ตอนที่ 568: เพียงชี้นิ้วก็ดับดิ้น

Crazy Leveling System

ตอนที่ 568: เพียงชี้นิ้วก็ดับดิ้น

 

องค์ชาย คํานี้ทําให้ทุกคนตาเป็นประกาย พร้อมกับรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว แล้วก็พบว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกําลังบินอยู่กลางอากาศ ขณะที่เอามือไขว้อยู่ด้านหลัง พร้อมกับมองไปที่พวกตง หลินอย่างเย็นชา

 

“เจ้าคือองค์ชายอะไรนั่นของอาณาจักรเทียนหลงอย่างงั้นเหรอ?” ตงหลินมองสํารวจอี้เทียนหยุน ขณะที่ในใจสั่นสะท้านอย่างรุนแรง นี่ไม่เด็กเกินไปหน่อยหรือไง?

 

ดูแล้วอายุน่าจะน้อยกว่า 20 ปี นี่คือองค์ชาย? การที่บินได้อย่างนี้ ก็หมายความว่าพลังของเขาจะต้องอยู่ในระดับผันแปรวิญญาณ ได้ยินมาว่าองค์ชายนั่นแข็งแกร่งมาก ทั้งยังสามารถควบคุมสมบัติลับเทียนหลงได้ พร้อมกับจัดการกับพวกอัครเสนาบดีหลงอย่างหนัก

 

ยังไงก็ตาม ตงหลินกับพวกก็ไม่เชื่อข่าวที่ได้มานี้ พูดได้ว่าเหมือนเรื่องเล่าที่เกินจริงมากกว่า แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถเอาชนะได้

 

“ใช่ ข้าเอง” อี้เทียนหยุนมองเขาอย่างเฉยชา ในสายตาของเขา ตงหลินก็เหมือนกับคนพิการคนหนึ่ง

 

“พรืดดด…” ตงหลินหัวเราะออกมา “ใช่ ตอนนี้เจ้าไม่ใช่เต่าหดหัวจริงๆ แต่ก็เป็นเจ้าโง่คนหนึ่ง! ไม่ซ่อนอยู่ในเมืองเทียนหลงดีๆ แต่วิ่งมาสนับสนุนที่นี่ หากไม่ใช่คนโง่ แล้วจะให้เป็นอะไร?”

 

ม่อซือกับพวกหน้าเปลี่ยนสี สมบัติลับเทียนหลงในเมืองหลวงไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แล้ว เขาจะใช้วิชาที่น่าสะพรึงนั่นได้ยังไง?

 

“อืม คําพูดนั่น?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “คงจะเป็นคําพูดสุดท้ายของเจ้าสินะ?”

 

“คําพูดสุดท้าย? ใช่ แต่มันเป็นคําพูดสุดท้ายของเจ้า!” ตงหลินตกใจ จากนั้นก็หัวเราะออกมา “จับมัน นี่คือองค์ชายของอาณาจักรเทียนหลง พวกเจ้าต้องดูแลเขาให้ดี!”

 

“ครับ!” ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณพากันยิ้มเยาะ พร้อมกับเข้าล้อมอย่างฉับไว ยังเด็กอยู่ชัดๆ แล้วจะไปร้ายกาจขนาดนั้นได้ยังไง? อย่างดีก็แค่เพิ่งทะลวงผ่านระดับผันแปรวิญญาณมาได้ไม่นานเท่านั้นแหละ

 

แม้ว่าจะเป็นอัจฉริยะ แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับระดับผันแปรวิญญาณขั้นท้าย สุดท้ายแล้วก็ไม่ต่างไปจากเด็กเมื่อวานซืนอยู่ดี

 

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณเข้าล้อม อี้เทียนหยุนก็ยื่นมือออกไป จากนั้นรอบๆก็ปรากฎกระบี่บินมากกว่าหมื่นเล่มขึ้นอย่างรวดเร็ว! เขาเรียกชุดปรมาจารย์กระบี่ออกมาสวมในทันที พร้อมกับควบคุมกระบี่นับหมื่น เข้าทําการเข่นฆ่าในพริบตา!

 

เพราะว่าเขาไม่อยากลงมือเองกับกลุ่มสวะพวกนี้ เพียงแค่ชุดปรมาจารย์กระบี่ก็สามารถจัดการกับพวกมันได้อย่างเหลือเฟือแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับผู้ฝึกตนจํานวนมากที่พลังฝึกตนไม่สูงด้วยแล้ว การใช้ชุดปรมาจารย์กระบี่ ก็เหมือนกับการเชือดไก่อย่างไงอย่างงั้น!

