ผ่านไปไม่นาน หยางโปก็ได้ยินเสียงร้องดังตามหลังมา เมื่อเขาหันกลับไปมองก็เห็นร่างผอมแห้งของคนคนหนึ่งวิ่งตามมา ชายคนนั้นยังไม่ทันวิ่งออกมา ก็มีคนวิ่งตามมาถีบจนล้มคล้ำไปกับพื้น “ ฉันใช้ให้แกวิ่งหนีเหรอ ! ฉันใช้ให้แก่วิ่งใช่ไหม ! ”
“ พี่กระรอก ไว้ชีวิตสักครั้งเถอะนะ ผมใกล้จะไม่ไหวแล้วจริงๆ หยุดตีผมเถอะ ! ”
“ แกโง่หรือไง แกจะมาตอแหลกับฉันใช่ไหม ? ของนั่นแกเอาไปได้งั้นเหรอ ? ”
“ พี่กระรอก ขอโทษด้วยจริงๆ……ผม…… ”
เมื่อหยางโปได้ยินเสียงดังตามหลังมา ไม่พูดอะไร แต่กลับเร่งเท้าเดินออกไปเร็วกว่าเดิม
ลัวย่าวหัวเห็นท่าทางหยางโปที่เร่งรีบเดินออกไป ก็อดที่จะทักท้วงไม่ได้ “ นายนี่มันไม่ไหวเลย รับมือกับประสบการณ์แบบนี้มากหน่อยก็จะดี คนแบบนี้ เดิมก็เฮงซวยอยู่แล้ว ตายไปก็ไม่น่าเสียดายหรอก ! ”
หยางโปหันมามองหน้าลัวย่าวหัว แต่ไม่ได้พูดอะไร เขาไม่ได้มีจิตใจเมตตา แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่อ่อนแอกว่า ก็ยังมีความเห็นอกเห็นใจกันอยู่ แน่นอนชายคนนั้นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เขาส่ายหน้าและถอดหายใจ แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรมาก
พอขึ้นรถ ทั้งสองกลับไม่ได้มุ่งหน้าไปที่โฮ่วไห่ทันที แต่กลับมองหาร้านชาร้านหนึ่งแล้วนั่งรอ
หยางโปดื่มชา และพลางครุ่นคิด แม่กับอี้มู่มีความสัมพันธ์แบบไหนกัน เธอได้ยามาจากอี้มู่จริงๆเหรอ ? แล้วอี้มู่รู้ได้ยังไงว่าเขามีกระจกแสงจันทร์อยู่ในมือ ทำไมถึงดูออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาแม่ลูกมีจุดบอดในช่วงนี้
หยางโปคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ เขาจึงไม่คิดมาก สงบสติอารมณ์และจดจ่อกับการดื่มชา
ลัวย่าวหัวใจป้ำควักเงินจ่าย จึงได้ข้อมูลมาเร็วมากและถูกรวบรวมมาไว้ที่นี่อย่างรวดเร็ว
พวกเขาได้ข้อมูลมาว่า อี้มู่มักจะไปที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งบ่อยๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อว่าหวงโฮ่วจริงๆ
หยางโปค่อนข้างแปลกใจ เขาชำเลืองมองไปทางลัวย่าวหัว “ ทำไมต้องชื่อนี้ ? ”
ลัวย่าวหัวหันมามองหยางโปด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความสงสัย “ ดูจากลักษณะท่าทีแล้ว
นายคงสนใจมากสินะ ฉันพานายไปดูได้นะ คิดว่านายไปที่นั่นคงได้รับการต้อนรับอย่างดี ”
หยางโปนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ แต่ก็ยังคงไม่ค่อยเข้าใจ
ลัวย่าวหัวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบอก ” มันคือสถานที่รวมตัวของหญิงรักหญิง ! ”
หยางโปอ้าปากแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาอดคิดถึงแม่ไม่ได้ หลินหลินคงไม่ไปสถานที่แบบนั้นหรอกนะ ?
