บทที่ 4 บทที่ 30 วิชาล้มเหลว

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

บทที่ 30 วิชาล้มเหลว โดย Ink Stone_Fantasy

 

ตอนกลางคืน

ด้านในของวิหารซึ่งมีโดมคล้ายรูปหัวหอมหลายโดมฉาบด้วยสีสันหลากหลายราวกับป้อมปราการ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเยี่ยมชมได้

อนาโตลี่สวดภาวนาวันนี้เรียบร้อยแล้ว ตอนที่เขาหันกลับมาถึงได้เห็นพระสังฆราชปีเตอร์ที่สวมชุดคลุมสีขาว

อนาโตลี่รีบเดินมาข้างๆ พระสังฆราชปีเตอร์ พูดอย่างเคารพว่า “พระสังฆราช ท่านมาหาผมหรือครับ?”

“อนาโตลี่ คุณตามผมมาหน่อย” พระสังฆราชปีเตอร์พูดด้วยเสียงอ่อนโยน

อนาโตลี่พยักหน้าทันทีโดยไม่ลังเล แล้วเดินตามหลังพระสังฆราชไปติดๆ เขาพบว่าที่ที่ตนเองจะไปนั้น เหมือนจะเป็นสถานที่ที่ปกติห้ามเข้า

อีกอย่าง เขารู้สึกได้ถึงพลังจากพระเจ้าที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ บาทหลวงที่ผ่านการฝึกตนอย่างเคร่งครัด และมีความศรัทธาในจิตใจอย่างสุดซึ้งเท่านั้น ถึงจะสัมผัสถึงสิ่งนี้ได้

ส่วนถ้าคิดจะใช้นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากยิ่งกว่า อนาโตลี่อยู่ในกลุ่มหัวกะทิของนิกายออร์โธดอกซ์ในยุคสมัยนี้ หลังจากจบจากสำนักฝึกบาทหลวงมา ก็ถูกส่งมาฝึกงานเป็นผู้ช่วยบาทหลวงอยู่ในโบสถ์แห่งนี้

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสังฆานุกร*อย่างเป็นทางการตามมุมมองที่โลกภายนอกมองเกี่ยวกับนิกายออร์โธดอกซ์ และมีคุณสมบัติของบาทหลวงด้วยเช่นกัน แต่ในองค์กรศาสนาจริงๆ นั้นเขากลับเป็นแค่ผู้ที่เพิ่งก้าวเข้ามาใหม่เท่านั้น

“พระสังฆราชปีเตอร์ครับ ที่นี่คือ…” อนาโตลี่อดไม่ได้ที่จะแสดงความสงสัยของตนออกมา

แต่พระสังฆราชที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ได้พูดอะไร แล้วผลักประตูบานหนึ่งตรงสุดทางเดินออก ที่นี่เหมือนจะเป็นโบสถ์เล็กๆ เช่นกัน

อนาโตลี่พบว่า ตอนนี้ตรงหน้ารูปปั้นพระเจ้ามีคนคนหนึ่งยืนอยู่ และยังสวมชุดบาทหลวงเช่นกัน

พระสังฆราชปีเตอร์มองอนาโตลี่ แล้วพูดเบาๆ ว่า “เข้าไปเถอะ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น แต่ก็ต้องเคารพยำเกรงอยู่ในใจด้วย”

อนาโตลี่มองเห็นสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อยบนใบหน้าของพระสังฆราชผู้นี้ ทำให้เขาอดฉงนสนเท่ห์ในใจไม่ได้ แต่เขาก็ได้แต่ทำตามที่พระสังฆราชบอก

ตอนที่เขาเดินเข้าไปในโบสถ์เล็กๆ ภายในมหาวิหารนี้ อนาโตลี่ก็พบว่าพระสังฆราชปิดประตูทางออกเสียแล้ว อีกทั้งพระสังฆราชไม่ได้ตามเข้ามาด้วย

อนาโตลี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงเดินมาด้านหลังบาทหลวงผู้นี้

ในชั่วพริบตานั้นเอง เขารู้สึกได้ถึงพลังจากพระเจ้าที่มหาศาลบนตัวของอีกฝ่าย…สำหรับเขาแล้ว นี่เหมือนมหาสมุทรลึกก็ไม่ปาน

