ตอนที่ 576: เค้นความลับ

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 576: เค้นความลับ

 

แม้ว่าจูเก๋อหยุนจะเสียใจ แต่ตอนนี้ก็ไม่มียาแก้เสียใจให้กิน อีกฝ่ายฆ่ามาถึงตรงหน้าแล้ว แถมยังควบคุมผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอีกสองคน เขามีแค่ตัวคนเดียวคงสู้อะไรไม่ได้ คงต้องหาทางหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

 

“สหายท่านนี้ ตัวเข้าจูเก๋อหยุนขอสาบานว่าตลอดชีวิตจะไม่ขอเหยียบเข้าไปในอาณาจักรเทียนหลงแม้แต่ครึ่งก้าวอย่างแน่นอน! ส่วนค่าชดใช้นั้น ข้าสามารถใช้สมบัติทุกอย่างเป็นค่าชดใช้ หากว่ายังไม่พอ เจ้าสามารถบอกมาได้ ข้าจะไปหามาให้เจ้า!”

 

จูเก๋อหยุนยังไม่อยากตาย แม้ว่าเขาจะแก่แล้ว แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปี เขารู้ว่าไม่มีทางที่จะถูกปล่อยตัวไปง่ายๆ ดังนั้นจึงได้เสนอว่าจะชดใช้ออกมา ต่อให้ต้องเสียสมบัติทุกอย่าง เขาก็ยอม

 

ก็ใครใช้ให้พวกเขาไปตอแยปีศาจตนนี้เข้ากัน พลังที่น่าสะพรึงของอีกฝ่าย ไม่ใช่อะไรที่คนอย่างพวกเขาจะไปตอแยได้ ตอนนี้ในใจของเขารู้สึกเสียใจจนลําไส้บิดเขียว หากว่าเขาไม่รับปากว่าจะร่วมมือกับอีกสามอาณาจักรโจมตีเข้าไปแล้วล่ะก็ มันก็คงจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น

 

“เจ้าคิดว่าปานนี้แล้วคําพูดพวกนี้ยังจะมีความหมายอยู่อย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนมองเขาพร้อมกับพูดออกมาเบาๆ “ตราบเท่าที่จัดการกับเจ้า ทั่วทั้งอาณาจักรก็จะเป็นของข้า แล้วค่าชดใช้ของเจ้ายังจะมีความหมายอยู่หรือไง?”

 

จูเก๋อหยุนหน้าเปลี่ยนสี คําพูดนี้ก็ถูก เขาได้สูญเสียสิทธิ์ในการต่อรองไปแล้ว อาณาจักรของเขาจากนี้ไปจะตกเป็นของอี้เทียนหยุน แล้วอย่างนี้ยังจะคุยเรื่องค่าชดใช้ไปอีกทําไม?

 

มีเพียงแค่อาณาจักรที่สามารถต่อสู้ยืดเยื้อในสงครามได้เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เจรจา ตอนนี้จูเก๋อหลงได้สูญเสียสิทธิ์นั้นแล้ว ตราบเท่าที่เขาตาย อาณาจักรของเขาก็กลายเป็นกลุ่มคนที่ไร้ผู้นําในทันที ทั้งตอนนี้ยังต้องประสบกับความสูญเสียที่สาหัส ต้องไม่สามารถต้านทานความโกรธของผู้คนเอาไว้ได้ ดังนั้นจะต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

อึดใจต่อมา จูเก๋อหยุนก็หมุนตัววิ่งหนีไป วิ่งหนีไปอีกฝั่งด้วยความเร็วสูงสุด ในตอนนี้เขามีเพียงความคิดนี้เท่านั้น นั่นคือหนี! อาณาจักรอะไรนั่นเขาไม่ต้องการ! เขาต้องการมีชีวิตอยู่

 

แน่นอนว่าอี้เทียนหยุนย่อมไม่ปล่อยให้เขาหนีไป เขาทําการโบกมือเบาๆ ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณทั้งสองก็รีบไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็ไปขวางอยู่ด้านหน้าของจูเก๋อหยุนพร้อมกับโอบล้อมเขาเอาไว้

 

ระดับของพวกเขาแข็งแกร่งที่สุด แล้วแบบนี้ดูเก๋อหยุนจะไปหนีพ้นได้ยังไง?