 

“นี่คืออะไรกัน!?”

 

อยู่ๆก็มีกระบี่วิญญาณนับหมื่นปรากฏขึ้น ในใจพวกเขาก็พากันสั่นสะท้านในทันที กระทั่งมีกระบี่ระดับวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อแกนวิญญาณบางคนถูกดูดเข้าไป พร้อมกับเข้าไปรวมกับกระบี่ที่บินอยู่บนฟ้านี้ด้วย

 

“ไป!”

 

เทียนหยุนโบกมือ ทําให้กระบี่วิญญาณนับหมื่นบินออกไปอย่างบ้าคลั่ง ราวกับห่าฝนกระบี่ที่ตกลงมาจากชั้นเมฆ!

 

“อ๊ากกก….”

 

เสียงกรีดร้องดังออกมา ผู้ฝึกตนเหล่านั้นต่างก็ถูกกระบี่เสียบทะลุอย่างง่ายดาย กระทั่งผู้ฝึกตนระดับผันแปรวิญญาณเอง ภายใต้กระบี่นับหมื่นเล่มนี้ ก็ยังถูกเสียบทะลุอยู่ดี!

 

ผู้ฝึกตนระดับก่อแกนวิญญาณคนอื่นไม่ทันตอบสนอง แต่เมื่อคิดได้ก็พากันหันหลังวิ่งหนีหางจุกตูดในทันที แต่ว่าความเร็วของพวกเขายังคงช้ากว่ากระบวิญญาณมาก ทําให้พวกเขาหนี้ไม่ทัน

 

“ฉีก…”

 

ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ถูกกระบี่พวกนี้เสียบหลังทะลุในทันที พร้อมกับนอนตายอยู่บนพื้น จนเลือดไหลนองพื้น ยอมพื้นเป็นสีชมพูอ่อนๆ เพียงพริบตา ผู้รุกรานส่วนใหญ่ก็ตายไป ถูกสังหารไปอย่างง่ายดาย!

 

“นี่มันความสามารถศักดิ์สิทธิ์อะไรกัน…” สีหน้าตงหลินดําคล้ํา แม้เขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ แต่อี้เทียนหยุนที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ กลับให้ความรู้สึกเหมือนกับเทพสังหารอย่างไงอย่างงั้น!

 

จากนั้นเขาก็กัดฟัน พร้อมกับมีอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ําปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นก็ได้ทําการตวัดมันออกไป ก่อให้เกิดเป็นลําแสงเส้นเขื่องพุ่งออกไป จัดการปนกระบี่วิญญาณพวกนั้นเป็นผุยผง

 

ภายใต้อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ กระบี่วิญญาณพวกนี้แน่นอนว่าย่อมเปรียบได้กับขยะ

 

“ก็แค่ขยะจํานวนมาก แหลกไปซะ!”

 

ตงหลินบุกเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ทันให้เขาเข้าไปถึงตรงหน้าอี้เทียนหยุน ก็ได้เห็นอี้เทียนหยุนทําการชี้มือมาที่นี่ พร้อมกับมีลําแสงพุ่งออกมา จากนั้นก็ทะลุร่างของเขาไป

 

ความเร็วของมันนั้นเร็วจนเขาไม่ทันได้ตอบสนอง แต่ในขณะที่เขากําลังบินต่อไปนั้น เขาก็พบว่าที่หน้าอกของตนปรากฏรูขนาดใหญ่ขึ้น ดูแล้วน่าตกใจอย่างยิ่ง

 

“นี่คือพลังขององค์ชายอย่างงั้นเหรอ

 

ดวงตาของตงหลินกลายเป็นมืดสนิท จากนั้นก็ร่วงหล่นจากกลางอากาศ จนสุดท้ายก็ตกลงพื้น ตายจนไม่สามารถตายได้อีก เพียงแค่นิ้วเดียว ก็จัดการสังหารตงหลินได้ โดยไร้ซึ่งความลําปาก

 

ตงหลินผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ แต่ต่อหน้าอี้เทียนหยุนแล้ว ต่อให้เป็นระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุด ก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้น! หากไม่ใช่ระดับราชาวิญญาณ ก็อย่าหวังว่าจะมายืนต่อหน้าเขา

 

การร่วงหล่นนี้ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกม่อซื้อ ทําให้พวกเขาตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ม่อชื่อรู้ว่าอี้เทียนหยุนนั้นร้ายกาจมาก แต่นั่นเพราะพึ่งพาสมบัติลับเทียนหลง จึงสามารถแสดงพลังที่แข็งแกร่งนั้นออกมาได้

 

แต่ตอนนี้เพียงคนเดียวโดดๆ กลับสามารถสังหารอีกฝ่ายได้อย่างเด็ดขาด ทําให้พวกเขาพากันตกใจ นี่เพิ่งผ่านไปได้เท่าไหร่เอง แต่กลับสามารถแข็งแกร่งได้ขนาดนี้เชียว?

