ตอนที่ 506 ข้าไม่อาจทนเห็นเจ้าเจ็บปวด / ตอนที่ 507 ออกจากตูเฉิง

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 506 ข้าไม่อาจทนเห็นเจ้าเจ็บปวด

 

 

“ข้าให้องครักษ์อุทยานตะวันออกพาไปส่ง พวกเขาไปก็ดี ตูเฉิงเวลานี้มีภัยรอบตัว”

 

 

“ดี” ซูจิ่วซือพยักหน้า พอเห็นฟู่เฉินหรงสีหน้าเหนื่อยล้า นางยื่นมือไปจับมือฟู่เฉินหรง “เหนื่อยอย่างนี้ยังรีบมาทำไม กลับไปพักที่จวนก่อนเถอะ ข้าไม่เป็นไร”

 

 

“แค่มาดูเจ้า วางใจได้หรือ พอเกิดเรื่องขึ้นเจ้ามักจะรับไว้คนเดียว จิ่วซือ จำไว้นะ วันหลังไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าจะอยู่กับเจ้า ถึงจะห่างไกลและอันตรายแค่ไหน ข้าก็จะรีบมาหาเจ้า”

 

 

ซูจิ่วซือรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “ข้าทนได้”

 

 

“แต่ข้าเป็นห่วง” ฟู่เฉินหรงมองซูจิ่วซือ แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู “ข้าทนเห็นเจ้าเผชิญปัญหาคนเดียวไม่ได้ จิ่วซือ เส้นทางนี้จะมีคนจากไปก่อน ข้าจะพยายามปกป้องพวกเจ้า ไม่ว่าอย่างไร เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”

 

 

“เจ้าก็เหมือนกัน ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป

 

 

ฟู่เฉินหรงลูบกำไลบนมือซูจิ่วซือ “ข้าไม่อาจทนเห็นเจ้าเจ็บปวด”

 

 

ปิงซินเดินนำสาวใช้คนหนึ่งยกอาหารมาให้หลายสำรับ นางคุ้นเคยกับการเห็นฟู่เฉินหรงอยู่ในห้องของซูจิ่วซือ สีหน้าจึงไม่เปลี่ยน เอาอาหาร และข้าวอีกสองชามวางบนโต๊ะ

 

 

นางรู้ว่าซูจิ่วซือคงกินไม่ลงแน่ จึงเตรียมของกินเล่นที่ทำให้เจริญอาหาร มีมันฝรั่งรสเผ็ดเปรี้ยว และหัวผักกาดดองเปรี้ยว

 

 

ซูจิ่วซือกินไม่ลงจริงๆ พอฟู่เฉินหรงเตือน ก็ฝืนกินข้าวไปครึ่งชาม ฟู่เฉินหรงหิวจัด กินข้าวจนหมดชาม

 

 

พอปิงซินยกอาหารบนโต๊ะออกไปแล้ว ฟู่เฉินหรงจึงพูดขึ้น “วันนี้กู้จื่อหยวนเกิดเรื่อง ถูกคนตามล่า ตกลงไปในทะเลสาบ ไม่รู้เป็นตายร้ายดี”

 

 

พอได้ยินว่ากู้จื่อหยวนเกิดเรื่อง สีหน้าซูจิ่วซือไม่ได้เปลี่ยนมากนัก “ข้ารู้ว่าจวนซิ่นอ๋องกับคนตระกูลเฟิงไม่ปล่อยเขาแน่ เป็นคนหาเรื่องเอง”

 

 

“เวลานี้เขาบ้าไปแล้ว แค้นจนไม่คิดอะไร

 

 

และอีกเรื่องหนึ่ง ฟู่จิ่งจะให้ฟู่เยว่อี้แต่งงานกับเฟิงเยว่ พรุ่งนี้ฝ่าบาทจะมีพระราชโองการจัดพิธีสมรส เพื่อดึงตระกูลเฟิงเป็นพวก อาของข้าคนนี้ทุ่มเทจริงๆ สละความสุขทั้งชีวิตของลูกสาว”

 

 

การกระทำของฟู่จิ่ง ฟู่เฉินหรงดูแคลนมาก ฟู่เยว่อี้เองก็ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อจวนซิ่นอ๋อง เท่ากับว่า จวนซิ่นอ๋องถือฟู่เยว่อี้เป็นเบี้ยให้ตระกูลใช้ประโยชน์

 

 

