ตอนที่ 561 ต่อหน้าไม่รู้จัก / ตอนที่ 562 ปรับตัว

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 561 ต่อหน้าไม่รู้จัก

 

 

เหยียนเฟิงเวลาทำอะไรไม่ชอบการยืดเยื้อ แต่การที่เขาเลื่อนเวลาออกไปเป็นชั่วโมงแบบนี้แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากเจอสวีอิ๋งอิ๋ง ก็คงมีแต่สวีอิ๋งอิ๋งนี่แหล่ะทียินดีจะรอ ถ้าเป็นเธอคงกลับไปนานแล้ว

 

 

เบลล์ใส่เสื้อคลุมเรียบร้อยเตรียมจะกลับก็เห็นร่างคุ้นเคยเดินเข้ามาในร้านทำให้เธอหยุดชะงักการกระทำ

 

 

“พี่สาว คนนี้ใช่คนที่พี่รอหรือเปล่า”

 

 

เป็นคนที่เธอรออยู่หรือเปล่า เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เธอรู้แต่ว่าพอคนคนนี้ปรากฏในสายตาของตนตนถึงได้รู้ว่าหากคนไหนที่เธอคิดว่าไม่สำคัญคนนั้นจะไม่มีอิทธิพลอะไรต่อเธอเลย

 

 

เหยียนเฟิงมองเห็นสวีอิ๋งอิ๋งก็รู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก ความจริงไม่อยากจะมาแต่สวีอิ๋งอิ๋งก็เอาแต่โวยวาย เขาจึงต้องจำใจมาโดยพาคู่ควงมาด้วย

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งเห็นว่าชายหนุ่มพาหญิงสาวอีกคนมาด้วยก็เริ่มอาละวาด สาดน้ำชาออกไปที่หล่อน

 

 

เหยียนเฟิงยกมือขึ้นเอาตัวบังผู้หญิงที่สวมชุดแดงให้มาอยู่ข้างหลังเอาแทน เอ่ยถามอย่างโมโห “เธอทำอะไร!”

 

 

เบลล์นั่งมองดูฉากฮีโร่ช่วยสาวงามอย่างไร้อารมณ์ เหยียนเค่อกับเหยียนเฟิงไม่เหมือนพี่น้องกันจริงๆ น่าอิจฉาซย่าเสี่ยวมั่วที่ได้เจอผู้ชายอย่างเหยียนเค่อ แต่ก้ทำได้แค่อิจฉา กลับมาดูละครต้องหน้าดูจะสมจริงกว่า

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งเห็นเหยียนเฟิงออกโรงปกป้องผู้หญิงคนนั้นจึงไม่ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น นั่งร้องไห้อยู่บนเบาะนั่งที่พื้น

 

 

“นางผู้หญิงนี่มันคือใคร”

 

 

“ที่รักคะ ฉัน…” ดาราสาวกลัวจนต้องหลบอยู่หลังเหยียนเฟิง แต่สายตาชอบใจนั้นก็หลบไม่พ้นสายตาของเหยียนเฟิงที่อยู่วงการนี้มานานอยู่ดี

 

 

“ไม่ต้องกลัว คุณไปรอทางนู้นก่อน ผมเคลียร์ทางนี้เสร็จจะไปส่งคุณ” เหยียนเฟิงตบหลังมือหญิงสาวพร้อมเอ่ยปลอบเสียงนุ่ม

 

 

ด้วยสถานการณ์ตรงหน้านี้ สวีอิ๋งอิ๋งไม่ได้ตาบอดจึงมองออกว่าชายหนุ่มอยู่ข้างใคร

 

 

“พี่ พี่รับปากว่าจะแต่งงานกับฉันไม่ใช่เหรอ”

 

 

เบลล์จนปัญญากับสติปัญญาของสวีอิ๋งอิ๋งจริงๆ เธอใส่เสื้อเตรียมพร้อมอีกครั้ง กะว่าถ้าเหยียนเฟิงพาผู้หญิงคนนั้นกลับไปเธอก็จะกลับเหมือนกัน

 

 

“พวกนายคอยดูแล้วกัน ฉันกลับล่ะ” เบลล์มองคนทั้งคู่ที่อยู่ในจอแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินไป

 

 

“ถึงพี่จะไม่ชอบฉัน แล้วเลขาคนก่อนของพี่ล่ะ!” สวีอิ๋งอิ๋งมองไปรอบๆก็ไม่กล้าอาละวาดราวกับอยู่บ้านตัวเอง

 

 

เบลล์มองลอดช่องประตูไม้เข้าไปด้านใน เป็นเวลาเดียวกับเหยียนเฟิงเบนสายตาหนีอย่างหงุดหงิดมาทางนี้พอดี จึงได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อขนเป็ดหนาสีดำ ใส่แว่นตาดำ แล้วปิดผ้าปิดปาก เดินออกไปด้านนอก ไม่เคยเจอกันแท้ๆแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด จึงอดเดินตามออกไปไม่ได้

