“รายการต่อไปคือแผนที่ขุมสมบัติที่ซ่อนอยู่ของมาร์ลา…” ผู้ประมูลประกาศขึ้นมา

เย่ฉางเลิกคิ้วขึ้น ‘สมบัติลับ! อาจจะมีผู้คนจำนวนแข่งขันประมูลกันเพื่อแผนที่อันนี้’ ขณะที่เย่ฉางกำลังครุ่นคิดอยู่ ผู้คนที่มีแผนที่นี้ก็พูดขึ้นมา

“เฮ้! นี่นายวางแผนที่จะหลอกพวกเราหรือไงกัน? ก่อนหน้านี้ก็เอาคู่มือแนะนำเบื้องต้นของเรลีย์ ที่สามารถหาซื้อได้จากผู้ขายตามท้องถนนทั่วไปมาหลอกเราทีหนึ่งแล้ว และตอนนี้ก็ยังเอาแผนที่ขุมสมบัติที่ซ่อนอยู่ของมาร์ลามาหลอกเราอีก? จะบอกให้รู้ไว้ว่า ฉันมีแผนที่นี้ถึง 3 อันแล้ว ถ้านายต้องการมัน ฉันจะให้แผนที่เป็นของขวัญกับนาย 1 อันเลยก็ยังได้!”

“ใช่ ใช่ ไอเทมที่นายเอามาประมูลตอนนี้ทั้งหมด มันหาซื้อได้ง่ายๆในพื้นที่แถวนี้ เพราะฉะนั้นเอาไอเทมที่ดีออกมาประมูลได้แล้ว อย่าทำให้ชายชราคนนี้ต้องเสียเวลาอีก”

“ต้องขอโทษด้วยครับ ขณะนี้ไอเทมที่จะนำมาประมูลยังอยู่ในระหว่างการเดินทาง ตอนนี้ทางเราทำให้ทุกคนต้องหัวเราะเยาะกันแล้ว ดังนั้นรายการต่อไปจะเป็นของที่มาจากที่ซ่อนลับของบ้านการประมูล หวังว่าทุกคนจะพึงพอใจกับมัน สำหรับแผนที่อันนี้เราจะแจกฟรี ทุกคนต้องการหรือไม่?”

เมื่อเย่ฉางรู้ว่าคู่มือแนะนำเบื้องต้นของเรลีย์ที่เขาเพิ่งซื้อไปนั้น เป็นไอเทมที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องถนนจากชาวพื้นเมือง มันเป็นไอเทมลับที่สามารถซื้อได้ 50 เหรียญทองแดงจากคนขอทาน ทำให้เขาลุกขึ้นยืนด้วยความเกรี้ยวโกรธ “นายกล้าที่จะโกงฉัน! เพียงเพราะฉันไม่รู้จักไอเทมชิ้นนี้ ดังนั้นนายจึงกล้าที่จะทำให้ฉันซื้อไอเทมนี้ในราคาที่สูงงั้นหรือ!? ฉันต้องการยื่นเรื่องร้องเรียน! นี่มันจะมากเกินไปแล้ว! นายกล้าที่จะหลอกลวงลูกค้าอย่างฉัน!”

“สิ่งที่เอิร์ล PaleSnow พูดถูกต้องแล้ว นายสามารถหาซื้อกองคู่มือแนะนำเบื้องต้นของเรลีย์เหล่านี้ด้วยเงินเพียงแค่ 1 เหรียญทอง แต่นายกล้าที่จะขายคู่มือแนะนำเบื้องต้นของเรลีย์ 1 เล่มตั้ง 10 เหรียญทอง! นี่เป็นการเอาเปรียบกันมากเกินไปจริงๆ”

ผู้ดำเนินการประมูลรีบทำสิ่งต่างๆให้เรียบร้อยขึ้น เขาไม่เพียงแต่ปฏิบัติต่อเย่ฉางอย่างสุภาพ แต่ยังมอบของขวัญให้กับเขาเป็นแผนที่ขุมทรัพย์อีกด้วย

เย่ฉางขมวดคิ้วและชี้ไปที่แผนที่ “นายคิดว่าฉันเป็นคนโง่งั้นหรือ!? ถึงมอบสิ่งนี้ให้กับฉัน!?”

