ตอนที่ 563 คิดจะตีท้ายครัวเขา / ตอนที่ 564 ขายหน้าเสียหมดสิ้นแล้ว

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 563 คิดจะตีท้ายครัวเขา

 

 

หมัดมวยของอวี่เหวินลู่ก็ไม่แย่ ด้วยเพราะโตมาในกองทัพตั้งแต่เด็ก แต่ละท่าล้วนมีจิตสังหาร ทุกท่าที่ออกไปนั้นล้วนมีลม เพียงแต่เขาออกหมัดรีบร้อนเกินไป ขาก็ยืนไม่นิ่ง ด้วยความรีบร้อนจึงเผยจุดอ่อนออกมา เฝิงเยี่ยไป๋สู้ด้วยความมั่นคง เห็นจุดอ่อนของเขาก็กวาดตาเตะไป ไม่ต้องใช้กระบวนท่ามากไปกว่านี้ก็ล้มเขาได้อย่างง่ายดาย

 

 

“ข้ายังคิดว่าเป็นคนเหลวไหลคนใดที่อ้างชื่อข้าไปเรียกแม่นางคนสองมาที่จวน ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง เจ้าก็อายุไม่น้อยแล้ว ไฉนถึงยังทำเรื่องที่แม้แต่เด็กยังไม่อยากจะทำ พ่อของเจ้าสอนวิชาเจ้า ไม่ได้สอนเจ้าให้เป็นคนหรืออย่างไร หากเจ้าเบื่อชีวิตนัก เข้าวังเสียตอนนี้ จะได้ตามอาของเจ้าไปปรโลกพอดี มัวเสียเวลาอะไรอีก อยากตายนี่ยังไม่ง่ายอีกหรือ”

 

 

เรื่องครั้งก่อนนั้นเขาก็คิดจะปิดไว้ตลอด น่าขายหน้ายิ่งนัก นิสัยที่เมาแล้วพูดไม่คิดแก้ไม่หาย เมื่อครู่คงดื่มมากไป อิ๋งโจวดื่มได้ไม่มาก ไม่กี่จอกก็สลบ ที่เหลือนั้นล้วนเป็นเขาที่ดื่มเอง คราวนี้เป็นเรื่องขึ้นมา ไม่ต้องให้คนอื่นทรมานข่มขู่ ตัวเองก็พูดออกมาเสียหมด ยิ่งขายหน้าเข้าไปอีก

 

 

แต่เดิมเขาเองก็เป็นฝ่ายที่ไม่ถูก จึงพูดอะไรไม่ได้ เขาคลานขึ้นจากพื้น อยากจะเถียงกลับก็ไม่รู้จะเถียงอย่างไร ความห้าวหาญเมื่อครู่หายไป ช่างน่าอายนัก ไฉนถึงได้ทำแต่เรื่องขายหน้าเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า หากให้เฉินยางรู้เข้านางจะมองเขาอย่างไร คนเช่นเขานั้นคงไม่เหลือภาพพจน์ดีๆ ในใจนางเสียแล้ว ตอนแรกนางก็ไม่ชอบเขาอยู่แล้ว ตอนนี้แม้แต่โอกาสแก้ตัวก็ยังไม่มีเลย

 

 

“อยากได้ภรรยาก็ไปหาแต่งเอาเอง พวกเจ้าตระกูลนี้เป็นอะไรกัน วันๆ เอาแต่คอยมองของของคนอื่น เอาหน้าไปไว้ที่ไหนหมดแล้ว” ตั้งแต่อาของเขาแล้ว คราวนี้ก็ยังคิดจะแย่งของเขาอีก ล้วนแซ่อวี่เหวิน ทั้งตระกูลล้วนเป็นโรคเดียวกันสืบต่อกันมา เพียงแค่พูดก็ทำให้นึกแค้นแล้ว

 

 

อวี่เหวินลู่อายจนสู้หน้าไม่ได้ เขายืนขึ้นมาปัดเสื้อผ้า ห้าวขึ้นมาไม่ได้อีก หมดอาลัยตายอยาก “เรื่องครั้งก่อนก็เพียงแค่ข้าไม่ระวังเท่านั้น หากข้าไม่พูด เจ้าจะจับผิดได้หรือ”

 

 

จนถึงยามนี้ก็ยังดื้อดึงอยู่อีก เฝิงเยี่ยไป๋ชูกำปั้นให้เขา กดเสียงต่ำพูดว่า “เจ้าบอกมาว่าเจ้าคิดอย่างไรกับเฉินยาง ตอนนี้พูดต่อหน้าข้า เจ้าพูดมาเสียดีๆ ”

