ตอนที่ 378 คุณไม่ใช่เจ้านายของฉัน

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

คนทั้งคู่กำลังใช้เวลาร่วมกันอย่างหวานชื่น แต่สำหรับโลกภายนอก ทั้งคู่ได้กลับมาเป็นคนดังของวงสังคมอีกครั้ง เรื่องราวของถังซีกับแฟนหนุ่มบอดีการ์ดของเธอ กลายเป็นพาดหัวข่าวสุดฮ็อตไปอีกแล้ว…

 

 

‘ถังซีกับบอดีการ์ดของเธอ วีรบุรุษผู้ปกป้องสาวงาม’

 

 

‘บอดีการ์ดหนุ่มของถังซีคือสุดยอดกังฟู’

 

 

‘การเดินทางสุดโรแมนติกของถังซีและบอดีการ์ดหนุ่มในปารีส’

 

 

ที่ห้องเพรสซิเดนเชี่ยลสวีตของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงปารีส สวีฟังกำลังนั่งอ่านข่าว เธอขว้างโทรศัพท์มือถือลงกับพื้นเต็มแรง จ้องตาขวางไปยังนักเลงของเธอ ตะโกนว่า “พวกแกบอกไม่ใช่หรือว่าครั้งนี้ต้องสำเร็จ ไหนว่าผู้ชายคนนั้นเป็นผู้มีอิทธิพลมากในปารีส แกบอกไม่ใช่หรือว่าไม่มีใครในปารีสกล้ายุ่งกับผู้ชายคนนั้น แล้วจะอธิบายข่าวนี้ว่ายังไง ทำไมผู้ชายคนนั้นกับผู้ติดตามตั้งหลายคนถึงสู้บอดีการ์ดเพียงคนเดียวไม่ได้ แล้วนี่ฉันจะไปอธิบายกับคนคนนั้นว่ายังไง!”

 

 

นักเลงคนนั้นมองดูสวีฟังผู้โกรธเกรี้ยวด้วยดวงตาหวาดกลัว เขาพยายามฝืนยิ้ม และกล่าวว่า “ฟังฟัง อย่าห่วงเลย บอดีการ์ดคนนั้นอาจจะเก่งศิลปะการต่อสู้ แต่ก็เป็นคนธรรมดาไม่มีอำนาจอะไร สำหรับถังซี ถึงเธอจะมีเอ็มไพร์กรุปคอยหนุนหลัง แต่เธอไม่สามารถรับมือเลิฟได้แน่ อย่างที่เขาพูดกันว่า แม้แต่มังกรทรงอำนาจก็ไม่สามารถทำลายงูน้อยที่อยู่ในรังของมันเองได้ ผมสืบดูแล้ว เลิฟเป็นคนที่มีอิทธิพลมากในปารีส พ่อเขาเป็นนายใหญ่ของแก๊งที่ใหญ่มากในฝรั่งเศส ชื่อแก๊งซิฟฟา เลิฟจึงมีอิทธิพลมากเพราะบารมีของพ่อ!”

 

 

“แน่ใจนะว่าแกไม่ได้โกหก ถ้าถังซีกลับเมืองจีนได้อย่างปลอดภัย แล้วสืบสวนหาความจริงในเรื่องนี้ได้ เราเสร็จแน่ เข้าใจไหม” สวีฟังส่งเสียงคำรามออกทางจมูก ลุกยืนขึ้น แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น “ถ้าฉันต้องตาย พวกเขาก็ไม่ปล่อยแกไว้เหมือนกัน”

 

 

นักเลงจ้องตาสวีฟังนิ่ง แล้วพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถอะ ผมบอกกับคนของแก๊งซิฟฟาไปแล้วว่าถังซีคือคนที่ทำร้ายนายน้อยของพวกเขา ผมไม่คิดว่าถังซีจะรอดชีวิตไปได้จากการแก้แค้นของพวกเขาหรอก”

 

 

สวีฟังมองดูคนของเธอครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ออกไปได้แล้ว”

 

 