พระเมตตาของพระเจ้าดุจมหาสมุทร

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจู่ๆ คำพูดนี้ถึงได้โผล่ขึ้นมาในหัวของอนาโตลี่ จนถึงกับทำให้เขาก้มศีรษะลงตามสัญชาตญาณ แล้วเขาก็ลืมเรื่องที่จะพูดไปหมดสิ้น

“เงยหน้าขึ้นเถอะ”

ในที่สุด บาทหลวงประหลาดคนนี้ก็หันกลับมา อนาโตลี่เงยหน้าขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าประหลาดใจ

เขาเคยเห็นบาทหลวงคนนี้มาก่อน คนนี้คือผู้ช่วยพิธีกรรมธรรมดาสุดๆ ซึ่งมีหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวนอกวิหารนี้

ทำไมเขาถึงได้…

“คุณก็คืออนาโตลี่? ได้ยินปีเตอร์บอกว่า คุณเป็นสังฆานุกรอายุน้อยที่สุดที่เรียนจบจากสำนักฝึกบาทหลวงเมื่อไม่กี่ปีมานี้”

“ใช่ครับ” อนาโตลี่ไม่กล้าทำอะไรผิดพลาด เขาพยักหน้าเล็กน้อย แต่เห็นได้ชัดว่าเขามีสติแน่วแน่เป็นพิเศษ และไม่ได้ลุกลี้ลุกลนเพราะพลังอันมหาศาลจากพระเจ้าในตัวของอีกฝ่าย

“ผมชื่อซัลลิแวน”

“สวัสดีครับ คุณซัลลิแวน”

ซัลลิแวนยิ้มน้อยๆ มีความชื่นชมซ่อนอยู่ในแววตาของเขา เหมือนว่าค่อนข้างพอใจในตัวอนาโตลี่ทีเดียว แต่เขากลับพูดขึ้นทันทีว่า “สองวันก่อน คุณรู้สึกถึงอะไรบ้างไหม?”

อนาโตลี่พยักหน้าเล็กน้อย “มีกระแสความเลื่อมใสศรัทธาที่บริสุทธิ์มากๆ ครับ แต่ก็หายไปรวดเร็วมาก ผมก็ไม่เคยรู้สึกถึงดวงจิตที่บริสุทธิ์แบบนี้มาก่อนเลย”

ซัลลิแวนพูดขึ้นทันที “คุณรู้ไหม นั่นหมายความว่าอะไร?”

อนาโตลี่ส่ายหน้า

ซัลลิแวนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นั่นหมายความว่าในอนาคตดวงจิตที่ปรากฏขึ้นมากะทันหันดวงนี้จะกลายเป็นนักบุญสถิตบนสวรรค์”

อนาโตลี่อึ้งไป เขาเผยให้เห็นสีหน้าประหลาดใจอย่างยิ่ง ในที่สุดความสงบนิ่งบนใบหน้าก็จางหายไปไม่น้อย…เขารู้ว่านักบุญบนสวรรค์หมายถึงอะไร

ตอนนี้ซัลลิแวนพูดต่อไปอีกว่า “คุณรู้บ้างหรือไม่ ว่าเดิมทีคุณต้องมารับหน้าที่คอยเฝ้าตามดูดวงจิตนี้?”

อนาโตลี่อ้าปากค้าง เขาเผลอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจว่ารับผิดชอบเฝ้าดูที่ท่านพูดถึงหมายความว่ายังไงกันแน่ครับ”

“หลับตาลง” ซัลลิแวนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ผมจะช่วยให้คุณจำเรื่องที่ลืมไปทั้งหมดเอง”

อนาโตลี่ไม่ได้ทำตามในทันที เขามองบาทหลวงธรรมดาๆ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้นี้… ผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง เขาถึงได้ค่อยๆ หลับตาลง

สิ่งที่ผมลืม? เขายังคงฉงนสนเท่ห์อยู่

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาก็อยากรู้จริงๆ

ซัลลิแวนยื่นฝ่ามือออกมา นิ้วมือแตะไปบนหน้าผากอนาโตลี่ ขณะเดียวกันเขาก็หลับตาลง ที่ตัวของเขาก็เริ่มเปล่งแสงละมุนออกมา

สีขาวอ่อนๆ และสงบ

“พระองค์ผู้สถิต…”

