Chapter 86 การพัฒนาการที่ก้าวกระโดด

ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything

พิธีขึ้นครองราชย์ได้จบลง

 

ยังไงก็ตามผู้สืบทอดยังคงรู้สึกตกใจและกำลังฟื้นสติอยู่ พวกเขาส่วนใหญ่ต่างหยิบเหรียญตราสื่อสารออกมาแจ้งสำนักของพวกเขา

 

ในช่วงกลางวันต่อมา ผู้สืบทอดของสำนักเล็กทั้งสิบแปดสำนักต่างถูกเชิญเข้าร่วมการต่อสู้จัดอันดับในเมือง

 

เพียงไม่นานที่ผู้สืบทอดก้าวเข้ามาในเมืองหลวง พวกเขาต่างถูกล้อมรอบโดยเหล่าสาวงาม เพียงไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกเชิญให้ไปอาศัยอยู่ในโรงเตี๊ยมด้วยราคาอันสูงลิบลิ่ว

 

ถึงแม้ว่าผู้สืบทอดจากสำนักเล็กจะไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับผู้สืบทอดระดับสามสิบหกสำนัก อย่างน้อยพวกเขาก็มีชื่อเสียงอยู่บ้างและยังช่วยลดอิทธิพลโรงเตี๊ยมหยีหลานอยู่บ้าง

 

นอกจากเรื่องนี้แล้วมันยังมีความเปลี่ยนแปลงกันในอันดับของรัฐจิน เนื่องจากการเข้ามาร่วมของผู้สืบทอด

 

 

“ชิ ชิ ชิ ผู้สืบทอดสิบคนที่อยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด แปดคนอยู่ที่ขั้นท้ายของขั้นสร้างรากฐานและอีกสามคนก้าวข้ามข้าไป”

 

เฉินเฉินมองไปที่รายชื่ออันดับใหม่ด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ

 

“เป็นไปได้ยังไงกันเนี่ย? มันไม่มีทางที่ทรัพยากรของสำนักเล็กจะสามารถผลิตผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจแบบนี้มามากมายได้!”

 

ผู้อาวุโสจ้าวเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ในความคิดเห็นของเขาแล้ว นอกจากทั้งสามสิบหกสำนักของรัฐจินแล้ว สำนักอื่นไม่ได้มีคุณสมบัติมากพอ

 

มันเป็นเพราะว่าสำนักเหล่านี้ไม่ได้ครอบครองดินแดนเซียนที่มีพลังปราณจำนวนมากอยู่ พวกเขาจึงไม่สามารถเทียบเคียงกับทั้งสามสิบหกสำนักได้

 

นอกจากนี้แล้วลูกศิษย์จากสำนักเล็กเหล่านี้ต่างเป็นคนที่ไม่ถูกสำนักทั้งสามสิบหกสำนักเลือก พวกเขาจะกลายเป็นผู้สร้างรากฐานที่อยู่ในระดับสูงสุดได้ยังไงกัน? ซึ่งมันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าสำนัก 36 สำนักจะทำได้อีก?

 

เฉินเฉินวางรายชื่อลงไปและหัวเราะ

 

“สำนักอู๋ซิ่นน่าจะเป็นคนที่คอยเลี้ยงดูพวกเขา มันเห็นได้ชัดว่าแผนการของสำนักอู๋ซิ่นคืออะไร พวกเขาต้องการใช้สำนักเล็กกว่าเหล่านี้เตะพวกคนที่ไม่อยากยอมเข้าร่วมออกจาก 36 สำนัก ถ้า 18 สำนักตกอยู่ภายใต้สำนักอู๋ซิ่น สำนักอู๋ซิ่นก็จะเตะใครก็ตามที่พวกเขาต้องการได้

 

สีหน้าของผู้อาวุโสจ้าวยิ่งตึงเครียดมากกับคำอธิบายของเฉินเฉิน

 

“ผู้สืบทอดครับ ระวังตัวด้วย! ท่านจะพ่ายแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!”

