ตอนที่ 704 บุตรของทัวป๋าหลิวลี่

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 704 บุตรของทัวป๋าหลิวลี่

แท้จริงแล้วมู่จวินฮานมิได้คิดและไม่เคยคิดที่จะละทิ้งอันหลิงเกอเลย

เช่นนั้นเขาคงไม่ส่งนางไปที่หอพิษกู่เพราะคิดว่าฟางหลิงซู่รักนางถึงเพียงนี้ย่อมรู้ถึงความสำคัญของสถานะและชื่อเสียงของนาง ไม่มีทางป่าวประกาศออกไปเป็นแน่

เนื่องจากฟางหลิงซู่ใส่ใจอันหลิงเกอมากย่อมดูแลนางเป็นอย่างดี อีกอย่างตอนนี้ฟางหลิงซู่ยังมิได้แต่งงาน ดังนั้นหอพิษกู่ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้

ความจริงแล้วหากจะกล่าวว่าไม่มีความรู้สึกเลยก็คงมิใช่เพราะแม้ช่วงที่ผ่านมาระหว่างมู่จวินฮานกับอันหลิงเกอเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมากมาย แต่ความรู้สึกของเขาก็ยังคงรักนางอยู่

ครั้งนี้หากมิใช่เพราะไร้หนทาง เขาจะไม่มีทางทำเช่นนี้กับนางแน่นอน

ทว่าในชีวิตของอันหลิงเกอมีผู้คนวนเวียนมากมายเหลือเกิน มู่จวินฮานก็มิรู้ว่าตนหึงหวงหรือโกรธนางจริงกันแน่ ยิ่งเห็นนางกับฟางหลิงซู่หรือไป๋หลี่เฉินใกล้ชิดกันเช่นนั้น เขาก็รู้สึกไม่พอใจจนมิอาจทนไหว

ที่เขาโกรธมากก็คือนางยังติดต่อกับฟางหลิงซู่อยู่ สิ่งนี้ทำให้เขาโมโหมากไปอีกและช่างบังเอิญที่นางตั้งครรภ์ในเวลานี้พอดี !

ด้านทัวป๋าหลิวลี่ก็รู้ความในใจของมู่จวินฮานว่าไม่ได้หมดรักอันหลิงเกอจริง แค่ตอนนี้เขายังไม่ปล่อยวางเรื่องนั้นได้จึงมิอาจให้อภัยอันหลิงเกอเท่านั้น

หากอันหลิงเกอกลับมาก็เกรงว่ามินานมู่จวินฮานคงให้อภัย ดังนั้นทัวป๋าหลิวลี่มิอาจเห็นทั้งสองคนคืนดีกันได้ นางจึงมักเอ่ยถึงเรื่องของอันหลิงเกอเพื่อคอยย้ำเตือนมู่จวินฮานตลอดเวลา

ส่วนฟางหลิงซู่ก็รู้ความคิดของมู่จวินฮานดีแต่มิได้เกรงกลัวที่จะพาอันหลิงเกอกลับไปจวนอ๋องมู่ เพราะเขารู้ว่ามู่จวินฮานไม่มีทางไว้หน้าอันหลิงเกอ และสุดท้ายอันหลิงเกอก็ทำได้เพียงกลับไปหอพิษกู่กับเขาอีกครั้ง

ตอนนี้อันหลิงเกอได้มาถึงหน้าประตูจวนอ๋องมู่ เนื่องจากว่าผ่านไปเนิ่นนาน นางจึงรู้สึกตื่นเต้นและอยากพบหน้ามู่จวินฮานโดยเร็ว

ทว่าตอนที่ทั้งสองกำลังรออยู่ในห้องโถงนั้น ผู้ที่เข้ามามิได้มีเพียงมู่จวินฮานแต่ยังมีทัวป๋าหลิวลี่ตามมาด้านหลังด้วย ตอนนี้ทัวป๋าหลิวลี่กำลังใช้มือค้ำที่เอวของตนเบา ๆ และทำท่าลูบท้องไปด้วย ภายในใจของอันหลิงเกอสั่นสะท้านอย่างห้ามมิอยู่ นางไม่รู้ว่าที่แท้ทัวป๋าหลิวลี่ตั้งครรภ์มานานขนาดนี้แล้ว

นี่…เป็นไปได้อย่างไร !