 

“เจ้าคนทรยศ!” จูเก๋อหยุนมีสีหน้าน่าเกลียด ตอนนี้เขาบาดเจ็บอยู่ ทําให้ไม่สามารถใช้พลังเต็มที่ได้ ไม่มีทางที่จะหนีไปจากวงล้อมของพวกเขาได้อย่างแน่นอน

 

“พวกเราไม่ได้ทรยศ…. นี่ข้าพูดได้แล้วเหรอ? บัดซบเอ๊ย ไม่รู้ว่าเจ้าหนูนั่นใช้คาถาอะไร ข้าก็ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เหมือนกัน!”

 

“ข้าก็ด้วย ไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ ช่างเป็นปัญหาจริงๆ…”

 

พวกเขาหน้าซีดขาว พวกเขาไม่เคยเห็นคาถาที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆ ก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้

 

จูเก๋อหยุนหน้าเปลี่ยนสี หลังจากนั้นก็หันกลับไปมองด้วยสีหน้ากล้าๆ กลัวๆ เทียนหยุนยังยืนอยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว ขณะที่ไขว้มือไว้ข้างหลังแล้วมองตรงมาที่นี่

 

“จะคุยกันข้าไม่ว่า แต่อย่าหยุดมือส” อี้เทียนหยุนยิ้มพลางโบกมือ เขาไม่อยากลงมือด้วยตัวเอง จึงให้ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณทั้งสองลงมือแทน

 

พวกเขาเริ่มโจมตีเข้าใส่อดีตจักรพรรดิหลงหยุนอย่างบ้าคลั่ง ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงร้องบอกออกมาไม่หยุด อีเทียนหยุนคอยจับตาดูอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจูเก๋อหยุนจะสบถ่าด้วยความโกรธแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ สุดท้ายก็ไม่สามารถหนีไปได้ พร้อมกับร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

 

“ติ๊ง ท่านสังหารจูเก๋อหยุนสําเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 130 ล้าน, ค่าความคลั่ง 8,000, ค่าความชั่ว 2,300, ได้รับวิชายุทธ์ วิชาลับเทียนจี, วิชาหักเทวะ, ได้รับไอเทม วงล้อเทียนจี(หายาก), ยันต์เทียนจี(หายาก), พัดเทียนจี(ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง)”

 

หากหุ่นเชิดที่ควบคุมสังหารศัตรู เขาก็ยังจะได้รับค่าประสบการณ์เหมือนกัน เรื่องนี้ได้รับการยืนยันแล้ว ไม่อย่างนั้น การที่เขาให้อดีตจักรพรรดิทั้งสองลงมือ คงจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของเขา

 

“กลับมา”

 

อี้เทียนหยุนโบกมือ พวกเขาก็รีบกลับมาที่ด้านหน้าของเขาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าน่าเกลียดร่างของพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่ว่าในใจของพวกเขานั้นโกรธอย่างมาก แต่ก็ทําอะไรไม่ได้ ขนาดจะฆ่าตัวตายยังทําไม่สําเร็จเลย

 

“จะฆ่าก็ฆ่า จะทําอะไรก็ทํา!”

 

“ใช่ จะฆ่าก็ฆ่า ไม่ต้องพูดมาก!”

 

พวกเขาโกรธอย่างมาก ในฐานะอดีตจักรพรรดิ การที่ต้องถูกทําเหมือนเป็นหุ่นเชิดอย่างนี้ ทําให้พวกเขารู้สึกเสียหน้าจริงๆ พวกเขายอมตายเสียยังดีกว่าที่จะต้องถูกอี้เทียนหยุนควบคุมอย่างไม่เต็มใจอย่างนี้

 

หากว่าต้องถูกควบคุมจนตาย แค่คิดก็รู้สึกกลัวแล้ว

 

“วางใจเถอะ พวกเจ้าจะได้ตายกันอย่างแน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น ข้ามีคําถามอยากจะถาม” อี้เทียนหยุนชี้ไปยังอดีตจักรพรรดิเซียว แล้วพูดอย่างเฉยชาว่า “ข้าได้ถามพวกลูกชายของพวกเจ้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร แท้จริงแล้ว ทําไมพวกเจ้าถึงได้เลือกโจมตีอาณาจักรเทียนหลงและวังเทียนหยุน?”