 

เมื่อเขาเข้าใจในตัวเฉินเฉินดีแล้ว เขาก็คาดหวังที่จะได้ยินคำตอบที่เย่อหยิ่งจากเฉินเฉิน หลังจากที่เขาพูด

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างการฟังคำโอ้อวดของเฉินเฉินในเวลาเช่นนี้จะทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น

 

ยังไงก็ตาม เฉินเฉินกลับพยักหน้าจริงจังและตอบกลับ “ผู้อาวุโสจ้าว ท่านพูดถูก!”

 

ผู้อาวุโสจ้าวพูดไม่ออก ตามปกติแล้วเขาควรที่จะตอบอย่าง ‘ไม่ต้องกังวลไป คู่ต่อสู้เหล่านั้นไม่ได้น่าหวาดกลัวสักเท่าไหร่งั้นเหรอ?’

 

“ผู้อาวุโสจ้าว มันมีการประมูลชุดไหมทองคำที่บ้านประมูลสมบัติคืนนี้ ราคาเริ่มต้นของมันคือ 4,000 หินวิญญาณ มันพูดกันว่ามันสามารถที่จะป้องกันพลังปราณได้ 50% สำหรับการโจมตีจากคนที่อยู่ใต้ระดับแก่นทองคำ เพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าพวกเราจะมีหินวิญญาณมากพอ ช่วยข้าซื้อมันที่การประมูลด้วย!”

 

เฉินเฉินพูดออกมาอย่างจริงจังแล้ว แต่ผู้อาวุโสจ้าวกลับตกตะลึง

 

ราคาเริ่มต้นมันอยู่ที่ 4,000 หินวิญญาณ นั่นหมายความว่าราคาสุดท้ายของมันอาจจะเกือบถึง 10,000 หินวิญญาณเลยด้วยซ้ำ!

 

ภายใต้สถานการณ์ปกติคน อุปกรณ์เหล่านั้นไม่น่าจะคุ้มค่าราคาเท่านั้น

 

ยังไงก็ตาม ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้แล้ว ความแข็งแกร่งทุกส่วนนั้นสำคัญ มันจึงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจอะไรที่ราคามันจะแพงถึงแบบนั้น

 

ยังไงก็ตาม ราคาที่สูงมากขนาดนั้นก็สร้างความปวดหัวให้กับผู้อาวุโสจ้าว

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ผู้อาวุโสจ้าวยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วนใจ “เมื่อเป็นผู้อาวุโสสูงสุด ข้าจะไปประมูลกับกลุ่มเด็กเยาว์วัยได้ยังไงกัน? มันน่าขายหน้าเกินไป ทางที่ดีควรที่จะให้จางจีหรือเทียนกังไปจะดีกว่านะ”

 

“ข้าได้ยินมาว่าผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำจะไปเข้าร่วมกันหลายคนเลยนะ”

 

“ข้าปฏิเสธที่จะไป”

 

ทันทีที่เขาพูดจบ แหวนเก็บของก็หล่นลงมาบนมือของเขา

 

ในเวลานี้เอง เฉินเฉินไม่มีอารมณ์ที่จะเล่นมุกตลกกับผู้อาวุโสจ้าว เขาพูดออกมาอย่างใจเย็น “มันมีหินวิญญาณอยู่ในนั้น ห้าหมื่นก้อน นอกจากชุดไหมทองคำแล้ว ซื้อรองเท้าพายุรวมทั้งถุงมือหนึ่งหมื่นภัยพิบัติมาด้วย”

 

วู้ช!

 

ผู้อาวุโสจ้าวหายไปในชั่วพริบตา

 

 

ชั่วขณะต่อมา ภายในบ้านประมูล

 

ผู้อาวุโสจ้าวนั่งพิงเก้าอี้ทำตัวราวกับหัวหน้าใหญ่

 

“ถุงมือหนึ่งหมื่นภัยพิบัติอยู่ที่ แปดพันหินวิญญาณ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหม?”