 

 

คิดอะไรงั้นรึ อยากจะตีท้ายครัวเขาน่ะสิ! เพียงแต่คำพูดนี้พูดออกมาได้หรือ แต่เดิมเขาก็ขายหน้ามากพอแล้ว หากพูดว่าตัวเองชอบภรรยาของเขาอีก เรื่องคงไม่จบลงในวันนี้เป็นแน่แท้ เมื่อครู่เขาได้ดื่มเหล้าลงไป ได้คิดอย่างชัดเจนแล้ว ของของคนอื่นก็คือของของคนอื่น หากว่าได้มาจริงๆ แล้ว ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ต้องการ ไม่ใช่ทุกคนล้วนบอกว่าดอกไม้บ้านหอมมิสู้ดอกไม้ริมทางหรือ เขาก็สนใจเพียงเพราะความแปลกใหม่เท่านั้น รอผ่านพ้นไปก็ดีขึ้นแล้ว เขาคิดเอาไว้แล้ว กลับไปจะหาคนเช่นเว่ยเฉินยางอีกคน ผู้หญิงนั้นไซร้จะมีอะไรที่แตกต่างกันได้ เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะข้ามพ้นไปไม่ได้

 

 

เขาถามถึงเรื่องนี้แล้ว เพียงแต่เขาจะยอมรับไม่ได้ อวี่เหวินลู่บิดน้ำบนเสื้อออก แสร้งทำเป็นใจกว้าง “เว่ยเฉินยางรึ ข้ากับนางน่ะหรือ อย่าว่าแต่ข้าจะไม่สนใจนางเลย เพียงแค่นางมีสามีมีลูกแล้ว ข้าก็ไม่อาจคิดอะไรกับนาง เจ้าคิดว่าทุกคนเป็นคนตาบอดเหมือนเจ้าหรือ”

 

 

คำพูดเหล่านี้พูดได้อย่างมั่นใจ เขายืนตัวตรง รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองช่างดูดียิ่งนัก คราวนี้คงจะกู้หน้ากลับคืนมาได้แล้วกระมัง!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 564 ขายหน้าเสียหมดสิ้นแล้ว

 

 

เหล้ามื้อนี้ดื่มจนได้แผลเต็มตัว เฝิงเยี่ยไป๋ลงมือโหดเกินไป เขารับมือไม่ได้เลย เฝิงเยี่ยไป๋ไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่เขาพูดได้ สายตาหลอกคนไม่เป็น เห็นอยู่ว่าสายตาของเขาผิดปกตินัก ยามนี้พอรู้สึกว่าขายหน้า ถึงจะปฏิเสธก็สายไปเสียแล้ว

 

 

“ถึงไม่พูด แต่ตระกูลอวี่เหวินพวกเจ้าสืบเชื้อสายกันมา ล้วนวิปริตทั้งสิ้น นี่ก็เป็นเหตุที่ว่าไฉนข้าถึงไม่อยากคบพวกเจ้า เมืองหลวงไม่มีธุระของเจ้า เจ้ามาจากที่ใดก็กลับไปที่นั่นเสีย”

 

 

ไม่ต้องรอให้เขาพูด อวี่เหวินลู่ก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว ยังมีหน้าจะอยู่ที่นี่ต่ออะไรอีก ขายหน้าเสียจนหมดสิ้นแล้วต้องรีบกลับไป กลับไปก็ไม่อาจไปหาบิดาเขาได้ เขาเป็นลูกผู้ชายทั้งคน ให้เขาอยู่แต่ในค่ายทหารทุกวัน ไม่ปล่อยตัวเองออกไปสู้รบได้อย่างไรกัน ถึงเวลาเข้าสนามรบฆ่าศัตรูระบายแค้น ก็ยังดีกว่าหงุดหงิดอยู่ในใจ

 

 

บนหน้าอวี่เหวินลู่มีแผล ยามที่จากไปนั้นก็ไม่กล้าเดินทางปกติ เขาเดินตามทางเล็กๆ ฝั่งตะวันตก ท่าทางทุลักทุเลของเขานั้นไม่อยากให้ใครเห็น ภาพของท่านซื่อจื่อในสายตาคนอื่นก็ยังต้องเป็นท่านซื่อจื่อที่ยิ่งใหญ่คนนั้น

