ตอนที่ 747 ต้องการแต่งงาน

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ 747 ต้องการแต่งงาน

 

”!@$%^@$%~~~~”

  

เกิดเสียงฮือฮาดังทั่วทั้งห้องโถงหลายคนปรึกษา ถกเถียงกันใหญ่ สายตาหลายคู่มองมาที่จงไคด้วยแววตาอิจฉาและชื่นชม แม้แต่พลโทที่ก่อนหน้านี้มองจงไคอย่างไม่เป็นมิตรก็รีบเปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทัน

  

จงไคเป็นพลโทหนุ่มที่ไม่ได้มีผลงานอะไรแต่ถ้าเขาเสริมชื่อต่อท้ายหลังว่าเป็นลูกชายของพลเอกจงคุยที่เป็นผู้นำแห่งค่ายจินหยางเข้าไปละก้ สถานการณ์มันก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

  

ค่ายจินหยางที่มีตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ทางภาคใต้ของจีน สภาพภูมิอากาศอุดมสมบูรณ์ เป็นหนึ่งในสิบค่ายต้นๆของจีน และถ้าจัดอันดับด้วยเศรษฐกิจ ค่ายจินหยางก็จะเบียดขึ้นมาอยู่ในสามอันดับแรกของจีนทันที แสดงให้เห็นถึงทรัพยากรทางการเงินที่แข็งแรงของค่ายจินหยาง

  

ภายใต้เงื่อนไขที่เหนือกว่าใครๆทั้งผู้นำของค่ายยังเป็นพลเอกอาวุโสของจีนอีก ทำให้คุณสมบัติของพลเอกจงคุยเหนือกว่าฉางกวนหลงด้วยซ้ำ

  

และจงไคที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวและใช้อำนาจของพ่อตัวเองเบ่งเหนือกว่าผู้อื่นไปทั่ว

  

ในด้านของค่ายค่ายเขี้ยวหมาป่าไม่สามารถเทียบเท่ากับค่ายจินหยางได้เลย ในด้านของอำนาจ จงไคยืนอยู่ข้างใต้ปีกอำนาจของพ่อตัวเอง แต่สำหรับชูฮันเขาไม่ได้อยู่ภายใต้ใครทั้งนั้น แถมชูฮันยังมีศัตรูอีกมากมายนับไม่ถ้วน แม้ชูฮันจะเป็นพลเอกแต่เขายังห่างไกลที่จะคุยเรื่องความแข็งแกร่งของการบริการค่ายและทรัพยากรด้านการเงินกับจงไค

  

ดังนั้นมันจึงเป็นสาเหตุที่จงไคปรากฏตัวขึ้นที่งานเลี้ยงและยังข้ามตำแหน่งประกาศกร้าวต่อหน้าฉางกวนหลงและยังไม่คิดปิดบังความเป็นปรปักษ์ต่อชูฮันอย่างไม่เกรงกลัวหรือคิดว่าตัวเองทำผิด เขาคิดว่าตัวเองมีอำนาจและเหตุผลมากพอที่จะต่อต้านชูฮัน

  

หลังจากที่จงไครายงานสถานะของตัวเองออกมาทันใดนั้นเขาก็ได้รับการแสดงความเคารพจากผู้คนรอบๆทันที ตรงกันข้ามกับชูฮันที่ได้รับการปฏิบัติอย่างเพิกเฉยจากทุกคน

  

ชูฮันพยักหน้ารับๆไปอย่างไม่แยแส…อวดสถานะตัวเองพยายามกดคนอื่นโดยใช้อำนาจพ่อตัวเอง

  

ก่อนหน้าที่จะมาที่นี้ชูฮันมาสายเพราะเขาใช้เวลาไปกับการทำความเข้าใจผู้คนที่มุ่งหน้ามาค่ายหนานตู้ในวันนี้ เขาพึ่งได้ข้อมูลมาร้อนๆเมื่อสิบนาทีก่อนจากเหมิงชีเหว่ยเท่านั้นเอง แต่สิบนาทีมันก็เพียงพอสำหรับชูฮันที่จะรีบอ่านเอกสารกองโตที่ได้มา แต่ถึงอย่างนั้นเหมิงชีเหว่ยก็ยังโทษตัวเองและรู้สึกแย่ที่เขาหาข้อมูลมาให้หัวหน้าได้ไม่เร็วพอ