 

ด้านบนเวที พิธีกรกำลังชี้ไปที่ถุงมือและประกาศออกมา

 

เมื่อเห็นดังนี้ ผู้อาวุโสจ้าวยกนิ้วขึ้น

 

เขาพูดออกมาอย่างเฉยเมย “หนึ่งหมื่นหินวิญญาณ!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้วผู้คนมากมายในฝูงชนต่างมองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจ

 

ชายแก่ที่ปรากฏตัวขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้ได้ซื้อสมบัติไปมากมายหลายชิ้นในคืนเดียว ‘เขาไปหาหินวิญญาณมามากมายขนาดนั้นจากไหนกัน?’ ฝูงชนต่างสงสัย

 

ผู้อาวุโสเจียงจากสำนักโยวฉุยที่นั่งอยู่ด้านข้างตากระตุก เมื่อเธอได้ยินที่เขาประมูล เธอพูดออกมาอย่างเย็นชา “ข้ารู้ดีว่าเจ้ายากจนมากเพียงใด เจ้าแก่ ตอนนั้นเจ้ามอบที่คาดผมทองปลอมมาให้ด้วยซ้ำ ทำไมเจ้าถึงดูร่ำรวยจังวันนี้?”

 

เขาดูหม่นหมองลงไปเล็กน้อย ผู้อาวุโสจ้าวตอบกลับอย่างขื่นขม “ศิษย์น้องเจียง เจ้าเข้าใจข้าผิดไปแล้ว ข้าจะทำพลาดแบบนั้นไปได้ยังไงกัน? ข้ายอมทำทุกอย่างให้กับเจ้า แม้ว่าข้าจะล้มละลายก็ตาม!”

 

“ยังกับว่าข้าจะเชื่อเจ้านะ เจ้าแก่ชั่ว!”

 

“อ๊า หินวิญญาณเหล่านี้มันไม่ได้มากมายเท่าไหร่ในสำนักข้าหรอก ศิษย์น้องเจียง เจ้าได้ดูถูกข้าเกินไปแล้ว!” ผู้อาวุโสจ้าวอธิบายออกมาอย่างภาคภูมิใจ

 

….

 

ในคืนดึกคืนนั้น

 

การประมูลได้จบลง

 

มันมีความตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ผู้อาวุโสจ้าวได้ยื่นชุดไหมทองคำ รองเท้าพายุและถุงมือหนึ่งหมื่นภัยพิบัติให้กับเฉินเฉิน

 

มันไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการทำตัวเป็นคนรวยโดยใช้เงินคนอื่น ยิ่งสำหรับคนขี้งกอย่างเขาด้วยแล้ว

 

“ชุดไหมทองคำสร้างมาจากไหมทองคำจากภูมิภาคหิมะ มันทั้งทนทานและมีความต้านทานต่อพลังปราณได้สูง”

 

“รองเท้าพายุถูกสร้างขึ้นมาโดยขนนกของอสูรหายากที่รู้จักกันในชื่อวิหควายุ การสวมมันจะเพิ่มความเร็วในการบินขึ้น 50%”

 

“ถุงมือหมื่นภัยพิบัติถูกสร้างขึ้นมาจากขนของมังกรเจียหลองระดับก่อกำเนิดวิญญาณ ไม่เพียงแต่มันจะทนทานเป็นพิเศษแล้ว มันยังเพิ่มคุณภาพในการดูดซึมพลังปราณและการใช้พลังปราณขึ้นอีก 50%”

 

หลังจากสวมอุปกรณ์ทั้งสามชิ้นแล้ว เฉินเฉินรู้สึกแตกต่างออกไป มันเหมือนกับว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาจะพัฒนาเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

 

“ระบบ ใครคือคนที่รวยที่สุดในระยะ 30เมตร!?”