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋และอวี่เหวินลู่สร้างความวุ่นวายเช่นนี้ อิ๋งโจวก็ยังไม่ตื่น เขาเมาง่ายนัก พอได้หลับไปกว่าจะตื่นได้คงต้องใช้เวลา อิ๋งโจวชอบน่าอวี้ เพียงแต่ยามนี้ต้องเห็นนางตายไปต่อหน้า สำหรับเขาแล้วเจ็บปวดยิ่งนัก เพียงแต่บนโลกนี้จะมีวิธีใดที่ไม่ทำให้ใครเสียใจได้หรือ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ เขาเคยเสียใจแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็คงไม่ได้ดีไปกว่าครั้งก่อน

 

 

เฉาเต๋อหลุนยืนกุมมืออยู่เหลือบมองอิ๋งโจวแล้วถามเฝิงเยี่ยไป๋ว่า “ท่านอ๋อง บ่าวให้คนส่งท่านหมออิ๋งโจวกลับห้องดีหรือไม่”

 

 

หัวโค้งข้างหน้าก็เป็นห้องที่ขังน่าอวี้ เขามาที่นี่คงอยากจะมาพบน่าอวี้ แต่แล้วก็เจออวี่เหวินลู่ดื่มเหล้าอยู่ตรงนี้เข้า ความทุกข์ในใจยากจะระบาย จึงได้นั่งลงดื่มกับเขา นึกไม่ถึงว่าดื่มจนเมาแล้ว เหตุการณ์ก็คงจะเป็นเช่นนี้

 

 

เขาเอามือไพล่หลังคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงถามเฉาเต๋อหลุนว่า “อาการของน่าอวี้เป็นเช่นไรบ้าง ยังมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเพียงใด”

 

 

เฉาเต๋อหลุนพูด “ได้ยินคนที่เฝ้าอยู่ในห้องบอกว่า คนผู้นี้คงจะไม่ไหวแล้ว อวี๋เอ๋อร์เทน้ำทิ้งไม่เว้นถาด เป็นน้ำเสียที่ไหน เป็นเลือดชัดๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เสียงไอดังไม่เคยขาด มักได้ยินว่าข้างในมีคนร้องไห้ โรคนี้ร้ายนัก คิดว่าคงอีกไม่กี่วันแล้วกระมัง!”

 

 

เขาเหลือบมองสีหน้าของเฝิงเยี่ยไป๋ด้วยความระมัดระวัง เห็นใบหน้าเขาไม่มีอารมณ์ใดๆ ถึงได้พูดต่อว่า “วันก่อนยังร้องจะพบท่านให้ได้ บอกว่ามีเรื่องจะพูดกับท่าน บ่าวเห็นท่านยุ่งนัก จึงไม่กล้ารบกวนและไม่ได้แจ้งท่าน”

 

 

สีหน้าของเขายังคงเป็นเช่นเดิม เขากวาดตามองอิ๋งโจวแล้วพูดว่า “ให้คนส่งเขากลับหรู่หนานเสียเถิด อย่าให้คนสังเกตเห็นเข้า”

 

 

เฉาเต๋อหลุนไม่เข้าใจ “ท่านอ๋องนี่คือ…”

 

 

“อย่างน้อยก็รักษาเฉินยางจนหายดี จะว่าอย่างไรก็เป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา ให้เขาเฝ้าอยู่ที่นี่ก็ทรมานเสียเปล่า สู้ไม่เห็นเสียจะดีกว่า ให้เขากลับไปเปิดกระท่อมยาของเขา นานวันเข้าย่อมลืมได้”

 

 

เฉาเต๋อหลุนขานรับ เรียกคนใช้สองคนมาหามอิ๋งโจวไป

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าน่าอวี้จะพูดสิ่งใดกับเขา ที่นางทำทุกสิ่งนี้ไม่ใช่เพื่อตัวนางเอง แต่เพื่อน้องชายของนาง นางใกล้จะสิ้นใจ สิ่งเดียวที่นางยังปล่อยวางไม่ลงก็คือน้องชายของนาง ย่อมขอร้องให้เขาปล่อยน้องชายของนาง เด็กจะรู้เรื่องอะไร เด็กย่อมไม่ได้มีความผิด เพียงแค่เกิดผิดเวลา ตอนนี้เขาก็มีลูกชายของตัวเองแล้ว จึงยิ่งเข้าใจถึงความรู้สึกของนาง