“เฮ้ แสดงให้ฉันเห็นถึงความน่าเชื่อถือบางอย่างหน่อยสิ นายกล้ามอบแผนที่สมบัติของมาร์ลาให้กับฉันเป็นคำขอโทษจริงๆสินะ! นี่นายกำลังเล่นตลกกับฉันงั้นหรือ? หรือนายเป็นเพียงมือใหม่ที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว…?”

ผู้ดำเนินการประมูลในครั้งนี้เป็นคนใหม่จริงๆ และเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปดี ผู้ประมูลคนเก่าจึงรีบเข้ามาขอโทษอย่างรวดเร็ว และมอบกล่องไม้เล็กๆให้กับเย่ฉาง เย่ฉางเห็นคริสตัลธาตุแสงระดับ 4 วางเอาไว้อยู่ข้างใน ในปัจจุบันเขายังไม่มีคริสตัลประเภทนี้ ดังนั้นเขาจึงนั่งลง และพยักหน้าอย่างพึงพอใจมาก

ต่อไปนี้คือการประมูลของสะสมบางรายการจากบ้านประมูล รายการของสิ่งของชิ้นนี้ค่อนข้างสูงมากจนทำให้ทุกคนพึงพอใจ ยกเว้นเย่ฉางที่ค่อนข้างเบื่อหน่าย รายการถัดไปเป็นรายการสุดท้าย เขาหาวออกมาและเห็นว่าในมือของผู้ประมูลเป็นกล่องสีดำ

“กล่องแห่งความโชคร้าย นี่คือสิ่งที่ไม่ค่อยพบเห็นกันมากนัก และไม่มีใครที่อยากจะเปิดมันสักเท่าไหร่ ความล้ำค่าของมันคือการเป็นสิ่งของสะสมที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว”

เย่ฉางเห็นว่ามันเป็นกล่องสมบัติ เขาจึงเริ่มเสนอราคาออกมา ในท้ายที่สุด เขาก็ได้รับกล่องแห่งความโชคร้ายมาในราคา 300 เหรียญทอง เขามองไปยังกล่องสีดำที่อยู่ในมือของเขา

Chest of Misfortune : เมื่อคุณเปิดกล่อง จะมีโอกาสสูงมากที่จะพบเจอความโชคร้าย และยังสามารถช่วยลดโชคของคุณเป็นอย่างมากอีกด้วย มีโอกาสแทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับสมบัติจากกล่องแห่งความโชคร้าย

ปล. ยิ่งมีโชคดีมากเท่าไหร่ จะต้องทนทุกข์ทรมานจากการเปิดกล่องแห่งความโชคร้ายมากยิ่งขึ้น

เย่ฉางอ้าปากค้าง ‘นี่เป็นกล่องแห่งความซวยสำหรับหัตถ์แห่งพระเจ้าของฉัน ถ้าฉันเปิดกล่องใบนี้ ฉันจะไม่พบเคราะห์กรรมที่แสนสาหัสเลยงั้นหรือ!?’ เขาลังเลก่อนที่จะเอื้อมมือออกไปด้วยมือที่สั่นไหว ‘ฉันควรปล่อยให้คนอื่นเป็นคนเปิดดีกว่า หวังน่าจะมีโอกาสที่ดีกว่าในการเปิดกล่องแห่งความโชคร้ายอันนี้’ เขาเก็บกล่องแห่งความโชคร้ายใส่ในกระเป๋า จากนั้นก็เดินออกจากบ้านประมูลระดับไฮเอนต์

การทดสอบการต่อสู้ในวันที่ 5 กลุ่มของเย่ฉางกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ และเดินตรงเข้าไปโจมตีศูนย์บัญชาการ พวกเขาจัดการอาจารย์ผู้ฝึกสอนออกไปหลายคน พร้อมกับจัดการกับระบบรักษาความปลอดภัย และประสบความสำเร็จในการจัดการผู้บัญชาการทหารสูงสุด จากนั้นพวกเขาก็นั่งอยู่ที่ศูนย์บัญชาการ เลียนเสียงของผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคอยออกคำสั่งบังคับคนรอบข้าง ในตอนสุดท้าย การทดสอบการต่อสู้ทั้งหมดก็เละไม่เป็นท่า จากนั้นก็ถูกบังคับให้หยุดการทดสอบ