ลัวย่าวหัวหัวเราะดังลั่น “ นายคิดไม่ถึงใช่ไหม ? ให้ฉันเดานะ ในเมื่ออี้มู่คิดที่จะหลอกคน จะต้องไปที่ที่ผู้หญิงมีเงินรวมตัวกันอยู่แน่นอน สังคมแบบนี้หาเงินจากใครได้ง่ายที่สุดละ ? เงินของผู้หญิงไง ! แล้วในบรรดาผู้หญิง จะหาเงินได้ง่ายที่สุดจากใคร ? คำตอบคือผู้หญิงขี้เหงาไง ! ” novel-lucky
หยางโปส่ายหน้าอย่างไม่มีทางเลือก “ ทำไมนายถึงรู้มากขนาดนี้ คงไม่ได้ไปที่นั่นบ่อยๆหรอกนะ ? ”
“ นายนี่มัน… นายเองต่างหากที่ไม่ยอมออกมาเปิดหูเปิดตา คบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูงน้อย
นายจะให้ฉันทำตัวเหมือนนายหรือไง ? ถ้าฉันไม่ออกไปเปิดหูเปิดตา แล้วไม่ทำความเข้าใจกับเรื่องบางอย่างมากกว่านี้ จะพูดกับเพื่อนๆรู้เรื่องได้ยังไง เรื่องพวกนี้ มักจะรู้กันตอนเวลากินข้าวกับพวกเขาเท่านั้น มันสนุกมากจริงๆ ฉันคิดว่าเราต้องไปลองดูสักหน่อยนะ ! ” ลัวย่าวหัวกล่าว
หยางโปส่ายหน้า “ ถ้านายอยากไปก็ไปสิ ฉันไม่ไป ”
“ จะไม่ไปได้ยังไง พวกเราต้องไปด้วยกันฉันจะบอกนายให้ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะกินนายหรอก ! ” ลัวย่าวหัวพูดเกลี้ยกล่อม
ทั้งสองคนดื่มชาและกินของว่าง คอยรอเวลาพลบค่ำที่จะมาถึง ถ้าไปเร็วเกิน เกรงว่า อี้มู่จะไม่มาปรากฏตัว
รอจนสองทุ่ม แม้แต่หยางโปก็ยืนขึ้นและเริ่มเดินไปมารอบๆ เขาหันมามองลัวย่าวหัว
” ช่างเถอะ พวกเราไปกันตอนนี้แหละ ! ”
“ ตกลง ” ลัวย่าวค่อนข้างจะร้อนใจ ทั้งสองนั่งดื่มชาในโรงน้ำชามาตลอดบ่าย ดื่มน้ำมาตลอดทั้งบ่าย จึงหมดความอดทนไปนานแล้ว ลัวย่าวหัวดูจะคุ้นเคยกว่ามากอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานทั้งสองก็มาถึงหวงโฮ่วไนต์คลับ ลัวย่าวหัวดึงหยางโปเดินตรงไปที่ไนต์คลับ ” หวงโฮ่ว ” ทันที
ไนต์คลับแห่งนี้ตกแต่งอย่างหรูหรามาก ที่เหนือประตู มีลายนกฟีนิกซ์แกะสลักและมีไฟนีออนอยู่รอบๆ ดูสวยงามมาก
หยางโปสังเกตเห็นมีอักษร ” จ้าว ” คำหนึ่งอยู่ตรงมุมกลางเหนือประตูสีซีดจาง ซึ่งเป็นชื่อที่จักรพรรดินีบูเช็กเทียนตั้งชื่อให้กับตัวเอง !
“ เจ้าของร้านนี้ต้องมีอำนาจและอิทธิภพมากแน่ๆ ! ” หยางโปหันมาพูดกับลัวย่าวหัว
ลัวย่าวหัวอดที่จะหัวเราะลั่นไม่ได้ “ เถ้าแก่ร้านนี้มีอำนาจมากจริงๆ เดี๋ยวเราก็ได้เจอ ”
หยางโปเดินตามเข้าไปด้วยความรู้สึกแปลกใจ
เนื่องจากยังเช้าอยู่ ดังนั้นในร้านจึงมีลูกค้าไม่มากนัก ทั้งสองคนเดินเข้าไป จึงดูโดดเด่นมาก
เมื่อเห็นแบบนั้นชายสวมชุดสูทชมพูก็เดินเข้ามาหา ชายหนุ่มหน้าตาดี ที่เปลือกตาแต่งแต้มด้วยสีชมพู ตอนเดินเข้ามา ทรวดทรงองค์เอวสะดีดสะดิ้ง ทำเอาหยางโปถึงกับตกใจกลัว
ลัวย่าวหัวก้มหน้ากระซิบ “ เถ้าแก่เป็นผู้ชาย ”