 

 

“พี่อย่าคบคนอื่นได้ไหม”

 

 

เหยียนเฟิงได้ยินเสียงร้องไห้ของหล่อนก็ได้สติ เอ่ยเสียงดังขึ้นหน่อย “หยุดโวยวายได้แล้ว ฉันจะไม่แต่งงานกับพวกหล่อน พอใจไหม”

 

 

เบลล์ได้ยินเสียงชายหนุ่มชัดเจน อดชื่นชมในศิลปะการพูดของชายหนุ่มไม่ได้ เขาจะไม่มีทางแต่งงานกับหญิงพวกนั้นรวมถึงสวีอิ๋งอิ๋งด้วย

 

 

“จริงเหรอ” สวีอิ๋งอิ๋งยอมรับได้ที่ชายหนุ่มจะไปยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้น แต่เธอรับไม่ได้ถ้าผู้หญิงพวกนั้นจะมาแทนที่หล่อน

 

 

เหยียนเฟิงพยักหน้า “ดึกมากแล้ว เธอกลับไปก่อนนะ” เหยียนเฟิงพูดเสร็จก็จูงดาราสาวออกไป

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งเอามือกำเบาะรองนั่งที่ตนนั่งอยู่แน่น มองไปแผ่นหลังของชายหนุ่มที่ค่อยๆห่างออกไปอย่างพร่ามัว ในใจมีแต่ความริษยา

 

 

เบลล์เจอหน้าชายหนุ่มไม่ต้องรู้สึกหวาดกลัวเหมือนแต่ก่อนอีก ความรู้สึกที่เจอหน้าแล้วไม่ต้องเอ่ยทักทายนี่มันดีจริงๆ

 

 

หลังจากที่เบลล์ลาออกจากบริษัทตระกูลเหยียน ก็ทำตามคำแนะนำของเหยียนเค่อโดยการไปยืดผมตรงและย้อมสีผมกลับเป็นสีดำ สไตล์การแต่งตัวก็เปลี่ยนจากผู้หญิงมั่นใจหรูหราเป็นแนวการแต่งตัวของสาววัยใสๆแทน

 

 

เดิมทีเธอก็ชอบแต่งตัวสบายๆอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องแต่งตัวจัดจ้านเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเหยียนเฟิงอีก เธอย่อมพอใจเป็นธรรมดา ตอนนี้ต่อให้เหยียนเฟิงเดินอยู่ข้างหลังเธอก็ไม่มีทางจำเธอได้แน่นอน

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 562 ปรับตัว

 

 

หลังจากเหยียนเค่อกินข้าวเสร็จก็พาเจ้าโกลเด้นไปเดินเล่นแถวๆ ที่พักของซย่าเสี่ยวมั่ว เจ้าโกลเด้นโกลเด้นดูร่าเริงมาก เห็นได้ชัดว่าพอมันได้มาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยอาการรู้สึกไม่ปลอดภัยก็หายไปกว่าครึ่ง

 

 

“เดี๋ยวต้องกลับไปอยู่กับฉัน ถ้าแกไม่เชื่อฟัง ฉันจะส่งแกกลับไปอยู่กับฉินซื่อหลานนะ”

 

 

เจ้าโกลเด้นฟังไม่รู้เรื่องว่าเหยียนเค่อกำลังข่มขู่ตัวเองอยู่ ใช้กรงเล็บข่วนไปที่ต้นไม้ใบหญ้าแถวนั้น

 

 

“สกปรก ห้ามแตะ” เหยียนเค่อรีบดึงเชือกพามันออกไปจากสถานที่แปลกๆตรงนี้

 

 

แต่ก่อนเวลาซย่าเสี่ยวมั่วเดินอยู่บนถนนก็ชอบเอามือไปจับพวกต้นไม้ใบหญ้าหรือพวกดินโคลนที่เจอตามทางเหมือนกัน เฮ้อ ช่างเหมือนคนที่เลี้ยงแกมาจริงๆ

 

 

เหยียนเค่อเดินอย่างช้าๆอยู่บนถนนกว้าง เวลากลางดึกในช่วงหน้าหนาวแบบนี้นอกจากรถที่วิ่งไปมาแล้วก็แทบไม่เห็นคนตามท้องถนน อาจจะมีเห็นบ้างแต่ก็ต่างเดินกันอย่างรีบร้อน มีแต่เหยียนเค่อคนเดียวที่เดินหน้านิ่งจูงหมาอย่างไม่รีบร้อนอยู่บนถนน

 

 

เดินไปได้รอบหนึ่งก็พาเจ้าโกลเด้นกลับบ้าน พอจับมันยัดใส่รถได้เสร็จก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอดี

 

 

“พี่” เหยียนเค่อเห็นพี่ชายตนโทรหาก็ค่อนข้างแปลกใจ

 

