ตอนที่ 1568 เข้าปะทะราชันพระเจ้าครึ่งขั้น!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1568 เข้าปะทะราชันพระเจ้าครึ่งขั้น! โดย Ink Stone_Fantasy

“สวรรค์! ไฟแค้นสุมทรวงต่อหน้าเจ้ายังเผาขนปานนี้ เจ้ายังมีอารมณ์ร่ำสุราอีกรึ!”

เจ้าของโรงเตี๊ยมเอ่ยร้องลั่น

เย่หยวนยิ้มเล็กน้อยและเดินตรงเข้าไปตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ

“ก็ถูกล้อมแน่นราวกับถังเหล็ก ขนาดจะวิ่งออกไปยังทำไม่ได้ เช่นนั้นเราก็ควรสนุกกับชีวิตให้เต็มที่! อย่าปล่อยให้สุราจันทราทองคำต้องเสียเปล่า เร็วเข้าเถ้าแก่! ชนแก้ว!”

เมื่อเย่หยวนกล่าวจบก็ยกจอกสุราหนึ่งขึ้นมา และป้อนเจ้าของโรงเตี๊ยมให้กระดกหมดในชั่วอึดใจ

เจ้าของโรงเตี๊ยมยามนี้ยังมีอารมณ์กินดื่มได้อย่างไร เขาแทบสำลักออกมา

เขาต้องการให้เย่หยวนหนีไปให้ไกลที่สุด แต่เวลานี้ถูกพวกทหารลุมล้อมกลับหวั่นกลัวขึ้นฉับพลัน

กองกำลังปริมาณขนาดนี้สามารถทำให้ผู้คนต่างสิ้นหวังได้เลย

หลังป้อนเสร็จ เย่หยวนก็ยัดจอกให้ในมือเจ้าของโรงเตี๊ยมพร้อมรินเติมให้ใหม่ ทว่าอย่างไร ยามนี้มือที่ถือจอกสุราพะลันสั่นเทาไม่หยุดหย่อน จนสุราจันทราทองคพกระฉอกออกมาจนไม่เหลือ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังหวาดกลัวปานใดด

ทันทีที่กองกำลังเคลื่อนทัพจู่โจม โรงเตี๊ยมของเขามีหวังกลายเป็นเถ้าถ่านแน่นอน

เย่หยวนเหลือบมองแวบหนึ่งและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า

“เถ้าแก่ โรงเตี๊ยมเฟิงหลานยังคงเปิดให้บริการต่อไปในเมืองหลวงหวู่เมิ่งแน่นอนไม่ต้องห่วง”

เมื่อกล่าวจบ ร่างเย่หยวนก็ปราดพุ่งกระโจนหายวับในพริบตา ปรากฏเงาไสวกระโดดออกจากหน้าต่างไป

บนท้องถนนเหล่าทหารสวมชุมเกราะพร้อมเตรียมรบต่าตั้งท่ารอจู่โจม

แต่ทันใดนั้นเอง

ชวิ้ง! ชวิ้ง! ชวิ้ง!

คมดาบสีเย็นสาดกะพริบเคลื่อนผ่านร่างของทหารเหล่านั้น เย่หยวนกระหน่ำฟันไม่มียั้งมือ

เส้นคมประดุจตัดขอบฟ้าฟันฟาดผ่านกองกำลังทั้งหมดดุจพริ้วดั่งสายลม หอกยาวที่ทหารเหล่านั้นถือครองพลันร่วงกราวลงมา

แม้จะอยูท่ามกลางกองทัพของปีศาจนับพันหมื่น เย่หยวนยังสามารถล่าสังหารได้ตามใจอิสระ แล้วกับแค่ทหารของเมืองหลวงยังนับประสาอันใด?

หากเย่หยวนต้องการฆ่า ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความตตายได้

อย่างไรก็ตามแต่ เป้าหมายของเขาที่มาในครั้งนี้คือ จ้าวอี้และฉินจ้าวหยุน หาใช่กองทหารธรรมดาพวกนี้

เมื่อจ้าวอี้เห็นเย่หยวนเต็มสองตา เขาก็พลันหน้าเสียโดยมิตั้งใจและร้องอุทานดังลั่นด้วยความตกใจยิ่งว่า

“เจ้า…เจ้าทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลางแล้ว!”

เย่หยวนมีเงินหลักหลายพันล้าน ด้วยทรัพยากรไร้จำกัดที่หนุนหลังเขาอยู่ ย่อมทำให้พัฒนาการของเขาพุ่งทานเร็วกว่าเดิมนับหลายสิบเท่า

เมื่อไม่นานมานี้ เย่หยวนก็ทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลางได้ในที่สุด

ยามนึกถึงตอนที่เย่หยวนจากไปในตอนนั้น เขาเพิ่งจะขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นต้นไปหมาดๆ เวลาผ่านไปแค่ยี่สิบปี กลับพัฒนาขึ้งถึงหนึ่งอาณาจักรพลังหลัก!

วคามเร็วในการบ่มเพาะพลังเช่นนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้นจ้าวอี้ยังรู้ด้วยว่า เย่หยวนหาใช้เซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าธรรมดาทั่วไป เขาสามารถข้ามระดับสัประยุทธ์ได้!

หากย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาที่เพิ่งทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรปัจฉิมพระเจ้า ได้นำกุ้ยหยุนเข้าต้านรับกับศิษย์สถานศึกษาทั้งห้า

ในหมู่พวกนั้นยังมีเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าขั้นสุดรวมอยู่ด้วยถึงสามคน!

แต่ผลการต่อสู้กับเป็นโศกนาฏกรรมของทั้งห้าแทน!

เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า

“แม้ทัพจ้าวอี้ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? พิธีต้อนรับดูใส่ใจข้าดีหนิ!”

เย่หยวนนำมือทั้งสองข้างไพล่หลัง แผ่ขุมพลังประดุจจ้าวพิภพ

จ้าวอี้ยามนี้แทบจะหายใจหายคอไม่ออก สถานะของเย่หยวนในตอนนี้หาใช่ศิษย์คนสำคัญของสถานศึกษาอีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องยั้งมือเช่นกัน!

ดวงตาคู่นั้นของจ้าวอี้หรี่แคบลงเล็กน้อย เอ่ยกล่าวเสียงเย็นชืดดังว่า

“ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้ เจ้าจะเติบโตไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เจ้าควรทราบไว้ ต่อหน้าท่านเจ้าเมือง ตัวเจ้ากลับไม่นับเป็นอันใด!”

เย่หยวนเค้นเสียงตอบอย่างคร้านจะใส่ใจว่า

“แล้ว?”

จ้าวอี้กล่าวว่า

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจมากเสียจริง ยอมแพ้ซะก่อนจะไม่มีโอกาส!”

เย่หยวนยิ้มและตอบว่า

“มีอะไรอีกไหม?”

จ้าวอี้กัดฟันแน่นเค้นเสียงเย็นตอก

“ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่าเจ้าในตอนนี้จะมีดีสักเพียงใด! ทั้งหมดถอยไป!”

ภายใต้คำสั่งการของจ้าวอี้ กองทหารเหล่านั้นเร่งถอยห่างออกไปทันที

ศึกสัประยุทธ์นี้ หาใช่สิ่งที่ระดับชั้นอย่างพวกเขาจะเข้าไปมีส่วนร่วมได้

แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่า แม้ทัพของพวกเขาจะหวาดกลัวไอ้เด็กเหลือขอตรงหน้าได้

อาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้นหรือจะพ่ายให้แก่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลาง?

ต้องล้อเล่นกันไปใหญ่แล้ว!

“นี่ข้ามิได้ตาฝาดไปใช่ไหม? เย่หยวนคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดหรืออย่างไร? เพียงยี่สิบปีสามารถพัฒนาได้ไกลถึงเพียงนี้?!”

“แต่ถึงแบบนั้น อีกฝ่ายก็หาใช่คู่มือของแม่ทัพจ้าวอี้อยู่ดี ท่านเป็นถึงยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้น นี่หาใช่สิ่งที่เย่หยวนจะต่อกรได้เลย!”

“เฮ้ออ..ท้ายที่สุดนี้เย่หยวนยังคงใจร้อนดั่งวัยหนุ่มสาวเกินไป ถึงกลับมาแก้แค้นเร็วปานนี้ หากเขาอดทนรออีกสักร้อยปี บางทีเขาอาจทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้ก่อนก็เป็นได้ ในเวลานั้นค่อยกลับมาแก้แค้นก็ยังไม่สาย!”

บนท้องถนนไกลลับออกไป หนึ่งทวนปะทะชนหนึ่งดาบ กระแสพลังคลื่นคลั่งพลันสะพัดไพศาลไปไกล

ยอดอัจฉริยะอย่างเย่หยวนหาได้ยากยิ่ง กล่าวได้ว่าแสนปีจะพบเจอได้สักครั้ง

วันนี้กลับไม่มีใครคาดคิดเลยว่า เย่หยวนกลับเดินมาหากับดักเสียเอง

จ้าวอี้เหวี่ยงทวนยาวในมือพร้อมระเบิดขุมพลังอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้นออกมาจนล้นปรี่

รัศมีกลิ่นอายสุดทรงพลังเช่นนี้นับเป็นการดำรงอยู่ของเทพในเมืองหลวงหวู่เมิ่งแห่งนี้

ไกลออกไป ทุกคนต่างเฝ้ามองจับจ้องภาพฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ

เข้าสัประยุทธ์กับยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้นเช่นนี้ กล่าวได้ว่ารับมือยากเย็นเกินไป

แต่เย่หยวนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับยังคงรักษาท่าทีอันสงบนิ่งและหาได้แยแสต่อพลังแรงกดดันเหล่านั้นเลย

จ้าวอี้แอบตตื่นตระหนกเล็กน้อยภายในใจ เขาไม่สามารถโจมตีเข้าจุดตายตามร่างกายของเย่หยวนได้เลย!

ตามที่คาดการณ์ไว้ไม่มีผิด ความแข็งแกร่งของเด็กคนนี้มิสามารถเปรียบเทียบได้กับเมื่อก่อนแล้วจริงๆ ศึกสัประยุทธ์ครั้งนี้ เขาไม่สามารถประมาทได้เด็ดขาด!

จ้าวอี้ครุ่นคิดกับตัวเองภายในใจ

การที่เข้าก้าวย่างถึงขอบเขตราชันพระเจ้าครึ่งขั้นนี้ทำให้เขาอ่อนไหวต่อความผันผวนของพลังปราณเทวะโดยรอบอย่างมาก

แม้ว่ารัศมีแรงกดดันของเย่หยวนจะอ่อนแอกว่าเขามาก แต่ไม่รู้ว่าเหตุใด ไฉนเย่หยวนถึงส่งกลิ่นอายภัยอันตรายแก่เขาได้มากขนาดนี้

ความรู้สึกเช่นนี้มันแปลกมาก!

“เพลงทวนสุริยันผลาญ!”

ในที่สุดจ้าวอี้ก็สำแดงเดชไม่คิดรั้นรอนฝีมืออันใดอีกต่อไป

แต่เขาก็ตระหนักดีว่าการที่ตัวเองต้องเอาจริงขนาดนี้กลับเด็กคนหนึ่ง มันเท่ากับว่าตัวเขาพ่ายแพ้ลงไปแล้ว

เพราะสุดท้ายนี้เขาก็ไม่สามารถเสาะหาจุดอ่อนของเย่หยวนได้เจอเลย!

แต่ทันทีทันใดห้วงอากาศโดยรอบพลันแตกสลายเป็ยเสี่ยงในพริบตา!

ณ เวลานี้ เย่หยวนเริ่มเคลื่อนไหวบ้างแล้ว! สายตาการจับจ้องของจ้าวอี้ดูจริงจังขึ้นถนัดตา กระบวนเคลื่อนไหวของเย่หยวนเริ่มพร่ามัวขึ้นในสายตาของเขา

นี่…นี่เขาเห็นผิดไปหรือเปล่า!

เดี๋ยวก่อน!

เขาซึ่งเป็นถึงยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้นจะมาตามความเร็วของอีกฝ่ายไม่ทันได้อย่างไร?

ทันใดนั้นเอง พลังปรากฏเสียงระฆังแห่งความตายแจ้งเตือนหายนะขึ้นกลางใจจ้าวอี้!

สังหรณ์ใจสุดแสนอันตรายครั้นใหญ่หลวงถาโถมเข้ามาสู่จิตใจไม่หยุดหย่อน เสมือนคมดาบเล่มนี้ที่พวยพุ่งผ่านห้วงมิติอันว่างเปล่าฉีกทุกกฎธรรมชาติพร้อมกระซวกร่างของเขา!

จ้าวอี้ตื่นตะลึงยิ่งยวด โดยสัญชาตญาณดิบ เขารีบยกทวนขึ้นป้องกันในทันใด

เกร๊งงง!

ทั้งสองตีฝีเท้าแยกห่างออกไปทันทีคล้อยหลังการปะทะ

จ้าวอี้กดสายตาจับจ้องเย่หยวนเขม็ง ราวกับว่านี่มิใช่ความจริง

“เจ้า…เจ้าบรรลุแนวคิดแห่งห้วงมิติแล้วจริงๆ!”

ความตื่นตะลึงนี้เกินขอบเขตความสามัญสำนึกของจ้าวอี้ไปไกลโขแล้ว นั้นเป็นแนวคิดแห่งห้วงมิติ หนึ่งในสองแนวคิดในตำนาน!

เขาที่ทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้น ยังไม่สามารถทำความเข้าใจต่อแนวคิดแห่งห้วงมิติได้เลยสักนิด ที่เขาสามารถหยิบยืมเศษเสี้ยวพลังแห่งห้วงมิติมาได้ ทั้งหมดเป็นเพราะพลังปฐพี

กระบวนดาบก่อนหน้าเป็นที่ชัดเจนว่ามีแนวคิดแห่งห้วงมิติหลอมรวมอยู่ด้วยจริงๆ!

เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า

“นี่หรือคือความแข็งแกร่งของยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้น? อ่อนแอสิ้นดี! เตรียมรับกระบวน!”

สิ้นเสียงเย่หยวน ร่างของเขาอันตรธานหายวับลับสายตาไปทันที

เพลงดาบเมฆาลับแล!

จ้าวอี้ตื่นตูมตกใจยิ่งและรีบยกทวนขึ้นเตรียมเผชิญพบศัตรู

ทันทีที่ทราบว่าเย่หยวนเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติแล้ว เขาก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าอีกต่อไป

เพียงเสี้ยวพริบตาที่ประมาท คมดาบของเย่หยวนอาจคร่าชีวิตของเขาได้ทุกเมื่อ

ในเวลานั้นเอง พลันปรากฏอีกสองร่างพุ่งตรงเข้ามาเป็นกำลังเสริม

“ฮ่าๆๆๆ จ้าวอี้ เจ้านี่มันไร้ประโยชน์สิ้นดี! กับอีแค่เด็กน้อยอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลางยังจัดการไม่ได้!”

เมื่อฉินจ้าวหยุนเห็นว่าจ้าวอี้ไม่สามารถเอาชนะเย่หยวนได้เสียที หลังจากสัประยุทธ์กันมาเป็นยเวลานาน ในที่สุดเขาจึงรีบตรงมาสมทบและหัวเราะเยาะใส่

…………………………………