ทันทีที่นักเลงจากไป โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น สวีฟังมองดูชื่อผู้โทรแล้วรับสาย แม้สีหน้าเธอจะแสดงความรังเกียจ แต่น้ำเสียงหวานสนิท “สวัสดีค่ะ คุณฉิน”

 

 

“คุณสวี ฉันจำได้ว่าบอกคุณไว้แล้วว่ามีโอกาสนี้เพียงแค่ครั้งเดียว ใช่ไหม แล้วทำไมฉันถึงยังเห็นข่าวที่ไม่อยากเห็นเมื่อเช้า คุณสาบานกับฉันเมื่อวานนี้ว่าคุณจะทำลายถังซีได้อย่างแน่นอน นี่หรือคือผลลัพธ์จากความพยายามของคุณ” น้ำเสียงฉินซินหยิ่งเย็นเฉียบ “คุณควรรู้ว่าคุณจบสิ้นแน่ ถ้าถังซีรอดไปได้ คุณคงไม่อยากเห็นอาชีพของตัวเองโดนทำลายย่อยยับไปในชั่วข้ามคืนหรอก จริงไหม”

 

 

“คุณฉิน ขอให้วางใจ ผู้ชายที่ชื่อเลิฟเป็นนายน้อยของแก๊งซิฟฟา ถังซีไม่มีทางหนีรอดไปได้ เพราะตอนนี้เธอกลายเป็นเป้าหมายของแก๊งซิฟฟาไปแล้ว ฉันสัญญาว่าเธอจะไม่มีทางได้กลับไปประเทศจีน ไม่ต้องห่วง” สวีฟังกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกายวาววับ เธอกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว นับตั้งแต่ตอนที่ฉันตอบรับข้อความของคุณ ฉันไม่ปล่อยให้ถังซีกลับไปทั้งที่มีชีวิตอยู่แน่”

 

 

ในเมื่อถังซีคิดถึงถังชิงอวี่มากขนาดนั้น เธอก็จะจัดการส่งให้ไปอยู่ด้วยกันที่ปรโลกเสียเลย

 

 

สวีฟังกำมือสองข้างแน่น กล่าวว่า “คุณจะได้เห็นความสำเร็จที่คุณอยากเห็น ภายในไม่เกินสองวัน”

 

 

ฉินซินหยิ่งทำเสียงตอบรับอยู่ในลำคอ เธอย้ำว่า “ขอเตือนคุณอีกครั้งนะว่า เรื่องนี้เป็นความคิดของคุณเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน เข้าใจไหม”

 

 

ประกายอำมหิตกะพริบอยู่ในดวงตาสวีฟัง เธอเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ซึ่งแสดงสถานะว่ากำลังมีการบันทึกเสียง แล้วยิ้ม “แน่นอน คุณไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ฉันไม่บอกใครแน่ว่าคุณเป็นคนสั่งให้เก็บถังซี คุณเชื่อคำพูดฉันได้”

 

 

“ดีมาก ฉันจะจ่ายเงินตามที่สัญญาไว้ หลังจากที่คุณทำงานสำเร็จ” ฉินซินหยิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “แต่ถ้าคุณหักหลังฉัน ฉันจะทำให้คุณเสียใจไปตลอดชีวิต”

 

 

“ฉินซินหยิ่ง” จู่ๆ สวีฟังก็เรียกชื่อเต็มของเธอออกมา ฉินซินหยิ่งถามอย่างโกรธเกรี้ยวทันที “ฉันอนุญาตให้เรียกชื่อฉันอย่างนั้นหรือ”

 

 

สวีฟังเลิกคิ้ว ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณไม่ใช่เจ้านายของฉัน ควรจะให้เกียรติกันบ้าง คุณก็รู้สัตว์ร้ายที่จนตรอกมักจะทำได้ทุกอย่าง ถ้าคุณทำให้ฉันโกรธ ฉันก็จะไม่สนใจว่าคุณเป็นใคร หรือคุณจะทำอะไรกับฉัน แต่สิ่งที่ฉันจะทำแน่ๆ คือพาคุณลงนรกไปด้วยกัน เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดไหม”

 

 

“นี่แกขู่ฉันเหรอ”

 

 