เขาเริ่มพูดภาษาโบราณบางอย่างออกมา อนาโตลี่พบว่า ภาษาโบราณแบบนี้ เขาเองก็เคยศึกษาในช่วงเวลาว่างที่สำนักฝึกบาทหลวง แต่เขาไม่สามารถแปลได้ทั้งหมด ขนาดคำพูดต่อมาของซัลลิแวน เขาก็ยังไม่เข้าใจเลย

เขารู้สึกได้ถึงพลังจากพระเจ้าซึ่งเหมือนกับกระแสน้ำไหล ค่อยๆ รินไหลเขามาในร่างเขา มากมายยิ่งกว่าเดิม เหมือนว่ามันกำลังรวมเข้ากับพลังจากพระเจ้าในตัวเขา

ภาพเลือนรางบางอย่างค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัวอนาโตลี่ทีละนิด

เขามองเห็นไม่ค่อยชัดเจน…แต่เหมือนมีใครพูดอะไรอยู่ข้างๆ หู เขาก็ได้แต่มองใบหน้าครึ่งเดียวที่เลือนรางนี้ขยับริมฝีปาก แต่ทว่ากลับไม่มีเสียงอะไร ทันใดนั้นเอง อนาโตลี่ก็ลืมตาขึ้น เขารู้สึกปวดหัวจี๊ดไปหมด

ตัวเขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว มองคุณซัลลิแวนคนนี้อย่างเสียไม่ได้ สิ่งที่เขามองเห็นมีแค่แววตาฉงนไม่แน่ใจของอีกฝ่าย

อนาโตลี่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะจำอะไรได้มากขึ้นเลย ขนาดภาพที่เพิ่งปรากฏในหัวตอนนี้ก็จางหายไปช้าๆ

“ท่านครับ ผมยังนึกอะไรไม่ออกเลยครับ” อนาโตลี่พูดช้าๆ…แน่นอนว่าแววตาเขาก็มีความสงสัยอยู่ด้วยเช่นกัน

พระเมตตาของพระเจ้าดุจมหาสมุทรที่คนคนนี้แสดงออกมาให้เห็น…เป็นแค่ภาพลวงตาเหรอ?

นี่มันน่าอึดอัดมากเลยนะ

“ผมรู้”

ซัลลิแวนพยักหน้าเล็กน้อยช้าๆ แล้วก็หันกลับไปช้าๆ เช่นกัน จากนั้นก็เงยหน้ามองรูปปั้นพระเจ้าที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่ได้พูดอะไร แต่อนาโตลี่กลับรู้สึกถึงพระเมตตาของพระเจ้าดุจมหาสมุทรจากตัวซัลลิแวนเช่นเดิม

แต่จริงๆ แล้วเขา…อายมากจริงๆ

แต่ขณะเดียวกันก็…หวาดกลัว

“หลบหน่อย! หลบหน่อย! หลบหน่อย!”

ตอนนี้พวกบุรุษพยาบาลในเครื่องแบบกำลังยกเปลหามแหวกฝูงคนมาอย่างรีบร้อน และพูดตะโกนเสียงดังว่า “ผู้บาดเจ็บอยู่ที่ไหน?”

แต่ตอนที่พวกเขามาถึงแล้ว สิ่งที่เห็นมีเพียงแค่รอยเลือดที่ยังติดบนผนัง แต่ตัวคนไม่อยู่แล้ว “ผู้บาดเจ็บล่ะ? ไม่ใช่ว่ามีคนโดนยิงได้รับบาดเจ็บเหรอ?”

“เมื่อกี้ยังมีคนอยู่เลย แต่…แต่แป๊บเดียวก็ไม่เห็นแล้ว”

หัวหน้าที่เข้าเวรรถพยาบาลขมวดคิ้วแล้วก็พูดอย่างโมโหทันที “คุณบอกผมมาสิ คนที่ถูกยิงล้มไปแล้ว เลือดไหลเยอะขนาดนี้หายตัวไปต่อหน้าพวกคุณในชั่วพริบตาได้ หรือว่าเขาเป็นนักมายากลที่ใช้วิชาล่องหนหายตัวได้หรือไง?”

“แต่ว่า…”

“พอได้แล้ว! นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน! เมื่อกี้ใครเรียกรถพยาบาลกันแน่!!”

สรุปแล้ว ด้านหน้าสถานีดูเหมือนว่าจะชุลมุนยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้เสียอีก

*สังฆานุกร นั้นในศาสนาคริสต์คือผู้ที่เตรียมตัวสู่การเป็นนักบวช (บาทหลวง)