 

เหยียนเฟิงส่งดาราสาวลงกลางทางแล้วก็นึกถึงเรื่องที่พ่อวานให้ทำขึ้นมาได้ จึงจอดรถไปข้างทางแล้วโทรหาน้องชาย

 

 

“พ่ออยากให้นายกลับบ้าน คราวก่อนบอกฉันไว้”

 

 

เหยียนเค่อก็รู้ว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องคราวที่แล้ว เหยียนเฟิงก็คงกลัวว่าพ่อจะสืบหาความจริงต่อเลยรีบโทรเรียกเขากลับบ้าน ทั้งที่ความจริงแล้วคนที่ไม่อยากให้เขากลับไปที่สุดก็คงจะเป็นพี่ชายตนเอง

 

 

“พรุ่งนี้ผมจะเข้าไป” คราวที่แล้วที่ผู้เฒ่าอิ๋นเข้าโรงพยาบาลบวกกับข่าวลือในช่วงนี้ ไม่รู้ว่าพ่อจะสั่งสอนอะไรเขาอีก

 

 

เหยียนเฟิงรับคำว่าตนเองรับรู้แล้ว จากนั้นก็วางสายไป

 

 

มือที่ถือโทรศัพท์โดนลมหนาวพัดจนรู้สึกชา พอขึ้นมาบนรถก็เอามือไปอังไว้ตรงแอร์

 

 

สมองเขาต้องมีปัญหาแน่ๆเลยถึงได้ยินคุยโทรศัพท์อยู่นอกรถ เหยียนเค่อเอาโทรศัพท์ไว้ที่คอนโซลรถ หลังจากรู้สึกอุ่นขึ้นแล้วจึงขับรถกลับบ้าน

 

 

เจ้าโกลเด้นมองไฟสัญญาณจราจรที่เปลี่ยนสีไปมาอย่างตื่นเต้น มองไปที่หน้าต่างแล้วเห่าออกมาเป็นพักๆ

 

 

“คนที่ขับรถไม่เป็นอย่างซย่าเสี่ยวมั่วไม่เคยพาแกออกมานั่งรถเล่นแบบนี้ใช่ไหม” จู่ๆเหยียนเค่อก็รู้สึกสงสารมัน อยู่กับเจ้านายอย่างซย่าเสี่ยวมั่วแค่เรื่องง่ายๆแบบนี้ยังไม่เคยได้รับ

 

 

“โฮ่งๆ” ขาหน้าด้านซ้ายของเจ้าโกลเด้นตะกายไปที่ไหล่ของเหยียนเค่อ 

 

 

เหยียนเค่อเหล่มองมันนิดหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

 

 

“เท้าแกสะอาดหรือเปล่าเนี่ย”

 

 

คนที่กำลังเบื่อๆเริ่มคุยกับหมา คุยไปได้ไม่เท่าไหร่ก็กลับมาถึงบ้าน

 

 

เหยียนเค่อยังนึกว่ายังไงก็ต้องปรับตัวกับเจ้าโกลเด้นสักหน่อย ว่าที่ไหนไปได้ที่ไหนไม่ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าพอเดินเข้าประตูมาแล้วเขายังไม่ทันได้ปลดเชือกที่ปลอกคอเจ้าโกลเด้นก็วิ่งไปทั่วจนห้องรกไปหมดทั้งห้อง

 

 

“หยุดเดี๋ยวนี้ ห้ามเข้าไปในห้องนอนฉัน”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่ให้เจ้าโกลเด้นเข้าไปในห้องนอนเหมือนกัน ดังนั้นมันเลยชินแล้วที่จะเล่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ไม่สนใจห้องอื่น

 

 

“จะทนไม่ไหวเแล้วนะ” เหยียนเค่อเอามือตบหน้าผาก เขาออกของไปจัดวางไว้ให้ที่ระเบียง เดินนำมันที่เดินตามกลิ่นถาดอาหารมา แล้วยกห้องน้ำด้านนอกให้มันใช้

 

 

“ต่อไปนี้แกจัดการตัวเองต้องนี้ อย่าคิดว่าฉันจะช่วยนะ”

 

 

ให้เหยียนเค่อมาคอยเช็ดก้นให้หมาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่าหมาของซย่าเสี่ยวมั่วตัวนี้มันจัดการอะไรแบบนี้ด้วยตัวเองได้เขาถึงได้ไปรับมันมาอยู่ด้วยอย่างสบายๆ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ หึหึ…

 

 

เจ้าโกลเด้นไม่รู้ว่าเหยียนเค่อรังเกียจมัน นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นพรมจากนั้นก็วิ่งไปวิ่งมาทั่วห้อง ราวกับว่าที่ที่มันวิ่งอยู่ไม่ใช่สถานที่แปลกถิ่นอะไร แต่นั่นก็ทำให้เหยียนเค่อวางใจไปไม่น้อย