ตอนที่ 563 พาหมากลับบ้าน / ตอนที่ 564 คลุมถุงชน

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 563 พาหมากลับบ้าน

 

 

หลายวันมานี้ซย่าเสี่ยวมั่วโดนตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่ว่าใครโทรหาเธอก็จะได้ยินเสียงนี้ “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ โปรดติดต่อใหม่ภายหลัง”

 

 

เดิมทีฉินซื่อหลานกะจะรายงานกับเจ้าของหมาสักหน่อย แต่เอาแต่ติดต่อไม่ได้ เขาเลยตัดสินใจไม่บอกเรื่องนี้กับซย่าเสี่ยวมั่ว ในความคิดเขาต่อให้เหยียนเค่อจะร้ายกาจอย่างไร ก็คงไม่ถึงขนาดใจดำจัดการสุนัขเพียงตัวหนึ่งหรอก

 

 

ความจริงซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่รับโทรศัพท์ เธอก็ยังสงสัยอยู่ว่าโทรศัพท์เธอเป็นอะไรถึงได้ดับไปหลายวันแล้ว พอออกมาจากภูเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน

 

 

เธอปวดหัวแต่ในขณะเดียวกันก็ดีใจด้วย

 

 

ดีนะที่เธอไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกลางภูเขา ถ้าเกินว่าติดอยู่บนเขาจริงๆเธอคงต้องหิวตายแน่ๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเลือกตอบสายที่สำคัญๆก่อน พอเห็นสายจากฉินซื่อหลานก็คิดว่าคงโทรมารายงานเรื่องเจ้าโกลเด้นเฉยๆจึงไม่ได้เอะใจอะไร ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้วางใจฉินซื่อหลานขนาดที่ไม่โทรกลับไปถามชายหนุ่ม

 

 

เหยียนเค่อพาเจ้าโกลเด้นกลับบ้านไปด้วยทำให้แม่เหยียนตกใจมาก

 

 

“ลูกชาย ลูกจิตใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” แม่เหยียนสงสัยจริงๆว่าลูกชายเลี้ยงหมาตัวนี้ไว้เพื่อรอกินเป็นอาหารหรือเปล่า

 

 

เหยียนเค่อไม่ตอบ จูงหมาไปทางห้องของตน “พ่อล่ะ”

 

 

“พ่อเรานึกว่าลูกจะมาตอนเย็นๆ เลยออกไปตกปลาแล้ว”

 

 

พูดแล้วก็บังเอิญจริงๆ ปกติพ่อเหยียนอยู่บ้านทุกวันแต่วันนี้เกิดนึกอารมณ์ดีขึ้นมาอยากออกไปตกปลาขึ้นมากแล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เหยียนเค่อกลับมาพอดี

 

 

“อย่างนั้นผมขึ้นไปนอนก่อนแล้วกัน” เหยียนเค่อเดินลากเจ้าโกลเด้นไปที่ห้องนอนตน

 

 

แม่เหยียนที่ยืนมองลูกชายจูงหมาเดินขึ้นไปข้างบนอย่างอึ้งๆ นี่คือลูกชายที่ถ้าเห็นสัตว์ต้องเดินหนีออกมาเป็นสิบเมตรของเธอจริงๆใช่ไหม

 

 

เมื่อคืนเหยียนเค่อโดนเจ้าโกลเด้นกวนจนแทบไม่ได้นอนหลับ ตอนนี้ไม่ให้มันเข้ามาในห้องนอนด้วยก็ไม่ได้

 

 

“แกนั่งนิ่งๆอยู่ตรงนี้นะ ห้ามก่อเรื่อง” เหยียนเค่อแตะไปเบาๆที่ขาของมัน เจ้าโกลเด้นส่ายหางดุกดิก เหยียนเดินไปนอนงีบต่อบนเตียง

 

 

เมื่อคืนหลังจากถึงบ้าน ตอนที่เหยียนเค่ออาบน้ำเจ้าโกลเด้นก็นั่งอยู่หน้าประตูห้องนอนเอาขาตะกุยประตูเป็นพักๆ แต่พอเขาอาบน้ำเสร็จเตรียมเข้านอนมันก็เริ่มก่อกวนมากขึ้น เหยียนเค่อหงุดหงิดจนแทบอยากจะมัดขาให้มันอยู่นิ่งๆ

 

 

เจ้าโกลเด้นมองขาของชายหนุ่มที่ยื่นออกมาจากผ้าห่ม จากนั้นก็ไปนั่งทับบนขาของชายหนุ่มแล้วกอดหางตัวเองเล่น

 

 

แม่เหยียนมาเคาะประตูเพื่อเรียกลูกชายไปกินข้าวแต่ไม่มีเสียงคนตอบรับ พอจะเรียกอีกประตูก็เปิดออก