 

“ท่านเจ้าของค่ะ มันเป็นท่านอย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ”

 

เมื่อได้ยินคำตอบนี้แล้ว เฉินเฉินยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

 

ในอีกด้านหนึ่ง ตาของผู้อาวุโสจ้าวเต็มไปด้วยความอิจฉา มันมีคนน้อยกว่าสามคนที่อยู่ในระดับสร้างรากฐานในรัฐจินที่สวมอุปกรณ์เต็มตัวแบบเขา ซึ่งมันมีค่ามากกว่าหมื่นหินวิญญาณเสียอีก

 

‘เจ้าเด็กนี่ไปหาหินวิญญาณมามากมายขนาดนี้จากไหนกัน?’

 

‘เจ้าสำนักไม่น่าจะมอบให้กับเขามากขนาดนั้นด้วยเหมือนกัน’

 

“ยังไงก็ตาม ผู้อาวุโสจ้าว ข้าไปดูมาแล้วเห็นว่ามันมีสมบัติที่คล้ายคลึงกัน ไปหามาอีกชุดให้กับข้าพรุ่งนี้ ไม่อย่างงั้นแล้วถ้าข้าสวมชุดเดิมทุกวัน คนอื่นจะคิดว่าข้าไม่ได้อาบน้ำ”

 

เมื่อเฉินเฉินพูดเสร็จ เขาก็โยนแหวนเก็บของอีกวงให้กับผู้อาวุโสจ้าว

 

ผู้อาวุโสจ้าวรับแหวนไปและประหลาดใจมาก

 

‘เขาพูดบ้าอะไรของเขากันเนี่ย?’

 

‘เขาต้องการที่จะซื้ออีกชุดหนึ่งเพราะว่าเขากลัวว่าคนอื่นคิดว่าเขาไม่ได้อาบน้ำเนี่ยนะ?’

 

‘ผู้ฝึกตนจะไม่สกปรกอยู่แล้ว ทำไมพวกเราต้องอาบน้ำด้วย?’

 

‘นอกจากนี้แล้วอุปกรณ์ระดับนั้นจะสกปรกด้วยดินได้ยังไง?’

 

หลังจากเหลือบมองไปในแหวนเก็บของ ผู้อาวุโสจ้าวอดที่จะหายใจเข้าลึกๆไม่ได้

 

ในครั้งนี้กระเป๋ามันไม่ได้มีแค่หินวิญยาณแต่ยังมีสมุนไพรพลังจิตหนึ่งหมื่นปีอีกด้วย ซึ่งมันสามารถเพิ่มระดับการฝึกตนของผู้ใช้ได้ทันที สำหรับผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำแล้วพวกมันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าหินวิญญาณระดับกลางเสียอีก

 

นอกจากนี้แล้ว คุณค่าของมันยังแพงมากด้วย พวกมันถูกขายแพงกว่าห้าหมื่นหินวิญญาณอีกด้วย เขายังไม่มีเงินจ่ายมันมากพอเลยสักนิด

 

“เฉินเฉิน…เจ้า…เจ้ามัน!” ผู้อาวุโสจ้าวพูดไม่ออก เขาจะขายสมบัติแบบนี้อย่างสบายๆได้ยังไงกัน?

 

“มันก็แค่สมุนไพรธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีค่าให้พูดถึงหรอก ข้าคิดว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะใช้หินวิญญาณจนหมด มันจะดีกว่าถ้าท่านขายของพวกนี้และแลกพวกมันเป็นหินวิญญาณ ผู้อาวุโสจ้าว ข้าขอรบกวนท่านด้วยแล้วละ”

 

หลังจากพูดจบ เฉินเฉินตรวจดูอุปกรณ์ใหม่ของเขาก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องรับแขก

 

ผู้อาวุโสจ้าวยืนตกตะลึงและสงสัยกำลังชีวิตของตัวเองตรงนั้น

 

คำพูดของเฉินเฉินก้องอยู่ในหัวของเขา

 

“แค่สมุนไพรธรรมดาทั่วไป..”