจวก็ไม่รังเกียจเขา เขาเช็ดน้ำตาที่อยู่บนหน้าจนสะอาดแล้วคืนผ้าให้กับเขา จากนั้นประสานมือคำนับว่า “ข้าน้อยอิ๋งโจวคารวะท่านซื่อจื่อ”

 

 

รู้ฐานะของเขานี่นา ก็ดี ไม่ต้องแนะนำให้มากความ อิ๋งโจว อิ๋งโจว ชื่อนี้พบไม่บ่อยนัก หากนึกถึงคนที่รู้จัก ก็มีเพียงหมอเทวดาอิ๋งฉางที่มีนามสกุลนี้ เรื่องของตระกูลอิ๋งเขาก็ทราบ เวลานี้แทงแผลคนอื่นอีกก็ไม่เหมาะสม เขายื่นมือประคองเขา ส่ายหน้าพูดว่า “เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใครยังกล้ามา ไม่กลัวสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองหรือ”

 

 

“แผ่นดินที่พวกท่านแย่งชิงกันข้าไม่สนใจหรอก ในเมื่อได้พบเจอแล้วก็พูดคุยกันเสียบ้างไม่เป็นไร อีกอย่าง ข้าก็ไม่ได้มาเพราะท่านซื่อจื่อ ข้าเห็นแก่เหล้าไหนี้ อยากจะหาคนดื่มเป็นเพื่อนข้าเท่านั้น”

 

 

อวี่เหวินลู่บอกว่า “บังเอิญเสียจริง ข้าก็เหมือนกัน ใช้เหล้าดับทุกข์ พบเจอกับเจ้าพอดี พวกเราอยู่เป็นเพื่อนกัน คลายความทุกข์ก็ดีไม่น้อย”

 

 

อิ๋งโจวมองเขาด้วยความประหลาดใจ คิดไม่ออกว่าเขาจะเสียใจให้กับแม่นางเช่นใด อาจจะรู้สึกว่าคนเช่นเขานั้นน่าจะไม่ได้รักใครยาวไกล หากรักไม่ยาวไกลแล้วจะเจ็บช้ำได้อย่างไร

 

 

อวี่เหวินลู่ไม่เขินอาย สบสายตาใคร่รู้ของเขาตรงๆ จ้องตากับเขาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยื่นมือตัวเองให้เขา “เจ้าเป็นหมอไม่ใช่หรือ เจ้าจับชีพจรให้ข้าเสียหน่อย ดูว่าข้าป่วยแล้วใช่หรือไม่ ไฉนข้าถึงได้รู้สึกแน่นอกนัก เหมือนดั่งมีก้อนหินทับอยู่ ทับจนข้าแทบหายใจไม่ออก ทรมานยิ่งนัก”

 

 

นี่ไม่ต้องรักษาเลย นี่เป็นอาการป่วยใจ ป่วยใจต้องใช้ยาใจรักษา ยาปกติรักษาไม่ได้ อิ๋งโจวไม่สนใจมือของเขา “แม้แต่ข้าเองก็ยังรักษาไม่ได้ แล้วจะรักษาคนอื่นได้อย่างไร”

 

 

ยามที่เฝิงเยี่ยไป๋มาถึงฝั่งสวนตะวันตกนั้น อวี่เหวินลู่และอิ๋งโจวก็ดื่มจนเมาส่ายไปส่ายมาแล้ว แม้จะไม่รู้ว่าทั้งสองคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยไฉนถึงได้มาดื่มด้วยกันได้ เพียงแต่คิดแล้วก็คงมีสาเหตุเดียว สุราสิบแปดเซียนเต็มๆ ไห ถูกดื่มจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว

 

 

อวี่เหวินลู่ยังดี ไม่ถึงขั้นเมาหลับหมดสติ เห็นเขามาแล้วก็โถมเข้ามา อ้าปากก็เรอ ทำเอาเขาขมวดคิ้ว

 

 

“เฝิง… เอิ๊ก เฝิงเยี่ยไป๋ ไฉนเจ้าเพิ่งมายามนี้… พวกเรา… ดื่มหมดแล้ว… เอิ๊ก..”

