ตอนที่ 751 มีแต่เรื่องตะลึง
ขณะที่ชูฮันกำลังตะลึงงันกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นไปเมื่อครู่และพอเขาหมุนกลับมาด้วยสีหน้าอึนๆ ทันใดนั้นมันก็มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากพุ่งหญ้าถัดไป
”นายกำลังมองหาฉันอยู่งั้นเหรอ?”ผู้มาใหม่ก็คือฟานเจี้ยนนั่นเอง
มันคือสัญญาณมือที่ชูฮันส่งสัญญาณบอกแก่ทีมกุ้งเสือดำก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่จบมื้อค่ำที่ห้องโถงพร้อมกับความร่วมมือของกองกำลังใต้ดินของเหมิงชีเหว่ย จึงทำฟานเจี้ยนมาถึงที่นี้ได้รวดเร็วมาก
ชูฮันหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยินโดยอัตโนมัติท่าทางยังคงมึนงงและจับต้นชนปลายไม่ถูก เขาไม่ได้พูดเรื่องงานทันทีอย่างเคย แต่จู่ๆก็ถามเรื่องส่วนตัวออกมาแทน “นายเคยถูกคนที่นายมองว่าเป็นน้องสาวจูบมั้ย?”
”อะไรน่ะ?”ฟานเจี้ยนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กวาดสายตามองชูฮันจากบนลงล่าง “ฉันไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก ดังนั้นมันจะไม่มีน้องสาวคนไหนมาพยายามจูบฉันแบบที่ว่า”
”ฉันก็คิดอย่างนั้น!”ชูฮันพยักหน้าและยิ้มออกมา “ประเด็นคือเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ ไม่สิ นี้มันไม่ถูกต้อง”
”อะไรน่ะ?นี่มีใครมาจูบนายงั้นเหรอ?” ฟานเจี้ยนตกใจ จากนั้นก็ระเบิดเสียงโมโหออกมา “นี้มันเหลือรับสุดๆ กลับไปเดี๋ยวนี้!”
”มันสายไปแล้วล่ะ”ชูฮันส่ายหัวอย่างหมดหนทาง จับไหล่ของฟานเจี้ยนเอาไว้ “ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครอยู่บนถนนเส้นนี้แล้ว มาคุยเรื่องที่นายแฝงตัวเข้าไปตลอดสองวันที่ผ่านมาดีกว่า? ชื่อเสียงของราชานักล่าเป็นยังไงบ้าง?”
ฟานเจี้ยนขยี้หญ้าบนหัวที่ติดมาออกและจ้องหน้าชูฮัน”อย่าให้ต้องพูดเลย แค่วันที่สองในค่ายหนานตู้ ฉันก็ผ่านเข้าไปได้หลายด่านแล้ว”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นชูฮันก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ”การแฝงตัวในค่ายหนานตู้ ฉันยังไม่ออกคำสั่งเฉพาะเจาะจงอะไรให้นายเลย แล้วนายไปแฝงตัวเข้าที่ไหนมา?”
”แม่ม่ายทางตะวันตกของเมืองค่อนข้างขี้เหงาและนายท่านคนหนึ่งทางตะวันออกอยากจะกินเป็ดราดซอส…” ฟานเจี้ยนร่ายเอ่ยเหตุการณ์ที่เขารับรู้ตั้งแต่เข้ามาในค่ายหนานตู้
”ไม่อยากจะเชื่อ”ชูฮันอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา ฟาดมือลงไหล่ฟานเจี้ยนหนึ่งที “นายกำลังจะทำลายชื่อเสียงของราชานักล่า!”
ฟานเจี้ยนแสยะยิ้ม”หมัดหนักดีนี่ นายเป็นแค่วิวัฒนาการระยะ 5 แต่ทำไมถึงมีพละกำลังมากขนาดนี้กัน?”
”นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สำคัญคือนายมันปัญญาอ่อน!” ชูฮันหมดคำจะพูดกับพฤติกรรมของฟานเจี้ยน เขาทำได้แค่เปลี่ยนเรื่อง “เหมิงชีเหว่ยไปหานายใช่มั้ย?”