ข่าวนี้ทำให้ซูจิ่วซือประหลาดใจไม่น้อย สภาพของเฟิงเยว่นางรู้ดี นี่เป็นความลับที่เปิดเผยในตูเฉิง ใครๆ ก็รู้ว่าเฟิงเยว่ร่างกายบกพร่อง ไม่อาจทำหน้าที่ของผู้ชาย ตั้งแต่นั้น เฟิงเยว่ก็มีนิสัยประหลาด

 

 

คนตระกูลใหญ่ที่มีฐานะในตูเฉิงไม่มีใครกล้ายกลูกสาวให้เฟิงเยว่ ฟู่จิ่งกล้าทำอย่างนี้ ชาติกำเนิดของฟู่เยว่อี้ นางสามารถแต่งงานกับคุณชายสูงศักดิ์ที่เพียบพร้อมทั้งฐานะและความรู้

 

 

ฟู่จิ่งกล้าตัดสินใจวางหมากครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นพ่อที่ไร้น้ำใจจริงๆ

 

 

ไม่รู้ว่าฟู่เยว่อี้ยอมรับอย่างสงบหรือไม่ ถ้านางยอมรับอย่างไม่ขัดขืน ซูจิ่วซือก็นับถือฟู่เยว่อี้มาก อุทิศทั้งชีวิตให้ตระกูล แทบไม่มีตัวเอง ถ้าในใจไม่ยินยอม นางก็จะแตกแยกกับจวนซิ่นอ๋อง เรื่องนี้ซูจิ่วซือสามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้

 

 

“เฟิงเยว่ไม่ใช่คนอ่อนโยน ฟู่เยว่อี้แต่งงานกับเขา วันหลังคงทุกข์ใจ”

 

 

“นางทำตัวเองแท้ๆ พวกเขาต้องการดึงตระกูลเฟิงเป็นพวก ก็ปล่อยให้พวกเขาทำไป ฟู่เยว่อี้เจอกับเฟิงชิงสุ่ยคงสนุกแน่”

 

 

ซูจิ่วซือมองหน้าฟู่เฉินหรง “สองคนนี้จะเป็นพันธมิตรหรือเป็นศัตรูกันขึ้นอยู่กับเจ้า”

 

 

“สองคนนี้จะเป็นอะไรกันไม่เกี่ยวกับข้า จิ่วซือ เฟิงชิงสุ่ยเป็นคนหลงตัวเองมาก มักจะคิดว่าถ้าไม่มีนาง ข้าคงไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงในตูเฉิง ผู้หญิงอย่างนี้อย่าใส่ใจเลย”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 507 ออกจากตูเฉิง

 

 

ฟู่เฉินหรงไม่ชอบเฟิงชิงสุ่ยตลอดมา ตอนที่เพิ่งมาถึงตูเฉิงเขาเคยชื่นชมเฟิงชิงสุ่ยบ้าง เวลานี้กลับรู้สึกเกลียดมากขึ้นเรื่อยๆ เฟิงชิงสุ่ยหลงตัวเองเกินไป เขาก็ไม่ชอบให้ใครมาควบคุม แต่เฟิงชิงสุ่ยกลับคิดว่านางสามารถควบคุมเขาได้

 

 

ซูจิ่วซือเองก็ไม่ได้พูดเรื่องเฟิงชิงสุ่ยอีก ฟู่เฉินหรงอยู่กับซูจิ่วซือครู่หนึ่ง ซูจิ่วซือจึงเร่งให้เขาออกไปจากจวนตระกูลมู่

 

 

นางรู้ว่าเขาเหนื่อยมาก อยากให้เขากลับไปพักผ่อน

 

 

หลายวันต่อมา เผยปิงปิงก็เตรียมตัวออกจากตูเฉิงพร้อมกับกู้หลียวน ซูจิ่วซือไปส่งที่หน้าประตูจวน

 

 

เผยปิงปิงมองดูสีหน้าหม่นหมองของซูจิ่วซือ นางรู้ว่าหลายวันมานี้ซูจิ่วซือไม่ได้พักผ่อนเต็มที่

 

 

นางยื่นมือไปลูบหลังมือซูจิ่วซือ “เจ้าเองก็ต้องดูแลสุขภาพ มีอะไรจะให้ช่วยก็เขียนจดหมายถึงข้า ข้าจะพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เรื่องของมู่หยางเจ้าไม่ต้องโทษตัวเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ข้ารู้สึกเสียใจ ได้แต่โทษสวรรค์ไม่รู้จักดู พวกนั้นไม่มีวันพบจุดจบที่ดีแน่”

 

 