หยางโปมองคนที่เดินเข้ามาหาแล้วนึกโยงไปถึง สิ่งที่ตัวเองคิดเมื่อสักครู่ไม่ได้ เรื่องนี้จะมาโทษเขาไม่ได้จริงๆ
“ โอ้โห คุณชายลัว ยินดีมากที่คุณมา ก่อนหน้านี้เชิญคุณมา คุณก็ไม่แม้แต่จะเหลียวมอง
วันนี้มาหาเราถึงที่นี้ เป็นเกียรติแก่ไนต์คลับหวงโฮ่วของเรามากจริงๆ ! ” เถ้าแก่พูดพลางยิ้ม
ลัวย่าวหัวชี้ไปที่หยางโป “ คนนี้เพื่อนของผม หยางโป ”
พอพูดจบ เขาก็ผายมือไปทางเถ้าแก่ “ ท่านนี้คือเถ้าแก่ โจวเหม่ยเอ๋อ ทุกคนเรียกกันว่า
พี่เหม่ยเอ๋อ”
“ ยินดีต้อนรับคุณชายหยาง ! พี่เหม่ยเอ๋อไม่กล้ารับ คุณเรียกชื่อฉันก็ได้ ! ” โจวเหม่ยเอ๋อพูดพลางส่งยิ้มให้
หยางโปหันไปส่งยิ้มให้อีกฝ่าย “ สวัสดีครับ ! ”
ลัวย่าวหัวเห็นว่าหยางโปมีท่าทีอึดอัดใจ ก็อดอมยิ้มไม่ได้ “ เถ้าแก่เหม่ยเอ๋อ ดูเหมือนว่า
เพื่อนผมคนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเคยชินกับบรรยากาศที่นี่ของพวกคุณ ! ”
โจวเหม่ยเอ๋อรีบตอบกลับทันที “ ที่นี่ของเราเลิศมาก ตอนนี้ฉันเพิ่งเชิญนักร้องเสียงดีมาคนหนึ่ง เอาแบบนี้ดีไหม เรามาเริ่มการแสดงกันเลยดีกว่า ? ” หยางโปหันไปถลึงตาใส่ลัวย่าวหัว หลังจากเข้ามาในไนต์คลับหวงโฮ่ว หยางโปก็รู้สึกว่ามีกลิ่นหอมอยู่รอบปลายจมูกของตัวเอง กลิ่นหอมนี้พุ่งตรงไปที่สมองของเขา ทำให้รู้สึกวิงเวียนหัวเล็กน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นจากตัวโจวเหม่ยเอ๋อ ที่ยิ่งเข้มข้น ยิ่งเข้าใกล้ มันก็ยิ่งเข้าไปในจมูกของ
หยางโป ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายตัว
ลัวย่าวหัวโบกมือ “ งั้นก็เริ่มกันเลย ! ”
โจวเหม่ยเอ๋อรีบพูดขัดขึ้น “ คุณชายทั้งสองหาที่นั่งก่อน ฉันจะไปเตรียมการให้ เดี๋ยวกลับมา ! ”
ลัวย่าวหัวยิ้มพลางพูด “ คุณไปทำธุระเถอะ ! ”
หลังจากที่โจวเหม่ยเอ๋อเดินจากไป ลัวย่าวก็ยิ้มและมองหน้าหยางโป ” เป็นยังไงบ้าง ? คำเยินยอแบบนี้ ให้ความรู้สึกยังไงบ้าง ! ”
“ ฉันคิดว่านายควรจะสนุกและมีความสุขไปกับมันสักหน่อยนะ ” หยางโปกล่าว
ลัวย่าวหัวหัวเราะเสียงดัง “ นายนี่มัน ไม่รู้จักหาความสุขใส่ตัวเลย ดินแดนที่นุ่มละมุนแบบนี้คือสุสานของมหาบุรุษ มันเป็นสถานที่ที่ผู้ชายอย่างเราควรจะมาบ่อยๆ ! ”
หยางโปไปนั่งตรงมุมที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีผู้หญิงจำนวนมากอยู่รายล้อม กำลังพูดเล่นต่อกระซิบกันอยู่ และอดที่จะมองมาทางพวกเขาไม่ได้ ดูเหมือนแค่พวกเขากวักมือเรียก ก็จะมีผู้หญิงจำนวนมากเดินเข้ามาหา
ลัวย่าวหัวรู้สึกมีความสุขกับบรรยากาศแบบนี้มาก เริ่มแรกหยางโปยังรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่เมื่อการแสดงสดเริ่มต้นขึ้น เขาก็ชินไปกับมัน เขามองไปรอบๆ และหวังว่าจะพบกับอี้มู่