“ไข่เต่าทมิฬ? เป็นไปได้ยังไงกัน?”เซียวฮวงไม่พอใจ
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั้นจะอยู่ในระดับแก่นทองคำตั้งแต่ที่พวกมันเกิดขึ้น พวกมันนั้นแตกต่างไปจากสัตว์ป่าธรรมดาทั่วไปมาก
ถ้าสำนักซวนวูมีไข่เต่าดำ พวกเขาคงจะซ่อนมันไว้และรอให้มันฟักออกมาเอง พวกเขาจะแบกไปมาและเอามันมาแลกเปลี่ยนแบบนี้ได้ยังไงกัน?
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ใบหน้าของซวนฮงเปลี่ยนเป็นสีแดงและเขาเงียบลง
หลินจินที่ยืนอยู่ด้านข้างกลับพูดขึ้นมาแทน “สำนักวซวนวูนั้นก่อตั้งขึ้นมาในโซนภูเขาเต่าดำ มันมีข่าวลือว่าตอนที่สำนักถูกสร้างขึ้นมา บรรพบุรุษของสำนักได้รับไข่เต่าดำมานับร้อยลูก แต่เนื่องเหตุผลหลายอย่าง พวกมันไม่สามารถที่จะฟักตัวออกมาได้หรือว่านี่จะเป็นหนึ่งในพวกมันกัน?”
เมื่อเห็นว่าเขาถูกเปิดเผยออกมา ซวนฮงเลิกพยายามที่จะปิดบังมันไว้ เขาเกาหัวและพูดออกมาต่อ “เจ้าก็รู้ดีถึงคุณค่าของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ถ้ามันฟักตัวออกมาได้….ถึงแม้ว่าอัตราการที่มันจะฟักตัวมันจะต่ำมากก็ตามที แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังมีโอกาสเล็กน้อยที่จะฟัก….ข้าไม่ได้โกหกนะ”
‘แม้ว่ามันจะเป็นโอกาสหนึ่งในแสนล้านก็ตาม มันก็ยังมีโอกาสไม่ใช่หรือยังไง?’ ซวนฮงคิดกับตัวเอง
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้วเซียวฮวงก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา เธอยิ้มและพูดกับเฉินเฉิน “ศิษย์พี่เฉินคะ แทนที่จะรับไข่แย่ๆแบบนั้นไป ทำไมท่านถึงไม่เอาขนนกวิหคสีชาดของข้าไปแทนกันละคะ? มันมีขนนกวิหคสีชาดเพียงไม่กี่เส้นในสำนักวิหคสีชาดของพวกเรา มันเป็นวัตถุดิบชั้นสูงในการสร้างสมบัติเวทมนตร์และคุณค่ามันประเมิณค่ามิได้เลยนะคะ”
“ศิษย์น้องเฉิน ข้ามีมุกมังกรทอง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่มุกมังกรทองของอสูรธรรมดาทั่วไป แต่มันก็บรรจุไปด้วยลมหายใจของมังกรอย่างแท้จริงนะ!”
หลินจินหยิบมุกมังกรทองออกมาและเข้าร่วมการประมูล
เหล่าผู้สืบทอดคนอื่นต่างทำตามและต่างประมูลแข่งกัน ไม่นานหลังจากนั้นทั่วทั้งสวนของโรงเตี๊ยมหยีหลานต่างส่องประกายออกมาด้วยสมบัติมากมายเต็มไปหมด
เมื่อมองไปที่สมบัติอันล้ำค่าเหล่านี้แล้ว เฉินเฉินอ้าปากค้าง
คุณค่าของสิ่งเหล่านี้มันสูงค่ากว่าโสมแดงหมื่นปีอย่างมาก แต่กลุ่มผู้สืบทอดกลับหยิบพวกมันออกมาโดยไม่มีความลังเลเลยสักนิด
มันเกิดความวุ่นวายมากขึ้นกับคนที่กำลังจะตายจากการหิวน้ำ เมื่อพวกเขาพบมองเห็นน้ำ!
“ระบบ ของที่มีค่าที่สุดในระยะสามสิบเมตรคืออะไร?”
“ไข่เต่าดำเกือบตายที่อยู่ห่างไปสองเมตรค่ะ”
“ของที่มีค่าอันดับสองละ?”
“ชุดเกราะโซ่วิญญาณพยัคฆ์ที่อยู่ห่างทางซ้ายไปสามเมตรค่ะ”
…
เมื่อได้ยินการตอบกลับของระบบแล้ว เฉินเฉินลังเลสักนิดหนึ่งก่อนที่จะยื่นโสมแดงหนึ่งหมื่นปีให้กับซวนฮง
“ศิษย์น้องซวน ข้าจะรับไข่ของเจ้าไป เจ้าอาจจะไม่รู้อะไรแต่ข้าเป็นคนชอบการเสี่ยงดวง ถ้าไข่เต่าดำฟักออกมาแล้ว ข้าคงจะทำเงินได้มากเลยละ”
ซวนฮงไม่ได้สนใจที่ถูกเรียกว่าศิษย์น้องเลย เขาเต็มไปด้วยความสุขอย่างมาก!
‘ฟักไข่เต่าดำ? เจ้าโง่นี่มัน…สำนักซวนวูของข้ายังฟักเต่าดำออกมาสักตัวไม่ได้เลยในรอบพันปี เจ้าเป็นคนนอกและเจ้าคิดว่าจะฟักได้งั้นเหรอ?’
‘เจ้ากำลังเล่นตลกอยู่หรือยังไง?’
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกเหยียดหยามต่อเฉินเฉิน เขารีบวางไข่เต่าดำลงไปบนมือของเฉินเฉิน เขายังส่งกระเป๋าสัตว์อสูรให้ด้วย มันเหมือนกับว่าเขากลัวที่เฉินเฉินจะคืนคำพูด
เมื่อเห็นซวนฮงเอาโสมแดงออกมา ผู้สืบทอดหน้าหม่นหมองอย่างมาก
เมื่อโสมแดงถูกมอบไปแล้ว มันไม่มีความหวังอยู่เหลือต่อกับพวกเขาอีกแล้ว…
เพียงแค่พวกเขากำลังจะเดินจากไป เฉินเฉินก็หยิบเห็ดม่วงหลินจือหนึ่งหมื่นปีออกมาอีกครั้งหนึ่ง
“นี่คือของไว้ช่วยชีวิตของข้า….ข้าจะไม่เอามันออกมาเลย ถ้าไม่ได้เห็นความพยายามของพวกเจ้าแล้ว….อา พวกเรามาจากทั้งสามสิบหกสำนักและมันทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินที่พวกเจ้าบาดเจ็บ!”
เมื่อเฉินเฉินพูดออกมาอย่างจริงใจ เขาปาดน้ำตาบนขอบตาของเขาจนทำให้ใบหน้าของผู้สืบทอดกระตุก
‘เหมือนว่าพวกเข้าจะเชื่อเจ้าละ เจ้ากำลังเอาเปรียบกับสถานการณ์นี้อยู่!’
“ขนนกวิหคสีชาดของข้า…” เซียวฮวงหยิบขนนกออกมาอีกรอบหนึ่ง
ยังไงก็ตาม เฉินเฉินโบกมือและพยายามสื่อออกมา “ข้าได้ยินมาว่า…เจ้ามีจี้หยกพิเศษ….”
ใบหน้าของเซียวฮวงตึงขึ้นทันที ‘ข้าเก็บจี้หยกนั่นกับข้าไว้อยู่ตลอดเวลา นอกจากเจ้าสำนักวิหคสีชาดแล้วไม่น่าจะมีใครรู้นี่นา เจ้าเด็กนี่รู้ได้ยังไงกันเนี่ย? เขาแอบดูมาก่อนหน้านี้หรือยังไง…’
เธอหายใจเข้าลึกๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ใบหน้าที่ซีดขาวของเซียวฮวงก็แดงขึ้นเล็กน้อย
‘’เจ้าโจรน้อยหน้าด้าน!’