 

“เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงให้พวกเรารวมตัวกับอาณาจักรอื่นเพื่อโจมตีอาณาจักรเทียนหลงและวังเทียนหยุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวังเทียนหยุน ไม่ว่ายังไงก็ต้องเอามาให้ได้! พวกเรารู้ว่าอาณาจักรเทียนหลงและวังเทียนหยุนมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้นจึงได้วางแผนทําลายอาณาจักรเทียนหลงก่อน จากนั้นจึงค่อยทําลายวังเทียนหยุน” อดีตจักรพรรดิเซียวตอบตามความจริง โดยที่ไม่มีการปิดบัง

 

อดีตจักรพรรดิหลงหยุนก็ตอบเหมือนกัน “เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงให้พวกเราทํา หากว่าทําภารกิจนี้ได้สําเร็จ พวกเขาจะให้ที่ลี้ภัยที่แข็งแกร่งกับพวกเรา ทั้งยังมอบอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์จํานวนมากด้วย กระทั่งสมบัติลับเทียนหลงเอง พวกเขาก็จะมอบให้พวกเรา!”

 

“เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงจริงๆ” สายตาอี้เทียนหยุนเย็นชา เขาไม่ได้ข้อมูลนี้จากปากของมหาจักรพรรดิทั้งสี่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับบุตรชายของตน

 

คิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงไม่รู้วิธีที่จะจัดการกับตน ดังนั้น พวกเขาจึงได้ระดมขุมอํานาจระดับอาณาจักรของที่นี่ให้จัดการกับวังเทียนหยุน

 

ดูเหมือนว่าคราวก่อนจะมีปลาหลุดรอดร่างแหไปได้ ทําให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงรู้ จึงได้พาอาณาจักรทั้งสี่เข้าโอบล้อม

 

“นอกจากนี้ พวกเขายังให้สัญญาอะไรกับพวกเจ้าอีกบ้าง?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“ไม่มี นอกจากสัญญาว่าจะให้ที่คุ้มภัยยามพวกเราไปที่โลกใต้พิภพกับสมบัติจํานวนมากแล้ว ก็ไม่มีอะไรอีก” อดีตจักรพรรดิเซียวเทียนตอบอย่างสัตย์จริง

 

“ดังนั้น พวกเจ้าก็เลยลงมืออย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างดูถูก

 

“ใช่ นี่คือขุมอํานาจระดับอาณาจักร อีกทั้งพวกเขายังมอบผลประโยชน์จํานวนมากให้กับพวกเรา ดังนั้นพวกเราจึงรับปาก กับอาณาจักรเทียนหลงที่อ่อนแอแล้ว การจะลบมันทิ้งไม่ได้เปลืองแรงอะไร แต่ใครจะคิดว่าทูตของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงจะบอกกับพวกเราว่า วังเทียนหยุนนั้นร้ายกาจมาก จําเป็นต้องใช้ถึงสี่อาณาจักรเพื่อจัดการ”

 

“ตอนแรกพวกเราก็ไม่เชื่อหรอก ก็แค่ขุมอํานาจชั้น 3 ที่อ่อนแอ จะแข็งแกร่งได้สักแค่ไหนกัน แต่ก็ยังเลือกที่จะส่งกองทัพออกไป แต่ไม่คิดเลยว่าจะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูได้”

 

พวกเขาดูราวกับเป็นสหายกัน แต่คําที่สารภาพออกมา ต่างก็ทําให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นความลับอะไร ต่างก็ถูกเค้นออกมา โดยที่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ต่อต้านได้เลย

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า เขาพอจะเข้าใจเรื่องคร่าวๆ แล้ว ที่แท้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิง!

 

“คิดจะแก้เผ็ดข้า” อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา หากไม่ใช่แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงให้พวกเขาทํา พวกเขายังจะอย่างนี้กับเขาอยู่ไหม?

 

คงพูดได้แค่ว่านี่เป็นกฎแห่งปา พวกเขาทําถูกแล้ว แต่ผิดที่หาเรื่องเขา!

 

“เอาล่ะ พวกเจ้าตายได้แล้ว” อี้เทียนหยุนโบกมืออย่างไม่แยแส “ส่วนอาณาจักรพวกเจ้า ข้าจะเป็นคนจัดการเองลงไปอยู่เป็นเพื่อนบุตรชายของพวกเจ้าอย่างสงบเถอะ อีกไม่นาน คนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงก็จะตามพวกเจ้าลงไปด้วย”

 

เมื่อเขาโบกมือ ในสายตาของอดีตจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองก็ปรากฏความเสียใจไม่สิ้นสุด แต่ว่าทุกอย่างก็ได้สายไปแล้ว