 

“เก็บกวาดเรียบร้อย” อี้เทียนหยุนเรียกกระบี่นับหมื่นกลับมา พร้อมกับมองมายังม่อซือ แล้วพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า “ดี แม้แต่นาทีสุดท้ายก็ยังไม่คิดที่จะทรยศอาณาจักรเทียนหลง”

 

นี่เป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยาก ฝั่งตรงข้ามออกปากตั้งมากมาย แต่ม่อซือกับพวกกลับเลือกที่จะเอาชีวิตเข้าต่อต้าน เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นภักดีมากแค่ไหน

 

“อาณาจักรเทียนหลงดูแลพวกเราดีไม่น้อย ไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเราต้องทรยศ ต่อให้จะไม่มีใครมาสนับสนุน พวกเราก็เข้าใจ…” ม่อซือส่ายหัว ตอนนี้ส่อาณาจักรเข้าโอบล้อมการช่วยเหลือ จะมาในทันทีทันใดได้ยังไง?

 

“ที่จริงกองหนุนนั้นมีอยู่ แต่ว่าอีกฝ่ายนั้นร้ายกาจเกินไป ทําให้ไม่สามารถออกมาช่วยที่นี่ได้” อี้เทียนหยุนส่ายหัว ก่อนมาถึงที่นี่ เขาก็ได้สังหารผู้ฝึกตนของอีกฝ่ายไปจํานวนมาก

 

ท่ามกลางพวกนั้นได้มีผู้ฝึกตนจากอาณาจักรเทียนหลงจํานวนมากที่มาให้การสนับสนุน แต่ความพยายามของพวกเขาก็ไม่เป็นผล ไม่เพียงแต่ด้านกําลังพลเท่านั้น แต่ทางด้านเงินตราก็ด้วย อาณาจักรเพียงแห่งเดียว จะไปสู้กับการรุกรานจากสี่อาณาจักรได้ยังไง?

 

มีใจสู้แต่ไร้ซึ่งกําลัง นี่คือสถานการณ์ของอาณาจักรเทียนหลงในปัจจุบัน

 

“การที่องค์ชายมาให้การสนับสนุน ถือเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดแล้ว!” ในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวัง แค่การปรากฏตัวของอี้เทียนหยุนในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว แค่นี้ก็ทําให้พวก เขามั่นใจในโชคชะตา

 

การมาช่วยทันเวลาวิกฤตนี้ แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

 

“งั้นข้าจะไปสนับสนุนอีกเมืองก่อน ทําการขับไล่กองทัพของสี่อาณาจักรออกไป!” อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า “สินสงครามที่ได้จากพวกเขา พวกเจ้าเก็บเอาไว้ใช้แทนพวกที่ใช้ไปแล้วกัน!”

 

พูดจบ เขาก็บินออกไปอย่างรวดเร็ว บินตรงไปยังเมืองถัดไป เรื่องนี้ยังห่างไกลจากบทสรุป นี่เป็นเพียงแค่หนึ่งในเมืองทั้งหลายเท่านั้น ยังมีจุดสําคัญอีกมากอยู่ข้างหลัง

 

ม่อซือกับพวกมองตามหลังอี้เทียนหยุนที่บินจากไป พร้อมกับพากันคุกเข่าคารวะ ก่อนที่จะร้องออกมาดังๆว่า “ขอให้องค์ชายประสบกับชัยชนะ กําจัดศัตรูให้หมดสิ้น!”

 

เมื่อเห็นอี้เทียนหยุนหายไปกับเส้นขอบฟ้า พวกเขาก็พากันออกจากเมืองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทําการเก็บกวาดสินสงคราม การสูญเสียของพวกเขาไม่ได้หนักอะไร ดีที่อี้เทียนหยุนมาทัน ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงถูกกวาดล้างสิ้น

 

ด้วยเสียงโห่ร้องจากผู้ฝึกตนจํานวนมากที่อยู่ด้านใน ตอนนี้ชื่อเสียงของอี้เทียนหยุนได้พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด!