ผู้ตัดสินมารวมตัวกัน FrozenCloud ยืนรออยู่กับทีม เธอหันมาและเห็นว่าเย่ฉางกำลังกินไอติมอย่างสบายใจเฉิบ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่า เขาไปเอาไอติมมาจากไหนกัน? เขายังยื่นไอติมให้กับคนอื่นๆอีกด้วย “ต้องการซักอันไหม?”

FrozenCloud แข็งทื่อ เธอหันไปและเห็นหลินหลี่กับเย่เทียนนั่งลงข้างๆเขา และกินไอติมกันอย่างเอร็ดอร่อย ‘เฮ้! เรายังอยู่ในการแข่งขันกันอยู่นะ’

“ฉันไม่…”

FrozenCloud ไม่ทันได้พูดให้จบก่อนที่ซันหยู่จะชู๊ตลูก 3 แต้ม FrozenCloud ต้องการที่จะวิ่งเข้าไปบล็อค แต่มีเงากระโดดขึ้นมาจากเส้นนอกสนาม และคว้าลูกบาสก่อนที่มันจะเริ่มร่วงหล่นลงมา นี่เป็นการบล็อคที่สุดยอดแถมยังได้ครอบครองลูกบาสได้อีก! เหล่าผู้ชมทั้งหมดพากันตกตะลึง นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!? การป้องกันที่สมบูรณ์แบบ!? อย่าคิดที่จะชู๊ตลงห่วงได้ ต่อให้ชู๊ตจากจุดชู๊ต 3 แต้มก็ตาม สำหรับการเข้าไปชู๊ตใกล้ห่วงบาสนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลย พวกเขาอาจจะได้รับโอกาสที่จะกระโดดชู๊ต ก่อนที่จะถูกบดขยี้โดยจางเจิ้งเฉียงที่ไม่จำเป็นต้องกระโดดเพื่อบล็อคเลยสักนิด

FrozenCloud ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นเธอก็หยิบไอติมของเธอขึ้นมาและเริ่มกินมัน

ด้วยการครอบครองลูกบาสของจางเจิ้งเฉียง เขาเริ่มเลี้ยงลูกและวิ่งขึ้นไป ลู่วเฉาพยายามวิ่งเข้ามาสกัดกั้น แต่เขาก็ล้มลงโดยการถูกจางเจิ้งเฉียงหลอก โดยการเลี้ยงลูกบาสลอดหว่างขาไปมา ฉินเส้าเทียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ‘นี่มันความเร็วบ้าอะไรกัน!? ต้องมีร่างกายแบบไหนถึงจะมีความเร็ว และการตอบสนองที่รวดเร็วแบบนี้ได้!?’

ในอีกไม่กี่ก้าวต่อมา จางเจิ้งเฉียงก็กระโดดสูงขึ้นไปอีกครั้ง และสแลมดั้งไปที่ห่วงจนทำให้เกิดเสียงที่รุนแรงดังออกมา ซันหยู่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง และไม่มีกะจิตกะใจที่จะเล่นอีกต่อไป

ในท้ายที่สุด ทีมของเย่ฉางก็ได้สิทธิ์เป็นทีมแข่งหลัก โดยมีสมาชิกทีมฉินเส้าเทียนถูกเพิ่มเข้าไปในทีมของพวกเขาในฐานะตัวสำรอง

เจาเฟยมองไปยังจางเจิ้งเฉียง นี่มันสัตว์ประหลาดด้านการกีฬาชัดๆ

เย่ฉางไม่ได้สนใจที่จะเข้าร่วมในการแข่งขันอื่นๆ เขาพากลุ่มของเขากลับไปที่ห้องพัก อย่างแรกพวกเขาพากันอาบน้ำและมานั่งดูละคร หลังจากละครเรื่องศึกพิศวาสสองพี่น้องฉายจบ พวกเขาก็กลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง และได้ยินเสียงแห่งความวุ่นวายภายในเมือง

“หาคนไปลงถ้ำแห่งความมืด! ปาร์ตี้ของเรามีแต่คนเก๋าเกม! เราต้องการอาชีพนักเวทสายพืชหรือพาลาดิน! คนไม่มีความอดทนห้ามเข้า! คนใจไม่สู้ห้ามเข้า!!”

“ปาร์ตี้ของเราก็หาคนเช่นกัน และเรายังผ่านเข้าไปลึกอีกด้วย! ว่าแต่คนเก๋าเกมอย่างพวกนายผ่านไปถึงไหนแล้ว?”

“แค่ถึงมอนสเตอร์ตัวแรกเอง…”

“เอ๊ะ พวกเราก็ถึงแค่มอนสเตอร์ตัวแรกเหมือนกัน มอนสเตอร์เหล่านั้นผิดปกติมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งมอนสเตอร์ที่อยู่ในบึง พี่ใหญ่วีรบุรุษ และ Freedom Alliance ไม่มีไกด์แนะนำ หรือบอกวิธีการผ่านเลยหรือไง!?”

“มันไม่มีความหมายหรอก ถึงแม้ว่านายจะมีไกด์แนะนำก็ตาม”

“มันก็จริง ขนาดปาร์ตี้ของเราก็ถูกกำจัดมาหลายรอบแล้วนะ แต่ฉันได้ยินมาว่ามีปาร์ตี้อื่นๆได้สู้กับบอสตัวแรกกันแล้วนะ”

“บอสตัวแรกคืออะไร?”

“ฉันได้ยินมาว่ามันเป็นคางคกเชื้อราที่โหดมาก พิษของมันไม่มียาแก้พิษ เมื่อนายโดนพิษ มีเพียงอย่างเดียวคือความตาย”

เย่ฉางได้ยินข่าวซุบซิบ และคิดถึงโอกาสที่จะสร้างรายได้เสริมด้วยการสร้างอาหารที่ต้านทานพิษบางอย่างออกมา อันที่จริงส่วนผสมของเขาส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่เหมือนกับเมือกสไลม์สีเขียว ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดนี้ให้ความต้านทานต่อพิษที่สูงอย่างมาก เขาหยิบส่วนผสมออกจากรถเข็น แล้วจอดรถเข็นไว้ที่ย่านการค้าในฐานะรถขายอาหาร เขาหยิบกระดานไวท์บอร์ดออกมา และเขียนว่า “รายการอาหารต้านทานพิษ ถ้ากินแล้วมีโอกาสเคลียร์ดันเจี้ยนได้!”

ผู้เล่นแห่กันเข้ามาทันที ลูกค้ารายแรกพยายามกิน จากนั้นเขาก็ล้มลงไปบนพื้น และมีฟองน้ำลายเต็มปาก ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ตื่นขึ้นด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว “เพิ่มความต้านทานต่อพิษที่สูงมาก แต่รสชาติของมันช่าง…”

“ยาที่ดีมักจะมีรสขมเสมอ หลังจากนี้นายจะต้องได้ใช้มันอย่างแน่นอน…” เย่ฉางพูดอย่างเฉยเมย

อาหารของเขาขายหมดอย่างรวดเร็ว NalanPureSoul และ LordAsked ยังส่งข้อความไปถามซื้ออาหารที่มีความต้านทานต่อพิษนี้เป็นจำนวนมาก เย่ฉางเดินตรงไปยังทางเข้าถ้ำแห่งความมืดและตั้งแผงลอย นอกจากนี้คางคกเชื้อราที่ตายอยู่รอบๆ ก็ถูกเย่ฉางหยิบใส่รถเข็น เขาพยายามปรับปรุง และสร้างสูตรคางคกทอดขึ้นมา ด้วยการคิดค้นสูตรใหม่ๆ ทำให้ค่าประสบการณ์การทำอาหารของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าทุกคนที่กินอาหารของเขาจะให้คะแนนติดลบ แต่มันก็ยังถูกขายออกไปจนหมดอย่างรวดเร็ว เกือบทุกปาร์ตี้จะแวะมาซื้อก่อนที่จะพากันเข้าไปในถ้ำแห่งความมืด

ในวันที่สองและสามของการฝึกซ้อม เย่ฉางเพียงแค่โผล่ออกมาให้อาจารย์ผู้ฝึกสอนเห็นหน้าของเขา ก่อนที่จะแอบกลับไปที่ห้องพัก และเข้าเกมเพื่อดำเนินการทำอาหารอันยอดเยี่ยมของเขาต่อ เขาทำเงินได้เกือบ 2,000 เหรียญทองจากผู้เล่น เย่ฉางไม่เคยคิดเลยว่าสูตรอาหารของเขาจากคางคกเชื้อราและน้ำเมือกสีเขียวจะทำเงินให้เขาได้มากขนาดนี้ LordAsked จ่ายเงินออกไป 50 เหรียญทองเพื่อซื้อชุดเซ้ทอาหาร ‘คางคกจอมตะกละที่แดกทั้งด้วงบากู, ผึ้งคากูและซุปสไลม์บาร์บีคิว’ ชุดเซ้ทอาหารที่นำพาผู้กินไปยังปากเหวแห่งความตาย

เมื่อ ThornyRose รู้ว่าเย่ฉางได้รับเงินจากการขายอาหารมากขนาดไหน ทำให้เธอถึงกับอ้าปากค้าง เขาทำเงินได้ถึง 2000 เหรียญทอง!! ด้วยอาหารพวกนี้ จะช่วยให้เขาสามารถครอบครองตลาดและสิ่งต่างๆได้ ผู้ผลิตยาแก้พิษมีรายได้ค่อนข้างน้อย และไม่สามารถเทียบกับอาหารเหล่านี้ได้ ส่วนผสมสำหรับยาแก้พิษเป็นวัตถุดิบระดับ Uncommon ในขณะที่อาหารเหล่านี้เป็นเพียงแค่เนื้อคางคกที่คลุกเคล้ากับวัตถุดิบที่กินได้อื่นๆ และยังหาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม รายได้ทั้ง 2000 เหรียญทองนี้ ได้นำไปใช้เป็นต้นทุนการก่อสร้างเพื่อขยายธุรกิจหน้าดันเจี้ยน ยอดขายเนื้อคางคกค่อยๆลดลง เย่ฉางจึงคว้าเก้าอี้ และตั้งป้ายลงไปว่า [ตัดผม 50 เหรียญเงิน] ผู้เล่นทุกคนต่างรู้ดีว่า การตัดผมของเขาทำให้ค่าสถานะเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ดังนั้นจึงทำให้เกิดความนิยมอีกอย่างหนึ่งขึ้นมา โดยทั่วไปแล้ว ทุกปาร์ตี้จะเข้าไปรับการตัดผมจากเขาและซื้อเนื้อคางคกทอดมากินก่อนที่จะเข้าดันเจี้ยน จากนั้นก็ทิ้งชีวิตของพวกเขาไว้ในดันเจี้ยน

เมื่อ LordAsked ออกจากดันเจี้ยนและเห็นป้ายร้านตัดผม เขาหลั่งเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา และเข้าไปตัดผมกับเย่ฉาง การตัดผมของเขาทำให้ค่าสถานะเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย และราคา 50 เหรียญเงินไม่ใช่จำนวนที่มากมายอะไร

ค่าประสบการณ์ในการตัดผมของเย่ฉางยังคงเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ จนไปถึงการตัดผมขั้นสูง ทักษะช่างตัดผมอัพเกรดไปเป็น ‘สไตล์ลิส’ นอกเหนือการเพิ่มค่าสถานะจากการจัดแต่งทรงผมแล้ว เมื่อจัดแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมจะเพิ่มคุณสมบัติพิเศษขึ้นมาอีกด้วย แต่คุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมาไม่มากนัก เพิ่มมากสุดแค่ 1%

แม้ว่าหมู่บ้านรอบวิหารเทพธิดาอันย่า จะยังไม่ได้รับการสร้างเสร็จอย่างสมบูรณ์ แต่อาคารที่เกี่ยวกับการทำงานได้เปิดให้บริการแล้ว วัสดุและอุปกรณ์ทั้งหมดที่ได้จากดันเจี้ยนถูกนำมาขายที่นี่ ด้วยการเพิ่มขึ้นของการค้าและการพาณิชย์ ทำให้พื้นที่แห่งนี้เริ่มมีความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้น คลังแสงของชนเผ่าฟามิเลียยังได้มอบเควสการรวบรวมวัสดุและวัตถุดิบบางอย่างให้กับผู้เล่นอีกด้วย และรางวัลจากคลังแสงก็ทำให้ผู้เล่นทุกคนกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก นอกจากการพิชิตดันเจี้ยนแล้ว พวกเขายังสามารถฟาร์มชื่อเสียงกันได้อีกด้วย

เย่ฉางถอนหายใจ ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับจากการทำอาหาร และการจัดแต่งทรงผมเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับการได้รับค่าประสบการณ์จากการฆ่ามอนสเตอร์โดยตรง แต่ก็ไม่ถือว่าช้าจนเกินไป เขาลงมือทำคางคกทอดกองใหญ่, จัดแต่งทรงผมทั้งหมดอีกครั้ง เย่ฉางขายสิ่งของ, อาหาร และทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ จากนั้นเขาก็เก็บกรรไกรและเครื่องมือของเขาลงไปในกระเป๋า และให้ ThornyRose ส่งคนไปเฝ้าดูบูธของเขาเอาไว้ก่อน สำหรับตัวเขาเองนั้น เขากลับไปที่เมืองแบล็กร็อค เพราะวันนี้มีการประมูลที่บ้านประมูลระดับไฮเอนด์

ในฐานะที่เป็นเอิร์ลและยังเป็นลูกค้าประจำ ยามได้คุ้นเคยกับเขาแล้ว พวกเขาจึงปล่อยให้เย่ฉางผ่านเข้าไปด้วยรอยยิ้ม

พนักงานต้อนรับรู้ว่าเย่ฉางเป็นเอิร์ลแห่งเมืองแบล็กร็อค และยังเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่อยู่ฝ่ายเดียวกับมาร์ควิสอัสชาร่า ดังนั้นพนักงานต้อนรับจึงถามเขาว่าต้องการห้อง VIP ส่วนตัวไหม! เย่ฉางส่ายหัวและสุ่มนั่งลงที่มุมๆหนึ่ง

รายการที่จัดประมูลอยู่ในตอนนี้เป็นผลงานศิลปะทั้งหมด ซึ่งเย่ฉางไม่ได้ให้ความสนใจ ถ้าเย่เทียนอยู่กับเขา เธออาจจะเลือกของมีค่าบางอย่างออกมา แต่เธอก็ยังต้องการสิ่งของให้กับวิหารเทพธิดาอันย่ามากกว่า เย่ฉางให้ความสนใจกับหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งมันมีราคาไม่แพงมากนัก เขาซื้อมาประมาณ 10 เหรียญทอง หนังสือ ‘Master Reling’s Introduction to Grappling Guidebook – Copy’

Master Reling’s Introduction to Grappling Guidebook – Foundation Level – Copy : อ่านเพื่อเรียนรู้สกิลพื้นฐานของอาชีพ Grappler ได้โดยอัตโนมัติ

เย่ฉางตรวจสอบหนังสือเล่มนี้ในมือของเขา แล้วใส่เก็บไว้ในกระเป๋า หนังสือเล่มนี้สำหรับน้องเล็กไดโน!