ฟานเจี้ยนพยกหน้า”ไอ้เด็กนี่มันมีฝีมืออยู่ มันหาตัวฉันได้ง่ายมาก ฉันไม่แน่ใจว่าหรือหลูปิงเซ่อมันส่งมดมาตามฉันกันแน่?”
”ตื่นซะที!ฉันมีคำสั่งใหญ่ ฉันก็เลยให้พวกเขาตามตัวนายมาเอง” แววตาของชูฮันล้ำลึก
”ใหญ่ขนาดไหน?”ฟานเจี้ยนก็สบตาจริงจังกลับมา เขาเชื่อในคำพูดของชูฮันอย่างไร้ข้อกังขา
ที่เขาสามารถกลายมาเป็นราชานักล่าผู้โด่งดังได้ก็เพราะการวางแผนและความช่วยเหลือของชูฮันล้วนๆครั้งนี้แม้จะเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ค่ายหนานตู้ ทว่าทั้งๆที่ชูฮันเดินทางมาถึงค่ายหนานตู้วันเวลาเดียวกันกับเขา แต่ข้อมูลในมือที่ชูฮันกลับเหนือชั้นกว่าเขาไปมาก ฟานเจี้ยนจึงชื่มและศรัทธาชูฮันอย่างหมดใจ
”กลับไปหาเหมิงชีเหว่ยเขาจะให้ข้อมูลลับของนายทหารหนุ่มคนหนึ่งที่พึ่งออกจากค่ายหนานตู้ไปวันนี้” รอยยิ้มของชูฮันแฝงไปด้วยความร้ายกาจ คิ้วเลิกขึ้นเบาๆ “และที่นายต้องทำก็คือขายข้อมูลนี้ให้กับฉางกวนหลงในราคาสูง วิธีการนายก็นายจะรู้อยู่แล้ว? ฉันจะให้นายเข้าไปหาฉางกวนหลง นายก็ทำสิ่งที่นายเคยทำซะ ปรับเปลี่ยนวิธีการเอาเองตามสถานการณ์”
ฟานเจี้ยนกระพริบตาปริบๆ”ชูฮัน อย่าลืมนะว่าแผนที่เราใช้หลอกหลูอี๋ที่ค่ายเจี๋ยนอี๋นั่นเพราะเขาเป็นแค่พลโทเท่านั้น แต่ตอนนี้นายจะให้ฉันหลอกล่อพลเอก มันจะเกินไป!”
”ใครบอกว่าฉันจะขุดหลุมดักเขา?”แววตาของชูฮันเต็มไปด้วยความจริงจัง “ฉันกำลังช่วยเขา!”
ฉางกวนหลงที่ในวันนี้ถูกทหารหนุ่มทั้งหลายรุมล้อมอย่างไม่ทันตั้งตัวเขาไม่คิดเลยว่าลูกสาวของเขาจะกลายเป็นเป้าหมายในการแต่งงานของค่ายทั้งหลายขนาดนี้ เช่นเดียวกับฉางกวนยวีซินที่ถูกบังคับให้บอกถึงมาตรฐานในการเลือกคู่ครองระหว่างทานมื้อค่ำโดยไม่ทันได้เตรียมตัวมาก่อน สถานการณ์มันพัฒนาไปเรื่อยๆจนยากเกินจะควบคุม
ฉางกวนยวีซินอาจจะไม่เข้าใจถึงอันตรายมากมายที่ซ่อนเร้นเอาไว้แต่ชูฮันที่เป็นถึงพลเอกเหมือนกันมีหรือจะไม่รู้ถึงความกังวลของฉางกวนหลง?