เขาเมินสีหน้าของเซียวฮวงไป เฉินเฉินวิ่งไปด้านข้างเย่หวู่เชิงอีกครั้งหนึ่งและเคาะไปที่เกราะของเย่หวู่เชิงเบาๆ
เคร้ง!
“ศิษย์พี่เย่ เกราะของพี่มันดูงดงามจริง ข้าละชอบเสียงไพเราะของมันมากเลย”
เมื่อได้ยินดังนี้แล้ว เย่หวู่เชิงไอออกมาหลายครั้ง ในขณะที่ใบหน้าของเขากระตุกอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่งแล้ว เขาพูดออกมาอย่างเย็นชา “ข้าไม่สามารถถอดเกราะนี้ได้ ถ้าเจ้าถอดได้ ข้าจะมอบมันให้กับเจ้าเลย”
เขาตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เฉินเฉินหันไปมองเย่หวู่เชิงด้วยความประหลาดใจ
‘ถ้าเขาไม่สามารถถอดเกราะได้ เขาจะแต่งงานได้ยังไงกัน?’
‘หื้ม ไม่ต้องพูดถึงการแต่งงานกับลูกสะใภ้แล้ว แม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันยังมีปัญหาเลย’
‘ข้าไม่สามารถเอาเกราะนี้ไปได้ มันน่ากลัวเกินไป!’
“เฉินเฉิน นี่คือเหรียญตราเจ้าสำนักของสำนักพยัคฆ์ขาว ข้าจะมอบมันให้กับเจ้าเอง นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เจ้าสามารถใช้เหรียญตรานี้เพื่อทำให้ข้าหรือคนของสำนักพยัคฆ์ขาวช่วยเจ้าได้อย่างหนึ่ง
น้ำเสียงของเย่หวู่เชิงยังดูเยือกเย็นมาก แต่มันดูแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะยอมตายได้เลย ซึ่งมันทำให้ผู้สืบทอดที่อยู่รอบข้างหวั่นไหว
มันแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างที่สุด ตั้งแต่ที่เขาหยิบเหรียญตราเจ้าสำนักออกมาแบบนี้!
“อย่างหนึ่ง? มันทำได้มากที่สุดถึงเพียงไหน?” เฉินเฉินถาม ใบหน้าของเขาดูจริงจังมาก
“ข้าไม่สามารถการันตีกับสำนักพยัคฆ์ขาว แต่เจ้าสั่งข้าให้ไปตายได้เลย” เย่หวู่เชิงพูดออกมาตรงๆ
“โอเคเลย นี่เห็ดหลินจือม่วงครับ”
“ขอบคุณมาก!”
“เดี๋ยวก่อน ศิษย์พี่เฉิน ข้ามอบจี้หยกพิเศษของข้าให้ได้นะ!” เมื่อเห็นดังนี้แล้ว เซียวฮวงเต็มไปด้วยความกังวล เธอต้องการที่จะหยุดเขา แต่เย่หวู่เชิงได้เอาเห็ดหลินจือม่วงและวิ่งหนีหายไปแล้ว
เฉินเฉินเก็บเหรียญเจ้าสำนักลงไปและไอออกมาเบาๆ
“ในความเป็นจริง ข้ายังมีของช่วยชีวิตอยู่อีก ซึ่งมันเป็นไพ่ตายของข้าซึ่งข้าจะไม่เอามันออกมาเลย จนถึงช่วงข้าใกล้ตาย!”