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋ผลักเขาออกด้วยท่าทีรังเกียจ “เมาหนักขนาดนี้ เจ้ามีเรื่องจะพูดกับข้าไม่ใช่หรือ ข้ามาแล้ว มีเรื่องอะไรเจ้ารีบพูดมา พูดจบข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องกลับไปทำ!”

 

 

เขาไม่พูดยังดี พอเขาพูดว่า ‘ทำเรื่องสำคัญ’ อวี่เหวินลู่ก็โกรธขึ้นมา ทิ้งไหเหล้าในมือลงจนแตกเพล้งที่พื้น “เจ้า… เจ้าก็แค่มีภรรยา มีอะไรน่าอวดนัก ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้า… ข้าก็ไม่ขาดผู้หญิง ไม่อิจฉาเจ้าหรอก ข้าเพียงแค่… เพียงแค่…”

 

 

เพียงแค่อะไรเขาไม่ได้พูดออกมา ศีรษะเขาตกลงซบกับไหล่ของเขา หอบหายใจสองเฮือก พากลิ่นเหล้าฉุนจมูกมาให้ สติที่มีอยู่ก็เหลือไม่มากนัก

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋ผลักเขาออกแล้วปัดไหล่ ว่าแล้วว่าต้องสนใจแน่ๆ เมาแล้วคายความจริง ผู้ชายสนใจผู้หญิงหรือไม่ มองเพียงสายตาก็รู้ คำพูดและการกระทำหลอกคนได้ มีเพียงสายตาที่หลอกไม่ได้ ที่เขาสนใจเฉินยางนั้นปล่อยไว้ไม่ได้ จะต้องดับความคิดนี้ของเขาเสียให้สิ้น เฝิงเยี่ยไป๋นั้นรู้จุดอ่อนของตัวเองอยู่ ก็คืออายุมากกว่าเฉินยางมาก รอเขาชราแล้วนางยังสาว ถึงยามนั้นนางจะต้องมีคนเฝ้ามอง ดังนั้นต้องดับทุกความเป็นไปได้เสียให้สิ้นตั้งแต่ตอนนี้

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 562 ทั้งครอบครัวเจ้าล้วนไม่ไหว

 

 

อวี่เหวินลู่ไม่สุขุมเท่าเฝิงเยี่ยไป๋ เขาอายุยังน้อย ซ่อนความในใจไม่อยู่ ดื่มเหล้าไปแล้วก็บ่นพึมพำ หลังเมาคายความจริง มีสิ่งใดก็พูดออกมาจนหมด “บางครั้งข้าก็อิจฉาเจ้านัก เจ้าดู เจ้าก็มีภรรยามีลูกแล้ว แม้ว่าภรรยาจะจืดชืดไปสักหน่อย เพียงแต่ยิ่งดูยิ่งงาม เมื่อก่อนข้าก็เคยมีแม่นาง หนำซ้ำยังไม่น้อยไปกว่าเจ้าด้วย หญิงงามอะไรข้าไม่เคยเห็นบ้าง เจ้าน่ะ พูดจาไม่เข้าหู ต่างก็เป็นผู้ชาย ไฉนเจ้าถึงต้องพูดจาให้ข้าโกรธ บอกว่าข้าไม่ไหว เจ้าน่ะสิไม่ไหว ทั้งครอบครัวเจ้าล้วนไม่ไหว ครั้งก่อนข้าให้ไหลลู่อ้างชื่อของเจ้าไปหาแม่นางสองคนมาที่จวน ข้าก็อยากให้เจ้าดูว่า ข้าไม่ใช่ไม่ไหว เพียงแต่นึกไม่ถึงเลย เรื่องช่างผิดคาดนัก กลับทำเอาพวกเจ้าทะเลาะกันเกือบจะแยกจากกัน เพียงแต่ข้าไม่นึกเสียใจเลย ใครให้เจ้าพูดจาเยาะเย้ยข้า สมน้ำหน้าแล้วที่พวกเจ้าทะเลาะกัน!”