ขณะนี้ในยุคโลกาวินาศ ค่ายหลักๆทั้งหลายก็มุ่งหน้าไปตามทางที่ถูกต้อง ไหนจะสองพลเอกหนุ่ม ตวนเจียงเหว่ยและชูฮันที่เป็นชายหนุ่มที่ฉายแววเติบโตอย่างรวดเร็ว ดูตามจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูเหมือนการพัฒนาของมนุษยชาติกำลังเพิ่มขึ้นและดีขึ้น กองกำลังที่เป็นศัตรูมีเพียงแค่ลูกผสมและซอมบี้ ซึ่งตราบใดที่มนุษยชาติรวมกันเป็นหนึ่งเดียว มันก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะฝ่าฟันไปไม่ได้
ทว่าแท้จริงแล้วอันตรายที่ซ่อนเร้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกาวินาศก็คือตัวมนุษย์นั่นเอง แต่ละค่ายจะมีอำนาจในกาารปกครองของตัวเอง แม้ค่ายซางจิงจะเป็นค่ายผู้นำของทุกค่าย แต่มันก็จะเป็นไปได้อีกไม่นานเนื่องจากสภาพแวดล้อมในโลกาวินาศที่แย่ลงเรื่อยๆ
ดูผิวเผินเหมือนทุกคนเข้ากันร่วมมือกัน สามัคคีกันดี หากที่จริงแล้วมันมีข้อขัดแย้งมากมายที่สะสมก่อตัวมาเรื่อยๆและสักวันมันก็จะระเบิดขึ้นมา การต่อสู้ระหว่างค่ายทั้งหลายจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้
อำนาจความปรารถนา ทรัพยากร…
เงื่อนไขทั้งหลายคือตัวขับเคลื่อนการขัดแย้งระหว่างผู้คนในทุกที่แม้ว่าภายนอกจะมีศัตรูอย่างซอมบี้และลูกผสมรอคอยอยู่ ทว่าค่ายมากมายก็ยังต้องคอยรับมือกับปัญหาภายนอกที่ก่อตัวขึ้นเช่นกัน และในช่วงเวลานี้ฉางกวนหลงอาจจะต้องยอมให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาแต่งงานออกไป
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ได้!
เพราะการแต่งงานสื่อถึงความเป็นพันธมิตรเมื่อพันธมิตรถูกผูกเอาไว้ด้วยกันเป็นครอบครัวแล้ว ทั้งสองค่ายก็จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวและมุ่งหน้าไปยังเส้นทางและเป้าหมายเดียวกัน
และตอนนี้ค่ายเขี้ยวหมาป่าอันโด่งดังก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของความขัดแย้งของฉางกวนหลงพลเอกฉางกวนหลงไม่ได้พอใจในตัวชูฮันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่สำหรับความเป็นพ่อที่ต้องการให้ลูกได้รับการปกป้องที่ดีที่สุดเขาต้องยอมรับว่ามีเพียงชูฮันเท่านั้นที่เขาจะไว้ใจได้
ค่ายเขี้ยวหมาป่าจะดำเนินไปในทางไหน?มีกี่คนกันที่กำลังจับตาดูชูฮันอยู่?
ถ้าชูฮันสามารถสร้างความมั่นคงในอำนาจบนการเมืองได้ฉางกวนหลงก็จะส่งฉางกวนยวีซินไปอยู่กับชูฮันทันที แต่ปัญหาก็คือสำหรับตอนนี้ชูฮันและค่ายเขี้ยวหมาป่ายังคงอ่อนแอเกินไป ดังนั้นฉางกวนหลงจึงยังไม่กล้าที่จะเสี่ยงด้วยอนาคตของลูกสาวเขา
ดังนั้นชูฮันจำเป็นต้องหาเหตุผลที่จะชักจูงฉางกวนหลงได้ เหตุผลที่เขาสามารถปฏิเสธคนอื่นๆได้
”ช่างมันเถอะ”ฟานเจี้ยนไม่เชื่อเรื่องไร้สาระของชูฮัน และเขาเองก็ไม่รู้ความคิดทั้งหมดของชูฮัน จึงได้แค่แสดงความเป็นห่วงออกมา “ตอนที่เราอยู่ที่ทางเข้าค่าย ที่ฉันแต่งตัวเป็นผู้ลี้ภัย พลเอกฉางกวนหลงและมู๋หรงยู่เฉิงจำฉันไม่ได้ แต่ฮวงชูเจิ้นจำฉันได้ทันที และเขาก็เห็นเราทั้งคู่”
”ฮวงชูเจิ้น?”ชูฮันไม่สนใจ “ไม่ต้องสนใจ จัดการเลย”
”ให้ฉันฆ่า?”ฟานเจี้ยนอึดอัดและไม่อยากจะเชื่อ
”ใครบอกให้ฆ่า?”ชูฮันหรี่ตามองฟานเจี้ยน “ทำให้สลบ ลาก จับแก้ผ้า โยนเข้าไปในป่า!”
เหอะ!ดีนี่!