ผู้สืบทอดพูดไม่ออก
…
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เฉินเฉินก็ปล้นของจากผู้สืบทอดไปหลายคนที่ต้องการจะดูว่าเขามีของช่วยชีวิตอยู่มากเพียงใด เขาปิดประตูโรงเตี๊ยมหยีหลานและตรวจดูของที่เขาได้”
“ไข่เต่าดำเกือบตายที่มีโอกาสฟักตัว”
“เหรียญตราเจ้าสำนักพยัคฆ์ขาว”
“จี้ตะกั่วเลือดฟีนิกส์ซึ่งเป็นสมบัติที่มีคุณสมับิตรวบรวมพลังปราณ มันจะทำให้หัวสมองโล่งโปร่ง มันยังมีข่าวลือที่จะทำให้สติเลื่อนลอยไปด้วยเหมือนกัน”
“ดาบสังหารมังกรที่ย้อมไปด้วยเลือดมังกรอสูรหลายตัว มันมีคุณสมบัติพิเศษในการขับไล่อสูรและสัตว์ปีศาจทุกประเภท มันเป็นอาวุธจิตวิญญาณชั้นยอด”
…
เฉินเฉินไม่สามารถส่งสมบัติสวรรค์ให้กับผู้สืบทอดทุกคนได้ ถ้าให้กับทุกคนมันเหมือนกับจะต้มตุ๋นกัน
นอกจากนี้แล้ว เมื่อผู้สืบทอดหลายคนสุดท้ายเห็นว่าเขาดูเหมือนจะมีสมบัติมากมายนับไม่ถ้วน พวกเขาเริ่มที่จะต่อรองกันแล้ว เฉินเฉินจึงไล่พวกเขาออกไปทันที
ยังไงก็ตาม ของที่เขาได้รับมามันยอดเยี่ยมมาก
ในขณะที่มันถึงยามดึกและไม่มีใครอยู่รอบนี้แล้ว เฉินเฉินจึงกลับไปยังห้องและหยิบสมบัติสวรรค์ทั้งหมดในแหวนเก็บของ
เพียงเวลาไม่นาน ของมันกระจัดกระจายทั่วพื้นและเห็นของอย่างน้อยร้องอย่าง ถ้าใครก็ตามมองเห็นมันแล้วพวกเขาคงจะตกใจแทบตาย ก่อนที่จะตัดสินใจปล้น
‘ข้าแม่งยังกับคลังสมบัติเดินได้!’
“ระบบ มันมีของอะไรในระยะสามสิบเมตรบ้างที่ทำให้ไข่เต่าดำฟักตัว? เจ้าไม่ได้หลอกข้าสินะว่ามันคือของที่ล้ำค่าที่สุดก่อนหน้านี้”
“ค่ะ น้ำระฆังสวรรค์หนึ่งแสนปีที่อยู่ห่างจากท่านไปสองเมตรด้านหน้าคุณค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนี้แล้ว ตาของเฉินเฉินกระตุกทันที
เขารู้ดีว่าเขาต้องพึ่งสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของเขา ไม่อย่างงั้นแล้วสำนักซวนวูคงจะฟักเต่าดำมาได้นานแล้ว
ยังไงก็ตาม ระบบกลับมอบคำตอบที่สองอย่างทันที
“เลือดของท่านค่ะ ท่านเจ้าของ”
“หื้อ?” เฉินเฉินตกใจ ‘เลือดของข้าทำงานได้ด้วยเหรอเนี่ย?’
หลังจากกลับมาตั้งสติได้แล้ว เขาดูตื่นเต้นมาก ‘เลือดของข้ามันดีที่สุดแล้ว ตั้งแต่ที่มันฟื้นกลับคืนมาได้’
เนื่องจากความเคี้ยวของเขาแล้ว เขาไม่กลัวที่จะเจ็บเลยสักนิด เขาหยิบดาบสังหารมังกรออกมาอย่างไม่ลังเลและเฉือนแขนตัวเอง
เมื่อเขารู้สึกถึงอาการเจ็บแผลแล้ว เฉินเฉินถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะเอาแผลเทลงไปไข่เต่าดำ
แปะ! แปะ!
เฉินเฉินปิดตาลงและฟังเสียงเลือดที่ไหลลงมา
ยังไงก็ตาม เสียงเลือดไหลก็หายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเปิดตาออก เขาคิดว่าเขากำลังฝันไป
‘เวรเอ้ย…’
‘แผลของฉันแม่งฟื้นตัวไวเกิ้น!’
“ร่างกายของฉันแม่งต้องเปิดแผลมากกว่านี้…”
เมื่อมีความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของเขาแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นไปมองบนเพดานทั้งน้ำตา