บทที่ 502: การทดสอบศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย 3

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

“ท่านรู้จักเด็กหญิงคนนั้นรึ ซูหยาง” หลินนาสังเกตเห็นเขาจ้องไปยังผู้เข้าร่วมการแข่งขันจึงได้ถามเขา

 

“ใช่ เรามีช่วงเวลาอยู่ร่วมกันในอดีต” เขาพยักหน้า

 

“ท่านคิดว่าเธอจะผ่านการทดสอบหรือไม่”

 

“ใครจะรู้” เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย

 

ในขณะเดียวกันหญิงสาวคนนี้ก็กำลังนั่งอยู่ในหมอกสีแดงต่อสู้กับอิทธิพลของเม็ดยาจิตมารภายในใจเธออย่างหมดท่า

 

30 วินาทีหลังจากนั้นเธอก็สามารถต่อต้านเม็ดยาจิตมาร และผ่านการทดสอบรอบที่ 2 ไปพร้อมกับคนอื่นอีก 3 คน

 

บนเวทีที่ 3 คน 3 คนนี้ได้เข้าไปก่อนและไม่น่าประหลาดใจที่เลือดของพวกเขาไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในชามบรรจุน้ำ จึงตกรอบไป

 

เมื่อหญิงสาวคนนี้ผสมเลือดของเธอเข้ากับน้ำ น้ำก็เปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นสีแดงค่อนข้างเข้มตามเวลาที่เปลี่ยนไป

 

“เจ้าผ่านแล้ว” ซูลี่ชิงกล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้ม

 

หญิงสาวคำนับเธอก่อนที่จะเดินไปสู่เวทีสุดท้าย

 

ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ยืนห่างจากซูหยางและหลินนาไม่กี่เมตรบนเวทีที่ 4

 

และในขณะที่หลินนาเตรียมตัวที่จะต่อสู้กับเธอ ซูหยางก็สะกิดไหล่ของหลินนาจากด้านหลังและพูดว่า “ให้ข้าจัดการกับคนนี้”

 

หลินนาพยักหน้าและก้าวถอยหลังโดยไม่กล่าวอะไร

 

“เป็นเวลาพักใหญ่แล้ว ซูหยาง” หญิงสาวกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ข้าเห็นเจ้า อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถที่จะพูดเช่นนั้นได้กับตัวข้าเอง”

 

“เจ้ายิ่งมายิ่งสวยกว่าเดิม หลูลี่เฟิน” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มหล่อเหลา

 

“แต่เจ้าก็ยังเจ้าเล่ห์เหมือนเช่นเดิม”

 

ใช่แล้ว หญิงสาวน่ารักคนนี้ก็คือหลูลี่เฟิน คนที่เขาได้พบที่ห้องสวีทแห่งศลิษาเมื่อตอนที่เขายังเป็นเพียงแค่ศิษย์ใน

 

ไม่เพียงแต่เขาได้รับแก่นหยินบริสุทธิ์ แต่เขายังคงใช้เวลากับเธออีก 2 วันกับเธอด้วย

 

หลูลี่เฟินกล่าวต่อว่า “ข้ามิได้บอกเจ้าเรื่องนี้มาก่อน แต่เป็นความคิดของพ่อข้าในการส่งข้าไปยังนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเพื่อที่จะหาคู่ครอง ข้าไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้น แต่ตามความเป็นจริงแล้วเป็นรูปแบบการลงโทษข้าชนิดหนึ่งซึ่งได้ปฏิเสธที่จะยอมรับสามีทั้งที่พ่อแม่ข้าได้กดดันอย่างหนัก”

 

“เขาต้องการทำให้ข้าโกรธด้วยการทำให้ข้ารู้สึกอับอาย และข้าต้องบอกว่ามันใช้ได้ผลอย่างสมบูรณ์แบบ แน่นอนว่าเขาไม่ได้คาดคิดจริงๆที่จะให้ข้าปล่อยตัวไปอย่างนั้น”

 

“อีกนัยหนึ่งพ่อของข้าไม่ได้วางแผนที่จะให้ข้าหาคู่ครองภายในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย แต่อนิจจาข้าพบกับเจ้าและได้ให้ร่างกายของข้ากับเจ้า”

 

“ข้าไม่ได้กล่าวเรื่องนี้กับพ่อของข้าเมื่อตอนที่ข้ากลับบ้านในเมื่อข้าไม่พบเจอสามี และเขาก็ยังคงจัดการหาวิธีจับคู่ให้กับข้า แต่ในที่สุดเขาก็พบความจริงเมื่อเขาถามผู้อาวุโสลู่ซึ่งอยู่กับข้าที่ห้องสวีทแห่งศลิษา”

 

“พ่อของข้าหน้าซีดเมื่อเขาพบเห็นว่าข้าไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อีกต่อไปแต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงยอมรับผลลัพธ์และไม่รบกวนข้าให้หาสามีอีกต่อไป ในเมื่อหญิงสาวที่ไม่ได้บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้วย่อมไม่เป็นที่ต้องการของตระกูลใหญ่ แน่นอนว่านี่ทำให้ข้าได้มุ่งเน้นในด้านการฝึกวิชาของข้าอย่างเต็มที่ และข้าก็ไม่รู้ว่าจะขอบคุณอย่างไรสำหรับเรื่องนั้น ซูหยาง”