เสี่ยวยุนฮีรีบวิ่งไปยังที่เกิดเหตุ เขาเห็นอาจารย์ผู้ฝึกสอนและสมาชิกคนอื่นๆถูกทุบตี และถูกโยนกองรวมกันไว้ เขามาถึงศูนย์บัญชาการ และเห็นเย่ฉางใช้ระบบของศูนย์บัญชาการเพื่อดูละคร ในขณะที่ใช้การเลียนแบบเสียงเพื่อออกคำสั่งบ้าๆบอๆ คนที่ชื่อหลินหลี่ที่ยืนอยู่ข้างๆเขา คอยทำให้ทุกอย่างย่ำแย่ลงเรื่อยๆ และเด็กสาวที่ชื่อเย่เทียนก็ได้ควบคุมระบบของศูนย์บัญชาการเอาไว้ทั้งหมด พวกเขาทุกคนวิ่งเล่นวนไปรอบๆห้อง ‘ไอพวกเด็กสารเลว… โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมขาว เขาไม่ใช่คนเลวทรามที่ปกติเท่าไหร่นัก’ เขาถอนหายใจออกมา ถ้าเป็นไปได้ เขาไม่ต้องการให้กลุ่มของเย่ฉางเข้าร่วมการทดสอบการต่อสู้ของมหาวิทยาลัยอีกต่อไป แต่ถ้าเป็นการต่อสู้กับมหาวิทยาลัยอื่น เขาจะเลือกกลุ่มเย่ฉางให้ไปเข้าร่วมเป็นกลุ่มแรกเลย

ในท้ายที่สุด เหล่าอาจารย์ผู้ฝึกสอนเห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ ที่จะยกเลิกการฝึกของกลุ่มเย่ฉางไป โดยจะแจ้งให้ทราบเมื่อใกล้ที่จะเริ่มการแข่งขันแทน

เย่ฉางและคนอื่นๆเก็บข้าวของ และกลับไปยังเขตตะวันออก FrozenCloud คิดย้อนกลับไปยังการทดสอบ และไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี ไม่มีใครสามารถควบคุมคนเหล่านี้ได้ แม้แต่เหล่าบรรดาอาจารย์ก็ไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ เย่เทียนเป็นนักวิจัยระดับ A เมื่อศาสตราจารย์เหล่านั้นได้ยินว่าอาจารย์ผู้ฝึกสอนอาจจะลงโทษเธอ พวกเขารีบวิ่งออกไปทักท้วงด้วยเสียงดังอึกทึกครึกโครมทันที สำหรับหัวหน้าทีม เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว เมื่อพวกเขากลับไปที่ตลาดกลางคืนเพื่อกินอาหาร พวกเขาได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เถ้าแก่หวังได้จัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองชัยชนะให้แก่ทีม T-105 ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขตตะวันออก โดยการจัดการกับศูนย์บัญชาการได้ FrozenCloud นึกถึงคำพูดบนอินเทอร์เน็ตที่บอกถึงความชั่วร้ายของเขตตะวันออก จากนั้นเธอก็คิดถึงไอดอลของพวกเขา ลุงฟรอสเลอร์, ลุงแพนตี้ เช่นเดียวกับทีม T-105 ทำให้เธอได้แต่ถอนหายใจออกมา ทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ต มันเป็นความจริง…

เมื่อกลับมาถึงบ้านริมชายทะเลข เย่ฉางเปิดทีวีโฮโลแกรมและเฝ้าดูข่าว

“อัลบั้มใหม่ของลุงฟรอสเลอร์ที่ชื่อว่า ‘ช้างน้อยที่โกรธเกรี้ยว!’ ขายดีอย่างบ้าคลั่ง! นี่เป็นจุดเริ่มต้นของวงร็อครุ่นใหม่ – ร็อคแอนด์โรลแห่งการเปลือย! ยอดขายของเขาได้พุ่งทะลุยอดขายของราชินีนักร้องอย่างเจาลี่ไปแล้ว แม้แต่ยอดขายในต่างประเทศยังดีมากอีกด้วย! ตามรายงานขององค์กรเซ็นเซอร์โลก ลุงฟรอสเลอร์อาจจะเป็นคนแรกที่สามารถเปลือยกายในที่สาธารณะได้ทุกที่ทั่วโลก!”

