ตอนที่ 588 แกว่งเท้าหาเสี้ยน

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

อือ อือ! ลูกสิงโตตัวนี้ดูเหมือนเพิ่งคลอดได้ไม่นาน แต่ระดับกลับไม่ต่ำเลย สายเลือดก็น่าจะไม่เลว

ทว่า มันได้ตกอยู่ในกำมือของเฮยถูแล้ว ไม่ว่าจะดิ้นรนเช่นไรก็ไร้ประโยชน์!

มันถูกเฮยถูบีบแน่นอยู่ในกำมือ น้ำตาคลอภายในดวงตาคู่นั้น

เฮยถูกล่าว “แต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยสนใจจะลงมือกับสัตว์วิญญาณ แต่เพื่อสาวน้อยแล้วข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นฝีมือของข้า ข้าทำให้เจ้าเห็นสักหน่อยก็แล้วกัน!”

“สาวน้อย อีกประเดี๋ยวเจ้าก็จะหวาดกลัว และสั่นสะท้านจนสุดหัวใจ! วะฮ่าฮ่าฮ่า!”

เขาเอาเชือกที่แข็งแรงที่สุดออกมาเส้นหนึ่ง แล้วแขวนลูกสิงโตไว้บนต้นไม้ ไม่ว่าลูกสิงโตจะร้องดิ้นรนเช่นไรก็มิอาจหลุดพ้นได้

มู่เฉียนซีเห็นได้ชัดเจนว่าวิธีการมัดเช่นนี้ค่อนข้างมีระดับและความชำนาญเป็นอย่างมาก

มือของเฮยถูราวกับกำลังลูบสมบัติอันเป็นที่รักก็มิปาน ลูบไปที่ขาทั้งสี่ของลูกสิงโต เขาเอ่ยปากกล่าวถามว่า “คนงาม เจ้าว่าควรจะลงมือขาไหนก่อนดีนะ ?”

มู่เฉียนซีรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว คนผู้นี้วิปริตไปแล้วจริง ๆ!

ลูกสิงโตตกใจจนตัวสั่น มู่เฉียนซีก็ไร้ซึ่งกำลังที่จะช่วยเหลือได้ ทำได้เพียงกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ตามใจเจ้า!”

“เช่นนั้น ขาหลังข้างซ้ายก็แล้วกัน!”

ประเดี๋ยวเดียว อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ถูกเอาออกมาตั้งอย่างเป็นระเบียบ มีดเลาะกระดูกเล่มหนึ่งถูกเลือกออกมา จากนั้นภายในชั่วพริบตาเดียวก็ทะลวงเข้าไปใต้ฝ่าเท้าของลูกสิงโต

อ๊าว อ๊าว อ๊าว!

ลูกสิงโตส่งเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องอันน่าสังเวชนั้นดังลั่นไปทั่วป่าโยวอ้าน

เขาลงมือหักกระดูกขาของลูกสิงโตทั้งเป็น จากนั้นใช้มีดเลาะกระดูก และดึงกระดูกขาของลูกสิงโตออกมา

อ๊าว! ลูกสิงโตส่งเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดอย่างสุดหัวใจออกมา และได้หมดสติไป เลือดสีแดงสดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง!

เขาเช็ดกระดูกนั้นอย่างนุ่มนวล ทั่วทั้งร่างถูกย้อมไปด้วยเลือดก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย เขายิ้มพลางกล่าวว่า “สาวน้อย ฝีมือของข้าเป็นอย่างไรบ้าง ? กระดูกถูกลอกออกมาอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองด้วยความเจ็บปวดนั่น มันช่างไพเราะมากเลยใช่หรือไม่!”

“บทเพลงที่ไพเราะที่สุดบนโลกใบนี้ ก็คือสิ่งนี้นี่แหละ”

หลังจากที่เขากล่าวคำพูดนี้ด้วยน้ำเสียงที่ลุ่มหลงแล้ว แต่กลับไม่เห็นร่องรอยความหวาดกลัว และความศรัทธาบนใบหน้าของมู่เฉียนซีเลย สิ่งเดียวที่มีเกรงว่าจะเป็นเพียงแค่ความดูถูกเหยียดหยาม

เฮยถูกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว “สาวน้อย นี่เจ้ากล้าดูถูกเหยียดหยามข้ารึ หรือว่าฝีมือของข้ามันไม่สมบูรณ์แบบ!”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คิดจะทำให้คนอื่นยิ้มโดยวิธีต่ำ ๆ เช่นนี้ เจ้ายังมีความภาคภูมิใจอีกงั้นเหรอ!”