  

มันเป็นเพราะสมองอันทรงพลังของชูฮันที่สามารถสแกนข้อมูลคนส่วนใหญ่ที่มาในวันนี้อัดแน่นเข้าไปในหัวได้ภายในเวลาแค่สิบนาทีแถมยังเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับความทรงจำเก่าในชาติที่แล้วได้อีก

  

ใครคือใคร?ใครมาจากไหน? คนเบื้องหลังคือใคร? จุดประสงค์คืออะไร? ชูฮันได้สำรวจและแยกแตกแขนงออกหมดแล้ว

  

ดังนั้นพอจงไคบอกสถานะของตัวเองออกมาและทุกคนประหลาาดใจกันอย่างมาก ชูฮันถึงได้นิ่งเฉย ปฏิกิริยาตอบสนองของชูฮันเรียบนิ่ง มันนิ่งเฉยมากซะจนจงไคที่เผชิญหน้ากับชูฮันอยู่เกิดอาการไม่พอใจขึ้นมาทันที

  

ขณะที่ทุกคนกำลังกระตือรือร้นและตื่นเต้นที่จะผูกมิตรกับจงไคในที่สุดชูฮันก็เริ่มมีการตอบสนอง ชูฮันยกมือขึ้นมาช้าๆ ชี้นิ้วไปที่ตราพลโทที่หน้าอกของจงไค น้ำเสียงแฝงไปด้วยการเยาะเย้ย “พลโทคนนี้ คุณพึ่งพูดว่าจะไม่ร่วมกับคนที่ตำแหน่งต่ำกว่าพลตรี?”

  

จงไคยิ้มเยาะเชิดหน้าขึ้นอย่างยโส “ใช่ สถานะของนายมันไม่พอ นายไม่มีสิทธิที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับพวกเรา”

  

”เอาล่ะ”มีประกายบางอย่างในแววตาของชูฮัน และจู่ๆน้ำเสียงของชูฮันก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน “ฉันไม่สนใจจะเล่นเกมส์กับคุณหรอกนะ เลิกเล่นเล่ห์ซักที”

  

”หึ!”จงไคยิ้มกับตัวเองอย่างพอใจ เห็นได้ชัดว่าชูฮันต้องยอมตามน้ำไปกับเขาในครั้งนี้ ชูฮันจะยอมประนีประนอมโดยการแสดงตราพลเอกออกมาเพื่อพิสูจน์สถานะของตัวเอง ซึ่งมันก็เท่ากับว่าจงไคสามามารถกดดันชูฮันได้ มันคือสงครามประสาทระหว่างทั้งคู่ จงไคตอนนี้กำลังภูมิใจในตัวเองอย่างมากที่เอาชนะชูฮันได้

  

ขณะปล่อยให้อีกฝ่ายคิดไปเองและปล่อยให้จงไควางความระแวงลง ชูฮันก็หมุนตัวกลับมาและเอ่ยขึ้น “พลโทจงไคเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ต่อคำพูด ประกาศกร้าวว่าจะไม่นั่งร่วมโต๊ะกับคนที่ตำแหน่งต่ำกว่าาพลตรี คุณเป็นคนที่น่าอับอาย ขายขี้หน้า ฉางกวนยวีซินเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพลเอกฮางกวนหลงแห่งค่ายหนานตู้ นี้คุณจงใจจะสื่อเจตนาอย่างไรกันแน่ หรือคุณต้องประกาศให้ทุกคนรู้ว่าคุณต้องการเป็นศัตรูกับค่ายหนานตู้?!”