“กลับไปรักษาอาการบาดเจ็บให้ดี” ซูจิ่วซือพยักหน้า หลายวันมานี้นางนอนไม่หลับ สีหน้าไม่ค่อยดี นางเองก็รู้ว่าหนทางข้างหน้ายิ่งมีภัยมากขึ้น ต้องไม่ประมาท และไม่อาจจมอยู่ในความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่ง นางต้องพยายามเข้มแข็งเข้าไว้

 

 

หนทางนี้ นางก้าวไปท่ามกลางความเจ็บปวด จิตใจต้องเข้มแข็งมากกว่าคนทั่วไป เพียงแต่นางยังคงไม่อาจยอมรับการจากไปของคนใกล้ชิดได้ง่ายๆ

 

 

วันหลังนางต้องปกป้องพวกเขาอย่างเต็มที่

 

 

“จิ่วซือ เจ้าต้องระวัง ข้าละอายใจมาก ข้าอยู่กับเจ้าแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้

 

 

เจ้าจำเป็นต้องมีองครักษ์หญิงคอยปกป้องใกล้ชิด เหมือนปิงอวิ๋น พอไปถึงหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน ข้าจะช่วยเจ้าหา ถ้ามีคนที่เหมาะสมจะส่งมาอยู่กับเจ้า”

 

 

เวลานี้กู้หลียวนก็อยากรวบรวมคนมาช่วยซูจิ่วซือกับฟู่เฉินหรงบ้าง โดยเฉพาะซูจิ่วซือ คนอย่างนี้จำเป็นสำหรับซูจิ่วซือ

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มให้กู้หลียวน “ดี ขอบใจเจ้า หลียวน”

 

 

“พี่น้องครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องขอบใจ ได้ข่าวว่าเฉินหรงจะยกทัพไปแล้ว หลังจากเขาไป เจ้าต้องระวังตัวให้ดี”

 

 

“เอาละ เจ้าสองคนไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปเถอะ! ข้ารู้ดี มีอะไรก็เขียนจดหมายมาได้ อย่าชักช้า” ซูจิ่วซือเร่งให้ออกเดินทาง ขืนคุยต่อไป คงไม่จบแน่

 

 

“จิ่วซือ เราสองคนไม่อยากจากเจ้า เจ้าจะไล่พวกเราหรือ อย่างนี้ไม่มีน้ำใจเลย” เผยปิงปิงอยากให้ซูจิ่วซือสบายใจขึ้น จึงแสร้งพูดล้อเล่น

 

 

“จากกันชั่วคราวเท่านั้น เจ้าสองคนหมั้นหมายกันก่อน”

 

 

กู้หลียวนหัวเราะ “ข้าเองก็คิดอย่างนี้ พอเจอใต้เท้าพ่อตาแล้ว ข้าจะขอแต่งงาน”

 

 

“หน้าไม่อาย ใครเป็นพ่อตาเจ้า”

 

 

ทั้งสองโต้เถียงกัน สุดท้ายก็ขึ้นรถม้า ซูจิ่วซือยืนอยู่ที่เดิมมองดูรถม้าจากไป นางนึกถึงเผยไป๋ชวน ในที่สุดลูกชายนางก็รักกับลูกสาวของเผยไป๋ชวน เป็นบัญชาสวรรค์อันเร้นลับใช่หรือไม่

 

 

นางกับเผยไป๋ชวนไม่มีวาสนาต่อกัน ไม่อาจข้องเกี่ยวกันได้ วาสนาที่เคยมีต่อกันเมื่อหลายปีก่อนได้สืบทอดให้ลูกชายของนางกับลูกสาวของเขา นางหวังว่าทั้งสองจะมีความสุข นางกับเผยไป๋ชวนสิ้นสุดเพียงเท่านี้ ซูหลิ่วตายไปแล้ว นางไม่ใช่ซูหลิ่วอีกต่อไป

 

 

“คุณหนู ข้างนอกอากาศเย็น เข้าไปเถอะ!”

 

 

ข้างนอกลมแรง ซูจิ่วซือใส่เสื้อบาง ปิงซินยืนอยู่ข้างหลังพูดเตือน ซูจิ่วซือเงยหน้าขึ้นมอง เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ ไม่ทันรู้ตัว ก็ใกล้ฤดูหนาวแล้ว

 

 

“เข้าไปเถอะ!”

 

 

ซูจิ่วซือหันหลัง เดินเข้าไป ปิงซินตามหลัง พูดต่อ “คุณหนู บ่าวได้ยินว่าคุณชายสามจะกลับมา”