ทัวป๋าหลิวลี่ตั้งครรภ์บุตรคนที่สองได้สามเดือนแล้ว หน้าท้องของนางใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน เดิมทีรูปร่างก็ผอมเพรียวอยู่แล้วบัดนี้จึงเห็นหน้าท้องที่ยื่นออกมาและทำให้อันหลิงเกอรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งครรภ์อยู่

อีกทั้งวันนี้ทัวป๋าหลิวลี่ยังตั้งใจสวมชุดรัดรูปเพื่อให้เห็นหน้าท้องชัดเจนขึ้นด้วย ส่วนมู่จวินฮานก็ยืนเป็นหลักให้นางคอยพิงคอยจับอยู่ด้านข้าง เห็นถึงความเอาอกเอาใจได้เป็นอย่างดี

เห็นท่าทางของคนทั้งคู่ เห็นท้องใหญ่โตของทัวป๋าหลิวลี่แล้ว อันหลิงเกอก็อดน้อยใจขึ้นมามิได้

สุดท้ายใครหักหลังใครกันแน่ ?

อันหลิงเกอจึงยิ้มอย่างขมขื่น สีหน้าของนางล้วนอยู่ในสายตาของฟางหลิงซู่ ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของเขาทั้งสิ้น แต่ตอนนี้เมื่อเห็นสีหน้าของอันหลิงเกอแล้วเขาก็รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ

แต่ฟางหลิงซู่ก็ต้องรีบสงบใจเพราะตอนนี้จะใจอ่อนมิได้ หากไม่ทำเช่นนี้ก็เกรงว่าอันหลิงเกอจักยึดติดกับจวนอ๋องมู่ และเขามิอยากให้นางมาอยู่กับมู่จวินฮานอีกแล้ว

ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้สายตาของอันหลิงเกอมิได้ละไปจากมู่จวินฮานเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมู่จวินฮานก็สังเกตเห็นอันหลิงเกอเช่นกัน เมื่อเห็นดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำใสของนางก็ทำให้แววตาของเขาไหววูบเล็กน้อย

“คุณชายฟางดูแลพระชายาของข้าได้มิเลวเลย สีหน้าของนางดูดีขึ้นมาก เช่นนั้นต่อไปก็ยิ่งต้องพึ่งคุณชายฟาง รบกวนท่านช่วยดูแลนางด้วย”

คำพูดของมู่จวินฮานทำให้อันหลิงเกอตกตะลึงไปชั่วขณะ เขายกนางให้ฟางหลิงซู่ง่าย ๆ เลยหรือ เขามิต้องการนางอีกแล้วจริงหรือ รู้ทั้งรู้ว่านางเป็นพระชายาของตนแล้วมีเหตุผลใดมายกให้คนอื่น ?

“จวินฮาน…ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนี้เพราะเหตุใด ! ” ดวงตาของอันหลิงเกอสั่นไหว เดิมทีนางคิดว่าที่มู่จวินฮานส่งไปอยู่กับฟางหลิงซู่ก็เพื่อให้นางได้พักรักษาตัวอย่างสงบ คาดมิถึงว่าเขาไม่เคยคิดไปรับนางกลับ มิน่าเล่า ที่ผ่านมานางจึงมิได้รับข่าวใดจากเขาเลย

ทำให้อันหลิงเกอรู้สึกขบขันตนเอง เขาทำกับนางถึงเพียงนี้ เสียแรงที่นางเฝ้าหวังที่จะกลับมา เขาใจร้ายเหลือเกิน !

“ข้าทำไปเพราะเหตุใดใจเจ้าน่าจะรู้ดี เมื่อเป็นเช่นนี้บางทีการที่เจ้าอยู่หอพิษกู่อาจเหมาะสมกว่า และเจ้าก็มิต้องกลับมาอีก”

ท่าทางเด็ดขาดของมู่จวินฮานทำให้น้ำตาของอันหลิงเกอพรั่งพรูทันที ช่วงที่ผ่านมานางคิดแค่ว่ารีบรักษาตัวเพื่อจะได้กลับมาอยู่ข้างกายเขา คาดมิถึงว่าบัดนี้เมื่อร่างกายแข็งแรงดีแล้ว เขากลับมิต้องการนางอีก