 

“อย่างไรก็ตามแม้ว่านี่จะเป็นความคิดของพ่อของข้าในการให้เข้าร่วมกับนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเช่นกัน แต่ข้าก็ยังจะมาที่นี่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรเลยก็ตาม”

 

หลูลี่เฟินพลันชี้นิ้วไปยังเขาแล้วกล่าวว่า “ซูหยาง ข้าจะมาเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย และจากนั้นก็ทำให้เจ้ารับผิดชอบในการเอาพรหมจรรย์ของข้าไปโดยการทำให้เจ้ากลายเป็นสามีของข้า”

 

ซูหยางเผยรอยยิ้มเยือกเย็นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอแล้วกล่าวว่า “ข้าจะคอยดู”

 

หลูลี่เฟินพยักหน้าและต่อด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าสวยของเธอ “หลังจากเรื่องนี้จบแล้วทำไมเราไม่ดื่มชาด้วยกัน เหมือนกับครั้งก่อนหน้านั้น”

 

“ฟังดูเข้าท่า”

 

ทั้งสองคนเริ่มต่อสู้กันในไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น

 

หลังจากนั้นหลูลี่เฟินก็ล้มลงบนพื้นด้วยใบหน้าหมดแรง

 

ซูหยางตรงเข้าไปหาเธอและยื่นมือของเขาไปให้

 

“ขอแสดงความยินดี เจ้าประสบความสำเร็จส่วนแรกแล้ว ตอนนี้เจ้าจะทำให้ข้ากลายเป็นสามีของเจ้าได้อย่างไร” เขาถามเธอขณะที่เขาดึงเธอลุกขึ้นมายืน

 

“แน่นอนว่าด้วยการทำให้เจ้าตกหลุมรักข้าอย่างบ้าคลั่ง” หลูลี่เฟินก็พลันหันหน้าของเธอไปยังซูหยาง และจูบลงไปที่ริมฝีปากของเขาแบบผ่านๆ

 

“จูบผู้นำนิกาย นั่นค่อนข้างจะกล้าไปหน่อยสำหรับเจ้า” ซูหยางกล่าวหลังจากนั้น

 

“ถ้าเจ้ามิต้องการมัน เจ้าสามารถที่จะหลบไปได้อย่างง่ายๆ” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

“ข้าไม่ปฏิเสธในเรื่องนั้น” เขาตอบพร้อมกับหัวเราะหึๆ

 

“ข้าจักมาพบกับเจ้าภายใน 7 วัน ซูหยาง” หลูลี่เฟินกล่าวก่อนที่จะจากสถานที่นั้นไปไม่กี่อึดใจให้หลัง

 

“ช่างเป็นหญิงสาวที่กล้ามาก จูบซูหยางต่อหน้าผู้คนมากมาย” ไป่ลี่ฮัวพึมพัมหลังจากที่เห็นฉากนั้น

 

“เธอมิใช่ลูกสาวคนเล็กของตระกูลหลูรึนั่น ข้าได้ทำธุรกิจกับพวกเขาก่อนหน้านั้น” หวังชูเหรินกล่าว และเธอก็กล่าวต่อว่า “ข้ามิคิดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันเช่นนั้น”

 

ในเวลานั้น คิ้วของซีซิงฟางก็สั่นไหวเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าสะท้านจากการจูบระหว่างหลูลี่เฟินกับซูหยาง

 

“ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะฐานันดรของข้า เช่นนั้นบางทีข้าก็คงจะสามารถทำสิ่งที่กล้าแบบนั้นได้เช่นกัน…” เธอถอนหายใจ

 

การทดสอบศิษย์ดำเนินต่อไป และเมื่อจบวันแรกก็มีผู้เข้าร่วมการทดสอบกว่า 20,000 คน และมีผู้ล้มเหลวในการทดสอบมากกว่า 90% ที่เวทีทดสอบแห่งที่ 2

 

ยิ่งไปกว่านั้นในบรรดาผู้คน 2 หมื่นคนนั้นมีน้อยกว่า 1% ที่สามารถสอบผ่านกลายเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย

 

“ศิษย์ 169 คนในวันแรกรึ ไปได้ด้วยดีกว่าที่คิดไว้มาก” ซูหยางพยักหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจ

 

“ท่านพอใจกับที่มีคนผ่านไม่กี่คนเนี่ยนะ” หลินนาพูดไม่ออก

 

“แม้ว่าคนเพียง 169 คนดูเหมือนจะไม่มากนัก แต่ถ้าเจ้าดูพวกเขาแต่ละคนเป็นเหมือนอัจฉริยะและมีศักยภาพที่จะเป็นจอมยุทธเขตอัมพรวิญญาณ เช่นนั้นมุมมองของเจ้าก็ควรจะเปลี่ยนไปบ้างไม่มากก็น้อย”

 

“จอมยุทธเขตอัมพรวิญญาณ 169 คนรึ” หลินนาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ถ้ามองในมุมนี้แน่นอนว่าจำนวนที่ไม่มีนัยสำคัญนั้นจะเปลี่ยนเป็นจำนวนมหาศาลทันที