“เปล่า แต่เรามีสถานะเท่าเทียมกัน คุณกับถังซีโชคดีเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่อย่ามาดูถูกฉัน คุณก็ไม่ได้สูงส่งไปกว่าฉันหรอก ฉันรู้นะว่าคุณไปทำอะไรกับผู้ชายพวกนั้นมาบ้าง! ฉันรู้ว่าคุณหลงรักเฉียวเหลียง ลองคิดดูว่าเฉียวเหลียงจะคิดยังไงกับคุณ ถ้าได้รู้ว่าคุณไปทำเรื่องสกปรกอะไรกับกรรมการพวกนั้น เพื่อจะได้เป็นผู้ชนะ”

 

 

“สวีฟัง!” ฉินซินหยิ่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เมื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ฉันจะถลกหนังแกทั้งเป็น ถ้าแกกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีก!”

 

 

“ฉันจะปล่อยข่าวออกไปหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคุณนั่นแหละ อันที่จริง คนส่วนใหญ่ก็รู้กันดีว่าคนตระกูลฉินทำอะไรเอาไว้บ้าง ทำไมคุณถึงยัง…”

 

 

“คุณสวี ฉันหวังว่าเราจะร่วมงานกันได้ด้วยดี” ฉินซินหยิ่งขัดคำพูดของสวีฟังขึ้นทันที

 

 

สวีฟังแสยะยิ้มเยือกเย็น ขณะทำเสียงตอบรับอยู่ในลำคอ “แน่นอน ก็ขึ้นอยู่กับคุณอีกนั่นแหละ ว่าเราจะร่วมงานกันได้ด้วยดีไหม ในเมื่อคุณรับปากแล้ว ฉันก็คิดว่างานนี้คงจะจบลงด้วยดี”

 

 

ณ ปราสาทแห่งหนึ่งในกรุงปารีส

 

 

ชายในวัยหกสิบคนหนึ่งกำลังจ้องมองภาพถ่ายในมือพลางขมวดคิ้ว เขาเงยหน้าขึ้นมองชายอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ถามว่า “นี่มันเกิดเรื่องบ้าบออะไรกันขึ้น”

 

 

ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก้มศีรษะลง ประสานมือไว้ด้านหน้าอย่างนอบน้อม กล่าวว่า “เขาพูดกันว่านายน้อยเลิฟไปติดใจดาราสาวคนหนึ่งเข้า แต่กลับโดนบอดีการ์ดของดาราสาวคนนั้นซ้อม หลังจากนั้นนายน้อยเลิฟก็หายตัวไป เราได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแถวนั้นแล้ว ให้ตำรวจนำภาพถ่ายจากดาวเทียมมาให้ดูแล้วด้วย แต่ก็ยังไม่พบตัวนายน้อยเลิฟเลยครับ ผมคิดว่าการที่นายน้อยหายตัวไปครั้งนี้อาจมีอะไรเกี่ยวข้องกับดาราสาวคนนั้น”

 

 

ชายสูงวัยหรี่ดวงตาลง “เอาข้อมูลดาราคนนั้นมาให้ฉัน”

 

 

“ผมให้คนของเราสืบเรื่องของเธอแล้วครับ อีกไม่นานต้องได้ข้อมูลมาแน่นอน”

 

 

เวลานั้นนั่นเองหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามา มือถือคอมพิวเตอร์แลปท็อปมาด้วย เธอกล่าวเสียงเครียดว่า “เจ้านายคะ ฉันพบข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นแล้วค่ะ เธอไม่ได้เป็นนักแสดง แต่เป็นประธานบริหารเอ็มไพร์กรุป เธอมีอิทธิพลมากในประเทศจีน และยังเป็นเพื่อนสนิทของลอเรนซ์ด้วย ลอเรนซ์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาล เราต้องรักษาหน้าเขาด้วย ฉันเกรงว่างานนี้เราจะทำอะไรบุ่มบ่ามมากไม่ได้”

 

 

“ถ้างั้นก็ไปหาตัวไอ้บอดีการ์ดนั่นมา!” ชายผู้นั้นกล่าวอย่างเยือกเย็น “มันรนหาที่ตาย ที่มายุ่งกับคนของเรา!”