 

 

เรื่องนั้นเขาสืบมาอยู่ตลอด มีเบาะแสแต่ก็หาตัวการไม่เจอ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจ นึกไม่ถึงเลย ตัวการที่แท้จริงจะเป็นเขานี่เอง ซู่อ๋องดูเป็นคนสุขุมเยือกเย็น ครั้งแรกที่เห็นอวี่เหวินลู่ก็มีความซื่อตรง เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะเหลวไหลเช่นนี้ แถมยังอ้างชื่อของเขาไปหาแม่นาง เบื่อชีวิตแล้วหรืออย่างไร หากแม่นางรู้ฐานะของเขาเข้าแล้วไปฟ้อง เขาตายไม่เป็นไร แต่จะพลอยทำเอาครอบครัวเขาตายไปด้วย คนคนนี้ช่างหมดทางเยียวยาแล้วจริงๆ ประโยชน์เดียวที่มีชีวิตอยู่ได้ก็คือแทงใจคนอื่น ไม่ทำเอาคนอื่นวุ่นวายเหมือนดั่งเขาก็ไม่สะใจ ซื่อจื่อสุดถ่อย มารร้ายดีๆ นี่เอง

 

 

หน้าเฝิงเยี่ยไป๋ถมึงทึง คว้าคอเสื้อหิ้วตัวเขาขึ้นมา เชิดมุมปากด้วยท่าทางน่ากลัว “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าแม่นางสองคนนั้นเจ้าเป็นคนหามาหรือ”

 

 

เขายังดีใจโง่ๆ อยู่เลย เขาฉีกปากยิ้ม พยักหน้าพูดว่า “ก็ไม่ใช่หรือ ข้าก็อยากทำให้เจ้าโกรธ น่าเสียดายนัก สุดท้ายพวกเจ้าก็คืนดีกัน ไม่ได้ทำให้พวกเจ้าแยกจากกันช่างน่าเสียดายนัก”

 

 

ที่แท้เขาก็คิดจะให้พวกเขาแยกจากกัน ก็น่าเสียดายอยู่จริง ทำเอาแผนดีๆ ของเขาที่วางไว้เสียเปล่า นอกจากเขาและเฉินยางจะไม่ได้แยกจากกัน แถมตอนนี้ยังสนิทอีก มีลูกชายมีความรักดีๆ

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋รู้ว่าปากของอวี่เหวินลู่ร้ายนัก เขาให้เฉาเต๋อหลุนเอาถาดน้ำเย็นมาราดให้เขาตื่น ฤดูหนาวเช่นนี้ น้ำเย็นเทลงมา ไม่ต้องรอเลย ความเมาหายเป็นปลิดทิ้ง อวี่เหวินลู่กระตุกขึ้นมาสะบัดศีรษะ ถลึงตาใส่เขา “เฝิงเยี่ยไป๋! เจ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ทำอะไรของเจ้า”

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋กอดอกมองเขา พูดกึ่งเยาะเย้ยว่า “ได้สติแล้วหรือ เมื่อครู่เจ้าเมาแล้วตัวเองพูดอะไรยังจำได้หรือไม่”

 

 

ยามเมากับยามตื่นย่อมไม่ใช่คนเดียวกัน เขาจะจำสิ่งที่ตัวเองพูดได้อย่างไร สองตาเหม่อลอยแล้วส่ายหน้าไม่หยุด

 

 

“จำไม่ได้แล้วหรือ” เฝิงเยี่ยไป๋ไม่แม้แต่จะตั้งท่าก็หวดหมัดไปที่ใบหน้าของเขาตรงๆ

 

 

อวี่เหวินลู่ยืนไม่นิ่ง ล้มไปข้างหลังแต่ไม่ถึงพื้น เขายันเท้าไปข้างหลัง เมื่อตั้งหลักได้แล้วก็ยกมือขึ้นเช็ดมุมปาก มีเลือดไหลออกมา ดวงตาลุกเป็นไฟ กำหมัดแล้วพุ่งใส่เขา “เจ้ามันรนหาที่ตาย!”

 

 

เฉาเต๋อหลุนยังไม่ทันได้เห็น ทั้งสองคนก็ตีกันขึ้นมาแล้ว อวี่เหวินลู่หวดไปที่ใบหน้าของเฝิงเยี่ยไป๋ทุกหมัด แต่ละหมัดนั้นไม่มีการยั้งมือ เฝิงเยี่ยไป๋ก็ตอบสนองไว ทุกหมัดล้วนไม่ถึงตัวเขา