 

 

แม่เหยียนมองเข้าไปด้านใน เห็นเจ้าโกลเด้นยืนอยู่หลังประตูมองมายังหล่อน

 

 

แม่เหยียนมองอยู่พักหนึ่งแล้วยื่นมือออกไปขยี้หัวมันเล่น

 

 

“ทำไมแกถึงเชื่องขนาดนี้นะ” หล่อนลูบหัวมันเบาๆ เมื่อเห็นว่ามันไม่กลัวคนก็ยิ่งชอบใจ

 

 

“สมแล้วที่เป็นหมาของลูกชายฉัน อัจฉริยะจริงๆ”

 

 

เหยียนเค่อถูกปลุกตื่นด้วยเสียงของแม่เหยียน เอ่ยไปอย่างหงุดหงิด “แม่”

 

 

“ทำลูกตื่นเหรอ” แม่เหยียนเพิ่งนึกได้ว่าลูกตนหลับอยู่ แต่เธอหลงใหลเจ้าโกลเด้นไปแล้ว

 

 

“อย่างนั้นลูกนอนต่อเถอะ แม่พามันลงไปเล่นด้านล่าง”

 

 

หลังจาจูงหมาไปก็ไม่หันกลับมามองเขาอีกเลย ทิ้งให้เหยีนเค่อนั่งอยู่บนเตียงคนเดียว

 

 

ตอนกินข้าวแม่เหยียนอยากจะให้เจ้าโกลเด้นขึ้นมานั่งด้วยหลายครั้ง แต่ก็ถูกสายตาพิฆาตจากลูกชายส่งมาให้

 

 

“ลูกเป็นเจ้าของมันแท้ๆทำไมถึงเย็นชากับมันขนาดนี้ล่ะ” แม่เหยียนยื่นเนื้อไปให้มัน

 

 

เหยียนเค่อเอ่ยอย่างจนปัญญา “มันกินเนื้อไม่ได้”

 

 

“เหลวไหล หมาที่ไหนกินเนื้อไม่ได้”

 

 

แม่เหยียนมองเขาราวกับกล่าวหาว่าทำไมเขาถึงใจร้ายขนาดนี้ เจ้าโกลเด้นก็เงยหน้าทำตาปริบๆมองมาที่เขา ทำเอาเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลวขึ้นมาทันที

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 564 คลุมถุงชน

 

 

“มันอดอาหารมาหลายวัน ตอนนี้ยังกินเนื้อไม่ได้” เหยียนเค่อมองไปทางเจ้าโกลเด้นแวบหนึ่ง พอมันเห็นว่าเห็นเค่อส่งสายตาไม่พอใจมาให้ก็ก้มหน้าไม่กล้าทำท่าทางน่ารักใส่อีก

 

 

“ลูกช่วยมันไว้เหรอ” ตั้งแต่เหยียนเค่อกลับมาบ้านก็ทำเธอแปลกใจไม่หยุดหย่อน ด้วยนิสัยของลูกชายที่ไม่ได้เป็นคนรักสัตว์ทำไมถึงได้เลี้ยงหมา

 

 

“ก็ประมาณนั้น” เหยียนเค่อเห็นแม่ตนมีท่าทางตื่นเต้นเหมือนอยากจะพูดอะไรต่ออีกถึงได้นึกได้ว่าตนลืมบอกเรื่องที่สำคัญที่สุด “หมาตัวนี้ไม่ใช่ของผม”

 

 

“หา” ความหวังของแม่เหยียนถูกดับลง เดิมทีเธออยากจอขอหมาตัวนี้จากลูกชายมาเลี้ยงเอง แต่มันดันไม่ใช่ของลูกเธอนี่สิ แต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ “เพื่อนลูกคนไหนนิสัยแย่ขนาดนี้ ปล่อยให้หมาอดอาหารได้”

 

 

“ไม่สนิทกัน ผมไม่รู้” เหยียนเค่อไม่ยอมเอ่ยถึง แม่เขาสงสัยมากเกินไปแล้ว เขาไม่อยากอธิบายเรื่องนี้

 

 

“ไม่สนิท? ลูกกลายเป็นพูดง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าแม่อดหารหารลูกยังไม่รู้ว่าจะกลับมาหาหรือเปล่า แต่นี้กลับยอมเลี้ยงหมาแทนคนอื่น” แม่เหยียนเริ่มสงสัยหนักขึ้นไปอีก

 

 

“แม่ไม่ต้องถามแล้ว ถ้าแม่ชอบเดี๋ยวผมไปหามาให้อีกตัว”

 

 