สิ่งที่มู่เฉียนซีกล่าวนี้เป็นความจริง เมื่อก่อนคู่ปรับคนเก่าของนางในยุคปัจจุบันเป็นศัลยแพทย์ผู้วิปริตผู้หนึ่ง วิธีการนั้นไม่รู้ว่ารุนแรงกว่านี้เป็นกี่เท่า!

เฮยถูกล่าว “สาวน้อย เจ้าอย่าได้ใจร้อนไป จากนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้ดูทักษะพิเศษของข้า!”

เขาชักมีดออกมาอีกครั้ง เตรียมจะลงมือกับลูกสิงโตที่กำลังนอนหมดสติไป ทว่า ในตอนนี้เอง ร่างขนาดใหญ่ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาที่เขาอย่างบ้าคลั่ง

เฮยถูรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของอันตรายนั้นจึงหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่แขนของเขาก็ยังคงถูกข่วนจนได้รับบาดเจ็บอยู่ดี

ตอนนี้เขาได้เห็นกับสิงโตขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ ครานี้คงรับมือได้ยากแล้ว

สิงโตสีทองตัวนี้กล่าวคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้ามนุษย์บัดซบ เจ้าฉวยโอกาสตอนที่ข้าออกไปล่าเหยื่อทำร้ายลูกข้าอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ข้าจะกระชากเนื้อเจ้า”

สิงโตทองพุ่งเข้าหาเฮยถูโดยที่ไม่คำนึงถึงสิ่งใด ตอนนี้เฮยถูก็จำต้องรับมือต่อสู้อย่างสุดกำลัง ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาได้ผ่านทักษะลับและพลังถึงขั้นมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับสามแล้ว แต่พลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่นั้นใกล้เคียงกับเขามาก

อีกทั้งมันยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นนี้อีกด้วย ยิ่งทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นไม่น้อย และรับมือได้ลำบากมาก!

เฮยถูที่อันตรายตอนนี้ถูกสิงโตทองพัวพันเข้าแล้ว มู่เฉียนซีรีบฉีดยารักษาบาดแผลให้ตัวเอง นางจำเป็นต้องรีบฟื้นฟูความสามารถในการเคลื่อนไหวและเดินต่อไปให้ไกลอีกหน่อย มิเช่นนั้นหากพวกเขาต่อสู้กันจนถึงขั้นขีดสุด นางคงต้องโดนระเบิดร่างแหลกสลายเป็นแน่!

ตอนนี้เฮยถูรับมืออยู่กับสิงโตทอง ไม่มีเวลาสนใจมู่เฉียนซี ดังนั้นเมื่อฟื้นฟูพลังได้เล็กน้อยแล้ว นางก็รีบซ่อนตัวอยู่ไกล ๆ ทันที

ฮู้ว! มู่เฉียนซีถอนหายใจโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

ดูเหมือนว่าโชคของนางไม่ได้ร้ายนัก สัตว์ศักดิ์สิทธิ์มาทันเวลาพอดี อีกทั้งยังเป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ หากเป็นแค่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามตัวหนึ่งแล้วล่ะก็ นางต้องซวยเป็นแน่

ในตอนที่เห็นสมุนไพรวิญญาณนั้น มู่เฉียนซีก็รู้แล้วว่าสมุนไพรวิญญาณปฐพีนี้สามารถนำมาปรุงยาหยินหยางอนันต์ได้ แต่มันค่อนข้างเป็นสมุนไพรวิญญาณปฐพีระดับสูง

บริเวณรอบ ๆ มีเพียงแค่สัตว์วิญญาณตัวน้อยคอยปกป้องอยู่ จะเป็นไปได้ยัง ? ต้องมีตัวใหญ่ปกป้องอยู่เป็นแน่

ตอนนี้ตัวใหญ่ที่ว่านั้นมาแล้ว คนผู้หนึ่งกับสัตว์ตัวหนึ่งกำลังต่อสู้กัน ผลลัพธ์นั้นยากที่จะคาดเดาได้!

เดิมทีนั้น ต่อให้เฮยถูเขามาในอาณาเขตของมัน สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ตัวนั้นก็ไม่คิดจะทำอะไรมนุษย์ผู้แข็งแกร่งผู้นี้อยู่แล้ว

ทว่า เห็นได้ชัดว่าเฮยถูนั้นแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง เพื่อโอ้อวดฝีมือห่วยแตกนั้นต่อหน้านาง จึงจับลูกผู้เป็นที่รักของผู้อื่นมาเลาะกระดูก หากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ตัวนี้ไม่กระชากเนื้อเขาก็แปลกแล้ว

ตูม ตูม ตูม!