  

เมื่อตกอยู่ในสถานะนี้—–

  

ความตื่นตระหนกก็ปรากฏขึ้นในแววตาของทุกคนทันทีทุกคนในห้องหันไปมองฉางกวนยวีซินที่นั่งข้างฉางกวนหลงกันหมด สีหน้าบิดเบี้ยวยับยู่ยี่เมื่อรู้ว่าพลาดไปตรงไหน

  

ซวยแล้ว!

  

เพราะมัวแต่คิดจะต่อต้านชูฮันทุกคนจึงแทบลืมเจ้าหญิงน้อยและตำแหน่งของฉางกวนยวีซินไปเลย? ดูเหมือนว่าฉางกวนยวีซินจะไม่มีตำแหน่งทาางทหาร!

  

หน้าของจงไคซีดยิ่งกว่ากระดาษความตื่นตระหนกฉายชัดในแววตาของเขาขณะสบตากับฉางกวนยวีซิน เขาไม่คิดเลยว่าชูฮันจะเอาคำพูดของเขามาย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาเองได้แบบนี้

  

ทำไมทุกคนถึงรีบมุ่งหน้ามาที่ค่ายหนานตู้ในวันเดียวกันหมดฉางกวนหลงหรือฉางกวนยวีซินอาจจะยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริง แต่ชูฮันที่ได้ตรวจสอบทุกอย่างมาแล้วรู้ดีว่าเพราะอะไร

  

ทุกคนมารวมตัวกันที่นี้เพราะ…ฉางกวนยวีซิน!

  

เหมือนกับจงไคพ่อของฉางกวนยวีซินเองก็เป็นพลเอก แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่สืบทอดอำนาจมาตั้งแต่ในยุคศิวิไลว์เหมือนกับพลเอกจงคุย แต่ก็เป็นที่น่านับถืออย่างมากไม่ต่างกัน ทั้งความอาวุโส รวมถึงผลงานที่ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้หลายหมื่นคนเมื่อตอนที่เกิดการปะทุของโลกาวินาศขึ้น หลังจากได้รับตำแหน่งเป็นพลเอก เขาก็ทำการสร้างค่ายหนาานตู้และรับผู้รอดชีวิตเข้ามาเป็นประชากรค่ายทันที ซึ่งค่ายหนานตู้ในตอนนี้ที่ใช้เวลาสร้างเพียงแค่ปีเดียวมีขนาดใหญ่โต และเป็นหนึ่งในค่ายสามอันดับของจีน ฉางกวนหลงจึงเป็นคนทรงพลังอันดับต้นๆของจีนเลยทีเดียว

  

เทียบกับจงคุยความสามารถของฉางกวนหลงนั้นถือว่าเหนือกว่า และข้อที่ไม่สามารถลืมได้เลยคือปีนี้ฉางกวนหลงพึ่งจะอายุ 40 ปีเท่านั้น แม้จะเกือบครึ่งร้อยแต่แน่นอนว่ามันยังมีพื้นที่อีกมากให้ฉางกวนหลงได้พัฒนาไปมากกว่าพลเอกคนอื่นๆ

  

เมื่อรวมหลายปัจจัยทั้งหลายเข้าด้วยกันสาเหตุที่ค่ายทั้งหลายต่างแห่กันมาที่นี้เป็นเพราะงานเลี้ยงครั้งนี้เป็นการปรากฏตัวของฉางกวนยวีซินนั่นเอง!

  

ดังนั้นหลังจากเมื่อวานที่ชูฮันมาถึงค่ายหนานตู้ ค่ายทั้งหลายที่ได้ข่าวการมาถึงของชูฮันจึงนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้ เพราะกังวลว่าชูฮันอาจจะตัดหน้าพวกเขาไปซะก่อน ดังนั้นทุกค่ายจึงส่งชายหนุ่มที่มีคุณสมบัติดีที่สุดของค่ายตัวเองและเหมาะสมกับฉางกวนยวีซินมาที่ค่ายหนานตู้ทันที

  

จุดประสงค์คือการแต่งงาน!