“เนื่องจากเช่อเฟยตั้งครรภ์หรือ ? ” อันหลิงเกอมองทัวป๋าหลิวลี่ปราดหนึ่ง จู่ ๆ นางก็รู้สึกว่าอาจเป็นเพราะอีกฝ่าย บางทีมู่จวินฮานแค่มิอยากให้นางไปรบกวนทัวป๋าหลิวลี่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ได้

ท่าทางน่าสงสารของอันหลิงเกอมิได้ทำให้มู่จวินฮานสั่นคลอนแม้แต่น้อย ช่างแตกต่างจากหัวใจของฟางหลิงซู่ที่คล้ายมีเข็มนับพันทิ่มแทงอยู่ก็มิปาน นางยอมลดตัวและก้มหัวเพื่อเขาได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ

“ไม่เกี่ยวกับนาง เรื่องของเจ้าก็ย่อมรู้แก่ใจดี ช่างเถิด ตอนนี้ไม่ต้องกล่าวเรื่องพวกนี้แล้ว เจ้าก็มิต้องกลับมาที่จวนอ๋องมู่อีกเพราะข้าไม่มีอันใดที่จะพูด เจ้าออกไปเสียเถิด”

อันหลิงเกอมิได้ยินอันใดที่เป็นประโยชน์จากคำพูดของมู่จวินฮาน ที่นางเข้าใจมีเพียงความรังเกียจที่เขามีต่อนาง ส่วนเรื่องอื่นนางหาได้เข้าใจไม่

“จวินฮาน…เหตุใดจึงทำกับข้าเช่นนี้ ? ” น้ำเสียงของอันหลิงเกอเต็มไปด้วยความน่าเวทนา น้ำเสียงที่แหบแห้งราวกับนางใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อกลั่นประโยคนั้นออกมา ก่อนจะล้มลงกับโต๊ะ

“อันหลิงเกอ ช่างมันเถิด พวกเราไปกันดีกว่า” ฟางหลิงซู่มีท่าทีโมโหมาก ความจริงแล้วใจของเขาหาได้สนใจสิ่งใด เมื่อเห็นนางเจ็บปวดเช่นนี้เขาก็อยากอธิบายกับมู่จวินฮานและล้มเลิกแผนการทั้งหมดด้วยซ้ำ

“มู่จวินฮาน อ๋องมู่ อันหลิงเกอจริงใจต่อท่าน ในเมื่อท่านมิเห็นค่าก็ไม่เป็นไร ข้าจักพานางไปเอง หากท่านอยากได้นางคืน ข้าจะไม่วันยอม เพราะเกอเอ๋อมิใช่สิ่งของ ไม่สามารถยกให้กันไปมาได้ ! ”

สิ่งที่ฟางหลิงซู่กล่าวออกมานั้นถูกทั้งหมดและได้พูดแทนอันหลิงเกอไปหมดแล้ว แต่เมื่ออันหลิงเกอเงยหน้ามองสีหน้าของมู่จวินฮาน เขาก็มิได้สะทกสะท้านอันใด

อันหลิงเกอจึงมิได้อยู่ต่อแล้วก้าวตามฟางหลิงซู่ออกไปทันที ไม่หันกลับมามองมู่จวินฮานอีกทั้งมิสนใจสายตายั่วยุของทัวป๋าหลิวลี่ด้วย

ในสายตาของอันหลิงเกอคือความเย็นชาและไร้ความรู้สึกที่มู่จวินฮานมีต่อนางช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก นี่คือสิ่งที่มู่จวินฮานมิเคยปฏิบัติต่อนางมาก่อน ตอนนี้นางจึงรู้สึกผิดหวังในตัวเขายิ่งนัก

“ไปเถิด ข้าจะพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง” ฟางหลิงซู่รู้ว่าตอนนี้อันหลิงเกอเสียใจมาก การกลับไปที่หอพิษกู่จะยิ่งทำให้นางรู้สึกเศร้ากว่าเดิม ดังนั้นเขาจึงพยายามหาวิธีทำให้นางมีความสุข

แม้เรื่องนี้เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องแต่ก็หวังว่าจะชดใช้ให้นางได้บ้าง