แม่เหยียนเค่อคิดได้ว่าหากตนยังเซ้าซี้ถามต่อลูกชายต้องหนีออกจากบ้านไปแน่ๆ จึงไม่คิดจะเอ่ยถามเรื่องส่วนตัวเขาอีก “อย่างนั้นถ้าเจ้าตัวนี้มีลูกเอาลูกมันมาให้แม่สักตัวได้ไหม”

 

 

เหยียนเค่อไม่เข้าใจจริงๆว่าแม่ตนจะชอบอะไรเจ้าโกลเด้นมันนักหนา เอ่ยแบ่งรับแบ่งสู้ “รอผมถามเจ้าของมันก่อนแล้วกันนะ”

 

 

พ่อเหยียนกลับมาจากการไปตกปลาก็เห็นลูกชายนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา ส่วนภรรยาก็นั่งกอดมาตัวใหญ่ตัวหนึ่งอยู่ที่อีกด้านของโซฟา ประเด็นคือนี่มันใช่ของเล่นไหม

 

 

“นี่มันอะไรกัน!” พ่อเหยียนเห็นเข้าก็โมโห “กลับมาบ้านแต่ละทีก็เอาอะไรมาไม่รู้ คราวนี้ถึงกับเอาหมาแมวเข้ามาเลยหรือไง”

 

 

เหยียนเค่อขมวดคิ้ว ปล่อยให้คนเป็นพ่อพูดจบก็ยังไม่เอ่ยตอบอะไร กวักมือเรียกเจ้าโกลเด้นมาหาตน

 

 

แม่เหยียนก็ถูกพ่อเหยียนทำให้ตกใจ ต่อให้นิสัยอ่อนโยนอย่างไรโดนตะคอกเสียงดังแบบนี้ก็อดโมโหขึ้นบ้างไม่ได้ “คุณเป็นบ้าอะไร ตาไหนของคุณมองเห็นว่าลูกเป็นคนเอาหมาเข้ามา ฉันเป็นคนซื้อมาเองจะทำไม”

 

 

“เธอ” พ่อเหยียนชี้หน้าแม่เหยียน แล้วก็มองไปที่เหยียนเค่อ เอ่ยอย่างไม่ได้ดั่งใจ “มีแม่ใจอ่อนแบบนี้ไงลูกถึงเป็นแบบนี้” จากนั้นก็เดินขึ้นห้องไปอย่างโมโห

 

 

“ทะเลาะกันได้เกือบทุกวัน ตอนสาวๆทะเลาะกันไม่พอหรือไง” แม่เหยียนหงุดหงิดจนไม่อยากเอ่ยพูดอะไร

 

 

เหยียนเค่อขมวดคิ้ว “นี่คือความทุกข์ของการโดนคลุมถุงชน”

 

 

แม้ว่าจะพูดเสียงเบาแล้วแต่แม่เหยียนก็ยังได้ยินอยู่ดี เธอจึงหยิบดอกไม่ที่ปักอยู่ในแจกันขว้างออกไป

 

 

“พูดบ้าอะไร! อะไรเรียกว่าคลุมถุงชน!”

 

 

“มันก็เหมือนกัน” เหยียนเค่อเอาดอกไม้แห้งวางไว้ด้านข้าง เอ่ยตามที่ตนคิด

 

 

แม่เหยียนพูดอย่างโมโห “ก็ทำเพื่อพวกลูกทั้งนั้น ถ้าเกิดปีนี้ลูกหาแฟนเองได้ก็แล้วไป โตจนสร้างครอบครัวได้แล้วยังจะยื้อเวลาอยู่นั่น ถ้ารอจนแก่แล้วจะเจอไหมรักแท้อะไรนั่น”

 

 

“แม่ไม่ยุ่งแล้ว” พอเถียงไม่ชนะแม่เหยียนก็ผลักภาระทั้งหมดไปให้พ่อเหยียน แต่บางเรื่องที่ควรพูดก็ต้องพูด

 

 

“สวีอันหรานแต่งงาน ดูว่ามันยิ่งใหญ่ แต่ลูกรู้ไหมว่าเขาต้องแลกกับอะไรไปบ้าง พวกนักข่าวพวกนั้นไม่ใช่จะง่ายๆนะ”

 

 

เหยียนเค่อยิ้มเย็น ต้องถามเขาเสียมากกว่าว่าจ่ายไปเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่คิดว่าพวกพ่อแม่จะไม่ชอบความรักของสวีอันหรานกับสวีรั่วชี

 

 

“เดิมทีสวีรั่วชีก็ไม่ใช่คนของตระกูลสวีอยู่แล้ว ทั้งสองคนรักชอบพอกัน ทำไมจะต้องไปแคร์ว่าต้องเสียอะไรไปบ้าง ถ้าสวีอันหรานไม่ได้แต่งกับสวีรั่วชี เงินพวกนั้นจะมีความหมายอะไรล่ะ”