“เมื่อพูดถึงลุงฟรอสเลอร์กันไปแล้ว ทุกคนต้องนึกสงสัยเกี่ยวกับตำนานอื่นๆ ของเมืองหลินไห่ที่เขตตะวันออกกันอย่างแน่นอน เขาคนนี้มีภาพลักษณ์ของนักวิชาการ ผู้ซึ่งสวมหมวกอยู่ตลอดเวลา ใช่แล้ว! คนๆนี้ก็คือลุงแพนตี้อันเป็นที่รักของพวกเรานั่นเอง! เขาเริ่มออกนิตยสารใหม่ที่ชื่อว่า ‘ลุงแพนตี้พูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่น!’ จากจุดที่ไม่ซ้ำซากกันในมุมมองของเขา และความเห็นที่ถูกต้องของเขา ทำให้เขาได้กลายเป็นผู้วิจารณ์แฟชั่นอันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว! ไม่มีใครในโลกที่มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับชุดชั้นในมากไปกว่าเขา รอยยิ้มของวีนัสตอนนี้ได้กลายเป็นสมบัติที่ล้ำค่าไปแล้ว…”

ที่บ้านริมชายทะเล เมื่ออูนาที่ได้รับรู้ยอดขายอัลบั้มใหม่ของลุงฟรอสเลอร์ ทำให้หัวใจของเธอบีบรัดแน่น เธอรู้สึกราวกับจะกระอักเลือดออกมา ‘ดูเหมือนว่าฉันจะโชคร้ายอยู่คนเดียว ที่ได้เป็นแค่นักร้องนิรนามที่ไร้ชื่อเสียงสินะ’

ลุงฟรอสเลอร์กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับนานาชาติไปแล้ว เขาเป็นดั่งระเบิดที่รุนแรงสำหรับเธอ สิ่งที่ดีเพียงอย่างเดียวก็คือ หลังจากที่ลุงฟรอสเลอร์เข้ามาโชว์ในคอนเสิร์ตของเธอ ทำให้จำนวนแฟนคลับของวงเธอเริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อมองไปยังความคิดเห็นต่างๆ ทำให้เธอค่อนข้างที่จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา

“นี่คือวงดนตรีที่เล่นคู่กับลุงฟรอสเลอร์, ลุงแพนตี้ และสุภาพบุรุษปีศาจใช่ไหม?”

หัวใจของอูนาแข็งค้าง ‘เฮ้ ฉันเป็นนักร้องนำนะ! เป็นจุดเด่นของคอนเสิร์ตนะ!’

“โอ้ อัลบั้มใหม่ของลุงฟรอสเลอร์ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลย นิตยสารของลุงแพนตี้ก็ยังขายดีด้วยเช่นกัน” เย่ฉางมองดูข่าวและหาวออกมา

“แป๊นๆ! ช้างของฉัน! แป๊นๆ! ช้างของฉัน! เสียงคำรามในการเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง! จงลุกขึ้นยืนเมื่อพ่ายแพ้! ช้างพระเจ้าของฉันจะไม่ยอมแพ้! แป๊นๆ~!!!” จางเจิ้งเฉียงร้องตาม ‘แป๊นๆ! ช้างของฉัน ….’ มันเป็นเนื้อเพลงที่มีเล่ห์เหลี่ยม เนื้อเพลงที่ร้อนแรง และจังหวะการเต้นที่บ้าคลั่งส่งผลกระทบต่อผู้ฟัง แม้แต่อูนาก็อดเลื่อมใสไม่ได้ เํธอจะต้องทำงานให้หนักขึ้นไปอีก

“ทีม T-105 ทำในสิ่งที่เราคาดหวังขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาได้กำจัดศูนย์บัญชาการที่ชั่วร้าย และประสบความสำเร็จในการเอาชนะอาจารย์ผู้ฝึกสอนที่ชั่วช้าเหล่านั้น ฮีโร่ของเมืองหลินไห่ ผู้ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย! มาร่วมแสดงความยินดีให้กับพวกเขาอีกครั้งกันเถอะ! แน่นอนว่า มีใครหลายคนที่คาดหวังเอาไว้ว่า ตำนานทั้ง 3 ในเขตะวันออกของเรา ลุงฟรอสเลอร์, ลุงแพนตี้ และสุภาพบุรุษปีศาจจะจัดคอนเสิร์ตร้องเพลงและเต้นรำขึ้นมาอีกครั้ง!”