ทันทีที่การต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวของพลังขั้นมหาจักรพรรดิเริ่มขึ้น ก็เหมือนกับความหวาดกลัวของระเบิดปรมาณูก็มิปาน

มู่เฉียนซีค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ตอนนี้อู๋ตี้กับเสี่ยวหงก็รีบตามมาแล้วเช่นกัน เห็นเฮยถูถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่พัวพันอยู่ บริเวณรอบ ๆ ล้วนแต่เป็นซากปรักหักพังแล้ว พวกมันก็ตามหาเจ้านายด้วยความร้อนรนใจเป็นอย่างมาก

โชคดีที่พวกมันนั้นมีพันธสัญญาที่สามารถสื่อสารได้ ไม่นานนักพวกมันก็ตามหามู่เฉียนซีเจอ

“นายท่าน!”

“เยี่ยมไปเลย นายท่านไม่เป็นอะไร!”

เมื่อพวกมันเห็นร่างของมู่เฉียนซีเต็มไปด้วยบาดแผลเช่นนี้ ก็รู้สึกผิดกล่าวโทษตัวเอง!

อู๋ตี้มองไปที่สนามรบด้านหนึ่งและกล่าวด้วยความโกรธเคืองว่า “ฮือฮือฮือ! เป็นเพราะข้าอ่อนแอเกินไป หากข้าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ นายท่านจะถูกคนวิปริตเช่นนั้นรังแกได้ยังไง”

“ข้าอยากจะกิน กิน กิน ข้าอยากจะเลื่อนขั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่”

เสี่ยวหงก็รู้สึกเสียใจไม่แพ้กัน “เป็นเพราะข้าที่ชอบเอาแต่นอนขี้เกียจ มิเช่นนั้นแล้วพลังก็คงจะไม่ฟื้นฟูช้าเช่นนี้ ต่อไปข้าจะนอนแค่วันละหนึ่งชั่วยามก็พอแล้ว รอให้ข้าทะลวงระดับสี่ได้ หากมีคนเลวเช่นนี้มาอีกครั้งข้าก็จะฆ่ามัน มันมาสองข้าก็จะฆ่ามันทั้งคู่!”

“เอาหล่ะ! ตอนนี้ไม่มีอันตรายอะไรแล้ว พวกเจ้ารีบกลับไปรักษาตัวในมิติเถอะ!”

พวกมันต่อสู้ตัวต่อตัวกับเฮยถู ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ พลังและร่างกายจะแข็งแกร่งกว่านาง แต่พวกมันก็ได้รับบาดเจ็บกว่านางมาก

“แต่นายท่าน ข้าไม่วางใจ ให้พวกข้าอยู่ข้างนอกก่อนเถอะ!” อู๋ตี้กล่าว

“ไม่เป็นไร หากยังสู้ต่อไปเช่นนี้ เจ้าวิปริตนั่นไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ตอนนี้ข้าสั่งให้พวกเจ้ากลับเข้าไปรักษาตัวในมิติ!”

“ขอรับ!”

พวกมันกลับเข้าไปแต่โดยดี

เผชิญหน้ากับสิงโตทองที่ไล่ล่าด้วยความโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ เฮยถูก็อดทนต่อสู้ไปนานมากเช่นกัน

เฮยถูกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ลูกของเจ้ายังไม่ตาย เจ้าคิดจะเอาเป็นเอาตายกับข้าเพียงนี้เลยรึ ? เรามาถอยคนละก้าวดีหรือไม่!”

สิงโตทองยิ้มอย่างโหดร้าย “ถอยคนละก้าว ถอยคนละก้าวงั้นเหรอ! ถึงแม้ว่าลูกของข้าจะยังไม่ตาย แต่ขาก็พิการไปแล้ว เจ้าป่าที่ขาพิการไปแล้วข้างหนึ่ง เจ้าจะให้ลูกข้าอยู่บนโลกนี้ได้เช่นไร!”

สัตว์ก็มีความทะนงตน ยิ่งพวกมันไล่ล่ามากเท่าไหร่พวกมันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ขาพิการไปข้างหนึ่งก็กลายเป็นสัตว์ไร้ประโยชน์ เช่นนี้เกรงว่าจะโหดร้ายกว่าการที่ฆ่ามันเสียอีก!

ต่อสู้กันไปมา สีหน้าของเฮยถูก็เคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด เดิมทีต่อสู้กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามไปสองตัวแล้วก่อนหน้านี้ นี่ต้องมารับมือกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่อีก พลังของทักษะลับเขาก็เหลือไม่มากแล้ว มู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเขาแล้ว ดวงตาเปล่งแสงเย็นวาบขึ้น ทักษะลับนั้นมีเวลาจำกัด เฮยถูซวยแล้ว